ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องแต่ละสายการบิน มีข้อกำหนดแบบไหนบ้าง?

อยากไปเที่ยวแบบประหยัดเวลา การเดินทางด้วยเครื่องบินคือทางเลือกที่รวดเร็วและสะดวกสบายมากที่สุด แน่นอนว่าการเดินทางในแต่ละครั้งจำเป็นจะต้องเตรียมสัมภาระให้พร้อมลุยกับทริปที่แพลนไว้ แต่ช้าก่อน อย่าลืมตรวจสอบให้มั่นใจเกี่ยวกับข้อกำหนดขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องของแต่ละสายการบินด้วย จะได้เที่ยวสบายไม่มีสะดุด ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง

KEY TAKEAWAY

• ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องแบบ Carry-on กับแบบโหลดใต้เครื่องมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน
• โดยส่วนใหญ่แล้วกระเป๋าและสัมภาระแบบ Carry On สามารถนำขึ้นเครื่องได้คนละ 1 ใบ และควรมีน้ำหนักรวมไม่เกิน 7 กก.
• หากขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องเกินข้อกำหนดของสายการบิน อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• เกณฑ์การจัดการสัมภาระเพื่อนำกระเป๋าขึ้นเครื่อง
• ข้อกำหนดในการจัดการกระเป๋าเดินทางแต่ละสายการบิน
• ข้อจำกัดในการถือกระเป๋าขึ้นเครื่องแบบ Carry-On
• ลากกระเป๋าขึ้นเครื่อง เที่ยวสนุกไม่มีสะดุดไปกับ ‘บัตรกดเงินสด KTC PROUD’

เกณฑ์การจัดการสัมภาระเพื่อนำกระเป๋าขึ้นเครื่อง

1. กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

กระเป๋าแบบถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage) คือ กระเป๋าหรือสัมภาระที่ผู้โดยสารสามารถพกขึ้นเครื่องบินไปกับตัวเองได้ โดยไม่ต้องโหลดกระเป๋าไปใต้ท้องเครื่อง ซึ่งสัมภาระนั้นจะอยู่กับตัวผู้โดยสารบนเครื่องบินตลอดการเดินทาง แต่ต้องเก็บไว้ที่ช่องเก็บสัมภาระด้านบนศรีษะ หรือช่องใส่ของด้านหน้าเก้าอี้ในระหว่างที่อยู่บนเครื่องบิน

โดยปกติแล้วการนำกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง สายการบินส่วนใหญ่จะกำหนดน้ำหนักของสัมภาระพกพาติดตัวอยู่ที่ไม่เกิน 7 กก./คน (อาจแตกต่างกันตามนโยบายของแต่ละสายการบิน) และต้องเป็นสัมภาระที่เป็นในลักษณะเป็นกระเป๋าถือ หรือกระเป๋าที่เป็นล้อลาก ขนาด 12-22 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดอื่น ๆ เช่น ปริมาณของเหลวในกระเป๋าต้องห้ามเกิน 100 ml, ห้ามพกพาของมีคมหรืออาวุธอันตราย, แบตเตอรี่สำรองต้องมีความจุที่ 20,000-32000 mAh ฯลฯ

2. กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage) คือ การโหลดสัมภาระไปยังใต้ท้องเครื่องบิน สำหรับกระเป๋าเดินทางที่มีขนาด 24 นิ้วขึ้นไป โดยน้ำหนักของกระเป๋าที่โหลดขึ้นเครื่องนั้น ส่วนใหญ่สำหรับการเดินทางในประเทศจะอยู่ที่ 15 กก. และการเดินทางระหว่างประเทศอยู่ที่ 20 กก. ทั้งนี้แต่ละสายการบินจะมีข้อกำหนดของน้ำหนักสัมภาระที่ให้โหลดขึ้นเครื่องที่แตกต่างกันออกไป

ซึ่งข้อกำหนดหลัก ๆ ของการโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องนั้นจะมีในส่วนของสัมภาระต้องห้ามที่ไม่สามารถโหลดไปขึ้นเครื่องบินได้ เช่น คอมพิวเตอร์, แล็ปท็อป, บุหรี่ไฟฟ้า, แบตเตอรี่สำรอง, อาวุธและสิ่งผิดกฏหมายต่าง ๆ แนะนำว่าก่อนการเดินทางให้ศึกษาข้อกำหนดของแต่ละสายการบินก่อนว่าการโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องนั้น สายการบินที่เดินทางมีข้อกำหนดหรือข้อบังคับอย่างไรบ้าง เพื่อให้คุณสามารถจัดการกับการเตรียมสัมภาระในกระเป๋าได้ตรงตามข้อกำหนด

ข้อกำหนดในการจัดการกระเป๋าเดินทางแต่ละสายการบิน

ในปัจจุบันมีสายการบินให้บริการมากมาย ซึ่งแต่ละสายการบินมีข้อกำหนดเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นต้องเตรียมพร้อมก่อนเดินทางทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการจัดเตรียมกระเป๋าก่อนเดินทาง เราจึงได้สรุปรายละเอียดสั้น ๆ ของข้อกำหนดสัมภาระและขนาดกระเป๋าที่ขึ้นเครื่องได้ของสายการบินบางส่วน มาฝากทุกคนกัน ดังนี้

การบินไทย

สำหรับผู้โดยสารที่บินทั้งในและนอกประเทศกับการบินไทย (Thai Airways) สามารถถือสัมภาระขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 1 ใบ โดยมีขนาดอยู่ที่ 56x45x25 ซม. และน้ำหนักรวมของสัมภาระดังกล่าวไม่เกิน 7 กก. สำหรับคุณผู้หญิงที่เดินทางไม่ว่าชั้นโดยสารใดก็ตาม สามารถนำกระเป๋าส่วนตัวถือขึ้นเครื่องได้เพิ่มอีกหนึ่งใบ

ใครที่กำลังวางแพลนอยู่ว่าธันวาคม เที่ยวไหนดี หรือมีแพลนเที่ยวช่วงหยุดยาวไปต่างประเทศด้วยการบินไทย ก็อย่าลืมศึกษาข้อกำหนดเหล่านี้เพื่อให้คุณสามารถเตรียมกระเป๋าเดินทางได้อย่างถูกต้อง

บางกอกแอร์เวย์ส

ผู้โดยสารที่เดินทางกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways) สามารถถือสัมภาระขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 1 ใบ มีขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องอยู่ที่ 56x36x23 ซม. และน้ำหนักรวมไม่เกิน 7 กก. เรียกได้ว่าสำหรับใครที่กำลังมีความคิดว่าเที่ยวทะเลที่ไหนดี และต้องการเดินทางไปกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ก็เตรียมกระเป๋าเดินทางตามข้อกำหนดเหล่านี้ได้เลย

แอร์เอเชีย

สำหรับสัมภาระขึ้นเครื่องของสายการบินแอร์เอเชีย (AirAsia) มีข้อกำหนดว่าผู้โดยสารสามารถถือสัมภาระขึ้นเครื่องได้ 2 ใบ โดยกระเป๋าลากควรมีขนาดอยู่ที่ 56x36x23 ซม. และกระเป๋าสะพายหลัง กระเป๋าส่วนตัวควรมีขนาด 40x30x10 ซม. โดยน้ำหนักของกระเป๋าทั้ง 2 ใบเมื่อรวมกันแล้วไม่เกิน 7 กก.

สิงคโปร์ แอร์ไลน์

จำนวนสัมภาระที่สามารถ Carry On ของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ (Singapore Airlines) จะแตกต่างตามกันไปชั้นโดยสาร

• ผู้โดยสารชั้นประหยัดและชั้นประหยัดพิเศษ สามารถนำกระเป๋าขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ
• ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ ชั้นหนึ่ง และชั้นสวีท สามารถนำกระเป๋าขึ้นเครื่อง 2 ใบ

ทั้งนี้ ไม่ว่าจะชั้นโดยสารใดก็ตามกระเป๋าและสัมภาระ Carry On ควรมีน้ำหนักรวมแต่ละชิ้นไม่เกิน 7 กก. และขนาดความกว้าง ยาว สูงไม่เกิน 115 ซม.

แควนตัส แอร์เวย์

ผู้โดยสารที่เดินทางสายการบินแควนตัส แอร์เวย์ (Qantas Airways) สามารถนำกระเป๋า สัมภาระขึ้นเครื่องได้ โดยแต่ละชั้นโดยสารจะมีข้อกำหนดขนาดสัมภาระขึ้นเครื่องที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

• ผู้โดยสารชั้นประหยัด สามารถนำกระเป๋าขึ้นเครื่องขนาด 56x36x23 ซม. น้ำหนักรวมไม่เกิน 7 กก. ได้คนละ 1 ใบ
• ผู้โดยสารประหยัดพิเศษและชั้นธุรกิจ สามารถนำกระเป๋าขึ้นเครื่องขนาด 56x36x23 ซม. น้ำหนักรวมไม่เกิน 10 กก. ได้คนละ 1 ใบ หรือนำกระเป๋าขึ้นเครื่อง 2 ใบ แต่มีน้ำหนักรวมกันแล้วไม่เกิน 14 กก. และขนาดของกระเป๋าอยู่ที่ 48x34x23 ซม.

อย่างไรก็ตาม ทางสายการบินยังอนุญาตให้ผู้โดยสารนำกระเป๋าถือขนาดเล็ก กระเป๋าคอมพิวเตอร์ หรือสินค้าปลอดภาษีที่มีขนาดไม่ใหญ่มากขึ้นเครื่องได้

ไทยเวียดเจ็ท แอร์

สำหรับผู้โดยสารที่กำลังมีวางแพลนว่าพฤศจิกายน เที่ยวไหนดี และต้องการเดินทางกับสายการบินไทยเวียดเจ็ท แอร์ (Thai VietJet Air) สามารถนำกระเป๋าขึ้นเครื่องขนาด 56x36x23 ซม. น้ำหนักรวมไม่เกิน 7 กก. จำนวนคนละ 1 ใบ และอนุญาตให้ผู้โดยสารสามารถนำกระเป๋าถือขนาดเล็ก กระเป๋าคอมพิวเตอร์ขึ้นเครื่องได้อีก 1 ใบ

ข้อจำกัดในการถือกระเป๋าขึ้นเครื่องแบบ Carry-On

สำหรับข้อจำกัดและสิ่งของต้องห้ามบางประเภทที่ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่อง ได้แก่

• วัตถุไวไฟ วัตถุระเบิดทุกชนิด และยังรวมไปถึงสารเคมีที่ทำให้เกิดการกัดกร่อน ทำให้เกิดแก๊สหรือสารพิษ
• สิ่งของมีคม อาวุธ เช่น กรรไกร, มีดทุกชนิด, คัตเตอร์ และรวมไปถึงอุปกรณ์กีฬาที่สามารถใช้เป็นอาวุธได้
• ผัก ผลไม้ และอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น ปลาร้า, ทุเรียน, อาหารแห้ง, เนื้อสัตว์ เป็นต้น
• ของเหลวทุกชนิดที่มีขนาดเกิน 1 ลิตร
• แบตเตอรี่สำรองที่มีความจุมากกว่า 32,000 mAh
• สารเสพติดทุกชนิด รวมถึงสารอันตราย
• สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
• วัตถุอื่น ๆ ที่อาจสร้างความรบกวนให้ผู้โดยสารภายในเครื่องได้ เช่น สัตว์เลี้ยง (ยกเว้นสุนัขนำทาง), สัตว์มีพิษ, สัตว์ดุร้าย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งของบางชนิด เช่น ของเหลวและแบตเตอรี่สำรองสามารถนำใส่กระเป๋าขึ้นเครื่องแบบ Carry On ได้ แต่มีข้อกำหนดว่าของเหลวทุกชนิดต้องใส่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ ที่มีความจุต่อชิ้นในปริมาณไม่เกิน 100 มิลลิลิตร และรวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 1 ลิตร ส่วนแบตเตอรี่สำรองจะไม่สามารถโหลดไปกับกระเป๋าใต้ท้องเครื่องได้ แต่จะสามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน และความจุรวมกันทั้งหมดไม่เกิน 32,000 mAh

ลากกระเป๋าขึ้นเครื่อง เที่ยวสนุกไม่มีสะดุดไปกับ ‘บัตรกดเงินสด KTC PROUD’

ใครที่กำลังจะเดินทางท่องเที่ยวด้วยเครื่องบินเร็ว ๆ นี้ การจัดสิ่งของในกระเป๋าเดินทางและใส่ใจขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ แม้ว่าส่วนใหญ่กระเป๋าสัมภาระแบบ Carry On สามารถนำขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 7 กก. แต่สายการบินต่าง ๆ ก็มีข้อกำหนด นโยบายในเรื่องของน้ำหนัก และขนาดกระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องที่ต่างกันออกไปด้วย

จัดกระเป๋าเสร็จแล้ว อยากเที่ยวได้แบบสบายใจ ขอแนะนำตัวช่วยยามฉุกเฉินดี ๆ อย่างบัตรกดเงินสด KTC PROUD อีกหนึ่งบัตรกดเงินสดดี ๆ ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการตัวช่วยในการวางแผนการเงินเพื่อการใช้จ่ายในจุดประสงค์ต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เบิกเงินสดออนไลน์ ผ่านแอป KTC Mobile ในตลอด 24 ชม. หรือ กดเงินที่ตู้ ATM ทั่วไทย ฟรีค่าธรรมเนียม อีกทั้งยังสามารถใช้ผ่อนสินค้า 0% ที่ร่วมรายการได้ ให้คุณเที่ยวสนุกได้แบบไม่มีสะดุด

บัตรกดเงิน KTC PROUD ตัวช่วยวางแผนด้านการเงิน