ภูงา ได้ยินแล้ว หลายคนอาจจะไม่คุ้นหู แท้จริงแล้ว ภูงา ก็คือชื่อเดิมของจังหวัดพังงานั่นเอง จังหวัดพังงามีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ มีทั้งแร่ ดีบุก ในสมัยก่อนมีการค้าขายแร่ของพ่อค้าชาวต่างชาติทำให้การออกเสียงเมืองภูงาเพี้ยนเป็นพังงาในปัจจุบัน พังงาเป็นจังหวัดที่มีเกาะน่าเที่ยวเยอะแยะมากมาย แต่นอกจากเกาะแล้ว พังงายังมีที่เที่ยวอื่นๆอีกหลายมุม ทั้งน้ำตก เมืองเก่า ป่าธรรมชาติ เป็นจุดที่ชวนให้ผู้คนที่มาเยี่ยมเยือนตกหลุมรักเมืองภูงา หรือเมืองพังงา ได้
1. ตัวเมืองพังงา
จุดที่พลาดไม่ได้จุดแรกก่อนไปเที่ยวเกาะ คือ ตัวเมืองพังงา ที่มี Street Art น้องมาร์ดี โดยศิลปินกราฟฟิตี้ ALEX FACE วาดภาพนี้ภายใต้คอนเซปต์ “Story of the Wonderful Town” โดยมีทั้งหมด 3 ภาพ ภาพที่ 1 “น้องมาร์ดีร่อนแร่ : History of Mining” สะท้อนความเป็นเมืองแร่หมื่นล้านในอดีตของพังงา ภาพที่ 2 “น้องมาร์ดีเชิดสิงโต : Lion Dance”เพราะส่วนหนึ่งของชาวพังงาเป็นชุมชนชาวจีน และภาพที่ 3 “เรือใบในขวดแก้ว:Memory in The Bottle” เพราะในอดีตการทำเหมืองแร่ ต้องออกไปค้าขายโดยเรือสำเภา เกิดการแลกเปลี่ยนสินค้า วัฒนธรรม และภาษา จุดนี้เป็นจุดที่เหมาะกับการถ่ายรูป รับรองว่าได้ภาพที่สวยๆ ไปอวดชาวโซเชี่ยลอย่างแน่นอน ใครที่ไปเที่ยวพังงาแล้วมีเวลาเหลือจากการเที่ยวทะเล ก็อย่าลืมแวะไปนะคะ
ที่อยู่ : ซอยบำรุงราษฎร์ ตรงข้ามสำนักงานบริการลูกค้า ทีโอที พังงา
พิกัด : https://goo.gl/maps/ZUny8wzvtdsm6Nv47
2. เสม็ดนางชี
เสม็ดนางชี จุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวต้องมาเช็คอิน วิวภูเขาหินปูของอ่าวพังงา ชมวิวพระอาทิตย์ตก ชมแสงยามเย็น ถือเป็นวิวที่ unseen และสวยงามมากๆ ที่นี่มีทั้งร้านอาหาร ที่พัก และคาเฟ่ ให้บริการ ส่วนใครที่อยากชมแสงอาทิตย์ในยามเช้าก็บอกเลยว่า สวยงามไม่แพ้ในช่วงตอนเย็น บรรยาการศของพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางเกาะแก่งน้อยใหญ่ที่อยู่กลางทะเล และใครที่กำลังสงสัยว่า ที่มาของคำว่า เสม็ดนางชี มีที่มาจากอะไร ที่นี่มีตำนานเล่ากันว่า แม่ชีต้องเดินผ่านลำคลองไปมาระหว่างหมู่บ้าน ซึ่งจะต้องพับผ้าขึ้น ให้พ้นจากน้ำ เพื่อไม่ให้ชายผ้าเปียก การพับผ้าขึ้น เรียกว่า เหม็ดผ้าขึ้น จึงเป็นที่มาของคำว่า เสม็ดนางชี นั่นเอง
ที่อยู่ : บ้านหินร่ม ตำบลคลองเคียน อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา
พิกัด : https://goo.gl/maps/CmrNBeUSi9Z37Y4i6
3. เกาะผ้า
เกาะผ้า อยู่ห่างจากชายฝั่ง 10 กิโลเมตร เป็นเกาะเล็กๆเหมือนเนินทราย ที่โผล่อยู่เหนือน้ำทะเล น้ำทะเลใส มีปะการังใต้น้ำ ฝูงปลาน้อยใหญ่ หากมองลงมาจากมุมสูง เกาะผ้านี้สวยงามจนอาจจะเผลอคิดว่าที่นี่คือ มัลดีฟ์ เลยก็ว่าได้ เกาะผ้ามีเสน่ห์และถือเป็นสมบัติล้ำค่าของจังหวัดพังงา การเดินทางมาที่นี่อาจจะต้องอาศัยช่วงจังหวะน้ำขึ้นน้ำลง หากใครจะเดินทางมาเที่ยวจึงควรเช็คก่อน เพียงแค่ มาถ่ายรูป มานั่งนอนอาบแดด ก็แสนสุขแล้ว นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมเช่าเรือมานอนอาบแดด ที่นี่กันทั้งวัน
ที่อยู่ : ตำบลเกาะคอเขา อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
พิกัด : https://goo.gl/maps/3Cd8WvZ5t4RhPbyv8
4. คลองสังเน่ห์
Little Amazon ไม่ต้องไปไกลถึงบราซิล เพราะที่นี่คือ คลองสังเน่ห์ ในอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ประเทศไทยของเรานั่นเอง ต้นไม้พรรณไม้หนาทึบ รากไม้ทอดเลื้อยทับถมกันเหมือนงานศิลปะ ป่าไทรที่มีอายุนับร้อยปี การเข้าไปชมคลองสังเน่ห์ คือการล่องเรือตามน้ำไปชมความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ต้นไม้แต่ละต้นในป่าอเมซอนของเมืองไทย หรือ คลองสังเน่ห์นี้ มีขนาดใหญ่มาก แผ่กิ่งก้านสาขาตามริมคลอง ใครที่มาที่นี่ครั้งแรกบอกเลยว่าต้องตื่นตาตื่นใจไม่ใช่น้อย เที่ยวทะเลแล้ว ก็อย่าลืมแวะดื่มด่ำกับธรรมชาติที่นี่
ที่อยู่ : หมู่ 9 ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
พิกัด : https://goo.gl/maps/LFftaRoXAJMDGU226
5. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน - สุรินทร์
หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ สวรรค์ของนักดำน้ำ ทั้งนักดำน้ำในไทย และนักดำน้ำทั่วโลก ยกให้อุทยาแห่งชาติหมูเกาะสิมิลัน จุดดำน้ำที่สวยงดงาม แล้วสิมิลัน หมายถึงอะไร สิมิลัน หมายถึง “เก้า” ในภาษามลายู หรือภาษายาวี หมู่เกาะสิมิลัน หรือเกาะเก้า ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ ทั้งหมด 9 เกาะ คือ 1. บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ 2. บริเวณเกาะเมียง 3. บริเวณเกาะห้า 4. บริเวณเกาะหก 5. บริเวณเกาะปายู (เกาะ 7) 6. บริเวณเกาะสิมิลัน (เกาะ 8) 7. บริเวณท่าเรือทับละมุ เกาะแปดเป็นเกาะใหญ่ที่สุด มีหาดทรายขาวละเอียดใต้ทะเลมีปะการังหลายชนิด เป็นเกาะที่สามารถดำทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น และยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและจุดชมวิวที่สวยงามและจุดชมวิวที่สวยงาม บนเกาะแปดเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและลานกางเต้นท์คอยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งนอกจากเกาะแปดแล้วยังมีเกาะสี่ ที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของคนมาเยือนหมู่เกาะสิมิลัน สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากดำน้ำชมปะการังน้ำตื้น ที่พังงา ก็มีอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ที่มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์สวยงาม มีปลาสีสันต่าง ๆ มากมาย เป็นแหล่งเหมาะสำหรับชมปะการังน้ำตื้น ไฮไลท์อีกจุดหนึ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับนักดำน้ำก็คือกองหินริเชลิว แหล่งดำน้ำที่อุดมไปด้วยปลาและปะการังสีสวย ที่สำคัญเป็นจุดที่มีโอกาสพบฉลามวาฬได้ด้วย
ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน 93 หมู่ที่ 5 ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา 82210
พิกัด : https://goo.gl/maps/zh3m7o8rEagLhc1S8
6. เกาะยาว
สำหรับใครที่อยากสัมผัสพังงาในมุมเงียบสงบ และยังได้ชมวิถีชีวิตบนเกาะ ทั้งการทำนา การทำเครื่องมือประมง การทำผ้าบาติก ผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ และการทำผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว ก็ต้องที่ "เกาะยาว" มีทั้งเกาะยาวน้อยและเกาะยาวใหญ่ มีที่พักแนว Luxuary และแนวโฮมสเตย์ ใครชอบแบบไหนสามารถเลือกพักได้เลย ชาวบ้านบนเกาะนี้ส่วนใหญ่นับถือศาสนา อิสลาม และประกอบอาชีพประมง ที่เกาะยาวน้อย ยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สามารถพบเห็นนกเงือกได้อย่างง่ายได้
ที่อยู่ เกาะยาวน้อย : ม.3 ต.เกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว จ.พังงา 82160
พิกัด เกาะยาวน้อย : https://goo.gl/maps/jeVN8dENyVSnYFyN7
ที่อยู่ เกาะยาวใหญ่ : หมู่ 7 เกาะยาวใหญ่ ต.พรุใน อ.เกาะยาว จ.พังงา
พิกัด เกาะยาวใหญ่ : https://goo.gl/maps/X9LoZbxth6UgCbRu6
7. หาดบางสัก
หาดบางสัก ชมบรรยากาศของวิวทิวทัศน์ของทิวสน ที่ให้ความรู้สึกร่มรื่น ตลอดริมหาด อีกจุดหนึ่งของที่เที่ยวพังงา ที่ให้ความสงบ ทำให้ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ เหมาะแก่การมานั่งปิกนิก นั่งพักผ่อนหย่อนใจ รอบๆหาดยังมีร้านอาหารหลากหลายให้บริการ แถมราคาสบายกระเป๋า
ที่อยู่ : ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
พิกัด : https://goo.gl/maps/u6hx86vsoswoN9bFA
8. เกาะไข่
เกาะไข่แบ่งเป็น 3 เกาะคือ เกาะไข่นอก เกาะไข่ใน หรือ เกาะไข่แมว และเกาะไข่นุ้ย สองเกาะแรกจะได้สัมผัสบรรยากาศของหาดทรายสีขาว ละเอียด น้ำทะเลสีฟ้า ทำให้ชวนนึกถึงเกาะมัลดีฟ อีกเสน่ห์ที่ขาดไม่ได้ของเมืองพังงา ก็คือ ทะเล และปะการังอันงดงาม เกาะไข่ เป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องห้ามพลาด บนเกาะมีกิจกรรมขับเจ็ตสกี พายเรือคายัค ให้นักท่องเที่ยวได้ทำ
ที่อยู่ : ตำบล พรุใน อำเภอ เกาะยาว พังงา
พิกัด : https://goo.gl/maps/DvdsyvXHsp2Ac7yt7
9. เกาะพระทอง
เกาะพระทอง หรือ ทุ่งหญ้าสะวันนาของเมืองไทย อีกหนึ่งเสน่ห์ที่หาจากจังหวัดไหนไม่ได้ ต้องที่จังหวัดพังงาเท่านั้น ทุ่งหญ้าสะวันนาที่มีต้นเสม็ดแคระขึ้นกระจายทั่วบริเวณ ไฮไลท์ของที่นี่คือการนั่งรถชมทุ่งหญ้า ชมบรรยากาศที่เหมือนอยู่ต่างประเทศ ถ่ายรูปไปฝากชาวโซเชี่ยล เที่ยวเมืองไทย เหมือนไปเมืองนอก ที่นี่ยังได้รับรางวัล unseen Thailand จาก ททท. อีกด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาชมทุ่งหญ้าสะวันนานี้ ควรมาในช่วงเช้า ชมแสงอ่อนๆของพระอาทิตย์ขึ้น หรือมาในช่วงเย็น ชมแสงทองประกายของพระอาทิตย์ตก
ที่อยู่ : ตำบล เกาะพระทอง อำเภอ คุระบุรี พังงา
พิกัด : https://goo.gl/maps/KnuUd6bCS4aKCNDk7
10. เขาไข่นุ้ย
ใครบอกว่า พังงา มีแค่ทะเล พังงายังมีทะเลหมอกให้นักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ ตื่นเช้ามาชมทะเลหมอกอันสวยงาม อีกเสน่ห์ของเมืองพังงา เรียกได้ว่า เที่ยวครบ จบที่พังงา เขาไข่นุ้ยมีความสูงประมาณ 200 เมตรจากระดับน้ำทะเล เดิมทีเป็นที่ทำการเกษตรของชาวบ้าน แต่ด้วยวิวทะเลหมอกที่สวยงามทำให้มีการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวมากมาย จนถึงปัจจุบัน สำหรับนักทอ่งเที่ยวที่กล้วว่ามาแล้วจะไม่เจอทะเลหมอก ไม่ต้องกังวล เพราะที่เขาไข่นุ้ย สามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดทุกฤดูกาล แต่มีมากน้อย แตกต่างกันไปในแต่ละวัน
ที่อยู่ : ตำบลทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
พิกัด : https://goo.gl/maps/1iVG44afYJXnPGt49
11. ชุมชนบ้านท่าดินแดง
เริ่มต้นทริปกันที่ชุมชนบ้านท่าดินแดง หมู่บ้านเก่าแก่ริมคลองพังงาที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับสายน้ำและป่าชายเลนมายาวนานกว่า 100 ปี โดยชื่อ “ท่าดินแดง” มีที่มาจากลักษณะของดินบริเวณท่าน้ำที่มีสีแดง ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน เกษตรกรรม และเปิดศูนย์การเรียนรู้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสภูมิปัญญาท้องถิ่น ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การทำเครื่องมือประมง การแปรรูปอาหารทะเล และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน สามารถเดินชมบ้านเรือนไม้โบราณที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี สะท้อนให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ที่อยู่: ม.4 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง พังงา
12. ร่องรอยรางแร่เมืองเก่า
สำรวจร่องรอยรางแร่เมืองเก่าในชุมชนบ้านท่าดินแดง มรดกทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนความรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมเหมืองแร่ดีบุกในจังหวัดพังงาเมื่อกว่า 150 ปีที่ผ่านมา เป็นระบบขนส่งแร่ที่ใช้รางไม้หรือรางเหล็กลำเลียงแร่จากภูเขาสู่โรงแต่งแร่ แม้ปัจจุบันโครงสร้างเหล็กและไม้จะผุพังไปตามกาลเวลา แต่ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของอดีตอันรุ่งเรือง เปิดให้เข้าไปเรียนรู้ถึงเรื่องราวการทำเหมืองจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน ชมเครื่องมือโบราณที่เคยใช้งานจริงในอดีต บริเวณนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของป่าชายเลนและทะเลอันดามันได้อย่างงดงามด้วย
ที่อยู่: บ้านท่าดินแดง ม.4 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง พังงา
เวลาเปิด - ปิด: ทุกวัน 8.00 น. – 18.00 น.
13. พายเรือชมป่าชายเลนแห่งขุมน้ำใหญ่
กิจกรรมยอดนิยมของชุมชนบ้านท่าดินแดงคือ การพายเรือคายัคสำรวจป่าชายเลนขุมน้ำใหญ่ พื้นที่ระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ ครอบคลุมกว่า 2,000 ไร่ ในจังหวัดพังงา ซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำนานาชนิด และทำหน้าที่เป็นแนวกันชนธรรมชาติที่ช่วยปกป้องชายฝั่งจากการกัดเซาะ ล่องไปตามลำคลองที่คดเคี้ยวใต้ร่มเงาของต้นโกงกางและต้นลำพู ชมวิถีชีวิตของสัตว์นานาชนิด เช่น ปูก้ามดาบ ลิงแสม นกกระสา และ ปลาตีนที่สามารถเดินบนโคลนได้ ท่ามกลางความเงียบสงบและอากาศบริสุทธิ์ของป่าชายเลน ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีต่อรอบ
ที่อยู่: บ้านท่าดินแดง ม.4 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง พังงา
14. เขาหน้ายักษ์
>
จากชุมชนบ้านท่าดินแดง สามารถใช้บริการทัวร์ชุมชน นั่งเรือหัวโทง เรือประมงพื้นบ้านดั้งเดิมไปเยี่ยมชมเขาหน้ายักษ์ ภูเขาหินปูนรูปร่างคล้ายใบหน้ายักษ์ขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลและสภาพอากาศเป็นเวลาหลายพันปี จนเกิดเป็นรูปร่างที่เห็นได้ชัดจากมุมที่เหมาะสม ระหว่างทางยังจะได้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ท้องทะเลสีเขียวมรกต และยังมีโอกาสพบเห็นนกทะเลหลากหลายชนิดอีกด้วย ด้วยทัศนียภาพอันสมบูรณ์เหล่านี้ ทำให้เขาหน้ายักษ์ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของพังงา และเป็นจุดหมายถ่ายรูปยอดนิยมของเหล่าช่างภาพมืออาชีพ
ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง พังงา
เวลาเปิด - ปิด: ทุกวัน 8.00 น. – 18.00 น.
ค่าเข้าชม: 20 บาท/ท่าน (เด็ก 10 บาท)
15. กิจกรรมผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ
เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ หนึ่งในภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนบ้านท่าดินแดงที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ความพิเศษของผ้ามัดย้อมอยู่ที่การใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติในป่าชายเลนมาสกัดเป็นสีย้อมผ้า เช่น เปลือกโกงกางที่ให้สีน้ำตาลแดง ใบจากให้สีเขียวอ่อน ผลเสม็ดให้สีม่วง และโคลนป่าชายเลนให้สีเทาดำ เรียนรู้ในทุกขั้นตอนตั้งแต่เทคนิคการมัดผ้าเพื่อสร้างลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ การเตรียมน้ำสีจากวัตถุดิบธรรมชาติ ไปจนถึงกระบวนการย้อมที่ถูกต้อง เพื่อสร้างสรรค์ของที่ระลึกสุดพิเศษที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและเสน่ห์ของชุมชน
16. เกาะ 8
เกาะ 8 หรือ กองหินเรือใบ หนึ่งในสัญลักษณ์ของหมู่เกาะสิมิลันที่มีไฮไลท์คือ ก้อนหินขนาดใหญ่บนเนินเขา มีรูปร่างคล้ายใบเรือ อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถชมทัศนียภาพทะเลอันดามันได้แบบ 360 องศา มองเห็นแนวหาดทรายขาวโค้งเว้าสวยงาม รวมถึงน้ำทะเลที่ใสสะอาด จนมองทะลุเห็นแนวปะการังและฝูงปลาได้แม้อยู่บนชายหาด กิจกรรมยอดนิยมคือ การไต่เขาขึ้นไปยังจุดชมวิว หรือนอนอาบแดดบนหาดทราย และดำน้ำตื้นสัมผัสโลกใต้ทะเลอันงดงาม
17. เกาะ 4
เกาะ 4 หรือเกาะเมี่ยง ศูนย์กลางของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของหมู่เกาะสิมิลัน มีชายหาดสวยงาม น้ำทะเลสีฟ้าใส อีกทั้งยังเป็นจุดตั้งแคมป์และพักแรมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้เวลาสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด ใต้ผิวน้ำรอบเกาะเต็มไปด้วยปะการังหลากหลายชนิด เช่น ปะการังเขากวาง ปะการังสมอง และฝูงปลานานาพันธุ์ บนเกาะยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติสำหรับผู้ที่สนใจเดินสำรวจป่าอีกด้วย
18. เกาะ 6
หนึ่งในจุดดำน้ำลึกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยแนวปะการังที่กว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ ทำให้เกาะ 6 เป็นแหล่งรวมตัวของปะการังแข็งและปะการังอ่อนที่แต่งแต้มสีสันใต้ท้องทะเลได้อย่างมีชีวิตชีวา นักดำน้ำสามารถพบกับฝูงปลามากมายหลายชนิด เช่น ปลากระเบน ปลาผีเสื้อ ปลาสิงโต และปลาเก๋าหลายสายพันธุ์ อีกทั้งยังมีสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กอย่างทากทะเลที่มีสีสันสวยงามสะดุดตา
19. เกาะ 7
อีกหนึ่งเกาะที่ได้รับความนิยมในการดำน้ำลึก โดยเฉพาะจุดดำน้ำ “เวสท์ ริดจ์” (West Ridge) ซึ่งมีโขดหินขนาดใหญ่ใต้น้ำที่ปกคลุมไปด้วยกัลปังหาและดอกไม้ทะเลสีสันสดใส บริเวณนี้เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเลหายาก เช่น เต่าทะเลที่มักโผล่มาให้เห็น ฉลามหูดำที่แหวกว่ายอยู่บริเวณแนวปะการัง และกระเบนราหูขนาดใหญ่ที่นักดำน้ำมักมีโอกาสได้พบเจอ เหมาะสำหรับนักดำน้ำที่มีประสบการณ์และต้องการสัมผัสความยิ่งใหญ่ของโลกใต้ทะเลอย่างใกล้ชิด
20. เกาะ 9
หนึ่งในจุดหมายในฝันของนักดำน้ำ “คริสต์มาสพอยต์” (Christmas Point) จุดดำน้ำที่ขึ้นชื่อเรื่องโขดหินขนาดใหญ่ซ้อนตัวกันเป็นโพรงใต้น้ำ เต็มไปด้วยแนวปะการังอ่อนสีสันสดใสและฝูงปลานานาชนิด เช่น ปลาหูช้าง ปลาสากฝูงใหญ่ และปลาการ์ตูนที่อาศัยอยู่ท่ามกลางดอกไม้ทะเล นอกจากนี้ยังอาจได้พบกับปลากระเบนเสือดาวและฉลามเสือดาวที่ออกมาว่ายน้ำโชว์ตัวเป็นครั้งคราวอีกด้วย
21. ชุมชนสามช่องเหนือ
แวะเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวประมงดั้งเดิมริมอ่าวพังงา หนึ่งในชุมชนต้นแบบของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองพังงาประมาณ 30 กม. ได้รับชื่อ “สามช่อง” จากทำเลที่ตั้งบริเวณช่องเขาสามช่องที่ทอดยาวลงสู่ทะเล ชุมชนแห่งนี้มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี และยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้อย่างดี บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นอาคารไม้ทรงมลายู ตั้งอยู่บนเสาสูงริมน้ำ เชื่อมกันด้วยสะพานไม้เล็ก ๆ ให้บรรยากาศย้อนยุคและเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน สามารถมาเดินเที่ยวเล่น พร้อมเรียนรู้วิถีประมงพื้นบ้าน ชมฟาร์มปลากะพงในกระชัง และสำรวจถ้ำหินปูนที่ซ่อนตัวอยู่ตามเกาะน้อยใหญ่ในบริเวณใกล้เคียงอย่างสนุกสนาน
22. อ่าวพังงา
กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพังงาคือ การล่องเรือชมวิวอ่าวพังงา หนึ่งในอ่าวที่สวยที่สุดในโลกและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติ มีจุดเด่นอยู่ที่ทัศนียภาพของภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตากว่า 40 เกาะที่โผล่พ้นน้ำราวกับหมุดปักแผนที่ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการเรือหางยาวจากท่าเรือคลองเคียน ต.ตะกั่วทุ่ง หรือพายเรือคายัคสำรวจด้วยตัวเอง โดยตลอดเส้นทางจะได้พบกับแลนด์มาร์คสำคัญ เช่น เขาตาปู หรือ "James Bond Island" จากภาพยนตร์เรื่อง 007 ถ้ำลอดที่สามารถพายเรือคายัคเข้าไปชมความงดงามของหินงอกหินย้อยภายใน หรือแวะเที่ยวเกาะปันหยี หมู่บ้านกลางน้ำของชาวมุสลิมที่มีประวัติยาวนาน รวมถึงเขาพิงกัน หินขนาดใหญ่ที่เอนพิงกันอย่างน่าอัศจรรย์ ระหว่างทางยังมีโอกาสพบเห็นสัตว์ป่าหลากหลายชนิด เช่น ลิงแสม นกกระยาง บางครั้งอาจโชคดีได้พบปลาโลมาที่แหวกว่ายเล่นน้ำรอบเรืออีกด้วย
ที่อยู่: ม.2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง พังงา
เวลาเปิด - ปิด: ทุกวัน 7.00 น. – 19.00 น.
ค่าเข้าชม: เริ่มต้น 2,000 บาทต่อลำ
โรงแรม/ที่พัก พังงา
1. Devasom Khao Lak Beach Resort & Villas
รีสอร์ทสุดหรู ตั้งอยู่ริมชายหาดส่วนตัว โดดเด่นด้วยการออกแบบจากเสน่ห์ไทยโบราณเข้ากับความทันสมัย ห้องพักกว้างขวาง สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ริมทะเล และห้องอาหารรสเด็ด การันตีด้วย Michelin Guide 3 ปีซ้อน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษอย่างสปาทรีตเมนต์สุดผ่อนคลาย หรือศูนย์เช่าเรือคายัค อุปกรณ์กีฬาทางน้ำ และทัวร์ดำน้ำหมู่เกาะสิมิลัน
ที่อยู่: 79 ม.3 ต.เขาหลัก อ.ตะกั่วป่า พังงา
โทร: 076 592 277
Website: www.devasom.com/khaolak/
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC : ส่วนลด 25% ห้องพักจากราคา Flexible Rate เมื่อจองตรงกับโรงแรมผ่านเว็บไซต์ รหัสโปรโมชั่น "KTCONLY" (1 ม.ค. 68 – 31 ต.ค. 68)
2. Khao Lak Marriott Beach Resort & Spa
รีสอร์ทระดับ 5 ดาว ออกแบบสวยแฝงไปด้วยกลิ่นอายสไตล์ภาคใต้ของไทย มอบความผ่อนคลายในห้องพักกว้างขวาง พร้อมระเบียงส่วนตัวที่มองเห็นวิวทะเลได้แบบพาโนรามา พร้อมอิ่มอร่อยไปกับห้องอาหารนานาชาติถึง 7 ห้อง รวมถึง Panasia Grill ที่เสิร์ฟเมนูย่างพรีเมี่ยมควบคู่ไปกับวิวทะเลสุดตระการตา
ที่อยู่: 1/111 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า พังงา
โทร: 076 428 077
Website: marriott.com/en-us/hotels/hktmk-khao-lak-marriott-beach-resort-and-spa/overview
3. La Vela Khao Lak
โรงแรมในเขาหลักที่บรรยากาศสงบและวิวทะเลสวยงาม ห้องพักกว้างขวาง สะดวกสบาย มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ เตียงนอนนุ่มสบาย พร้อมอ่างอาบน้ำที่สามารถชมวิวทะเลได้ขณะแช่น้ำ มีห้องอาหารระดับพรีเมี่ยมให้บริการ อีกทั้งยังมี Beach Club สำหรับนั่งผ่อนริมทะเลแบบสบาย ๆ ในยามเย็น
ที่อยู่: 98/9 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า พังงา
โทร: 076 428 555
Website: www.lavelakhaolak.com
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC : ส่วนลด 10% ห้องพักจากราคาโปรโมชั่น เมื่อจองตรงกับโรงแรมผ่านเว็บไซต์ รหัสโปรโมชั่น "KTCUNIQUE" (6 ม.ค. - 31 ก.ค. 68)
4. Natai Beach Resort
สัมผัสความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวในรีสอร์ทสุดหรูริมชายหาดนาใต้ ใกล้ชุมชนสามช่องเหนือ โดดเด่นด้วยบรรยากาศโรแมนติก เหมาะสำหรับการพักผ่อนทั้งคู่รักและครอบครัว ให้บริการห้องพักกว้างขวาง พร้อมวิวทะเลสวยงาม สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้ง สระว่ายน้ำริมชายหาด ห้องอาหารรสเลิศ และสปาสุดผ่อนคลาย ให้คุณเพลิดเพลินเต็มอิ่มไปกับทริปแสนพิเศษ
ที่อยู่: 55 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง พังงา
โทร: 076 401 301Website: www.natairesort.com
พังงา จังหวัดที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งธรรมชาติและวัฒนธรรม เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยความหลากหลายของที่เที่ยว ทั้งการพายเรือคายัคท่ามกลางป่าชายเลนเขียวขจี ดำน้ำชมโลกใต้ทะเลอันสวยงามที่หมู่เกาะสิมิลัน ล่องเรือชมวิวตระการตาของอ่าวพังงาที่โดดเด่นด้วยภูเขาหินปูนน้อยใหญ่กลางทะเล รวมถึงการสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนท้องถิ่นที่ยังคงความเรียบง่ายและอบอุ่น ปิดท้ายด้วยการลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่จากธรรมชาติ พังงาจึงเป็นจังหวัดที่มอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เติมเต็มทั้งความสุขทางกายและใจ เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติ ผจญภัย และการพักผ่อนอย่างแท้จริง
สมาชิกบัตรเครดิต KTC เที่ยวไทย เที่ยวต่างประเทศ จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม / รีสอร์ท จองรถเช่า ประกันการเดินทาง หรือ ปรึกษาข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยว โปรโมชั่นสายการบิน โปรโมชั่นที่พัก ฯลฯ แสนสะดวก ไม่มีค่าธรรมเนียมการรูดบัตร ได้ที่ KTC World Travel Service โทร. 02 123 5050 ให้บริการข้อมูลการเดินทาง จองและวางแผนการเดินทาง (Travel Planner) ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือ ส่งอีเมล์มาที่ ktcworld@ktc.co.th หรือ สอบถามข้อมูลผ่านช่องทาง LINE: KTC WORLD และ Facebook : KTC WORLD Community
ตรวจสอบโปรโมชั่น / สิทธิพิเศษบัตรเครดิต KTC ที่ KTC WORLD SERVICE คลิก
เที่ยวไทยคุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC