TENYUU GRAND

ย้อนกลับไปเมื่อราว 14 ปีก่อน หากใครอยากลองลิ้ม อาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ เป็นที่รู้กันดีว่าต้องตบเท้าเข้าโรงแรมหรู เท่านั้น
คุณกิ๊บ - เยาวรัตน์ นิรันดร ถือได้ว่าเป็นผู้กล้า ฉีกกรอบในสมัยนั้น เพราะเธอเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นบนพื้นที่ กว้างขวางส่วนตัวนอกรั้วโรงแรมดัง นำเสนอรสชาติ อาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมแท้แต่ดั้งเดิม พร้อมวัตถุดิบ คัดสรรสดใหม่ส่งตรงจากญี่ปุ่นและหลักแหล่งที่ดีที่สุดทั่วโลก ภายใต้รสมือของเชฟผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ บ้านเก่าแก่ 2 ชั้นอายุกว่าร้อยปีของตระกูล

ได้รับการ ปรับโฉมเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อ Tenyuu Grand ซึ่งหมายถึง “ทรัพย์สมบัติจากสรวงสวรรค์” ถือได้ว่าเป็นชื่อมงคลที่มีความ สอดคล้องทั้งในแง่ของการเป็นมรดกตกทอดของคุณหญิง จรูญ นิรันดร ผู้เป็นคุณย่า ตลอดจนสื่อไปถึงความเลอล้ำของ รสชาติอาหารญี่ปุ่นที่มักปรุงด้วยวัตถุดิบสดใหม่จากธรรมชาติ สร้างสรรค์ ความได้เปรียบหนึ่งของที่นี่ คือตั้งอยู่ติดถนนสาทร แถมยังมีลานจอดรถกว้างขวาง พร้อมด้วยสวนร่มรื่นจาก ต้นไม้ใหญ่ ภายในแวดล้อมด้วยบรรยากาศแบบบ้านญี่ปุ่น กลางร้านชั้นหนึ่งโดดเด่นด้วยเคาน์เตอร์ซูชิบาร์ขนาดใหญ่ กำกับ ดูแลโดยสองเชฟอารมณ์ดีอย่างเชฟน้อย - สมพร ชัยบัวแดง กับเชฟป๊อป - ชิชากร คำแว่น

TENYUU GRAND

บนชั้น 2 มีห้องวีไอพี่ปูเสื่อ ทาทามิ รวมถึงห้องขนาดโอ่โถงสำหรับจัดงานเฉลิมฉลอง ในโอกาสสำาคัญ ความอร่อยของที่นี่ครบถ้วนในหมวดหมู่อาหารญี่ปุ่น ภายใต้คำจำกัดความว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสำหรับ ครอบครัว เพราะพร้อมเสิร์ฟทุกรสชาติให้กับสมาชิกทุกคน ทุกวัย ตั้งแต่รุ่นลูกรุ่นหลานไปกระทั่งรุ่นปู่ย่าตายาย เปิดตัวเมนูแรกด้วย Tenyuu Caviar ความพิเศษ อยู่ตรงที่คาเวียร์ “Royal Oscietra Caviar ซึ่งเป็นแบรนด์ สินค้าระดับมาสเตอร์พีชของทางร้านเอง ไข่ปลาสเตอร์เจียนแท้ นําเข้าจากรัสเซีย คัดพิเศษเม็ดใหญ่ รสชาติมัน กลมกล่อม รับประทานคู่กับเครื่องเคียงจัดเสิร์ฟมาเป็นเซตแบบฝรั่งเศส มีทั้งแครกเกอร์ ซีสเปรี้ยว หอมแดง วาซาบิ และพาร์สลีย์ ซอยละเอียด ตกคาเวียร์ปาดบนแครกเกอร์ แล้วเลือกออนท็อป ตามใจชอบ

หากชิมติดใจก็ยังซื้อกลับไปอร่อยที่บ้านได้อีกด้วย เมนูถัดมาหน้าตาอลังการไม่แพ้กัน Seafood Shabu วัตถุดิบนำเข้าจากท้องทะเลญี่ปุ่นทั้งสิ้น อาทิ ขาปูทาราบะ เนื้อแน่นๆ โฮตาเตะหรือหอยเชลล์ญี่ปุ่นจากเมือง ฮอกไกโด ปลาแซลมอนสด ล็อบสเตอร์ตัวโต รวมถึง ปลาฮามาจิหรือปลาเนื้อขาวเลี้ยงด้วยผลมะกอก จึง ได้กลิ่นฟุ้งของมะกอกในทุกคำที่เคี้ยว และรวมมิตร ผักออร์แกนิกสดใหม่ หนีบวัตถุดิบลงไปจุ่มในน้ำซุป ร้อนๆ ที่เคี่ยวจากซุปกระดูกปลา การันตีถึงความ หอมหวานกลมกล่อมจากวัตถุดิบธรรมชาติชั้นดี แม้ กระทั่งนํ้าซุปก็ยังสามารถตักซดเปล่าๆ ลิ้มรสแล้ว ชื่นใจที่สุด คั่นกลางมื้อด้วยจานเบาๆ แต่อัดแน่นคุณ ประโยชน์ ด้วย Tenyuu Ice Salad สลัดผัก Ficoide Glaciale นำเข้าจากฝรั่งเศส ปลูกเฉพาะบนพื้นที่สูง อุณหภูมิไม่เกิน 10 องศา ลักษณะใบคล้ายมีเกล็ด น้ำแข็งเกาะ รสชาติหวานกรอบ ราดน้ำสลัดรสเค็ม อ่อนๆ รับประทานแล้วสดชื่น ช่วยเปิดต่อมรับรส

TENYUU GRAND

จานถัดไป ได้แก่ Grass Fed Steak เนื้อวากิวลูกวัว จากออสเตรเลีย ที่เลี้ยงโดยการปล่อยให้กินหญ้าตาม ธรรมชาติ เนื้อจึงมีความมันน้อยกว่า Grain Fed และ มีสีแดงจัดให้รสชาติเข้มข้น นำไปย่างก่อนหั่นชิ้นหนา พอดีคำ แล้วยกเสิร์ฟมาบนกระทะร้อน ด้านนอกกรอบ หอมกลิ่นพริกไทย เนื้อในนุ่มมีมันแทรกนิดๆ จะจิ้ม กับเกลือหิมาลายันเพื่อสัมผัสรสชาติของเนื้อแท้ๆ หรือราดน้ำจิ้มแจ่วสูตรเฉพาะของทางร้าน ได้ความ ล้ารสแตกต่างกัน ปิดท้ายด้วยของหวานที่ทางร้านมีให้เลือก หลากหลาย ทั้ง Orenji Ten หวานเย็นเนื้อส้ม วาเลนเซีย Lemon Sorbet ซอร์เบต์เลมอนเปรี้ยว อมหวาน หรือจะเป็น Homemade Ice Cream ไอศกรีมโฮมเมด 13 รสอร่อยจุใจ

CONTENTO

ในฐานะนักเดินทางที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ท่องเที่ยวมาแล้ว ทั่วทุกมุมโลก จุดประกายให้ คุณ - นพปฎล พหลโยธิน ต้องการจะเนรมิตร้านอาหารอิตาเลียนชื่อ Contento ที่มีความหมายว่า “มีความสุขสำราญ" ขึ้นมา เพื่อให้เป็น ตัวแทนความสุขที่เกิดจากการเดินทาง เป็นจุดนัดพบปะสังสรรค์ของคนที่รักในการท่องโลก รวมถึงเป็นพื้นที่ส่วนตัว ที่เขาจะแบ่งปันสูตรอาหารจานอร่อยที่เขาประทับใจในระหว่างทริปเดินทาง

เหตุผลที่คุณเลือกอาคารเก่า 5 คูหาบริเวณหัวมุมถนนไมตรีจิตต์มาปรับแต่งให้เป็นร้านอาหารในฝัน เพราะต้องการดึงเอากลิ่นอายความเป็นอิตาลีวินเทจกลับมาสู่ตัวอาคารละแวกย่านหัวลำโพง เหมือนสมัยที่สถาปนิกชาวอิตาลีได้เคยมาออกแบบไว้เมื่อราว 100 ปีก่อน

หากยืนมองจากถนนฟากตรงข้าม จะเห็นบานหน้าต่างทรงโค้งประดับคิ้วบัวสไตล์โบราณเรียงตัวตลอดแนวผนัง เมื่อผลักประตูสู่ด้านในจะพบบันไดวนที่ทอดตัวขึ้นไปสู่ชั้น 2 ซึ่งตกแต่งให้ความรู้สึกเหมือน บ้านของศิลปินหรือนักสะสมงานศิลป์ชาวอิตาลีใจกลางกรุง โรมหรือมิลาน ชั้น 2 นี้จะคึกคักตั้งแต่ช่วงหัวค่ำเป็นต้นไป เพราะเน้นเป็นบาร์เครื่องดื่ม ส่วนชั้นล่างให้บรรยากาศเหมือนร้านอาหารอิตาเลียน แบบบ้านๆ ที่พบเห็นได้ตามชนบททางตอนใต้ของอิตาลี

โดย ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหัวใจหลักในการตกแต่ง พื้นหินขัด กำแพง ปูกระเบื้อง เครื่องครัววินเทจ ตลอดจนการตกแต่งที่ทาง ร้านจะหมุนเปลี่ยนโดยยึดตามฤดูกาลของอิตาลี ยกตัวอย่าง ช่วงฤดูร้อนกลางปี วิถีชีวิตผู้คนในอิตาลีตอนใต้จะนิยม รับประทานเลมอนกันมาก จะมีทั้งเพิ่งและรถกระบะเร่ขาย เลมอนให้เห็นทั่วทั้งเมือง รวมถึงร้านรวงต่างๆ ก็จะนิยม ประดับประดาไปด้วยซุ้มเถาเลมอน ให้ความรู้สึกราวกับกำลัง นั่งรื่นรมย์กับอาหารท่ามกลางสวนเลมอน อาหารของที่นี่นำเสนอรสชาติจัดจ้านตำรับอิตาเลียน ตอนใต้

อย่างเมนูแรก Naked Tomatoes เพียงแรกกัดก็ สัมผัสได้ถึงความชุ่มฉ่ำสดชื่นถึงเนื้อใน เพราะใช้เทคนิคการ จุ่มมะเขือเทศลงในน้ำร้อนเดือด แล้วนำมาลอกเปลือกออก วิธีนี้จะช่วยให้เนื้อมะเขือเทศดูดซับน้ำซอสพอนส์ (Ponzu Sauce) ที่หมักทิ้งไว้ข้ามคืนได้อย่างล้ำลึก เสิร์ฟคลุกเคล้ามา กับชีสสด ยอดผักมิซูนา และขนมปังชาวโดว อบกรอบ จานสองหน้าตาสวยงามเสิร์ฟมาในหม้อหูจับ Porcini Croquette ครอแก็ตสูตรทางร้านจะแตกต่าง เพราะกัดแล้วเนื้อในที่เป็นเห็ดรวมมิตรกับชีสจะไหลเยิ้ม ออกมาเป็นลาวา ท็อปปิ้งด้วยหมูดำไอเบอริโก (Iberico) จากสเปน รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นอโรมาของ เห็ดติดปลายจมูก มาร้านอาหารอิตาเลียนก็ต้องสั่งเมนูเส้นสุด คลาสสิกอย่าง Carbonara ความพิเศษอยู่ที่เส้นพิธี (Pici)

ซึ่งปัจจุบันหารับประทานได้ยาก เพราะเป็น พาสต้าไม่กี่ประเภทที่ต้องใช้มือคลึงขึ้นเส้นสดเท่านั้น ส่วนมากจะเป็นรุ่นคุณยายคุณย่าในอิตาลีที่นิยมทำกัน ส่วนประกอบของเมนูนี้ค่อนข้างเรียบง่าย มีเพียงไข่แดง กับกวนชาเล (Guanciale) เบคอนคางหมูรสเค็มจัด นำมาเจียวจนหอมกรุ่นเหมือนเป็นน้ำมันในตัว และ เปโกริโนซีส (Pecorino) ชีสนมแกะรสเค็มจากตอนใต้ ของอิตาลี เมื่อคลุกเคล้ามากับเส้นพิธีหนีบหนับ ทั้งความเค็มและมันจะสอดประสานกันเผยรสชาติอร่อยจากธรรมชาติของมันเอง ส่วนเมนู Pan Chicken ถือเป็นจานโปรดใน ความทรงจำของคุณอู้สมัยอยู่เมืองฟลอเรนซ์ ไก่นุ่ม กับเนยชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟมาในกระทะที่ยกขึ้นจากเตาร้อนๆ เนยยังคงเดือดปุดๆ ทันทีที่บีบเลมอนลงไปสัมผัสกับ คราบเกรียมๆ บริเวณขอบกระทะก็จะฟูขึ้นมา ก่อน เปลี่ยนตัวเองกลายเป็นซอสที่ส่งกลิ่นหอมตลบ อบอวลไปทั่วร้าน

CONTENTO
CONTENTO

ในขณะที่เมนูขนมอย่าง Crepe Suzette คุณอู้ขอสูตรเด็ดมาจากคุณแม่ที่ทำให้เขา ลิ้มรสมาตั้งแต่เด็ก เครปโฮมเมดแป้งบาง จับคู่มากับ ไอศกรีมวานิลลาเย็นชื่นใจ ราดซอสคาราเมลที่เคี่ยวมาจากน้ำตาล เนย น้ำส้ม และเลมอน พร้อมหยด บรั่นดีปิดท้าย ก่อนตักเข้าปากแนะนำให้บีบเลมอน เพิ่มรสเปรี้ยวตัดหวานอีกนิด ส่วนใครอยากล้างปากด้วยเครื่องดื่มสักแก้ว ขอแนะนำ Sangria ทางร้านใส่น้ำสับปะรดคั้นสด ผสมไปด้วย ทำให้มีรสหวานผสานเปรี้ยวไม่ซ้ำสูตร Sangria ทั่วไป แถมด้วยก้านซินนามอนเผาตอนเสิร์ฟ เพิ่มกลิ่นสโมคกี้ ตลอดทั้งมื้อจึงได้อารมณ์เหมือน เดินทางไปเยือนอิตาลีผ่านบรรยากาศและรสชาติอาหารต้นตำรับ

Ñam Ñam

ด้วยความชื่นชอบในอาหารประเภทเส้นเป็นทุนเดิมอยู่ แล้ว เมื่อเซฟน้ำ - ปุณฑริก พงษ์พานิช มีโอกาสได้เปิดร้าน อาหารของตัวเอง เธอจึงไม่รั้งรอที่จะสร้างสรรค์เมนูสารพัน เส้นพาสต้ากว่าสิบประเภท ภายใต้ชื่อร้าน Nam Nam Pasta and Tapas ที่หยิบยืมมาจากภาษาสเปน ออกเสียง ว่า “ยัมยัม” ที่แปลว่า “อร่อย” อีกทั้งยังพ้องเสียงกับชื่อเล่น ของเธอด้วย ซึ่งจะออกเสียงหรือเรียกแบบใดก็ไม่ผิด

ด้วยความที่เป็นร้านพาสต้าโดยเฉพาะ อีกทั้งตัวเชฟน้ำ เองก็มีโอกาสไปเรียนการทำเส้นพาสต้าสดสไตล์โฮมเมดกับ คุณยายชาวอิตาลี ณ เมืองโบโลญญา ประเทศอิตาลี บรรดา เส้นพาสต้าของที่ร้านจึงโดดเด่นด้วยเทคนิคแฮนด์คราฟต์สูตร โฮมเมดทำเส้นสดทุกวัน โดยมีประเภทเส้นให้เลือกลิ้มลอง อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Spaghettini, Reginette, Linguine, Fettucini, Fusilli, Bucatini, Rigatoni, Gemelli, Pipe Rigate และ Creste Di Galo Rigate รวมถึงประเภท อื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน ที่สำคัญคือเชฟน้ำเฉพาะเจาะจงนำเข้า แป้งทำเส้นพาสต้ามาจากอิตาลีที่เดียวเท่านั้น

บรรยากาศในร้านอาหารสำหรับคนรักเส้นแห่งนี้ เปี่ยม ไปด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง ภายในร้านสว่างไสวไปด้วย แสงธรรมชาติที่ส่องผ่านบานกระจกใสรายรอบทิศทาง โต๊ะ เก้าอี้และเคาน์เตอร์บาร์ไม้สีธรรมชาติ เพดานสูงเปิดเปลือย แขวนโคมไฟทรงกลมที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ระแนงไม้ทรงเหลี่ยม ช่วยเพิ่มมิติแห่งแสงให้ยิ่งนุ่มละมุนสายตา บวกความพิเศษ ด้วยห้องเล็กๆ แยกเป็นส่วนตัว เพื่ออวดกรรมวิธีการทำเส้นสด แบบจานต่อจาน เปิดกว้างให้บรรดานักชิมสามารถเข้าไปชม ได้อย่างใกล้ชิด ในมุมมองของเชฟน้ำ พาสต้าถือเป็นสื่อกลางที่สามารถ นำวัตถุดิบอื่นๆ มาปรุงผสมผสานได้อย่างสนุกสนานหลากหลาย

Ñam Ñam

อีกประการคือเมื่อรูปร่างหน้าตาของพาสต้าแตกต่างกันไป ตามแต่ละประเภท ก็จะช่วยเปลี่ยนอารมณ์และรสสัมผัสในการ รับประทานไปด้วย อย่างไรก็ตาม สารพันเมนูในร้านก็ยัง คงเน้นความเรียบง่ายตามต้นตำรับ หากทว่าแอบหยอดราย ละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตามสไตล์ของเซฟน้ำลงไป เพื่อให้เกิด มิติเลิศรสไม่ซ้ำใคร พิสูจน์ได้จากจานแรก Roasted Veggie Salad รวมมิตร พืชหัวอย่างบีทรูท แคร์รอต แก่นตะวัน นำไปย่างและอบ จนมีรสหวานอ่อนๆ คลุกกับทรัฟเฟิลออยล์ น้ำมันมะกอก และครีมเม็ดมะม่วงหิมพานต์ โรยหน้าด้วยเฮเซลนัท กรอบกรุบ ส่วนน้ำสลัดเบสเป็นบัลซามิก

ความพิเศษ ของจานนี้อยู่ที่เป็นสลัดที่มีอุณหภูมิอุ่นๆ แตกต่าง จากสลัดทั่วไปที่มักเสิร์ฟแบบเย็น แถมได้ใจนักชิม สายวีแกน เพราะปราศจากผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์ อีกหนึ่งเมนูที่หน้าตาสวยงาม Mush room Tortellini พาสต้าทรงเกี้ยวสอดไส้เห็ดรวม ใช้เทคนิคการผัดเพื่อดึงความหอมตามธรรมชาติของ เห็ดให้ยิ่งกรุ่นกลิ่นโดดเด่น เสิร์ฟมากับซอสมะเขือเทศ บต (Crushed Tomatoes) โดยนำมะเขือเทศโรยเกลือ ไปอย แล้วบี้ๆ ยีๆ เพื่อให้เนื้อและ น้ำของมะเขือเทศออกมาช่วยชูรสอีกระดับ

Ñam Ñam

ส่วนจานคลาสสิกขายดีประจำร้านขอยกให้ Reginette Bolognese เน้นความรื่นรมย์จากรสชาติ ของเนื้อที่แน่นแต่นุ่ม ใช้มะเขือเทศเชอร์รี่ช่วยเติม ความหวานเป็นพิเศษ ผสมผสานกับผักหลากประเภท เช่น หอมใหญ่ เซเลอรี แคร์รอต นำไปตุ๋นจนกระทั่ง เคี้ยวง่าย ไม่รู้สึกถึงความเป็นอีกที่ซ่อนอยู่ในความ เค็มนิดๆ มันหน่อยๆ อร่อยละมุนลิ้น Pasta Black Garlic Sauce คือเมนูที่เชฟน้ำ ภูมิใจนำเสนอ เส้นพาสต้าจะผ่านการทำให้เย็นก่อน แล้วนำมาคลุกกับซอสแบล็คการ์ลิค เสิร์ฟมากับ ปลาหมึกที่นำไปให้ขึ้นสีเล็กน้อย แอบซ่อนลูกเล่น ด้วยแตงกวาดอง เพื่อเพิ่มมิติของรสชาติช่วยตัดเลี่ยน โรยไข่กุ้งออนท็อป บีบเลมอนก่อนรับประทาน เพิ่ม รสเปรี้ยวอ่อนๆ ที่ปลายลิ้น พร้อมกลิ่นสดชื่น 12 จบด้วยขนมหวานสไตล์อิตาเลียนขนานแท้ อย่าง Panna Cotta ที่มอบเนื้อสัมผัสนุ่มละมุน ผสานรสเปรี้ยวหวานสดชื่นใจของเบอร์รี่ ปิดมื้อ เรื่องของคนรักเส้นได้อย่างถิ่นเอมสมบูรณ์แบบ