วิธีเปลี่ยนเงินเย็นให้งอกเงย ลงทุนอย่างไร? ฉบับ 2024
เมื่อเราทำงานเก็บเงินมาได้สักพักหนึ่ง แน่นอนว่าพนักงานเงินเดือนหลายคนคงอยากจะนำเงินในบัญชีที่เหลืออยู่โดยที่ไม่ได้ใช้หรือ “เงินเย็น” มาใช้ต่อยอดทำอะไรสักอย่างให้งอกเงยขึ้นมาตามหลักการของเงินต่อเงิน เพื่อสร้าง Passive Income ในแต่ละเดือน แต่บางคนอาจยังไม่มีไอเดียว่า ควรนำเงินเย็นไปลงทุนอะไรดี? บทความนี้จะพาคุณมาเปิดโลกของเงินเย็น พร้อมพาไปเรียนรู้ว่า เงินเย็นกับเงินร้อนคืออะไร? นำมาลงทุนอย่างไรให้คุ้มค่าและเหมาะสมกับคุณ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
เงินเย็นคืออะไร ทำไมพนักงานเงินเดือนควรรู้จัก?
เงินเย็น คือ เงินที่ไม่มีเป้าหมายที่จะนำไปใช้ โดยจะเป็นเงินที่แยกออกมาจากค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจำนวนเงินจะแตกต่างกันออกไปตามวินัยในการเก็บเงินของแต่ละคน สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการมีเงินเย็นเยอะ ๆ จะต้องเริ่มวางแผนการบริหารเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ
วิธีเก็บเงินที่นิยมกันมากที่สุดก็คือ การใช้งานแอปรายรับรายจ่ายเพื่อจดบันทึกค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน หากเป็นกรณีที่มีค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเยอะจะได้ไหวตัวทัน และปรับพฤติกรรมการใช้เงิน หันมาออมเงินเพื่อเป็นเงินเย็นแทนที่จะนำไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในแต่ละวัน
รู้ไว้ไม่สับสน เงินเย็นต่างจากเงินร้อนอย่างไรบ้าง?
เงินร้อน และ เงินเย็น สองคำนี้ดูผิวเผินคงเป็นคำที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่บางคนก็อาจไม่เข้าใจว่าสองคำนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ เงินร้อน หมายถึงเงินที่ต้องใช้จ่ายในระยะเวลาอันสั้น หรือเป็นเงินที่ได้รับมาแบบฉับพลัน มักจะเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่ต้องการใช้เงินอย่างเร่งด่วน เช่น เงินจากการกู้ยืมระยะสั้น เงินจากการพนัน หรือเงินที่ได้มาโดยไม่คาดคิด เงินร้อนมักจะต้องการความรวดเร็วในการใช้จ่ายและไม่มีความมั่นคงในระยะยาว
ส่วนเงินเย็น หมายถึงเงินที่มีความมั่นคงและไม่มีความจำเป็นต้องใช้ในระยะเวลาอันสั้น สามารถเก็บออมไว้ หรือนำเงินเย็นมาลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้ มักจะมาจากการออมเงินจึงมีลักษณะตรงข้ามกับเงินร้อน เพราะไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายอย่างเร่งด่วนและสามารถจัดการได้อย่างมีแบบแผน
เงินเย็นควรนำไปลงทุนอะไรดี เพื่อต่อยอดให้งอกเงย?
แน่นอนว่าการนำเงินเย็นมาใช้ลงทุนและต่อยอดเป็นสิ่งที่หลายคนอยากทำ เนื่องจากเป็นวิธีการในการปล่อยให้เงินทำงานด้วยตัวเอง ถ้าสงสัยว่ามือใหม่ควรลงทุนอะไรดี แล้วเงินเย็น 5 แสนและเงินเย็น 1 ล้าน ทําอะไรดี สามารถตามแนวทางการลงทุน 5 วิธีหลัก ๆ ดังนี้
ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ สำหรับเงินเย็นจำนวนมาก
สำหรับคนที่มีเงินเย็นจำนวนมาก การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น การซื้อคอนโดในเมือง หรือที่ตั้งที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ติด BTS หรือ MRT ถือเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์มีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่า และสร้างรายได้จากการเช่าหรือขายในอนาคต การลงทุนนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินเย็น 1 ล้านขึ้นไป สามารถถือครองทรัพย์สินในระยะยาว และมีความรู้เกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์
ลงทุนหุ้น เพื่อผลตอบแทนที่สูงในระยะยาว
สำหรับคนที่ต้องการลงทุนด้วยจำนวนเงินไม่มากหรือมีเงินเย็นจำกัด อาจลองพิจารณาลงทุนหุ้นรูปแบบต่าง ๆ เนื่องจากการลงทุนในหุ้นสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงในระยะยาว การเลือกหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโต และการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ โดยควรเลือกหุ้นตามความเสี่ยงที่สามารถรับไหว เพราะการลงทุนในหุ้นที่แตกต่างกันก็ย่อมมีความเสี่ยงที่ต่างกันด้วย
ลงทุนทองคำ เพื่อรักษามูลค่าของเงิน
สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในความเสี่ยงที่ไม่มากสามารถเลือกลงทุนในทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นทรัพย์สินที่มั่นคง ไม่ทำให้เงินหมดไปโดยสูญเปล่า เพราะช่วยรักษามูลค่าในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนอย่างในยุคนี้ การลงทุนในทองคำสามารถทำได้ผ่านการซื้อทองคำแท่ง เหรียญทอง หรือการลงทุนในกองทุนทองคำ โดยสามารถเลือกลงทุนได้ตามความสะดวกและความเหมาะสม
ลงทุนพันธบัตรรัฐบาล ความเสี่ยงต่ำ
การนำเงินเย็นมาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและมีความมั่นคงสูง เนื่องจากรัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกัน การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสามารถสร้างรายได้จากดอกเบี้ย และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคง ไม่ต้องการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง
ลงทุนในกองทุนรวม เพื่อกระจายความเสี่ยง
สำหรับพนักงานเงินเดือนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนบ่อย ๆ การนำเงินเย็นมาลงทุนในกองทุนรวมนับเป็นอีกวิธีที่น่าสนใจ เนื่องจากกองทุนรวมเป็นการลงทุนที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา หรือความเข้าใจในการลงทุนเอง การเลือกกองทุนที่มีการบริหารจัดการที่ดีสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจและกระจายความเสี่ยงได้
ประโยชน์ของการนำเงินเย็นไปลงทุน มีอะไรบ้าง?
เมื่อค่าครองชีพในชีวิตประจำสูงขึ้นเรื่อย ๆ การเพิ่มช่องทางรายได้ผ่านการนำเงินเย็นไปลงทุน นับเป็นหนึ่งในวิธีดูแลตัวเองด้านการเงิน เนื่องจากหลายคนรวยและมีเงินก้อนมาจากการนำเงินเย็นไปลงทุนด้วยหลักการเงินต่อเงิน การนำเงินเย็นไปลงทุนช่วยให้เงินของคุณเติบโตมากกว่าการเก็บไว้ในรูปแบบของเงินสดหรือฝากธนาคาร
การเลือกการลงทุนที่มีผลตอบแทนสูง เช่น หุ้น หรืออสังหาริมทรัพย์ สามารถช่วยเพิ่มมูลค่าของเงินในระยะยาว โดยควรลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยง ในกรณีที่การลงทุนประเภทหนึ่งมีปัญหา การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นสามารถช่วยลดผลกระทบต่อพอร์ตการลงทุนทั้งหมดได้
นอกจากนี้ การมีเงินลงทุนยังช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงิน หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เงินลงทุนสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ ทำให้คุณมีแหล่งเงินสำรองเพื่อจัดการกับปัญหาต่าง ๆ อย่างไรก็ตามสามารถพิจารณาใช้บัตรกดเงินสดเพื่อใช้จ่ายในยามฉุกเฉินได้เช่นกัน
สรุป เงินเย็นสามารถนำไปลงทุนให้งอกเงยได้อย่างไรบ้าง?
ทุกการลงทุนล้วนมีความเสี่ยง ก่อนจะนำเงินเย็นไปลงทุน เราควรทำความเข้าใจจุดแข็งจุดอ่อนของการลงทุนแต่ละประเภท เพื่อเข้าใกล้เป้าหมายทางการเงินมากกว่าเดิม โดยการนำเงินเย็นไปลงทุนสามารถช่วยให้คุณเตรียมพร้อมสำหรับเป้าหมายทางการเงินในอนาคต เช่น วางแผนเกษียณอายุ และอื่น ๆ
แต่ในกรณีที่ต้องการใช้เงินกะทันหันในยามจำเป็น สามารถพิจารณาใช้บัตรกดเงินสด KTC PROUD ตัวช่วยแก้ปัญหา เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ตอบโจทย์พนักงานเงินเดือนที่ต้องการนำเงินไปใช้จ่ายยามจำเป็น สามารถผ่อนสินค้า และบริการได้นานกว่าบัตรเครดิต สูงสุด 24 เดือน และยังมีโปรโมชัน ผ่อนชำระ ดอกเบี้ย 0% (เฉพาะร้านค้าที่ร่วมรายการ) ตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่มองหาตัวช่วยใช้เงินอย่างชาญฉลาด
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 20%-25% ต่อปี
บัตรกดเงินสด KTC PROUD ตัวช่วยการใช้เงินที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่