ใกล้ถึงสิ้นปี 2568 แล้ว เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเสริมสิริมงคลชีวิตด้วยการทำบุญไหว้พระ หลายคนจึงมองหาวัดศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งงดงาม มีประวัติความเป็นมา และเปี่ยมด้วยพลังแห่งศรัทธา เพื่อขอพรให้ชีวิตในปีใหม่ราบรื่น โชคดี และมีพลังใจในการเริ่มต้นใหม่ บทความนี้ได้คัดสรร 9 วัดดังทั่วไทยที่ควรไปเยือนช่วงส่งท้ายปี พร้อมเกร็ดน่ารู้ที่สายบุญ สายมูไม่ควรพลาด
ทำไมการทำบุญในวัดดังถึงสำคัญ?
การได้ไปทำบุญที่วัดดังๆ ถือเป็นโอกาสดีที่ไม่ใช่แค่เรื่องของความเชื่อเท่านั้น แต่ยังช่วยเติมพลังใจให้เรารู้สึกอิ่มเอมและมั่นใจมากขึ้น หลายคนเชื่อว่าการไหว้พระหรือขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียง จะช่วยเสริมดวง เสริมโชคให้ชีวิตราบรื่น แถมวัดเหล่านี้ยังมีประวัติที่น่าสนใจ เป็นสถานที่สวยงามเหมาะกับการพักผ่อนทั้งกายและใจ ใครที่ได้แวะไปสักครั้งก็มักจะรู้สึกว่าได้เติมพลังตัวเองก่อนเริ่มต้นปีใหม่ได้อย่างมีความหมาย
1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) – กรุงเทพมหานคร
วัดพระแก้ว หรือชื่อเต็มว่า วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ถือเป็นวัดหลวงประจำรัชกาลที่ 1 และเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของประเทศไทย ตั้งอยู่ภายในพระบรมมหาราชวัง ใจกลางกรุงเทพฯ เป็นที่ประดิษฐานของ “พระแก้วมรกต” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่มีความสำคัญสูงสุดในพระราชพิธีต่างๆ และมีการเปลี่ยนเครื่องทรง 3 ฤดูโดยพระมหากษัตริย์ด้วยพระองค์เอง เป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา เน้นการใช้ในราชพิธี และเป็นจุดหมายสำคัญของทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
จุดเด่น: พระแก้วมรกตในพระอุโบสถ องค์เดียวในโลก เปลี่ยนเครื่องทรงตามฤดูกาล
กิจกรรม: สักการะพระแก้วมรกต เดินชมภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์
วิธีไหว้: จุดธูป 3 ดอก ตั้งจิตอธิษฐานขอพรเรื่องสุขภาพ ครอบครัว และหน้าที่การงาน แต่งกายสุภาพ และเข้าชมอย่างสำรวม เนื่องจากวัดอยู่ในเขตพระราชฐาน
ที่อยู่: ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
Google Map: https://maps.app.goo.gl/TYRhKpBzM1xNdbu9A
2. วัดอรุณราชวราราม – กรุงเทพมหานคร
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือที่หลายคนเรียกสั้นๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา และเคยเป็นวัดประจำพระราชวังธนบุรีในรัชสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช ต่อมาในรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะ “พระปรางค์วัดอรุณ” ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่มีความสวยงามวิจิตรตระการตา ชื่อ “วัดอรุณ” มีความหมายถึง “รุ่งอรุณ” หรือ “แสงแรกของวันใหม่” จึงมีความเชื่อกันว่า หากได้มากราบไหว้ จะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคล ให้ชีวิตพบเจอแต่แสงสว่าง ความหวัง และความก้าวหน้า
จุดเด่น: พระปรางค์สูงงดงามด้วยลวดลายประดับกระเบื้องจีน สื่อถึงรุ่งอรุณแห่งชีวิต
กิจกรรม: ขึ้นชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ชมสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน
วิธีไหว้: สักการะพระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก ขอให้ชีวิตพบแสงสว่าง ปราศจากอุปสรรค
ที่อยู่: เลขที่ 158 ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร 10600
Google Map: https://maps.app.goo.gl/G21DhTwAhtb5u6Qh6
3. วัดพระธาตุดอยสุเทพ – เชียงใหม่
วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร หรือที่คนทั่วไปเรียกสั้นๆ ว่า วัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นวัดสำคัญคู่เมืองเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนา แห่งอาณาจักรล้านนา ราวปี พ.ศ. 1929 เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ได้นำมาจากสุโขทัย ซึ่งในตำนานระบุว่า ช้างเผือกเป็นผู้นำทางไปยังจุดที่ควรสร้างวัด ก่อนจะล้มลง ณ ที่แห่งนี้และกลายเป็นสถานที่ประดิษฐานพระธาตุ วัดพระธาตุดอยสุเทพถือเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีมะแม และเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของทั้งสายบุญและนักท่องเที่ยว เพราะนอกจากจะได้กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังสามารถชมวิวเมืองเชียงใหม่ได้แบบพาโนรามาจากจุดชมวิวบริเวณวัดด้วยจุดเด่น: พระธาตุสีทองอร่ามกลางยอดดอย วิวพาโนรามาของเมืองเชียงใหม่
กิจกรรม: ไหว้พระธาตุ นั่งรถรางหรือเดินขึ้นบันไดนาค 309 ขั้น
วิธีไหว้: เวียนเทียนซ้าย 3 รอบ อธิษฐานขอพรเรื่องสุขภาพ ความรัก และความเจริญก้าวหน้า
ที่อยู่: ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
Google Map: https://maps.app.goo.gl/X3fsVULxXn242CQb9
4. วัดไชยวัฒนาราม – พระนครศรีอยุธยา
วัดไชยวัฒนาราม เป็นหนึ่งในวัดโบราณที่สวยและยิ่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เมื่อปี พ.ศ. 2173 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่พระราชมารดา ลักษณะเด่นของวัดคือสถาปัตยกรรมแบบขอมผสมผสานกับศิลปะอยุธยา มีพระปรางค์ประธานขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยเจดีย์บริวาร 8 องค์ บนระเบียงคด สื่อถึงเขาพระสุเมรุและจักรวาลตามคติจักรวาลในศาสนาพุทธ ในอดีต วัดแห่งนี้เคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญ รวมถึงเป็นวัดหลวงประจำราชสกุลของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ปัจจุบันวัดไชยวัฒนารามเป็นโบราณสถานยอดนิยมที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวสายประวัติศาสตร์ และสายบุญที่ต้องการสัมผัสพลังศรัทธาในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์
จุดเด่น: สถาปัตยกรรมแบบขอมผสมไทย โดดเด่นด้วยพระปรางค์และระเบียงคด
กิจกรรม: เยี่ยมชมโบราณสถาน ถ่ายภาพย้อนยุค
วิธีไหว้: สักการะพระประธานภายในพระอุโบสถ (ซึ่งปัจจุบันเหลือเฉพาะฐานและผนังบางส่วน) ขอพรเสริมความมั่นคงทางจิตใจและชีวิต
ที่อยู่: ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000
Google Map: https://maps.app.goo.gl/V8ZutCNUHHUFLRWt7
5. วัดพระธาตุพนม – นครพนม
วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือและชาวลาวมาช้านาน โดยมีองค์พระธาตุพนมเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธา เชื่อกันว่าภายในบรรจุพระอุรังคธาตุหรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระมหากัสสปะพร้อมพระอรหันต์ 500 รูปได้นำมาบรรจุไว้ตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 1 องค์พระธาตุมีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส สูงประมาณ 53.6 เมตร ตั้งอยู่บนเนินดินที่เรียกว่า “ภูกำพร้า” และได้รับการบูรณะหลายครั้ง โดยเฉพาะหลังจากการถล่มในปี พ.ศ. 2518 ที่ประชาชนทั่วประเทศร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึ้นใหม่ตามรูปแบบเดิม วัดแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางของงานประเพณีนมัสการพระธาตุพนมที่จัดขึ้นทุกปีในช่วงวันเพ็ญเดือน 3 ซึ่งมีผู้คนหลั่งไหลมาร่วมงานนับแสนคน ด้วยความเชื่อว่าผู้ที่ได้มากราบไหว้จะได้รับอานิสงส์สูงส่ง ทั้งในด้านความเจริญรุ่งเรืองและความปลอดภัยในชีวิต
จุดเด่น: พระธาตุสูงงามอลังการ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวลุ่มน้ำโขง
กิจกรรม: ถวายผ้าแพร บูชาพระธาตุ ขอพรเรื่องหน้าที่การงานและครอบครัว
วิธีไหว้: ธูป 9 ดอก ดอกไม้สีขาว ตั้งใจอธิษฐานเพื่อชีวิตที่รุ่งเรือง
ที่อยู่: ถนนชยางกูร ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม 48110
Google Map: https://maps.app.goo.gl/Z8WcFFcE9GyTNTkt6
6. วัดพระธาตุหริภุญชัย – ลำพูน
ขอบคุณรูปภาพจาก https://thai.tourismthailand.org
ผู้คนมักเดินทางไปไหว้พระขอพรที่วัดพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน เพราะเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมด้วยพลังแห่งศรัทธาและความเป็นสิริมงคล โดยเฉพาะผู้ที่เกิดปีระกา ซึ่งถือว่าองค์พระธาตุนี้เป็นพระธาตุประจำปีเกิด การได้มากราบไหว้จะช่วยเสริมดวงชะตาให้เจริญรุ่งเรือง มีความมั่นคงในชีวิตและหน้าที่การงาน อีกทั้งยังเชื่อกันว่าการสักการะพระธาตุหริภุญชัยจะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดี เสริมความปลอดภัยในการเดินทาง และนำพาความสงบสุขมาสู่จิตใจ นอกจากนี้วัดยังมีความงดงามทางสถาปัตยกรรมล้านนาและบรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกอิ่มเอมทั้งทางกายและใจ
จุดเด่น: พระธาตุทรงลังกา สีทองเด่นกลางเมือง
กิจกรรม: เวียนเทียนรอบองค์พระธาตุ ถวายเครื่องสักการะล้านนา
วิธีไหว้: ใช้ดอกไม้ธูปเทียนแบบล้านนา ตั้งจิตขอพรเสริมบุญบารมี
ที่อยู่: ถนนอินทยงยศ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน 51000
Google Map: https://maps.app.goo.gl/zC1x5QJGkxcSgm6S8
7. วัดพระธาตุศรีสองรัก – เลย
วัดพระธาตุศรีสองรัก จังหวัดเลย ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมด้วยพลังแห่งสัจจะและมิตรภาพ โดยมีตำนานเล่าว่าองค์พระธาตุถูกสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อเป็นสักขีพยานแห่งพันธสัญญาไมตรีระหว่างพระมหากษัตริย์สองพระองค์ คือ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา และพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งล้านช้าง ที่ร่วมมือกันต่อต้านการรุกรานของพม่า ทำให้พระธาตุแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความสามัคคี และความซื่อสัตย์ ผู้คนจึงนิยมมาขอพรเรื่องความรัก มิตรภาพ และความสำเร็จในชีวิต โดยเฉพาะในช่วงวันเพ็ญเดือน 6 ซึ่งเป็นวันจัดงานสมโภชองค์พระธาตุที่มีการถวาย “ต้นผึ้ง” อันเป็นประเพณีท้องถิ่นที่สืบทอดกันมายาวนาน ทั้งนี้ยังมีข้อห้ามสำคัญในการเข้าสักการะ เช่น ห้ามสวมเสื้อผ้าหรือพกพาสิ่งของสีแดง เพราะเชื่อว่าเป็นสีแห่งสงครามซึ่งไม่เหมาะสมกับสถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่อสันติภาพและความรัก
จุดเด่น: พระธาตุทรงจอมแห บรรยากาศเงียบสงบ ศักดิ์สิทธิ์
กิจกรรม: ถวายพานบายศรี บูชาดอกไม้สด
วิธีไหว้: ขอพรเรื่องความรัก ความปรองดอง และความมั่นคง
ที่อยู่: ตำบลด่านซ้าย อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย 42120
Google Map: https://maps.app.goo.gl/g3QQFWoWsMjVP2Zq9
8. วัดพระธาตุท่าอุเทน – นครพนม
ที่นี่เชื่อว่าเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันศุกร์ ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์และเปี่ยมด้วยพลังแห่งความรุ่งโรจน์ โดยองค์พระธาตุสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2455 จำลองแบบมาจากพระธาตุพนม แต่มีขนาดเล็กและสูงกว่า ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุที่อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา พร้อมด้วยพระพุทธรูปและของมีค่าต่าง ๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาถวายไว้ เชื่อกันว่าผู้ที่ไปนมัสการจะได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองเหมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า และเสริมสิริมงคลในด้านความคิดสร้างสรรค์ ความสดใส และความมั่นคงในชีวิต โดยเฉพาะผู้ที่เกิดวันศุกร์จะได้รับพลังเสริมดวงอย่างเต็มที่
จุดเด่น: ความเงียบสงบ และพลังศรัทธาของชาวบ้าน
กิจกรรม: สรงน้ำพระธาตุ สวดมนต์ นั่งสมาธิ
วิธีไหว้: ตั้งจิตแน่วแน่ ขอพรด้านสุขภาพและการเงิน
ที่อยู่: ตำบลเวินพระบาท อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม 48120
Google Map: https://maps.app.goo.gl/dHTeJdGF7Sest2GB6
9. วัดพระธาตุศรีจอมทอง – เชียงใหม่
ผู้คนจำนวนมากนิยมเดินทางไปไหว้พระขอพรที่ วัดพระธาตุศรีจอมทอง เพราะที่นี่เป็นสถานที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีชวด เชื่อกันว่าหากได้มากราบไหว้ด้วยความศรัทธา จะช่วยเสริมสิริมงคล เสริมดวงชะตา และคุ้มครองให้ปลอดภัยจากภยันตราย นอกจากนี้ บรรยากาศของวัดยังเงียบสงบ มีความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นหนึ่งในวัดที่สายปฏิบัติธรรมให้ความเคารพอย่างสูง ทำให้ผู้ที่มากราบไหว้รู้สึกอิ่มใจและได้พลังบวกกลับไปเสมอ
จุดเด่น: พระธาตุประจำปีชวด มีประวัติความเชื่ออันยาวนาน
กิจกรรม: ทำบุญเสริมดวง ต่ออายุ บูชาพระธาตุ
วิธีไหว้: เวียนเทียน 3 รอบ อธิษฐานเพื่อความสำเร็จตามปรารถนา
ที่อยู่: ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 50160
Google Map: https://maps.app.goo.gl/k8wwHBpe19y8T5Zb8
เคล็ดลับการทำบุญให้ได้ผลดี
- ทำด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่หวังสิ่งตอบแทน
- รักษาศีล 5 ร่วมกับการสวดมนต์ นั่งสมาธิ
- แบ่งปันบุญด้วยการอุทิศให้ผู้อื่น
- พกจิตใจที่สงบและเปิดรับความเมตตา
สำหรับใครที่อยากวางแพลนทริปไปไหว้พระที่วัดดัง KTC มีโปรโมชั่นที่ช่วยให้ทริปเที่ยวคุ้มค่ากว่าเดิม
โปรโมชั่นจองเที่ยวใช้คะแนนผ่อน 0% กับบัตรเครดิต KTC
แลกคะแนนรับสิทธิ์ผ่อนชำระ 0% นาน 4 เดือน + รับเครดิตเงินคืน 10% ในหมวดท่องเที่ยวที่ร่วมรายการ
ระยะเวลาโปรโมชั่น : 15 ก.พ. 68 - 31 ธ.ค. 68
รายละเอียดเพิ่มเติม
การได้ไปทำบุญตามวัดศักดิ์สิทธิ์ทั่วไทยในช่วงส่งท้ายปี ไม่เพียงเสริมมงคลให้ชีวิต แต่ยังเติมพลังใจให้เริ่มต้นปีใหม่อย่างมีความหวัง สำหรับใครที่กำลังวางแผนเดินทาง บัตรเครดิต KTC เป็นตัวช่วยที่ดีในการจัดการค่าใช้จ่าย ทั้งการจองที่พัก การเดินทาง การเช่ารถเที่ยว หรือช้อปของฝาก เพราะมีสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นจากร้านค้าและพาร์ทเนอร์ชั้นนำทั่วประเทศ สมัครบัตรเครดิต KTC วันนี้ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ เพื่อใช้ชีวิตสายบุญได้อย่างคุ้มค่าและมั่นใจยิ่งขึ้น
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC