ค่าเสียหายส่วนแรกในการทำประกันรถคืออะไร ทำไมถึงต้องมี
คนที่ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือชั้นอื่นๆ เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมจะต้องมีการจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกอย่างค่า Excess เพิ่มเติมไปด้วย และค่า Deductible ที่มีให้เลือกจ่ายแบบสมัครใจคืออะไร โดยเฉพาะคนที่เลือกทำประกันชั้น 1 ไปแล้ว ทำไมต้องมีค่าใช้จ่ายที่ดูซ้ำซ้อนให้งงกันเข้าไปอีก ใครที่กำลังสงสัยในเรื่องนี้อยู่ วันนี้ทาง KTC เราจะมาอธิบายให้เข้าใจมากขึ้นกันเอง ว่าค่าเสียหายส่วนแรกคืออะไร มีเงื่อนไขอะไรบ้างที่ต้องรู้ เราจะพาไปหาคำตอบกัน
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ค่าเสียหายส่วนแรก คืออะไร
ค่าเสียหายส่วนแรก คือจำนวนเงินที่ผู้เอาประกันจำเป็นจะต้องจ่ายเพิ่มให้กับบริษัทประกันภัย เพื่อป้องกันการแจ้งเคลมเพื่อรับการซ่อมแซมรถ โดยที่ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง หรือเกิดจากการขับขี่โดยประมาทขึ้นเอง ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ค่า Excess หรือค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ และ ค่า Deductible หรือค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ
ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Excess กับ Deductible ต่างกันอย่างไร
เมื่อเข้าใจถึงสาเหตุในการกำหนดค่าเสียหายส่วนแรกขึ้นมาแล้ว หลายคนอาจจะยังไม่หายสงสัย และอยากรู้ให้ละเอียดกว่านี้ เราจะมาอธิบายให้เห็นถึงความแตกต่างกันเอง ว่าค่า Excess คืออะไร ในความหมายของค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ และค่า Deductible คืออะไร ในความหมายของค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ
ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Excess (ภาคบังคับ)
ค่า Excess คือ ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับเฉพาะประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่ทางผู้เอาประกันภัยจำเป็นจะต้องจ่ายให้กับทางบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ทำไว้ เมื่อนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการ หรืออู่ซ่อมรถในเครือของบริษัท ซึ่งจะต้องจ่ายค่าเสียหายเริ่มต้นที่ 1,000 ต่อเหตุการณ์ เมื่อแจ้งเคลมประกันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชนแบบไม่ทราบคู่กรณี หรือแจ้งถึงรายละเอียดในการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ไม่ชัดเจน และเป็นความประมาทของผู้ขับขี่เอง
ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Deductible (ภาคสมัครใจ)
ค่า Deductible คือ ค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ ที่ผู้เอาประกันตกลงยอมจ่ายให้กับบริษัทประกันภัยรถยนต์ทุกครั้ง เมื่อต้องการเคลมประกันจากอุบัติเหตุรถชนที่ตัวเองเป็นฝ่ายผิด เพื่อรับค่าเบี้ยประกันรายปีที่ถูกลง แต่หากเป็นคนที่ขับรถด้วยความระมัดระวังอยู่แล้ว และไม่ได้มีการเคลมประกันที่บ่อย การเลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจนี้ ก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความคุ้มค่าเงินในกระเป๋าได้เป็นอย่างดี
*ตัวอย่างการจ่ายค่า Deductible*
สมมุติว่าค่าเบี้ยประกันอยู่ที่ 8,000 บาทต่อปี แต่เราสมัครใจที่จ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาทเองทุกครั้ง เมื่อเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนขึ้นมาแล้วเราเป็นฝ่ายผิด ค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายรายปีก็จะถูกลงอีก 2,000 บาท โดยจะหักจากค่าเบี้ยประกันเดิม คือ 8,000-2,000 = 6,000 บาทเท่านั้น ซึ่งหากไม่เคยเคลมประกันเลย ก็จะจ่ายค่าเบี้ยประกันรายปีที่ถูกลงกว่าเดิมนั่นเอง
ทำไมต้องเสียค่า Excess กรณีไหนบ้างที่ต้องจ่าย
เพราะค่า Excess หรือค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ เป็นไว้ป้องกันการแจ้งเคลมประกันจากรถที่ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง แต่ผู้เอาประกันมีเจตนาที่จะนำรถไปซ่อมฟรี โดยเฉพาะในการเคลมทำสีรถใหม่นั่นเอง ส่วนกรณีไหนบ้าง ที่ผู้เอาประกันจำเป็นจะต้องเสียค่า Excess เพิ่มเอง หรือไม่ต้องเสียเพิ่ม จะมีทั้งหมด ดังนี้
กรณีที่ต้องเสียค่า Excess
รถที่เกิดความเสียหายจากการชนโดยบอกรายละเอียด ชี้ตัวคู่กรณีไม่ได้ หรือความเสียหายที่ไม่ได้เกิดจากการชน จำเป็นจะต้องเสียค่า Excess ทั้งหมด
- รถตกหลุม ครูดกับเสา หรือชนฟุตพาท
- รถเหยียบตะปู หรือโดนของมีคมทิ่มแทงจนยางฉีกขาด
- รถถูกสัตว์กัดแทะจากสุนัข หรือมีรอยแมวข่วนบนตัวถัง
- รถถูกหินดีด หรือวัตถุหล่นทับใส่ตัวรถจนเกิดความเสียหาย
- รถตกข้างทาง แต่ยังไม่พลิกคว่ำ
- กรณีเฉี่ยวชน แต่หาคู่กรณีไม่ได้ หรือไม่มีหลักฐานบ่งบอกคู่กรณี
กรณีที่ไม่ต้องเสียค่า Excess
รถที่เกิดความเสียหายจากชนที่บอกรายละเอียดคู่กรณีได้ มีบาดแผลตรงกับรอยเกิดเหตุ หรือการชนอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่รถจนทำให้ตัวรถบุบ แตก ร้าว แต่ต้องบอกรายละเอียดได้ชัดเจน จะไม่ต้องเสียค่า Excess
- รถเฉี่ยวชนกับคันอื่นโดยมีคู่กรณี และรายละเอียดที่เกิดขึ้นชัดเจน
- รถชนคน หรือสัตว์ โดยมีการแจ้งรายละเอียดในเหตุการณ์ครบถ้วน และมีบาดแผลสอดคล้องกัน
- รถชนกำแพง เสา ประตู ต้นไม้ ขอบถนน หรือราวสะพาน
- รถพลิกคว่ำ
ค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Deductible จ่ายหรือไม่จ่ายดีกว่า
ถ้าเรามีประสบการณ์ในการขับรถมายาวนาน และมีความระมัดระวังในการขับขี่อยู่เสมอ โดยไม่ไปเฉี่ยวชน หรือมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนบ่อยครั้ง การเลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกแบบสมัครใจ อย่างค่า Deductible ก็เป็นทางเลือกที่ดีกับเงินในกระเป๋า เพราะจะช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันรายปีลงไปได้ค่อนข้างเยอะ และหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา แต่เราไม่ได้เป็นฝ่ายผิด เราก็ไม่จำเป็นจะต้องเสียค่าเสียหายส่วนนี้ด้วยเช่นกัน แต่ในคนที่ประสบการณ์ในการใช้รถใช้ถนนยังมีไม่มาก และมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนได้บ่อยครั้ง การเลือกไม่จ่ายค่าเสียหายส่วนแรกแบบ Deductible อาจจะดีกว่า เพราะค่าเบี้ยประกันที่ลดลงมา อาจจะไม่คุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายทุกครั้งในการเคลมประกันเมื่อเราเป็นฝ่ายผิดนั่นเอง
สรุปบทความ ค่าเสียหายส่วนแรกในการทำประกันรถคืออะไร
เห็นกันแล้วใช่ไหมว่า การทำความเข้าใจเงื่อนไขในการทำประกันภัยรถยนต์นั้นสำคัญแค่ไหน โดยเฉพาะค่า Excess ที่เป็นค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ และค่า Deductible คือค่าเสียหายส่วนแรกภาคสมัครใจ ที่หากทำความเข้าใจอย่างละเอียดครบถ้วน ก็จะช่วยให้การเลือกทำประกันรถยนต์เป็นเรื่องง่าย และยังช่วยลดค่าเบี้ยประกันรายปีได้อีกด้วย
และสำหรับคนที่มีรถยนต์ใช้งาน แต่กำลังติดปัญหาในเรื่องของสภาพคล่อง ต้องการเงินก้อนหมุนเวียนแบบทันใจ ให้ทาง KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ช่วยคุณดีกว่า เพราะที่นี่เราให้วงเงินก้อนใหญ่ สมัครได้ง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery พร้อมเดินทางไปตรวจสอบสภาพรถถึงที่หน้าบ้าน อนุมัติไว รับเงินได้ทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำ พร้อมผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน และยังสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม สำหรับใช้เงินฉุกเฉิน กดฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน โดยไม่ต้องมีคนค้ำ
ให้วงเงินใหญ่ รู้ผลไว รับเงินก้อนได้แบบทันใจ
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี*