ในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ธุรกิจที่ปรับตัวได้เร็วเท่านั้นจึงจะไปต่อได้ และหนึ่งในช่องทางที่จะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ขายของได้มากขึ้น ก็คือการสื่อสารกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดผ่านการออกบูธขายของในงานแฟร์ งานอีเวนต์ หรือการจัดบูธในศูนย์การค้า
เลือกอ่านตามหัวข้อ
การออกบูธขายของ คืออะไร
การออกบูธขายของ คือ การนำสินค้าหรือบริการไปตั้งขายในพื้นที่ชั่วคราว เช่น ศูนย์การค้า งานแฟร์ หรืองานเทศกาลต่าง ๆ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เห็นและทดลองสินค้าได้มากขึ้น การออกบูธจึงเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับแบรนด์ใหม่ หรือแบรนด์ที่ต้องการเพิ่มฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น ร้านขายก๋วยเตี๋ยวหรือร้านขายเสื้อผ้า ก็สามารถออกบูธขายของได้ทั้งนั้น เพราะวิธีนี้เป็นเหมือนการประชาสัมพันธ์ให้แบรนด์เป็นที่รู้จักหรือถูกพูดถึงมากขึ้น มีส่วนช่วยกระตุ้นความสนใจ และเพิ่มโอกาสการขายได้
ข้อดีของการออกบูธขายของ
การออกบูธขายของ ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมทางการตลาดที่หลาย ๆ แบรนด์เลือกใช้ เพราะมีข้อดีต่อธุรกิจมากมาย เช่น
- สร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ (Brand Awareness) และช่วยให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายรู้จักสินค้าหรือบริการมากขึ้น
- ได้รับฟีดแบ็กจากลูกค้าแบบทันทีทันใด เพื่อนำไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด
- เสริมภาพลักษณ์ให้ธุรกิจมีตัวตน และดูน่าเชื่อถือ
- ขยายฐานลูกค้าใหม่ เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้รู้จักและทดลองสินค้าด้วยตัวเอง โดยเฉพาะแฟรนไชส์ร้านก๋วยเตี๋ยวหรือร้านอาหารใหม่ ๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก
- กระตุ้นยอดขาย ช่วยให้ปิดการขายได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
ธุรกิจแบบไหนบ้างที่ควรออกแบบบูธขายของ
- ธุรกิจที่มีสินค้าที่ต้องการการสัมผัสและทดลอง เช่น สินค้า Handmade, Handcarft, ของตกแต่งบ้าน
- ธุรกิจอาหาร พร้อมให้ชิมสินค้าตัวอย่างช่วยกระตุ้นความสนใจและตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
- ธุรกิจ Start-Up แบรนด์น้องใหม่ที่อยากให้สร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ (Brand Awareness)
- กลุ่มธุรกิจ B2C เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือผู้บริโภคได้โดยตรง
- สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง สินค้าสำหรับนักกีฬา การออกบูธในงานที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง
วิธีเตรียมตัว ก่อนออกบูธขายของมีอะไรบ้าง
การเตรียมตัวก่อนออกบูธขายของถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องใส่ใจในรายละเอียด หากปฏิบัติตามขั้นตอนได้อย่างถูกต้องจะช่วยเพิ่มโอกาสการขายได้มากขึ้น โดยสิ่งที่ต้องเตรียมตัวมีดังนี้
ทำความเข้าใจรายละเอียดของงานที่อยากออกบูธ
การศึกษาธีมงานหรือกลุ่มลูกค้าที่มาเดินงานถือเป็นสิ่งแรกที่ต้องทำ เพราะจะช่วยให้วางแผนการขายได้ตรงตามเป้าหมาย ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นงานแฟร์อาหารสตรีทฟู้ด ก็อาจจะเหมาะกับแฟรนไชส์ร้านก๋วยเตี๋ยวหรือร้านข้าวแกง แต่อาจไม่เหมาะกับร้านอาหารพรีเมียม เพราะไม่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของงานแฟร์นี้
ติดต่อจองบูธให้เรียบร้อย
หลังจากตัดสินใจได้แล้ว ให้รีบจองบูธให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะยิ่งจองเร็วเท่าไหร่ ก็จะมีสิทธิเลือกได้มากกว่า โดยสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นหลักก็คือทำเลที่ตั้ง ซึ่งควรเลือกจุดที่มีคนเดินผ่านเยอะ เพื่อให้ร้านง่ายต่อการเข้าถึงมากที่สุด
โพรโมตการออกบูธผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของร้าน
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือการแจ้งลูกค้าล่วงหน้าว่าร้านจะไปออกบูธขายของที่ไหน โดยอาจใช้วิธีโปรโมตผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของร้าน ให้รายละเอียดตำแหน่งที่ตั้งบูธ และอาจมีการนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษที่จะได้รับเมื่อมาซื้อสินค้าหรือบริการที่งานนี้เท่านั้น
ออกแบบบูธและป้ายโฆษณาให้ดึงดูด
นอกเหนือจากการเตรียมงานด้านการประชาสัมพันธ์แล้ว ยังจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการตกแต่งบูธให้น่าสนใจ เลือกใช้สี โลโก้ และข้อความที่สะดุดตา เพื่อให้ลูกค้าจดจำร้านได้ในทันที
เตรียมทีมงานและพนักงานขายให้พร้อม
หลังจากเตรียมงานทุกอย่างครบถ้วนแล้ว อย่าลืมคัดเลือกทีมงานและพนักงานขายที่มีความพร้อม มีใจรักในการขาย และอบรมให้พวกเขาสามารถแนะนำสินค้าได้อย่างถูกต้อง เพราะบุคลากรเหล่านี้คือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนยอดขาย และช่วยให้การออกบูธขายของประสบความสำเร็จได้
วางแผนออกบูธขายของให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
หากคุณกำลังมองหาโอกาสใหม่ในการเพิ่มยอดขาย ขยายฐานลูกค้า หรือสร้างภาพจำให้กับแบรนด์ การออกบูธขายของคือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม อย่างไรก็ตาม หากต้องการให้การขายครั้งนี้ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องวางแผนให้ดี และเตรียมความพร้อมให้รอบด้าน ทั้งการติดต่อจองบูธ กลยุทธ์การนำเสนอสินค้า ทีมงาน และงบประมาณ เพื่อต่อยอดพื้นที่เล็ก ๆ ให้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจครั้งใหม่
หากคุณต้องการเงินทุนในการออกบูธขายของ ขอสินเชื่อรถแลกเงินถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง ทำให้พร้อมออกบูธได้อย่างมั่นใจ ด้วยสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ไม่ว่ารถยังผ่อนอยู่หรือรถปลอดภาระแล้ว ให้วงเงินสูงสุด 100% อาชีพไหนก็สมัครได้ ที่สำคัญยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery เดินทางไปประเมินราคารถให้ถึงหน้าบ้าน อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที แบบไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน!
กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
*วงเงินอนุมัติเป็นไปตามความสามารถในการชำระหนี้และราคาประเมินมูลค่ารถ
*อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที เมื่อเอกสารครบถ้วนถูกต้องและโอนเงินเข้าบัญชีกรุงไทยหรือพร้อมเพย์
*เมื่อวงเงินกู้ 200,000 บาทขึ้นไป สามารถเลือกผ่อนชำระได้นานสูงสุด 84 เดือน
*กรณีรถยนต์ติดไฟแนนซ์ อนุมัติและโอนเงินหลังจากกรรมสิทธิ์ในรถเป็นชื่อผู้กู้เรียบร้อยแล้ว
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี
กรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด สามารถนำมาประเมินวงเงินเบื้องต้นก่อนได้