10 ที่เที่ยวแลนด์มาร์ค ในวอร์ซอ เมืองหลวงของโปแลนด์ นครแห่งมรดกทางวัฒนธรรม

เมื่อพูดถึงจุดหมายปลายทางในยุโรปของเหล่านักเดินทาง เมืองที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ก็คงจะเป็น “ปารีส”, “โรม” หรือ “ลอนดอน” แต่ในภูมิภาคตะวันออกของทวีปยุโรป ยังมีอีกหนึ่งประเทศที่ดึงดูดนักเดินทางรุ่นใหม่ได้ไม่น้อย นั่นก็คือ “โปแลนด์” และเมืองหลวงของประเทศอย่าง “วอร์ซอ” (Warsaw) ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง ความทันสมัย ความครบครันของสถานที่ท่องเที่ยว ภายใต้ค่าครองชีพที่เข้าถึงได้ ทำให้วอร์ซอนับเป็นเมืองอัญมณีที่ซ่อนเร้นอยู่ในทวีปยุโรป

ทำความรู้จัก “วอร์ซอ”เมืองหลวงของโปแลนด์

วอร์ซอ หรือชื่อทางการว่า เมืองหลวงวอร์ซอ เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศโปแลนด์ มหานครแห่งนี้ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำวิสตูลาในภาคกลาง-ตะวันออกของโปแลนด์ มีประชากรประมาณ 1.86 ล้านคนในเขตเมือง และในเขตมหานครมีประชากรรวม 3.27 ล้านคน ทำให้วอร์ซอเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 6 ของสหภาพยุโรป เนื้อที่ของเมืองมีขนาด 517 ตารางกิโลเมตร โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 18 เขต วอร์ซอเป็นศูนย์กลางสำคัญทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม รวมทั้งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลประเทศ

ย้อนประวัติศาสตร์มหานครวอร์ซอ

วอร์ซอมีต้นกำเนิดจากหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ในแคว้นมาโซเวีย เมืองนี้เริ่มมีความสำคัญในช่วงปลายศตวรรษที่ 16 เมื่อพระเจ้าซิกิสมุนด์ที่ 3 ทรงตัดสินใจย้ายราชธานีโปแลนด์และราชสำนักจากกรุงคราคูฟ ภายในศตวรรษที่ 18 วอร์ซอได้แซงหน้าเมืองกดัญสก์กลายเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของโปแลนด์ เมืองนี้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรโปแลนด์-ลิทัวเนียจนถึงปี ค.ศ. 1795 และต่อมาได้กลายเป็นที่ตั้งของดัชชีแห่งวอร์ซอในสมัยนโปเลียน ศตวรรษที่ 19 และการปฏิวัติอุตสาหกรรมนำมาซึ่งการเติบโตของประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นับแต่นั้นวอร์ซอจึงกลายเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรหนาแน่นที่สุดในยุโรป

ทำไมต้องเที่ยว“วอร์ซอ”Hidden Gem แห่งยุโรป

วอร์ซอ อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางอันดับแรก ๆ ที่หลายคนจะนึกถึงเมื่อวางแผนเดินทางท่องเที่ยวยุโรป แต่เมืองนี้ก็มีเอกลักษณ์ชวนน่าหลงใหลมากมาย ที่ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่จะสร้างความประทับใจให้เหล่านักท่องเที่ยวได้อย่างไม่รู้ลืม

Hidden Gem ของยุโรป

วอร์ซอ เปรียบเสมือน Hidden Gem ของยุโรปที่นักเดินทางคนรุ่นใหม่เพิ่งค้นพบ เพราะในขณะที่เมืองใหญ่อื่น ๆ ในยุโรปเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว วอร์ซอยังคงรักษาบรรยากาศความเมืองท้องถิ่นไว้ได้ และมีกลิ่นอายของความดั้งเดิม เมื่อไปเดินทางไปเที่ยวที่วอร์ซอ สิ่งที่จะได้รับกลับมาอย่างแน่นอนก็คือ การได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและค้นพบมุมมองใหม่ ๆ ของยุโรปตะวันออก

เมืองที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์อันยาวนานกับความทันสมัย

วอร์ซอเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นเมืองที่เป็นที่รู้จักจากการมีสถาปัตยกรรมที่งดงามและถนนสายหลักที่สวยงาม จนกระทั่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ. 1939  ที่เมืองวอร์ซอถูกทิ้งระเบิดและถูกล้อม ประชากรทั้งหลายถูกสังหารหมู่ในการจลาจลของเขตยิว ในปี ค.ศ. 1943 อีกทั้งในปี ค.ศ. 1944 ก็เกิดการจลาจล จนความเป็นเมืองค่อย ๆ ถูกทำลายลง แต่ด้วยความพยายามและแรงใจของประชากรที่เหลืออยู่ วอร์ซอได้คืนกลับมาเป็นมหานครอีกครั้ง ผ่านการผสมผสานสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะอย่างประณีตเข้ากับตึกระฟ้าและชีวิตคนเมืองที่ทันสมัย

ค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าเมืองยอดฮิต แต่ได้สัมผัสประสบการณ์ล้ำค่า

จุดเด่นสำคัญที่สุดที่ทำให้วอร์ซอเป็นมหานครที่เหมาะอย่างยิ่งแก่การท่องเที่ยว คือการที่สามารถเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสกับกลิ่นอายความเป็นยุโรปได้อย่างเต็มที่ ภายใต้เงื่อนไขเรื่องค่าใช้จ่ายที่เป็นมิตรและเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าที่พัก ค่าอาหาร หรือค่าเดินทาง ทั้งหมดล้วนมีราคาที่สบายกระเป๋ามากกว่าการท่องเที่ยวในเมืองยอดนิยมอื่น ๆ ในยุโรป แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์สุดล้ำค่าที่ไม่เป็นรองใครเมืองไหน ๆ

เที่ยววอร์ซอ ช่วงไหนดี

เมืองวอร์ซอ โปแลนด์ มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ซึ่งนั่นหมายถึงว่านักท่องเที่ยวสามารถเลือกไปแวะเวียนกันได้ตลอดทั้งปี ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละบุคคล และประสบการณ์ที่คุณอยากจะสัมผัสจากมหานครวอร์ซอแห่งนี้

• Spring (ระหว่างเดือนเมษายน - พฤษภาคม)

Spring หรือ ฤดูใบไม้ผลิ เป็นช่วงที่อากาศกำลังดี ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป ดอกไม้เริ่มบานสะพรั่งทั่วเมือง ทำให้บรรยากาศสดชื่นและสวยงามเป็นพิเศษ นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวก็ยังไม่สูงเท่าช่วงฤดูร้อน

• Summer (ระหว่างเดือนมิถุนายน - สิงหาคม)

Summer หรือ ฤดูร้อน เป็นช่วงที่วอร์ซอเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากที่สุด ตามแลนด์มาร์คสำคัญหรือบนท้องถนนมีเทศกาลดนตรี เทศกาลอาหาร และกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย แต่ด้วยการเป็นฤดูกาลที่มีกิจกรรมให้เพลิดเพลินมากมาย บรรดานักท่องเที่ยวก็จะหนาแน่กว่าฤดูกาลอื่น ๆ และราคาที่พักก็จะสูงขึ้นด้วย

• Fall (ระหว่างเดือนกันยายน - ตุลาคม)

Fall หรือ ฤดูใบไม้ร่วง เป็นช่วงเวลาที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีเป็นโทนส้ม แดง เหลือง สวยงามน่าหลงใหล สภาพอากาศโดยรวมก็เย็นสบาย เหมาะแก่การเดินเล่นชมเมือง ทำให้ฤดูกาลนี้เป็นอีกหนึ่งช่วงที่น่าไปเยือนอย่างยิ่ง

• Winter (ระหว่างเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์)

Winter หรือ ฤดูหนาว เป็นช่วงเวลาที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบบรรยากาศของความเป็นคริสต์มาสและความหนาวเย็น เพราะตามแลนด์มาร์คสำคัญจะมี Christmas Market ที่ประดับไฟสวยงามตระการตา และตลอดสองข้างทางก็จะเต็มไปด้วยการตกแต่งด้วยสีเขียวแดงที่เข้ากับเทศกาลระดับโลกนี้

10 ที่เที่ยว แลนด์มาร์คในวอร์ซอที่ต้องไปให้ได้

วอร์ซอเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่เหมาะกับผู้ที่หลงใหลในเรื่องราวประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และความเป็นเมืองที่มีกลิ่นอายของยุโรปอยู่เต็มเปี่ยม สำหรับ 10 แลนด์มาร์คในวอร์ซอ โปแลนด์ ที่ไม่ควรพลาด มีดังนี้

1. Old Town (Stare Miasto)

เมืองเก่าวอร์ซอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ โอลด์ทาวน์ และในอดีตเรียกว่า วอร์ซอเก่า เป็นย่านหนึ่งและพื้นที่ในระบบข้อมูลเมืองของกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ซึ่งนับเป็นย่านที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง จากการมีอาคารประวัติศาสตร์มากมายอยู่รายล้อม ไม่ว่าจะเป็นปราสาทหลวง กำแพงเมือง มหาวิหารเซนต์จอห์น และป้อมบาร์บิแกน ตลาดกลางเมืองเก่า และรูปปั้นนางเงือกวอร์ซอ

แลนด์มาร์คที่เปรียบเสมือนหัวใจของวอร์ซอแห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกในปี ค.ศ. 1980 และถูกเพิ่มเข้าไปในทะเบียนนานาชาติ “ความทรงจำของโลก” ของยูเนสโก ด้วย

เมื่อไปเยือน Old Town (Stare Miasto) คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่เต็มไปมนต์ขลังของความเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และยังสามารถเพลิดเพลินไปอาคารสีสันสดใส ร้านค้า ร้านอาหาร และชมรูปปั้นนางเงือก ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง

• ที่ตั้ง : Rynek Główny, Kraków 30-062 Polska
• Google Maps : https://maps.app.goo.gl/9fk12v7k76Ksk6UX8

2. Royal Castle (Zamek Królewski)

Royal Castle (Zamek Królewski) หรือ ปราสาทหลวง ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งรัฐและอนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ ซึ่งในอดีตเคยเป็นพระราชวังทางการของกษัตริย์โปแลนด์หลายพระองค์ สำนักงานส่วนพระองค์ของกษัตริย์และสำนักงานบริหารของราชสำนักตั้งอยู่ในปราสาทแห่งนี้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 จนกระทั่งการแบ่งแยกโปแลนด์ครั้งสุดท้ายในปี ค.ศ. 1795 ปราสาทตั้งอยู่ในจัตุรัสปราสาท ณ ทางเข้าสู่เมืองเก่า ภายในจัดแสดงห้องต่าง ๆ ที่สวยงามและของสะสมล้ำค่า และเป็นสถานที่เก็บรักษาผลงานศิลปะโปแลนด์และยุโรปที่สำคัญ

• ที่ตั้ง : Plac Zamkowy 4, 00-277 Warszawa, Poland
• Google Maps : https://maps.app.goo.gl/HcrVfg5KxxoufyCbA

3. Warsaw rising Museum

พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในเขตโวลาของวอร์ซอ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ในปี ค.ศ. 1983 เพื่ออุทิศให้กับการจลาจลวอร์ซอในปี ค.ศ. 1944 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของการจลาจล รวมถึงประวัติศาสตร์และทรัพย์สินของรัฐใต้ดินโปแลนด์ มีการเก็บรวบรวมและดูแลรักษาสิ่งของประวัติศาสตร์นับหลายร้อยชิ้น และมีการบันทึกเรื่องราวและความทรงจำของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ที่เข้าร่วมเหตุการณ์ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวการต่อสู้ของชาววอร์ซอและการลุกฮือขึ้นต่อต้านการยึดครองของนาซีเยอรมัน ด้วยเทคนิคการจัดแสดงที่ทันสมัยและสื่อความทรงพลัง เมื่อเดินทางไปเยือนสถานที่แห่งนี้ คุณจะสัมผัสได้ถึงความกล้าหาญและร่องรอยแห่งความสูญเสียในอดีต

• ที่ตั้ง : Grzybowska 79, 00-844 Warszawa, Poland
• Google Maps : https://maps.app.goo.gl/JpbYBBy6NVf8gumc8

4. Royal Baths Park (Łazienki Park)

สวนวาซิเยนกิ หรือ สวนอาบน้ำหลวง เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในวอร์ซอ โปแลนด์ ครอบคลุมในใจกลางเมือง บริเวณพื้นที่สวนและพระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตดาวน์ทาวน์ บนถนนอุยาซดูฟ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางหลวงที่เชื่อมโยงปราสาทหลวงกับพระราชวังวิลานูฟทางตอนใต้ สวนวาซิเยนกิ ถือเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ภายในมีพระราชวังบนน้ำ (Palace on the Isle) โรงละครกลางแจ้ง และรูปปั้นโชแปง (Chopin Monument) ที่ในช่วงฤดูร้อนมักมีการแสดงดนตรีเปียโนสด และมีผู้คนมากมายเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจ

• ที่ตั้ง : Agrykola 1, 00-460 Warszawa, Poland
• Google Maps : https://maps.app.goo.gl/vi5fC74PkpRHcH1v5

5. Palace of Culture and Science

อาคารสูงเสียดฟ้าสไตล์โซเวียตที่โดดเด่นใจกลางเมือง เป็นของขวัญจากสหภาพโซเวียตให้แก่โปแลนด์ ภายในมีโรงละคร พิพิธภัณฑ์ และสำนักงานต่างๆ คุณสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของวอร์ซอได้จากชั้นบนสุด

พระราชวังศิลปวิทยาการ เป็นอาคารสูงเสียดฟ้าสไตล์โซเวียตที่ตั้งโดดเด่นอยู่ใจกลางกรุงวอร์ซอ ด้วยความสูงรวม 237 เมตร ทำให้เป็นอาคารแห่งนี้สูงเป็นอันดับสองของทั้งกรุงวอร์ซอและประเทศโปแลนด์ พระราชวังศิลปวิทยาการแห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมประวัติศาสตร์โปแลนด์และตึกระฟ้าสไตล์อาร์ตเดโคของอเมริกา ภายในพระราชวังประกอบไปด้วยสถาบันสาธารณะและวัฒนธรรมต่าง ๆ มากมาย ได้แก่ โรงละคร พิพิธภัณฑ์ มหาวิทยาลัย โรงภาพยนตร์ หอประชุม สระว่ายน้ำสาธารณะ และสำนักงานของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งโปแลนด์

• ที่ตั้ง : plac Defilad 1, 00-901 Warszawa, Poland
• Google Maps : https://maps.app.goo.gl/191Qa1sQ5KtUSJ9m6

6. Wilanów Palace

พระราชวังวิลานูฟ เป็นพระราชวังเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเขตวิลานูฟของกรุงวอร์ซอ สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1677-1696 ในยุคสมัยของพระเจ้าจอห์นที่ 3 โซเบียสกี กษัตริย์แห่งโปแลนด์และแกรนด์ดยุคแห่งลิทัวเนีย พระราชวังแห่งนี้เป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์ที่สำคัญที่สุดของโปแลนด์ พิพิธภัณฑ์ในพระราชวังที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1805 เป็นแหล่งเก็บรักษามรดกทางศิลปะและพระราชวงศ์ของประเทศ ซึ่งรอดพ้นจากการทำลายล้างในสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงห้องต่าง ๆ ที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง และมีสวนสวยงามกว้างขวาง เหมาะสำหรับการเดินเล่นและถ่ายภาพ

• ที่ตั้ง : Stanisława Kostki Potockiego 10/16, 02-958 Warszawa, Poland
• Google Maps : https://maps.app.goo.gl/kCbWcyj9aJPQ8Hvm7

7. Muranów

มูรานูฟ เป็นย่านหนึ่งในใจกลางกรุงวอร์ซอ ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยชื่อ มูรานูฟ มาจากพระราชวังของซิโมเน จูเซปเป เบลอตติ สถาปนิกชาววีนิส ซึ่งเดิมมาจากเกาะมูราโนมายังกรุงวอร์ซอ ถือเป็นย่านที่อยู่เหนือสุดของพื้นที่ใจกลางเมือง ภายหลังสงคราม ย่านมูรานูฟได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมด กลายเป็นย่านที่มีกลิ่นอายความเป็นสังคมสมัยใหม่

• ที่ตั้ง : Gen. W. Andersa 5, 00-147 Warszawa, Poland
• Google Maps : https://maps.app.goo.gl/X1oKMy1dDUBnsqoSA

8. Vistula Boulevards

Vistula Boulevards เป็นเส้นทางเดินเลียบแม่น้ำบนฝั่งซ้าย (ฝั่งตะวันตก) ของแม่น้ำวิสตูลาในกรุงวอร์ซอ โปแลนด์ ช่วงระหว่างสะพานโปเนียตอฟสกีและสะพานชลอนสโก-ดอมบรอฟสกี เส้นทางนี้ตั้งอยู่ในย่านประวัติศาสตร์ โดยในปี ค.ศ. 2013 ได้มีการบูรณะถนนเลียบแม่น้ำแห่งนี้ โดยส่วนแรกของถนนเลียบแม่น้ำวิสตูลาได้เปิดให้ใช้งานเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 2015

• ที่ตั้ง : Generała George’a Smitha Pattona, 00-401 Warszawa, Poland
• Google Maps : https://maps.app.goo.gl/Xkd73ckXc8uGCPu48

9. Neon Museum

พิพิธภัณฑ์นีออน หรือ พิพิธภัณฑ์แสงนีออน ตั้งอยู่ในเขตปรากา-โปวุดนิเออของกรุงวอร์ซอ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร จากการมีทำหน้าที่จัดเก็บบันทึกเอกสารและอนุรักษ์โฆษณาแสงสีจากโปแลนด์และกลุ่มประเทศตะวันออกที่สร้างขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในโปแลนด์และเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งของพิพิธภัณฑ์ป้ายนีออนในโลก

• ที่ตั้ง : Soho Factory, 25 Minska Street, 03-808 Warsaw, Poland
• Google Maps : https://maps.app.goo.gl/AMcLzpkoVGL79sbHA

10. Copernicus Science Centre

ศูนย์วิทยาศาสตร์โคเปอร์นิคัส เป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำวิสตูลาในกรุง ภายในมีนิทรรศการมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจัดแสดงในรูปแบบมุ่งเน้นให้ผู้ชมทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ด้วยตัวเอง ศูนย์วิทยาศาสตร์แห่งนี้เป็นสถาบันการเรียนรู้ขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของโปแลนด์ และเป็นหนึ่งในศูนย์การเรียนรู้ที่ทันสมัยที่สุดในยุโรป

• ที่ตั้ง : Wybrzeże Kościuszkowskie 20, 00-390 Warszawa, Poland
• Google Maps : https://maps.app.goo.gl/7gycN33i9oD3XmYK7

เคล็ดลับการเที่ยววอร์ซอ โปแลนด์

เปิดเคล็ดลับการเที่ยววอร์ซอ เพลิดเพลินครบจบ ทั้งแนะนำวิธีการเดินทาง มัดรวมเมนูอาหารรสเลิศที่ต้องลอง และแจกพิกัดย่านช้อปปิ้ง

การเดินทางภายในเมือง

เมืองวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ มีระบบขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุมทุกเส้นทางและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น รถราง (Tram), รถบัส (Bus) และรถไฟใต้ดิน (Metro) ด้วยความหลากหลายของระบบขนส่งสาธารณะนี้เอง ทำให้การเดินทางไปท่องเที่ยวทั่วเมืองวอร์ซอนั้นง่าย และรวดเร็วอย่างมาก โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางได้ตามความสะดวก หรืออาจพิจารณาเลือกตามความเหมาะสม นอกจากนี้ วอร์ซอ ยังเป็นเมืองที่เหมาะแก่การเดินเท้าท่องเที่ยวอย่างมาก เพราะตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมงดงามให้เยี่ยมชม

อาหารที่ต้องลอง

หนึ่งสิ่งที่พลาดไม่ได้อย่างยิ่งเมื่อเดินทางมาเที่ยวเมืองวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ นั่นก็คือการลิ้มรสชาติอาหารพื้นเมือง ซึ่งที่โปแลนด์ก็มีอาหารพื้นเมืองที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

1.Pierogi (ปีเอร์โอกี)

เกี๊ยวโปแลนด์ที่ทำจากแป้งห่อไส้หลากหลาย เช่น มันฝรั่งผสมหัวหอม เนื้อสับ เห็ด ผลไม้ หรือชีส มักเสิร์ฟพร้อมหัวหอมผัดเนยและครีมชีส ถือเป็นอาหารประจำชาติของโปแลนด์ที่ขาดไม่ได้เมื่อมีงานเทศกาลและงานฉลองต่าง ๆ

2. Żurek (จูเร็ก)

ซุปรสเปรี้ยวที่ทำจากแป้งข้าวไรย์หมัก มักเสิร์ฟพร้อมกับไส้กรอกโปแลนด์ เบคอน และไข่ต้ม บางครั้งเสิร์ฟในหม้อปั้นดินเผาหรือภาชนะที่ทำจากขนมปัง เป็นอาหารยอดนิยมโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลอีสเตอร์

3. Bigos (บิกอส)

เป็นสตูว์ที่มีส่วนผสมหลักคือกะหล่ำปลีดอง และเนื้อสัตว์ต่าง ๆ โดยวัตถุทั้งหมดจะถูกนำมาตุ๋นรวมกันด้วยไฟอ่อนเป็นเวลานาน เพราะยิ่งตุ๋นนาน รสชาติก็จะยิ่งอร่อย ถือเป็นอาหารประจำชาติที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของโปแลนด์

4. Golabki (โกลับกี้)

Golabki (โกลับกี้) หรือ กะหล่ำปลีห่อไส้ข้าวผสมเนื้อสับ มักเสิร์ฟร่วมกับซอสมะเขือเทศหรือครีมชีส เป็นอาหารที่แม่บ้านโปแลนด์นิยมทำในวันอาทิตย์

5. Barszcz (บอร์ชท์)

Barszcz (บอร์ชท์) เป็นซุปบีทรูทแดงที่มีรสชาติออกหวานปนเปรี้ยว มักเสิร์ฟร่วมกับเกี๊ยวชิ้นเล็ก ๆ ไส้กรอก หรือไข่ต้ม โดย บอร์ชท์ แบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ได้แก่ บอร์ชท์ใส (barszcz biały) และบอร์ชท์แดง (barszcz czerwony) ถือเป็นอาหารที่นิยมในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและงานเฉลิมฉลองพิเศษ

ช้อปปิ้งและของฝาก

มหานครวอร์ซอเป็นย่านการค้าที่สำคัญ จากการเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ โดยของฝากยอดนิยมจากวอร์ซอ ได้แก่

• เครื่องประดับอำพัน

โปแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตอำพันรายใหญ่ของโลก ในเมืองวอร์ซอจึงมีเครื่องประดับอำพันคุณภาพดีให้เลือกสรรมากมาย  

• ศิลปะหัตถกรรมพื้นเมือง

เมืองวอร์ซอถือเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับศิลปะหัตถกรรมพื้นเมือง เช่น ไม้แกะสลัก ผ้าปัก เซรามิก หรือเครื่องหนัง ซึ่งแสดงให้เห็นความมากฝีมือของช่างโปแลนด์ ซึ่งสินค้าทำมือเหล่านี้เป็นตัวเลือกที่ดีอย่างยิ่ง สำหรับซื้อเป็นของที่ระลึก

• วอดก้าและเหล้าท้องถิ่น

โปแลนด์เป็นประเทศที่โด่งดังเกี่ยวกับวอดก้า โดยมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือก ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีรสชาติเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป

• โปสเตอร์วินเทจ

ด้วยความที่วอร์ซอเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ทั้งยังเป็นมหานครที่โดดเด่นเรื่องผลงานศิลปะและความงดงามของสถาปัตยกรรม โปสเตอร์วินเทจที่มีการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองวอร์ซอ สถานที่สำคัญ และความเป็นมาของวัฒนธรรมเก่าแก่ ถือเป็นตัวเลือกของฝากที่น่าสนใจอย่างยิ่ง  

โปรโมชั่นพิเศษจากบัตรเครดิต KTC ที่ทำให้ความฝันเที่ยวยุโรปเป็นจริง

การเที่ยววอร์ซอหรือประเทศในยุโรปอื่น ๆ นั้น ไม่ได้ยากอย่างที่คิด สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC ที่กำลังวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวยุโรป อย่าพลาดโอกาสดี ๆ จากโปรโมชั่นพิเศษจาก KTC ที่จะทำให้ฝันของคุณเป็นจริง

โปรโมชั่น สายการบิน Emirates กับบัตรเครดิต KTC

ต่อที่ 1

รับส่วนลดสูงสุด 4,900 บาท เส้นทางยุโรป เพียงใส่โค้ดส่วนลด (Promo Code) : THKTC25 เมื่อจองผ่านเว็บไซต์ http://emirates.th/thktc25 สำหรับจองบัตรโดยสารแบบไป-กลับ เส้นทางเริ่มต้นเดินทางจากประเทศไทย (กรุงเทพฯ และภูเก็ต)

• ระยะเวลาจอง : 1 พ.ค. 68 - 31 ก.ค. 68
• ระยะเวลาเดินทาง : 4 พ.ค. 68 - 31 ต.ค. 68

ต่อที่ 2

แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 15% ไม่จำกัดจำนวนครั้ง เมื่อจองตั๋วเครื่องบินโดยตรงผ่านสายการบิน Emirates จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC และใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่าย ต่อเซลส์สลิป ลงทะเบียนภายในวันที่ทำรายการเพื่อแลกรับเครดิตเงินคืน ผ่านเว็บไซต์ https://www.ktc.co.th/promotion/travel/online-flight-booking/emirates

• ระยะเวลาโปรโมชั่น: 1 พ.ค. 68 - 31 ก.ค. 68

โปรโมชั่น Qatar Airways กับบัตรเครดิต KTC

คุ้มที่ 1

รับส่วนลดสูงสุด 10% ในเส้นทางที่กำหนด เพียงกรอกรหัสโปรโมชั่น : KTCTH25 เมื่อจองผ่านเว็บไซต์ https://www.qatarairways.com/en-th/offers/cug/ktc.html โดยเส้นทางเริ่มต้นทางจากประเทศไทย (BKK & HKT) ได้ทั้งแบบเที่ยวบินขาเดียว หรือ ไปกลับ และชำระด้วยบัตรเครดิต KTC เท่านั้น และรับส่วนลดตามกำหนด

• ระยะเวลาจองตั๋ว: 1 เม.ย. 68 - 30 ก.ย. 68
• ระยะเวลาเดินทาง: 1 เม.ย. 68 - 31 ธ.ค. 68

คุ้มที่ 2

แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 15% ไม่จำกัดจำนวนครั้ง เมื่อจองตั๋วเครื่องบินสายการบิน Qatar Airways ผ่านเว็บไซต์ https://www.qatarairways.com/en-th/offers/cug/ktc.html ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC และใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่าย ต่อเซลส์สลิป โดยลงทะเบียนภายในวันที่ทำรายการเพื่อแลกรับเครดิตเงินคืน ผ่านเว็บไซต์

โปรโมชั่น รับสิทธิ์เข้า LHG Business Class Lounge ฟรี กับ สายการบิน Austrian Lufthansa และ SWISS กับบัตรเครดิต KTC

สายการบิน Lufthansa Group ซึ่งประกอบด้วย สายการบิน Austrian Lufthansa และ SWISS บินตรงทุกวันจากกรุงเทพ ไป มิคนิค (Munich) ซูริค (Zurich) และเวียนนา (Vienna) ต่อไปยังเมืองในยุโรปอีก 190 เมือง รวมทั้งครอบคลุมเมืองต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และ อเมริกาใต้ มอบสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต KTC เท่านั้น

ต่อที่ 1

รับสิทธิ์ LHG Business Class Lounge Voucher ฟรี เมื่อจองตั๋วเครื่องบินสายการบิน Austrian Lufthansa และ SWISS ผ่านเว็บไซต์สายการบินเท่านั้น

• ระยะเวลาจอง: 1 ก.ค. 68 - 30 พ.ย. 68
• ระยะเวลาเดินทาง: 1 ก.ย. 68 - 30 พ.ย. 68

ต่อที่ 2

แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 15% เมื่อมียอดใช้จ่ายซื้อบัตรโดยสารผ่านที่เว็บไซต์ www.lufthansa.com, www.swiss.com, และ www.austrian.com และใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC ต่อเซลส์สลิป และลงทะเบียนภายในวันที่ทำรายการเท่านั้น

บัตรเครดิต KTC มักจะมีโปรโมชั่นสุดคุ้มร่วมกับสายการบินชั้นนำ ที่มีเส้นทางบินไปยังยุโรป ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดค่าตั๋วเครื่องบิน การแลกคะแนนสะสมเป็นส่วนลดเพิ่มเติม หรือโปรโมชั่นการผ่อนชำระ 0% สำหรับค่าตั๋วเครื่องบิน ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อย่างมาก และทำให้การเที่ยวยุโรปเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น

สมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ได้ตั้งแต่วันนี้ ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า มอบความคุ้มค่าในทุกการใช้จ่าย ด้วยการรับคะแนน KTC FOREVER สะสมได้ไม่จำกัด และไม่มีวันหมดอายุ

ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC