ปลายปี 2568 นี้ คนรักการท่องเที่ยวและภาคธุรกิจมีข่าวดีอีกแล้ว รัฐบาลจัดเต็มออก 3 มาตรการภาษี เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเที่ยวในประเทศมากขึ้น และช่วยภาคธุรกิจท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากหลายปีที่ผ่านมาเงียบเหงาไปหน่อย พูดง่าย ๆ คือ ทั้ง “นักเที่ยว” “บริษัท” และ “โรงแรม” ต่างก็ได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า เรามาดูกันแบบเข้าใจง่าย ๆ ว่าแต่ละมาตรการมีอะไรให้ใช้สิทธิ์กันได้บ้าง

1. เที่ยวดี มีคืน – ใช้จ่ายได้ ลดหย่อนภาษีได้ด้วย
มาตรการ “เที่ยวดี มีคืน” เปิดโอกาสให้ บุคคลธรรมดา เอาค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวในประเทศมาหักลดหย่อนภาษีได้จริง
อยากเที่ยวก็เที่ยว อยากประหยัดภาษีก็ทำได้ในคราวเดียว!
ระยะเวลาใช้สิทธิ
29 ตุลาคม – 15 ธันวาคม 2568
ใครใช้ได้บ้าง
คนทั่วไปที่มีรายได้และยื่นภาษี (ไม่รวมคณะบุคคลหรือห้างหุ้นส่วนสามัญ)
ค่าใช้จ่ายที่ใช้สิทธิได้
- ค่าที่พักในโรงแรมหรือโฮมสเตย์
- ค่าอาหารจากร้านที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
สิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี
- ถ้าเที่ยวใน เมืองรอง 55 จังหวัด → หักลดหย่อนได้ 1.5 เท่า ของยอดจ่ายจริง สูงสุด 30,000 บาท
- ถ้าเที่ยวในจังหวัดอื่น ๆ → หักได้ 1 เท่า สูงสุด 20,000 บาท
เอกสารที่ต้องใช้
- ยอดแรก 10,000 บาท ใช้ใบกำกับภาษีปกติหรือ e-Tax Invoice ก็ได้
- ยอดต่อมา (รวมไม่เกิน 20,000 บาท) ต้องใช้ e-Tax Invoice เท่านั้น
มาตรการนี้เหมาะมากสำหรับคนที่วางแผนไปเที่ยวปลายปี ไม่ว่าจะพักผ่อนกับครอบครัว เที่ยวเมืองรอง หรือชิมอาหารท้องถิ่น ก็เอามาลดหย่อนภาษีได้จริง

ทริคพิเศษสำหรับสาย กิน ช้อป เที่ยว
ถ้าโรงแรมที่คุณจอง มีโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต KTC ก็ยิ่งคุ้มสองต่อ เพราะคุณจะได้ ทั้งส่วนลดจากบัตรเครดิต และยังสามารถนำยอดจ่ายนั้นไป หักลดหย่อนภาษีในโครงการ “เที่ยวดี มีคืน” ได้ด้วย
เรียกได้ว่าเที่ยวสบายใจ ได้ส่วนลด ได้คืนภาษี ครบในทริปเดียว!
ดูรายละเอียดโปรโมชั่นได้ที่
2. มาตรการภาษีสนับสนุนการจัดอบรม–สัมมนาในประเทศ
ต่อมาเป็นของภาคธุรกิจโดยเฉพาะ รัฐบาลอยากให้บริษัทต่าง ๆ กลับมาจัดกิจกรรมอบรมสัมมนาภายในประเทศ เพราะนอกจากช่วยพัฒนาพนักงานแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวไปในตัว
ระยะเวลาใช้สิทธิ
29 ตุลาคม – 15 ธันวาคม 2568
รายจ่ายที่ใช้สิทธิได้
- ค่าห้องสัมมนา
- ค่าห้องพัก
- ค่าขนส่ง
- รายจ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดอบรมในประเทศ
- ค่าบริการจากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว
สิทธิหักรายจ่าย
- จัดใน เมืองรอง → หักรายจ่ายได้ 2 เท่า
- จัดในจังหวัดอื่น → หักได้ 1.5 เท่า
เรียกได้ว่าเป็นมาตรการที่ “ช่วยทั้งคน ช่วยทั้งธุรกิจ” เพราะนอกจากจะพนักงานได้ออกไปเปลี่ยนบรรยากาศแล้ว บริษัทก็ยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย
3. มาตรการภาษีปรับปรุงโรงแรม – ยกระดับที่พักไทยให้ดีกว่าเดิม
ส่วนโรงแรมและผู้ประกอบการที่พักก็ได้เฮ! เพราะมาตรการนี้เปิดโอกาสให้หักรายจ่ายจากการปรับปรุงอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวก ได้ถึง 2 เท่า
ระยะเวลาใช้สิทธิ
29 ตุลาคม 2568 – 31 มีนาคม 2569
ผู้มีสิทธิ
เฉพาะบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการโรงแรม
รายจ่ายที่เข้าข่ายใช้สิทธิ
- การต่อเติมหรือปรับปรุงอาคารให้ดีขึ้น (ไม่ใช่แค่ซ่อมของเดิม)
- เฟอร์นิเจอร์และเครื่องตกแต่งที่เป็นส่วนหนึ่งของอาคารถาวร
สิทธิพิเศษในการหักรายจ่าย
- หักรายจ่ายได้ 2 เท่าของยอดจ่ายจริง
- เท่าแรก หักเป็นค่าเสื่อมราคาตามปกติ
- เท่าที่สอง ทยอยหักได้ภายใน 20 รอบระยะเวลาบัญชี เท่ากันทุกปี
มาตรการนี้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการโรงแรมสามารถนำค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง ซ่อมแซม หรือยกระดับสถานที่พัก มาหักลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนทำธุรกิจท่องเที่ยวเลยครับ และถ้าซื้อของปรับปรุงจาก ร้านที่ร่วมโครงการและมีโปรโมชั่นกับบัตรเครดิต KTC ก็จะได้ ทั้งส่วนลดพิเศษจากบัตร และยังได้สิทธิลดหย่อนภาษี ไปพร้อมกัน — เรียกว่าคุ้มสองต่อจริง ๆ

จังหวัดเมืองรองที่ได้รับสิทธิเพิ่ม (รวม 55 จังหวัด)
เมืองรองที่อยู่ในโครงการมีทั่วประเทศ เช่น น่าน แพร่ พะเยา แม่ฮ่องสอน ลำปาง สุโขทัย เลย นครพนม บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด ยโสธร ตราด ระนอง พังงา ยะลา ปัตตานี และอีกหลายจังหวัด
คลิกดูรายชื่อจังหวัดและอำเภอทั้งหมดที่ได้รับสิทธิ์
เที่ยว อบรม รีโนเวท – ได้ทั้งความสุขและสิทธิภาษี
มาตรการภาษีทั้ง 3 ชุดนี้เรียกได้ว่า “คุ้มทั้งคนเที่ยว คุ้มทั้งธุรกิจ”
ไม่ว่าจะเป็น
- คนทั่วไปที่อยากเที่ยวแล้วลดหย่อนภาษี
- บริษัทที่อยากจัดอบรมให้พนักงาน
- หรือโรงแรมที่อยากปรับโฉมใหม่ก่อนรับนักท่องเที่ยว
ทั้งหมดนี้สามารถใช้สิทธิภาษีได้จริงตามช่วงเวลาที่กำหนด ใครมีแผนจะเดินทางหรือจัดกิจกรรมช่วงปลายปีถึงต้นปีหน้า อย่าลืมเก็บใบกำกับภาษีให้เรียบร้อยนะครับ และสำหรับใครที่ยังไม่มีบัตรเครดิต แนะนำสมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ เพื่อรับโปรโมชั่น ที่ร้านค้าที่ร่วมรายการ สมัครได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC





