ในปัจจุบันมลภาวะจากฝุ่น PM 2.5 กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกคนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ ช่วงนี้อาจมีอาการป่วยอยู่บ่อยๆ หลีกเลี่ยงก็ไม่ได้ ต้องใช้ชีวิตทำงาน เผชิญกับมลภาวะในทุกวัน จึงมีโอกาสที่ฝุ่นจะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ สำหรับหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาของหลายคน คือการเลือกที่จะมีเครื่องฟอกอากาศติดบ้าน เพื่อช่วยกรองให้อากาศสะอาดขึ้น ซึ่งบทความนี้จะมาขยายความว่า เครื่องฟอกอากาศมีประโยชน์หรือจำเป็นต้องมีจริงหรือไม่ และถ้าหากจะซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี พร้อม ราคา รวมทุกข้อควรพิจารณาทั้งหมดไว้ให้แล้ว พร้อมแล้วไปดูกัน
เครื่องฟอกอากาศในห้องนอนจำเป็นไหม ?
หากใครกำลังมีปัญหาสุขภาพที่มีสาเหตุมาจากมลภาวะอากาศอยู่ แนะนำให้มีเครื่องฟอกอากาศภายในห้องนอนหรือจุดอื่นๆ ในบ้าน เพราะหน้าที่หลักของเครื่องฟอกอากาศ คือ การกรองละอองสิ่งสกปรก และกำจัดเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยผ่านกระบวนการกรองอากาศแล้วปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาแทนที่ วิธีนี้จึงช่วยลดอาการเจ็บป่วยจากโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้มากทีเดียว
ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศ
- ป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ 
เครื่องฟอกอากาศมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดเชื้อแบคทีเรียและอนุภาคฝุ่นละออง ส่งผลให้อากาศบริสุทธิ์ขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินหายใจ - บรรเทาอาการโรคภูมิแพ้และหอบหืด
ด้วยการลดปริมาณสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เครื่องฟอกอากาศช่วยบรรเทาอาการของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้และหอบหืดได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ส่งเสริมคุณภาพการนอน
การนอนในห้องที่มีอากาศสะอาดช่วยให้หลับสนิทและลึก ลดปัญหาการนอนไม่หลับและผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจตามมา - ลดภาระการทำงานของปอด
อากาศที่สะอาดและบริสุทธิ์ช่วยให้ปอดทำงานเบาลง ส่งผลให้การหายใจง่าย สะดวกยิ่งขึ้น ช่วยยืดอายุและสุขภาพของปอดได้ - เทคโนโลยีการฟอกอากาศขั้นสูง
เครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น UV Sterilizer, Carbon filter, Photocatalyst และ Ionizer ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้อากาศสดชื่น แต่ยังสามารถกำจัดมลพิษ ขจัดกลิ่น และยับยั้งเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
วิธีเลือกเครื่องฟอกอากาศในห้องนอน
1. ระบบกรองอากาศ
เครื่องฟอกอากาศจะมีประสิทธิภาพมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีการกรองอากาศ หากมีกระบวนการกรองหลายชั้นก็จะยิ่งดี สำหรับตัวกรองหลักๆ แนะนำให้ดูค่าดักจับละอองสิ่งสกปรก HEPA (High Efficiency Particulate Air) และตัวกรอง Activated Carbon ที่ช่วยกำจัดกลิ่นไม่ว่าจะเป็น ควัน กลิ่นอาหาร และสารเคมีอันตรายต่างๆ
2. ขนาดห้อง
เพื่อประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างสูงสุดจึงควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีสเปคเหมาะสมกับขนาดห้อง โดยห้องที่มีขนาดใหญ่ยิ่งต้องมีอัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธิ์สูง สังเกตได้จากค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) ของเครื่องฟอกอากาศแต่ละยี่ห้อ/รุ่นนั้นๆ
3. ระดับเสียงที่ไม่สร้างความรบกวน
เครื่องฟอกอากาศจำเป็นต้องเปิดใช้งานเป็นระยะเวลานาน จึงไม่ควรมีเสียงที่ดังเกินไปจนรบกวนการใช้ชีวิต ซึ่งระดับเสียงตามมาตรฐานที่เหมาะสมของเครื่องฟอกอากาศจะอยู่ที่ไม่เกิน 50 เดซิเบล
4.ราคาที่เหมาะสม
เมื่อสุขภาพเป็นเรื่องใหญ่การเลือกเครื่องฟอกอากาศจึงต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพที่ใช้งานได้จริง ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้เลยว่าต้องการเครื่องที่มี HEPA และ CADR เท่าไหร่จึงจะเหมาะสม แล้วนำแต่ละยี่ห้อ/รุ่นมาเปรียบเทียบราคากัน สำหรับการลงทุนกับเครื่องฟอกอากาศก็จะมีราคาตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว

1.Sharp รุ่น FP-J30TA
| 
 ยี่ห้อ/รุ่น  | 
 Sharp รุ่น FP-J30TA  | 
| 
 พื้นที่ห้อง  | 
 16-23 ตร.ม.  | 
| 
 ประสิทธิภาพการกำจัดฝุ่น (HEPA)  | 
 99.97%  | 
| 
 ระดับความแรงลม (CADR)  | 
 180 ลบ.ม./ชม.  | 
| 
 ระดับเสียง  | 
 23-44 เดซิเบล  | 
| 
 ราคา  | 
 3,490 บาท  | 
เครื่องฟอกอากาศดีไซน์โค้งมนทันสมัย มาพร้อมเทคโนโลยีฟอกอากาศลิขสิทธิ์ของชาร์ป “พลาสม่าคลัสเตอร์” พ่นอนุภาคบวกและลบ แบบเดียวกับที่มีในธรรมชาติ กำจัดฝุ่นได้มากถึง 99.97% ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือกลิ่นอับชื้น ก็กำจัดได้อย่างหมดจด
ข้อดี
- ใช้เทคโนโลยีฟอกอากาศลิขสิทธิ์ของชาร์ป “พลาสม่าคลัสเตอร์” ช่วยให้การกำจัดฝุ่นมีประสิทธิภาพมากถึง 99.97%
 - มีแผ่นกรอง HEPA ดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ 0.3 ไมครอน
 - สามารถฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 และสลายกลิ่นอับชื้นได้
 - เสียงเบาไม่สร้างความรบกวน สามารถใช้ในห้องนอนได้
 - มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ เป็นได้ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านไปในตัว
 

2. PHILIPS Air Purifier รุ่น AC0820/20
| 
 ยี่ห้อ/รุ่น  | 
 PHILIPS Air Purifier รุ่น AC0820/20  | 
| 
 พื้นที่ห้อง  | 
 16-49 ตร.ม.  | 
| 
 ประสิทธิภาพการกำจัดฝุ่น (HEPA)  | 
 99.5%  | 
| 
 ระดับความแรงลม (CADR)  | 
 190 ลบ.ม./ชม.  | 
| 
 ระดับเสียง  | 
 35-61 เดซิเบล  | 
| 
 ราคา  | 
 4,990 บาท  | 
เครื่องฟอกอากาศ ขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ มาพร้อมประสิทธิภาพการทำงานแบบจัดเต็ม ขจัดอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.003 ไมครอน (เล็กกว่า PM2.5 800 เท่า) กำจัดฝุ่นได้ 99.5% ไม่ว่าจะ อยู่บ้านหรือคอนโดก็สามารถหายใจรับอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างสบายใจ
ข้อดี
- ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก
 - มีระบบกรองอนุภาคขนาดเล็ก 0.003 ไมครอน (เล็กกว่าขนาด PM2.5 ถึง 800 เท่า) มีประสิทธิภาพกำจัดฝุ่นได้ 99.5%
 - ระบบกรองเป็น HEPA (High Efficiency Particulate Air) เหมาะกับผู้ที่มีอาการภูมิแพ้
 - มีระบบเซนเซอร์ตรวจวัดอนุภาค PM2.5
 - เสียงเบา ใช้ในห้องนอน และห้องที่มีเด็กทารกได้
 

3. Electrolux UltimateHome 300 รุ่น FA31-200WT
| 
 ยี่ห้อ/รุ่น  | 
 Electrolux UltimateHome 300 รุ่น FA31-200WT  | 
| 
 พื้นที่ห้อง  | 
 23-26 ตร.ม.  | 
| 
 ประสิทธิภาพการกำจัดฝุ่น (HEPA)  | 
 99.98%  | 
| 
 ระดับความแรงลม (CADR)  | 
 203 ลบ.ม./ชม.  | 
| 
 ระดับเสียง  | 
 26-49 เดซิเบล  | 
| 
 ราคา  | 
 3,490 บาท  | 
อากาศบริสุทธิ์ด้วยเครื่องฟอกอากาศดีไซน์มินิมอล มีช่องปล่อยอากาศเป็นรูปทรงเกลียว มาพร้อมระบบกรองอากาศ 4 ขั้นตอน คือ Pre, Anti-bacterial HEPA, HEPA13 และ Activated Carbon เปลี่ยนห้องฝุ่นเยอะ ให้กลับมามีอากาศสะอาด ได้ด้วยประสิทธิภาพการกำจัดฝุ่น 99.98% เหมาะกับการมีติดบ้านไว้เพื่อสุขภาพที่ดี
ข้อดี
- มีระบบกรองอากาศ 4 ขั้นตอน คือ Pre, Anti-bacterial HEPA, HEPA13 และ Activated Carbon
 - ดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ 0.3 ไมครอน
 - เสียงเบามีไม่สร้างความรบกวน เมื่อเปิดโหมด Sleep
 - ขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา
 - ช่องปล่อยอากาศเป็นรูปทรงเกลียวทำให้สร้างการหมุนเวียนของอากาศได้อย่างทั่วถึง
 

4. Xiaomi Smart Air Purifier 4 รุ่น BHR5098TH
| 
 ยี่ห้อ/รุ่น  | 
 Electrolux UltimateHome 300 รุ่น FA31-200WT  | 
| 
 พื้นที่ห้อง  | 
 24-48 ตร.ม.  | 
| 
 ประสิทธิภาพการกำจัดฝุ่น (HEPA)  | 
 99.97%  | 
| 
 ระดับความแรงลม (CADR)  | 
 400 ลบ.ม./ชม.  | 
| 
 ระดับเสียง  | 
 32.1-63 เดซิเบล  | 
| 
 ราคา  | 
 6,990 บาท  | 
เครื่องฟอกอากาศสุดทันสมัย มีระบบตรวจจับแบบ Realtime ตอบสนองได้ทันที พร้อมแสดงผลที่จอ OLED และแถบไฟแสดงรหัสสี สามารถควบคุมแบบอัจฉริยะได้สะดวกสบายผ่านแอป Mi Home/Xiaomi Home มีระบบกรองอากาศ 3 ขั้นตอน Cloth Primary Filter, HEPA H13 Filter และ Activated Carbon Filter สามารถจัดฝุ่นได้ถึง 99.97%
ข้อดี
- มีระบบกรองอากาศ 3 ขั้นตอน คือ Cloth Primary Filter, HEPA H13 Filter และ Activated Carbon Filter
 - ดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ 0.3 ไมครอน
 - หน้าจอเป็น OLED ระบบสัมผัส
 - ควบคุมแบบอัจฉริยะได้โดยผ่านแอป Mi Home/Xiaomi Home
 

5. TOSHIBA รุ่น CAF-H20(W)
| 
 ยี่ห้อ/รุ่น  | 
 TOSHIBA รุ่น CAF-H20(W)  | 
| 
 พื้นที่ห้อง  | 
 14-24 ตร.ม.  | 
| 
 ประสิทธิภาพการกำจัดฝุ่น (HEPA)  | 
 99%  | 
| 
 ระดับความแรงลม (CADR)  | 
 200 ลบ.ม./ชม.  | 
| 
 ระดับเสียง  | 
 35 เดซิเบล  | 
| 
 ราคา  | 
 4,790 บาท  | 
มั่นใจได้เรื่องอากาศสะอาด ด้วยเครื่องฟอกอากาศ TOSHIBA รุ่น CAF-H20(W) มีเทคโนโลยีกรองอากาศพิเศษ 3 ชั้น มาพร้อมแผ่นกรองชนิด FILTER HEPA+ ACTIVATED CARBON ตัวช่วยที่จะมาขจัดมลภาวะและแบคทีเรียได้มากกว่า 99% และด้วยตัวเครื่องที่เป็นสีขาว มินิมอลทำให้จัดวางได้กับบ้านทุกสไตล์
ข้อดี
- มีระบบกรองอากาศด้วยแผ่นกรองชนิด FILTER HEPA+ ACTIVATED CARBON สามารถจัดฝุ่นได้ถึง 99%
 - ตั้งเวลาการทำงานได้ 1-2-4-8 ชั่วโมง
 - มีฟังก์ชันเสียงเงียบเมื่อเปิดโหมด Sleep
 

6. LG PuriCare 360 Hit รุ่น AS60GHWG0.ABAE
| 
 ยี่ห้อ/รุ่น  | 
 LG PuriCare 360 Hit รุ่น AS60GHWG0.ABAE  | 
| 
 พื้นที่ห้อง  | 
 61-100 ตร.ม.  | 
| 
 ประสิทธิภาพการกำจัดฝุ่น (HEPA)  | 
 99.9%  | 
| 
 ระดับความแรงลม (CADR)  | 
 470 ลบ.ม./ชม.  | 
| 
 ระดับเสียง  | 
 25-53 เดซิเบล  | 
| 
 ราคา  | 
 9,900 บาท  | 
พื้นที่ใหญ่ก็ไม่หวั่น LG PuriCare 360 Hit รุ่น AS60GHWG0.ABAE เครื่องฟอกอากาศขนาดจิ๋วแต่ให้ประสิทธิภาพทรงพลังกว่าที่คิด มีระดับความแรงลม (CADR) 470 ลบ.ม./ชม. มาพร้อมระบบกรองฝุ่นอนุภาคขนาดเล็ก PM1.0 และ PM2.5 ไปถึงอนุภาคขนาดใหญ่ PM10 นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Smart Display ควบคุมคุณภาพอากาศได้ง่ายผ่าน LG ThinQ
ข้อดี
- มีระดับความแรงลม (CADR) ที่ 470 ลบ.ม./ชม. เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่กว้าง แต่ไม่ควรเกิน 100 ตร.ม.
 - มีระบบกรองอากาศหลายชั้น สามารถกรองฝุ่น PM2.5 และสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.9%
 - ทันสมัยด้วยฟังก์ชัน Smart Display ควบคุมคุณภาพอากาศผ่าน LG ThinQ
 - มีระบบเซนเซอร์อัจฉริยะคอยตรวจสอบคุณภาพอากาศและจะแสดงผลออกมาเป็น 4 สี 4 ระดับ แบบ Realtime
 - มีขนาดเล็ก และเสียงเบา
 

7. GREE รุ่น GCF350ASWI
| 
 ยี่ห้อ/รุ่น  | 
 GREE รุ่น GCF350ASWI  | 
| 
 พื้นที่ห้อง  | 
 25-42 ตร.ม.  | 
| 
 ประสิทธิภาพการกำจัดฝุ่น (HEPA)  | 
 99.5%  | 
| 
 ระดับความแรงลม (CADR)  | 
 350 ลบ.ม./ชม.  | 
| 
 ระดับเสียง  | 
 29-60 เดซิเบล  | 
| 
 ราคา  | 
 9,900 บาท  | 
อีกตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศในพื้นที่ขนาดใหญ่ เลือกโหมดใช้งานได้ 3 แบบ คือ Auto, Sleep และ Turbo อากาศสะอาดขึ้น 99.5% ด้วยการทำงานของเทคโนโลยีอัจฉริยะเซนเซอร์อินฟาเรด Eagle Eye พร้อมแสดงผล Realtime ไปที่ LED Display อีกทั้งยังใช้งานง่ายด้วยปุ่มสัมผัสแบบโฮโลแกรมสุดไฮเทค
ข้อดี
- ตรวจจับคุณภาพอากาศด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะเซนเซอร์อินฟาเรด Eagle Eye
 - มีระบบกรองอากาศ 4 ชั้น สามารถกรองอนุภาคฝุ่นขนาด 0.3 ไมครอน ทำให้อากาศสะอาดขึ้น 99.5%
 - ทันสมัยด้วยระบบ LED Display ปุ่มสัมผัสแบบโฮโลแกรม มีไฟแจ้งเตือน 3 ระดับ
 - มีระบบเซนเซอร์อัจฉริยะคอยตรวจสอบคุณภาพอากาศและจะแสดงผลออกมาเป็น 4 สี 4 ระดับ แบบ Realtime
 

8.Clair รุ่น Clair K (RED)
| 
 ยี่ห้อ/รุ่น  | 
 Clair รุ่น Clair K (RED)  | 
| 
 พื้นที่ห้อง  | 
 20-25 ตร.ม.  | 
| 
 ประสิทธิภาพการกำจัดฝุ่น (HEPA)  | 
 99.97%  | 
| 
 ระดับความแรงลม (CADR)  | 
 133 ลบ.ม./ชม.  | 
| 
 ระดับเสียง  | 
 ≤44 เดซิเบล  | 
| 
 ราคา  | 
 5,990 บาท  | 
เรื่องดีไซน์ และความสวยงามถือว่ายืนหนึ่งสำหรับเครื่องฟอกอากาศ สุดชิคจากสัญชาติเกาหลี Clair ใครเห็นก็ต้องอยากได้ อีกทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชันแน่นๆ ให้ประสิทธิภาพการกำจัดฝุ่น (HEPA) ถึง 99.97% สามารถเลือกโหมดการทำงานได้ 4 โหมด นอกจากนี้ยังเปลี่ยนบรรยากาศห้องให้ผ่อนคลายมากขึ้นเพราะมี Diffuser รูปทรงนกสุดน่ารักมาพร้อมกลิ่น Black Cherry หอมสดชื่น
ข้อดี
- ระบบกรองอากาศ 4 ขั้นตอน มาพร้อม CEPA (Clair Embossed H13 True HEPA) FILTER ดักจับอนุภาคฝุ่นขนาด 0.1 ไมครอน
 - มี LED แสดงผลคุณภาพอากาศ 4 ระดับ
 - เลือกโหมดการทำงานได้ 4 โหมด คือ Child/Pet Lock, 4 Pan Sleep, Auto Mode และ Night Mode
 - มี Clair Bird Diffuser ตัวกระจายความหอมกลิ่น Black Cherry
 - ดีไซน์สวยเป็นเอกลักษณ์และมีให้เลือกหลายสี
 

9. Blueair รุ่น Blue Max 325
| 
 ยี่ห้อ/รุ่น  | 
 Blueair รุ่น Blue Max 325  | 
| 
 พื้นที่ห้อง  | 
 20-48 ตร.ม.  | 
| 
 ประสิทธิภาพการกำจัดฝุ่น (HEPA)  | 
 99.97%  | 
| 
 ระดับความแรงลม (CADR)  | 
 141 ลบ.ม./ชม.  | 
| 
 ระดับเสียง  | 
 18-46 เดซิเบล  | 
| 
 ราคา  | 
 7,920 บาท  | 
เป็นเครื่องฟอกอากาศที่ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่หรูหรา ออกแบบมาในสไตล์สแกนดิเนเวียน มีระบบการทำงานด้วยอัลกอริธึม RealTrack เอกสิทธิ์ใหม่ที่มีเฉพาะ Blueair ดักจับเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบไหลเวียนอากาศรอบทิศทาง 360 องศา ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการใช้งานและดีไซน์
ข้อดี
- สามารถคำนวณอายุการใช้งานไส้กรองที่เหลืออยู่อย่างแม่นยำด้วยอัลกอริธึม RealTrack เอกสิทธิ์ใหม่ที่มีเฉพาะ Blueair
 - ทำงานด้วยระบบไฟฟ้าสถิตและระบบไส้กรอง Real-Time Filter Lifetime Status จึงสามารถดักจับเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้อย่างรวดเร็ว
 - ควบคุมความเร็วพัดลมได้ 4 ระดับ
 - สามารถปรับระดับความสว่างได้ พร้อมแสดงผลคุณภาพอากาศ (AQI) 5 สี
 - ดีไซน์สวยมาในสไตล์สแกนดิเนเวียน
 

10. SAFE รุ่น 10500872
| 
 ยี่ห้อ/รุ่น  | 
 SAFE รุ่น 10500872  | 
| 
 พื้นที่ห้อง  | 
 31-62 ตร.ม.  | 
| 
 ประสิทธิภาพการกำจัดฝุ่น (HEPA)  | 
 99.95%  | 
| 
 ระดับความแรงลม (CADR)  | 
 450 ลบ.ม./ชม.  | 
| 
 ระดับเสียง  | 
 ≤55 เดซิเบล  | 
| 
 ราคา  | 
 7,490 บาท  | 
รับอากาศสะอาดได้เต็มปอดด้วยเครื่องฟอกอากาศ SAFE ที่มาพร้อมหน้าจอ Extra PM 2.5 Display แสดงผลสภาพอากาศแบบ Realtime 4 สี นอกจากนี้ยังเปลี่ยนบรรยากาศห้องได้ด้วยกลิ่นหอม อโรมา Lonizer ตัวปล่อยประจุลบให้อากาศสะอาดสดชื่นกว่าที่เคยเป็น
ข้อดี
- ใช้ ไส้กรอง “Safe Shield Plus” แบบ 4 in 1 Filter
 - มีจอแสดงผล Digital ที่ระบุค่า PM2.5 แบบ Realtime พร้อมไฟบอกสถานะคุณภาพอากาศ 4 สี
 - สามารถปรับความเร็วลมได้ 4 ระดับ พร้อมโหมด Auto, Sleep และ Child Lock
 - มีฟังก์ชันสร้างบรรยากาศด้วยกลิ่นหอมอโรมา
 

และทั้งหมดนี้คือตัวเลือกเพื่อประกอบการตัดสินใจ เครื่องฟอกอากาศยี่ห้อไหนดี ราคาไม่แพง ที่ยกมาให้ดูกันทั้งหมด 10 ยี่ห้อ/รุ่น คาดว่าหลายคนอาจมีเครื่องฟอกอากาศที่อยากได้ในใจกันบ้างแล้ว จัดได้เลย โปรโมชั่นช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ เพาเวอร์ บาย เมื่อชำระด้วยบัตรเครดิต KTC และบัตรกดเงินสด KTC PROUD
- บัตรเครดิต KTC และบัตรกดเงินสด KTC PROUD ผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน
 - บัตรเครดิต KTC ใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับส่วนลดทันทีสูงสุด 15% จากคะแนนที่แลก รายการใช้จ่ายทั้งชำระเต็มจำนวน และผ่อนชำระตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป ใช้คะแนน KTC FOREVER ตั้งแต่ 1,000 คะแนนขึ้นไป แลกคะแนนไม่เกินราคาสินค้า ส่วนลดคำนวนจากคะแนนที่แลก
 - วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี ส่วนลด 13% (จากคะแนนที่แลก)
 - วันศุกร์ – วันอาทิตย์ รับส่วนลด 15% (จากคะแนนที่แลก)
 - ระยะเวลาโปรโมชั่น 1 ต.ค. 67 - 28 ก.พ. 68
 
นอกจากโปรโมชั่นช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ Power Buy แล้ว ยังมีโปรโมชั่นที่ร้านค้าต่างหวัด และร้านค้าชั้นนำอีกมากมาย สมัครบัตรเครดิต KTC เพื่อรับสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นได้เลย
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC




    
                    