โปรโมชั่น 
บริการท่องเที่ยว
ช้อปสินค้าออนไลน์
เข้าสู่ระบบ
ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เป็นหมู่บ้านริมทะเลสาบที่สวยจนสะกดสายตาทุกคู่ที่ได้สัมผัส ออสเตรีย เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติก ธรรมชาติสวย ร่มรื่น มีเทือกเขาอยู่เบื้องหลัง ผืนน้ำกว้างใหญ่ โอบล้อมด้วยบ้านเรือแสนคลาสสิกไว้อย่างอบอุ่น สวยสะท้านใจประทับแนบแน่นในความทรงจำของทุกคนที่ได้มาเยือน
ฮัลล์สตัทท์ เมืองริมทะเลสาบที่ได้รับคำกล่าวขานว่าสวยที่สุดในโลก เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของออสเตรีย (Austria) ฮัลล์สตัทท์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบฮัลล์สตัทท์ (Lake Hallstatt) หรือฮัลล์สตัทท์เทอร์ซี (Hallstatter See) ทะเลสาบในเขตภูมิภาคซาลซ์คัมเมอร์กุท (Salzkammergut) ภูมิภาคทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของประเทศ เนื่องจากเนื้อที่จำกัดบ้านเรือนในเมืองนี้ จึงต้องสร้างลดหลั่นเป็นชั้น ๆ ตามแนวเขา มีประชากรอาศัยอยู่เพียง 800 กว่าคนเท่านั้น องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียน Hallstatt เป็นมรดกโลกประเภท Historic Cultural Landscape เมื่อปี 1997 ในฐานะชุมชนที่มีการผสมผสานกันอย่างกลมกลืนของภูมิประเทศ ที่สวยงามกับวัฒนธรรมที่เก่าแก่ สิ่งแรกที่นักท่องเที่ยวสัมผัสได้ก็ คือ ความเป็นเมืองชนบทเล็ก ๆ ที่มีอากาศแสนบริสุทธิ์ เหมาะแก่การเดินทางมาพักผ่อนตากอากาศ และชมทัศนียภาพสวย ๆ ของตัวเมืองที่ถูกโอบล้อมไปด้วยทะเลสาบ และเทือกเขาสูงตระหง่าน
การเดินทางไปสู่ Hallstatt ทางที่สะดวกที่สุด คือ นั่งรถไฟจากกรุงเวียนนาตรงลงมายังเมืองนี้ได้โดยตรง ไม่ต้องเสียเวลาจองตั๋ว เพราะสามารถซื้อตั๋วที่สถานี (Westbahnhof) แล้วขึ้นมาได้เลยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง หรือหากนั่งรถไฟจาก Salzburg ซื้อตั๋วที่สถานี (Salzburg Hauptbahnhof) มาได้เช่นกัน จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ศึกษารายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ www.oebb.at/en นอกจากนั้นการเช่ารถขับเที่ยวก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี โดยเฉพาะคนที่คิดจะไปสถานที่ท่องเที่ยวออสเตรียบริเวณชานเมือง และเมืองในเขตชนบท เพราะสามารถไปเที่ยวได้หลายที่ หลายเมือง และชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติ แม่น้ำ ป่าเขา ที่สลับกับบ้านคนประปรายรายทาง
การเดินทางท่องเที่ยวในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ ค่อนข้างสะดวกสบายง่ายต่อการเดินสำรวจ ตัวเมืองไม่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนจนเกินไป ทำให้เดินเที่ยวสบาย ไม่แออัด Hallstatt มีจุดสวยงามเหมาะแก่การถ่ายรูปมากมาย นอกจากจุดถ่ายรูปยอดฮิตอย่างริมทะเลสาบ ที่จะเห็นตัวเมืองสวย ๆ พร้อมโบสถ์สูงที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง มีพื้นหลังเป็นเทือกเขาสูง แล้วตรอกซอกซอยต่าง ๆ รวมไปถึงทางเดินเล็ก ๆ ระหว่างบ้านแต่ละหลัง หรือบันไดที่ไต่ไปตามแนวเขา ยังดูร่มรื่นสวยงาม ควรค่าแก่การเก็บภาพอีกด้วย บ้านเรือนของเมืองนี้ส่วนใหญ่แล้ว จะถูกตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นการจัดสวนหน้าบ้านด้วยดอกไม้สีสดใส และการปลูกดอกไม้ตามขอบหน้าต่างเป็นที่สะดุดตา ต่อคนที่เดินผ่านไปมาให้ได้รับความสดใสไปด้วย จุดที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว จุดอื่น ๆ ก็ คือ ไบน์เฮาส์ (Beinhaus) หรือ โบน์เฮส์ (Bone House) อาคารขนาดเล็กที่แยกออกจากคริสตจักร ซึ่งภายในเป็นที่เก็บหัวกะโหลกที่มีมากกว่า 1,200 กะโหลก สวยงาม และน่ากลัวในเวลาเดียวกัน หรือจะเป็นทางเดินเลียบทะเลสาบ ชมความงดงาม ที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์มาให้ พร้อมหงส์สีขาวสวย ที่ปรากฏตัวให้เห็นอยู่เป็นระยะก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
ไฮไลท์อีกจุดของเมือง คือ การเดินทางไปชมเหมืองเกลือโบราณ (Hallstatt Salt Mine) ที่มีอายุมากกว่า 7,000 ปี โดยสามารถขึ้นกระเช้าไฟฟ้า เพื่อไปยังเหมืองเกลือที่ตั้งอยู่บนภูเขา ที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 838 เมตร ใช้เวลาเดินทางโดยกระเช้าเพียง 3 นาทีเท่านั้น ด้านบนเป็นจุดชมวิวทะเลสาบ Hallstatt ในมุมสูงจากจุดนี้สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบกว้างใหญ่ พร้อมบางส่วนของเมือง Hallstatt และเมืองเล็กอีกเมือง ที่อยู่ห่างออกไปอีกเล็กน้อย เชื่อมกันด้วยดถนนสวย ๆ เลาะไปตามริมทะเลสาบ และขนานไปด้วยภูเขาสูง ที่มีต้นสนสีเขียวขจีปกคลุมอย่างหนาแน่นไกลออกไป มีเทือกเขาที่ยังคงปกคลุมด้วยหิมะเป็นฉาก หลังสวยงามสำหรับการเที่ยวชมเหมืองเกลือ สามารถเที่ยวชมได้ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน - ตุลาคมของทุก ๆ ปี
สมาชิกบัตรเครดิต KTC เที่ยวยุโรป เที่ยวต่างประเทศ จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองรถเช่า ประกันการเดินทาง หรือ ปรึกษาข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยว โปรโมชั่นสายการบิน โปรโมชั่นที่พัก ฯลฯ แสนสะดวก ไม่มีค่าธรรมเนียมการรูดบัตร ได้ที่ KTC World Travel Service โทร. 02 123 5050 ให้บริการข้อมูลการเดินทาง จองและวางแผนการเดินทาง (Travel Planner) ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือ ส่งอีเมล์มาที่ ktcworld@ktc.co.th หรือ สอบถามข้อมูลผ่านช่องทาง LINE : KTC WORLD และ Facebook : KTC WORLD Community
อ่านเรื่องราวการท่องเที่ยวอื่นๆเพิ่มเติม
.
