บินอย่างไร้กังวลแค่ใช้ที่ชั่งน้ำหนักกระเป๋า พร้อมกฎที่ต้องรู้

การเดินทางด้วยเครื่องบิน สายการบินจะมีข้อกำหนดเรื่องน้ำหนักกระเป๋าที่ผู้โดยสารทุกคนจำเป็นต้องทำตาม เนื่องด้วยมาตรฐานความปลอดภัยและการบังคับใช้กฎระเบียบ ซึ่งแตกต่างไปในแต่ละประเทศ หากใครรู้สึกกังวลใจในเรื่องของน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ไม่รู้หลักเกณฑ์หรือไม่รู้ว่ากระเป๋าของตัวเองมีน้ำหนักเท่าไหร่กันแน่ ที่ชั่งน้ำหนักกระเป๋าจะเป็นทางออกสำหรับปัญหานี้ 

KTC จะช่วยไขข้อข้องใจในกฎระเบียบเรื่องน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง ทั้งกระเป๋าที่ต้องโหลดใต้ท้องเครื่องและกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่อง รวมถึงแนะนำตัวเลือกของที่ชั่งน้ำหนักกระเป๋าที่ได้มาตรฐาน สามารถพกพาไปได้ทุกที่ และเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้คุณสามารถควบคุมกระเป๋าเดินทางไม่ให้หนักมากจนเกินไปได้

สายการบินกำหนดน้ำหนักและขนาดของกระเป๋าเดินทางอย่างไร

น้ำหนักกระเป๋า

แต่ละสายการบินตั้งข้อกำหนดของน้ำหนักและขนาดกระเป๋าเดินทางที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ทุกคนจำเป็นต้องรู้ก่อนขึ้นเครื่อง โดยสามารถแบ่งเกณฑ์ตามประเภทของกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องและกระเป๋าขึ้นเครื่อง ได้ดังนี้

1. การบินไทย

• กระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง : น้ำหนักไม่เกิน 20-50 กิโลกรัม
• กระเป๋าขึ้นเครื่อง : ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) ไม่เกิน 25 x 45 x 56 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม

2. บางกอกแอร์เวย์

• กระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง : น้ำหนักไม่เกิน 20-40 กิโลกรัม
• กระเป๋าขึ้นเครื่อง : ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) ไม่เกิน 23 x 36 x 50 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม

3. แอร์เอเชีย

• กระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง : น้ำหนักไม่เกิน 15-40 กิโลกรัม
• กระเป๋าขึ้นเครื่อง : ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) ไม่เกิน 56 x 36 x 23 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม 

4. ไทยเวียตเจ็ทแอร์

• กระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง : น้ำหนักไม่เกิน 32 กิโลกรัม
• กระเป๋าขึ้นเครื่อง : ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) ไม่เกิน 56 x 36 x 23 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม

5. ไทยไลอ้อนแอร์

• กระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง : น้ำหนักไม่เกิน 10-20 กิโลกรัม
• กระเป๋าขึ้นเครื่อง : ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) ไม่เกิน 40 x 30 x 20 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม

ทั้งนี้ ข้อกำหนดข้างต้นเป็นเพียงตัวเลขคร่าวๆ ที่ช่วยให้เห็นภาพรวมของแต่ละสายการบินเท่านั้น แต่อาจมีรายละเอียดที่แตกต่างกันแล้วแต่เส้นทางการเดินทางและประเภทชั้นของผู้โดยสาร ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้โดยสารต้องตรวจสอบข้อกำหนดอีกครั้งก่อนที่จะเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ และใช้ที่ชั่งน้ำหนักกระเป๋าทดสอบน้ำหนัก เพื่อให้แน่ใจว่ากระเป๋าเดินทางที่ต้องการนำไปด้วย ไม่ผิดกฎของสายการบิน และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มทีหลัง

แนะนำที่ชั่งน้ำหนักกระเป๋าแบบพกพา

เมื่อทราบกฎเกณฑ์ที่แน่นอนแล้ว หลายคนยังประสบปัญหาการชั่งน้ำหนักกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่อง เพราะไม่สามารถใช้เครื่องชั่งน้ำหนักที่มีที่บ้านเพื่อชั่งกระเป๋าเดินทางได้อย่างสะดวก และหากเลือกใช้เครื่องชั่งผิดวิธี อาจทำให้คำนวณน้ำหนักผิดพลาด และเสี่ยงต่อการต้องไปเปิดกระเป๋าเพื่อเอาของน้ำหนักเกินออกก่อนขึ้นเครื่องได้ นี่จึงเป็นที่ชั่งน้ำหนักกระเป๋าแบบพกพาที่เราอยากแนะนำให้คุณรู้จัก

1. เครื่องชั่งน้ำหนักกระเป๋ายี่ห้อ WENGER รุ่น 611883 

WENGER รุ่น 611883

ที่ชั่งน้ำหนักกระเป๋าขนาดเล็ก กะทัดรัด และใช้งานง่าย ชั่งน้ำหนักได้สูงสุด 40 กก. หรือ 88 ปอนด์ ถือเป็นอุปกรณ์เสริมที่นักเดินทางต้องมี เพราะจะช่วยให้จัดการปัญหากระเป๋าเดินทางน้ำหนักเกินได้อย่างสะดวก พร้อมพกพาไปได้ทุกที่แบบไม่เปลืองพื้นที่

2. เครื่องชั่งดิจิทัลแบบแขวนยี่ห้อ Etekcity รุ่น EL11

Etekcity รุ่น EL1

ภาพจาก Elekcity

ที่ชั่งน้ำหนักกระเป๋าแบบพกพาราคาประหยัด ชั่งน้ำหนักได้สูงสุด 50 กิโลกรัม ทำจากวัสดุคุณภาพดี น้ำหนักเบา พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชัน Tare หรือ Auto-Off รวมถึงฟังก์ชันตรวจสอบอุณหภูมิ และมาพร้อมดีไซน์ที่ช่วยให้จับได้กระชับมือ รับประกันสินค้า 1 ปีเต็ม

3. ที่ชั่งน้ำหนักกระเป๋าแบบแขวนยี่ห้อ YIERYI รุ่น Heavy Duty

ภาพจาก LAZADA

ตัวสุดท้ายสามารถชั่งน้ำหนักได้ในช่วงกว้างตั้งแต่ 0.2 – 500 กิโลกรัม รองรับ 3 หน่วยวัด ได้แก่ กิโลกรัม ปอนด์ และจิน ที่มาพร้อมฟังก์ชัน TARE แสดงผลบนจอแอลซีดี และมีระบบปิดอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน ทำให้รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่เพียงแค่สามารถชั่งน้ำหนักกระเป๋าได้เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ชั่งสิ่งของอื่นๆ ที่มีน้ำหนักมากได้อย่างแม่นยำด้วย 

ใครสนใจอยากหาที่ชั่งน้ำหนักกระเป๋าแบบพกพาเพื่อให้สามารถตรวจสอบน้ำหนักกระเป๋าได้อย่างถูกต้อง ตัวเลือกที่เราแนะนำน่าจะช่วยทำให้คุณมีแนวทางในการเลือกซื้อสินค้าได้ในแบบที่คุณต้องการ และการซื้อสินค้าผ่าน KTC U SHOP จะช่วยทำให้คุณประหยัดมากขึ้น เพราะมีส่วนลดและโปรโมชั่นมากมาย อาทิ ส่วนลดสินค้า, ผ่อน 0% นาน 3-10 เดือน และแลกคะแนน KTC FOREVER เป็นส่วนลด

นอกจากนี้ยังมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ไม่ใช่แค่เพียงที่ชั่งนน. กระเป๋าอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง หรือสินค้าอีกหลากหลายประเภท ให้คุณได้เลือกช้อปอย่างจุใจแบบไม่มีข้อจำกัด