กดเงินจากบัตรกดเงินสด ทำได้ผ่านช่องทางไหนบ้าง อัปเดตฉบับปี 2567

ในยุคปัจจุบันที่ความสะดวกสบายเป็นสิ่งสำคัญ การเข้าถึงเงินสดอย่างรวดเร็วและง่ายดายกลายเป็นความต้องการของหลายคน การกดเงินจากบัตรกดเงินสดจึงกลายเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการจัดการด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นในกรณีที่เงินไม่พอใช้ในยามฉุกเฉิน หรือเมื่อจำเป็นต้องใช้เงินสดอย่างเร่งด่วน แล้วบัตรกดเงินสดมีขั้นตอนการกดเงินสดอย่างไร ต่างจากการกดเงินจากบัตรเครดิตไหม สามารถกดเงินจากตู้โดยไม่ใช้บัตรได้ไหม? บทความนี้มีคำตอบ!

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• การกดเงินจากบัตรกดเงินสดคืออะไร?
• ขั้นตอนกดเงินจากบัตรกดเงินสดมีอะไรบ้าง?
• อัตราดอกเบี้ยของการกดเงินจากบัตรกดเงินสด
• กดเงินจากบัตรกดเงินสด ต่างจากกดเงินจากบัตรเครดิต อย่างไร?
• กดเงินจากบัตรกดเงินสด ทางเลือกที่สะดวก สำหรับคนรุ่นใหม่

การกดเงินจากบัตรกดเงินสดคืออะไร?

ก่อนที่เราจะพูดถึงวิธีการกดเงินจากบัตรกดเงินสด มาเริ่มจากทำความรู้จักบัตรกดเงินสดกันก่อน บัตรกดเงินสด คือ บัตรที่ออกโดยธนาคารหรือสถาบันการเงิน เพื่อให้ผู้ถือบัตรสามารถกดเงินสดจากวงเงินที่ได้รับอนุมัติ โดยวงเงินดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ออกบัตร บัตรกดเงินสดมีลักษณะและการใช้งานที่คล้ายคลึงกับบัตรเครดิต แต่เน้นไปที่การกดเงินสดเป็นหลัก เราสามารถใช้บัตรกดเงินสดเพื่อกดเงินสดจากตู้ ATM หรือธนาคารที่รองรับบัตรได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยวงเงินที่ได้รับอนุมัติจะเป็นวงเงินหมุนเวียน เมื่อชำระคืนก็สามารถกดเงินสดจากวงเงินนั้นได้อีก

บัตรกดเงินสดจ่ายขั้นต่ำเท่าไหร่? การชำระคืนบัตรกดเงินสดมีความยืดหยุ่น โดยผู้ถือบัตรสามารถเลือกชำระขั้นต่ำหรือชำระเต็มจำนวนได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคารหรือสถาบันการเงิน โดยปกติการชำระขั้นต่ำของบัตรกดเงินสดจะอยู่ในช่วง 3-5% ของยอดคงค้างทั้งหมด หรือเป็นจำนวนเงินขั้นต่ำที่กำหนด แล้วแต่เงื่อนไขของบัตรนั้น ๆ เช่น บัตรกดเงินสด KTC PROUD สามารถชำระคืนแบบเต็มจำนวน หรือชำระขั้นต่ำเพียง 3% ของยอดที่เรียกเก็บ แต่ไม่ต่ำกว่า 300 บาท

แล้วการทําบัตรกดเงินสดใช้อะไรบ้างง? แน่นอนว่าบัตรกดเงินสดจะต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตนต่าง ๆ รวมไปถึงหลักฐานทางการเงิน โดยสิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับการสมัครบัตรกดเงินสดมีดังนี้

1. บัตรประชาชน : ใช้เป็นหลักฐานยืนยันตัวตน โดยต้องถ่ายสำเนาด้านหน้าและหลังของบัตรประชาชน

2. สลิปเงินเดือน : ใช้เป็นหลักฐานยืนยันรายได้ โดยมักต้องการสลิปเงินเดือนล่าสุด 1-3 เดือน

3. หนังสือรับรองการทำงาน : สำหรับพนักงานบริษัทต้องมีหนังสือรับรองการทำงาน และหนังสือรับรองเงินเดือนที่แสดงถึงตำแหน่งงาน วันที่เริ่มงาน และรายได้ปัจจุบัน

4. สำเนาบัญชีธนาคาร : ต้องมีสำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3-6 เดือน เพื่อแสดงการเคลื่อนไหวของบัญชีและรายได้

5. ทะเบียนบ้าน : ใช้เป็นหลักฐานที่อยู่ โดยต้องถ่ายสำเนาหน้าแรกและหน้าที่มีชื่อผู้สมัคร

ขั้นตอนกดเงินจากบัตรกดเงินสดมีอะไรบ้าง?

การกดเงินจากบัตรเงินสดสามารถทำได้ผ่านทางตู้ ATM และผ่านธนาคารหรือสถาบันการเงิน แต่ส่วนใหญ่ผู้คนมักจะเลือกกดเงินสดผ่านทางตู้ ATM เนื่องจากมีความสะดวกมากกว่า โดยบัตรกดเงินสด KTC PROUD สามารถเบิกถอนเงินสดได้จาก ATM ทุกตู้ทั่วประเทศไทย โดยมีขั้นตอนกดเงินจากบัตรกดเงินสด KTC PROUD ดังนี้

• ไปที่ตู้ ATM ของธนาคาร และสาขาไหนก็ได้
• ใส่บัตรกดเงินสด KTC PROUD ลงในช่องใส่บัตรของตู้ ATM
• เลือกภาษาที่ต้องการใช้งาน
• ใส่รหัสบัตรกดเงินสด KTC PROUD (PIN)
• เลือกเมนู "ถอนเงินสด" หรือ "เบิกเงินสด"
• ระบุจำนวนเงินที่ต้องการถอนออกจากบัตรกดเงินสด KTC PROUD
• ตรวจสอบจำนวนเงินและข้อมูลอื่นๆ แล้วกดยืนยันการทำรายการ
• รับเงินสดและบัตรกดเงินสดคืนจากตู้ ATM

นอกจากนี้ การกดเงินสดผ่านแอป KTC Mobile เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สะดวกสบายสำหรับผู้ถือบัตร KTC PROUD ที่ไม่ต้องการพกบัตรไปกดเงินที่ตู้ ATM เพียงแค่มีโทรศัพท์ และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถทำรายการได้ทุกที่ทุกเวลา

อัตราดอกเบี้ยของการกดเงินจากบัตรกดเงินสด

อัตราดอกเบี้ยบัตรเมื่อกดเงินจากบัตรกดเงินสด เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้ที่ต้องการใช้บัตรกดเงินสดควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากไม่เข้าใจดีพอ อาจส่งผลให้เกิดภาระทางการเงินที่ไม่คาดคิดได้ หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่าอัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดค่อนข้างสูง เพราะธนาคารมองว่าการให้สินเชื่อผ่านบัตรกดเงินสดมีความเสี่ยงสูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ๆ สำหรับคนที่กังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ย บัตรกดเงินสด KTC PROUD เป็นอีกตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีอัตราดอกเบี้ย 0% สำหรับผ่อนสินค้าที่ร่วมรายการ และมีระยะเวลาผ่อนชำระนาน 3-24 เดือน

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 20%-25% ต่อปี

กดเงินจากบัตรกดเงินสด ต่างจากกดเงินจากบัตรเครดิต อย่างไร?

หลายคนอาจสงสัยว่ากดเงินจากบัตรกดเงินสด หรือบัตรเครดิตมีความแตกต่างกันอย่างไร โดยมีความแตกต่างกันดังนี้

กดเงินจากบัตรกดเงินสด

• บัตรเฉพาะทาง : บัตรกดเงินสดถูกออกแบบมาเพื่อการกดเงินสดโดยเฉพาะ วงเงินที่ได้รับอนุมัติสามารถนำไปรูดซื้อสินค้า หรือ ผ่อนสินค้ากับร้านค้าที่ร่วมรายการได้ด้วย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร
• อัตราดอกเบี้ย : โดยทั่วไป อัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดจะสูงกว่าบัตรเครดิต เนื่องจากความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ที่สูงกว่า
• วงเงิน : วงเงินที่ได้รับอนุมัติจะถูกกำหนดตายตัว แต่ยังสามารถนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าหรือบริการได้ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร)

กดเงินสดจากบัตรเครดิต

• บัตรอเนกประสงค์ : บัตรเครดิตสามารถใช้ทั้งการซื้อสินค้าและบริการ และการกดเงินสด
• อัตราดอกเบี้ย : อัตราดอกเบี้ยที่เกิดจากการกดเงินสดจากบัตรเครดิตจะสูงกว่าการรูดซื้อสินค้า แต่จะมีอัตราดอกเบี้ยจากการกดเงินสดน้อยกว่าของบัตรกดเงินสด
• ค่าธรรมเนียม : มีค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดเพิ่มเติม ซึ่งมักจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจำนวนเงินที่กด
• วงเงิน : สามารถกดเงินสดได้ตามวงเงินที่เหลืออยู่ของบัตรเครดิต

กดเงินจากบัตรกดเงินสด ทางเลือกที่สะดวกสำหรับคนรุ่นใหม่

การกดเงินจากบัตรกดเงินสดเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเงินสดฉุกเฉิน แต่ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากหากไม่สามารถชำระหนี้ได้ตรงตามกำหนด อาจส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินได้ ก่อนตัดสินใจทำบัตรกดเงินสด ควรพิจารณาข้อดีข้อเสีย และเปรียบเทียบเงื่อนไขของแต่ละธนาคารให้ละเอียด เพื่อเลือกบัตรที่เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถในการชำระหนี้ของคุณ

สำหรับใครที่กำลังมองหาบัตรกดเงินสดที่มีอัตราดอกเบี้ยไม่สูง แนะนำบัตรกดเงินสด KTC PROUD ที่มีอัตราดอกเบี้ย 0% สำหรับผ่อนสินค้าที่ร่วมรายการ มีระยะเวลาผ่อนชำระนาน 3-24 เดือน และไม่มีค่าธรรมเนียมในการเบิกถอนเงินสดทุกช่องทาง

บัตรกดเงินสด KTC PROUD ตัวช่วยทางการเงินให้กับคนรุ่นใหม่