เทรนด์การท่องเที่ยว 2023 ชาร์จพลังความสุข ปลอดภัยจากโควิด

เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ใส่ใจสุขภาพ

อย่างที่ทราบกันดีว่าวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 เข้ามาเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตประจำวัน ไปจนถึงระเบียบข้อปฏิบัติด้านความปลอดภัยต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ซึ่งผู้คนไม่สามารถรวมตัว หรือเดินทางกันได้สะดวกเหมือนแต่ก่อน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปตามสถานการณ์ของโลก ภายใต้มาตรการเปิดประเทศกับรูปแบบการใช้ชีวิตและแนวโน้มการท่องเที่ยวในอนาคต มีการปรับปรุงการให้บริการต่าง ๆ ทั้งผู้ให้บริการการท่องเที่ยวอย่างสายการบินหรือโรงแรม ส่วนนักท่องเที่ยวการจัดทริปในแต่ละครั้งต้องคำนึงถึงความปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อโควิด 19 

วันนี้ KTC ขอแนะนำเทรนด์การท่องเที่ยว 2023 หลังโควิด-19 เพื่อให้นักเดินทางทั้งหลายได้เตรียมตัวในการกลับไปลากกระเป๋าเดินทางท่องเที่ยวสำรวจโลกกันได้อีกครั้ง พร้อมปรับตัวมุ่งสู่การท่องเที่ยวแบบปลอดภัยไร้กังวล 

5 ทริคท่องเที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัยช่วงโควิด-19

เดินทางท่องเที่ยวปลอดภัยจากโควิด-19

1. ปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด อาทิ การรักษาระยะห่างระหว่างกัน 1- 2 เมตร การสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์  หลีกเลี่ยงการนำมือสัมผัสใบหน้า ไปจนถึงหลีกเลี่ยงใช้สิ่งของส่วนตัวหรือภาชนะต่าง ๆ ร่วมกัน สิ่งเหล่านี้ช่วยลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้
2. ช่วงเทศกาลแน่นอนว่าตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จำนวนคนค่อนข้างเยอะกว่าปกติ หากคุณเดินทางเที่ยวภายในประเทศไปยังสถานที่ใกล้ ๆ แนะนำให้เลือกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว แต่ถ้าเป็นการเดินทางไกลหรือเที่ยวต่างประเทศที่ต้องนั่งเครื่องบิน คุณอาจเลือกประเทศหรือสถานที่เที่ยวที่คนไม่พลุกพล่านหรือแออัดเกินไป นอกจากสะดวกสบายแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของโควิด-19 ได้
3. มองหาสถานที่เที่ยวใหม่ ๆ เพื่อลดความแออัด แนะนำท่องเที่ยวเชิงสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม ให้คุณสัมผัสการใช้ชีวิตแบบคนท้องถิ่นในชุมชน เพราะนอกจากได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ยังหลีกเลี่ยงความแออัดหนาแน่นของผู้คนในสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ
4. อย่าลืมลงชื่อหรือสแกนเช็กอิน-เช็กเอาท์ ผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” เครื่องมือสำคัญช่วยในการสอบสวนโรคได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วในกรณีที่ตรวจสอบไทม์ไลน์ย้อนหลังของผู้ติดเชื้อ เพื่อช่วยกันติดตามและควบคุมผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงสูงในการสัมผัสเชื้อ
5. กรณีเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ คุณจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดส อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเดินทาง ซึ่งจะต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) รวมถึงการขอ Vaccine Passport หนังสือรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ติดตัวไปด้วย
6. เมื่อคิดจะท่องเที่ยวต่างประเทศประกันเดินทางเป็นสิ่งจำเป็นที่คุณต้องมีไว้ในครอบครอง โดยคุณจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยระหว่างเดินทาง กระเป๋าเดินทางสูญหาย คุ้มครองกรณีเที่ยวบินถูกยกเลิก และอื่น ๆ  ที่สำคัญประกันเดินทางบางแผนให้ความคุ้มครองการค่ารักษาพยาบาลกรณีติดเชื้อโควิด -19

ทำความรู้จัก 5 เทรนด์การท่องเที่ยวปี 2023 ดีต่อชีวิต

1. การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Brighter Future of Culinary Tourism)

อาหารเป็นสื่อที่บ่งบอกถึงความเป็นมาของสังคมและวัฒนธรรม ท้องถิ่นของประเทศต่าง ๆ การท่องเที่ยวเชิงอาหาร เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวสู่ท้องถิ่นต่าง ๆ ในแต่ละประเทศมีเมนูอาหารที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันตามวัฒนธรรม ทั้งวัตถุดิบ รสชาติ ไปจนถึงอาหารแนะนำและสินค้าของแต่ละพื้นที่ ยกตัวอย่าง ข้าวซอย จังหวัดเชียงใหม่ ไข่เค็ม ของฝากจังหวัดสุราษฎร์ธานี  ลักซา อาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวประเทศสิงคโปร์ หรือเปาะเปี๊ยะเวียดนาม อาหารพื้นเมืองประเทศเวียดนาม เป็นต้น 

2. การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (Sustain to Regain)

การท่องเที่ยวที่คำนึงถึงขีดความสามารถในการรองรับของธรรมชาติ ชุมชน ขนบธรรมเนียมประเพณี และวิถีชีวิตที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ทั้งยังต้องปลูกจิตสำนึกให้แก่นักท่องเที่ยว คนท้องถิ่น ผู้ประกอบการและหน่วยงานต่าง ๆ โดยมีหลักการเบื้องต้นในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อาทิ การกระจายผลประโยชน์อย่างเป็นธรรมสู่ท้องถิ่น ให้ประสบการณ์นันทนาการที่มีคุณค่าแก่นักท่องเที่ยว เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับพื้นที่ ทรัพยากรและวิถีชีวิต ซึ่งแต่ละประเทศมีขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิต ที่น่าสนใจและสืบทอดกันมายาวนาน เพื่อให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางไปสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป

3. การท่องเที่ยวพร้อมการทำงาน (Work from Anywhere & Digital Nomad)

เทรนด์ใหม่ของคนชอบเที่ยวอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ ช่วยเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในการทำงาน ท่ามกลางบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ช่วยให้สร้างสรรค์งานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในเวลาเดียวกันยังเป็นการพยุงธุรกิจท่องเที่ยวให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยอาชีพที่เหมาะกับการทำงานไปด้วยท่องเที่ยวไปด้วย อาทิ งานด้านอีคอมเมิร์ช ฟรีแลนซ์ โค้ชชิ่ง งานเขียนคอนเทนต์ งานออกแบบ บล็อกเกอร์ ช่างภาพ เป็นต้น เพียงแต่ต้องเลือกสถานที่ทำงานที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ดี เพื่อให้การทำงานไม่ขาดตอนและยังมีประสิทธิภาพ หากคุณต้องการไปเที่ยวแล้วสามารถนั่งทำงานไปด้วย แนะนำควรเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบริการสัญญาณอินเตอร์เน็ตฟรี อาทิ ร้านอาหาร คาเฟ่ ได้นั่งทำงานสบาย ๆ และยังได้เปลี่ยนบรรยากาศการทำงานใหม่

4. การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ (Wellness a Gift from Pandemic)

การเดินทางท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตและพักผ่อนหย่อนใจ อาทิ ทำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ การบำบัดรักษาฟื้นฟูสุขภาพ การออกกำลังกายอย่างถูกวิธี การฝึกปฏิบัติสมาธิ ตลอดจนการตรวจร่างกาย และอื่น ๆ โดยเป็นการท่องเที่ยวที่มีจิตสำนึกต่อการส่งเสริมและรักษาสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ปรับสภาพจิตใจและร่างกายให้สมดุล แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ให้คุณนั่งรับลมเย็น ๆ ชมวิวสวย ๆ สูดโอโซนให้เต็มปอด ช่วยผ่อนคลายสมองและยังทำให้จิตใจแจ่มใส

5. นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น (Innovation for a Betterment)

การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ  หรือการพัฒนาของเดิมให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน ไปจนถึงกระบวนการผลิต วิธีการทำการตลาด การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร การลดใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น การใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า เพื่อนำไปสู่การพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและการสร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สำหรับผู้ที่ชอบความสะดวกสบาย แนะนำเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่มีการเดินทางไม่ยุ่งยาก ระบบขนส่งมวลชนเข้าถึงทุกพื้นที่ ช่วยให้การเดินทางของคุณราบรื่น ไร้อุปสรรค

จับตามอง! เทรนด์การท่องเที่ยว 2023 สนุกทุกทริป ปลอดภัยไร้กังวล

เทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ 2023 ปลอดภัยจากโควิด-19

หลังสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลทำให้คนทั่วโลกเริ่มหันมาให้ความสำคัญในด้านการดูแลสุขภาพมากขึ้น และเน้นการเดินทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดย ดร.วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬา กล่าวว่าประชากรโลกมีจำนวน 8 พันล้านคน และเป็นครั้งแรกที่บุคคลเหล่านี้เห็นความสำคัญของเรื่องสุขภาพพร้อมกัน ทำให้ประเด็นเรื่องการทำงานด้านสุขภาพ รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโตขึ้นทันที แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายแล้ว แต่ตัวเลขเดิมยังไม่กลับมา เนื่องจากผู้คนยังกลัวโรคภัยไข้เจ็บ ทำให้ตั้งการ์ดสูงเป็นพิเศษส่งผลให้การเดินทางหลาย ๆ ที่ยังไม่เปิดเต็มที่

นอกจากนี้ ดร.วีระศักดิ์  ยังกล่าวอีกว่าภาพรวมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของทั่วโลกและไทย มี Segment ต่าง ๆ ให้เข้าไปเติมเต็มได้ อาทิ การจัดโปรแกรมทัวร์ แบบไม่ Fixed Cost โดยการพานักท่องเที่ยวไปทำกิจกรรมที่สร้างคุณค่าเพิ่ม อย่างการนั่งสมาธิ ออกกำลังกาย ทานอาหารคลีน เป็นต้น และยังให้ความสำคัญกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้สูงอายุและผู้พิการ

ประเทศไทย! เปิดประตูก้าวเข้าสู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

เทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้ประเทศไทยมีข้อได้เปรียบในเรื่องของอาหารและ Wellness เนื่องจากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทยต่างให้ความสนใจในเรื่องของการทานอาหารและการทำสปา ซึ่งตรงกับเทรนด์การท่องเที่ยวในอนาคต และเป็นโอกาสทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าไปสู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างเต็มรูปแบบ

เทรนด์การท่องเที่ยว 2023 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น สร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีความหมาย ดีต่อชีวิต ดีต่อใจ และดีต่อสังคม เหมาะกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบ ชื่นชอบการสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบคนในท้องถิ่น ใกล้ชิดธรรมชาติ สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบเข้าถึงของแท้

หากคุณเป็นหนึ่งคนที่กำลังวางแพลนท่องเที่ยวปี 2023 โดยเน้นการท่องเที่ยวเติมพลังบวกให้กับชีวิต ห่างไกลโควิด-19 และยังได้เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่พักผ่อนริมทะเล ไปจนถึงบ้านต้นไม้และบ้านที่สร้างด้วยดินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและอีกมากมาย หากคุณเลือกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ อาจเริ่มต้นด้วยการเลือกประเทศที่มีระยะการเดินทางไม่นาน อย่างน้อย 2 - 4 ชั่วโมง ไปจนถึงบริการรถเช่าเดินทางเที่ยว เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้รถโดยสารสาธารณะ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้การเดินทางเที่ยวทั้งในประเทศหรือต่างประเทศปลอดภัยไร้กังวล

เพื่อให้การเดินทางและการใช้จ่ายคุ้มค่าที่สุด สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC สามารถจองที่พักโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน ประกันการเดินทาง รวมถึงชำระค่าบริการต่าง ๆ ผ่าน KTC World Travel Service มีบริการสำหรับการท่องเที่ยวแบบครบวงจร ช่วยดูแลและวางแผนการเดินทางให้คุณตลอดทริป หากสนใจสามารถทักแชทปรึกษา KTC WORLD ได้ตลอด 24 ชม. สามารถสอบถามข้อมูลได้ผ่านทาง LINE : KTC WORLD และ Facebook : KTC WORLD Community หรือโทร. 02-123-5050

ขอบคุณข้อมูลจาก :www.bangkokbiznews.com

เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ค้นหาดีลท่องเที่ยว+ที่พัก...ได้ที่นี่