ค่าปรับจราจร คือบทลงโทษที่เจ้าหน้าที่กำหนดขึ้นเมื่อมีการฝ่าฝืนกฎจราจร เช่น ขับรถเกินความเร็วที่กำหนด การจอดในที่ห้ามจอด หรือไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร หลายคนอาจคิดว่าค่าปรับเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถละเลยได้ แต่ความจริงแล้ว หากไม่จ่ายค่าปรับจราจรเหล่านี้ อาจมีผลกระทบในระยะยาว
ปัจจุบันมีผู้ขับขี่จำนวนไม่น้อยที่ต้องจ่ายค่าปรับจราจรย้อนหลัง เนื่องจากเข้าใจผิดว่าการไม่จ่ายค่าปรับจะไม่มีผลอะไร แต่กลับพบว่าใบสั่งที่ค้างชำระกลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้กระบวนการต่อภาษีล่าช้า แต่การจ่ายค่าปรับจราจรสามารถทำได้ผ่านทางไหนบ้าง
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ใบสั่งค่าปรับจราจรมีกี่แบบ?
ปัจจุบัน ใบสั่งค่าปรับจราจรมีอยู่ 3 แบบหลักๆ ซึ่งแต่ละแบบจะมีวิธีการดำเนินการที่แตกต่างกันไป ดังนี้
1. แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับให้กับผู้ขับขี่ ติด ผูก หรือแสดงไว้ที่รถ
ใบสั่งแบบดั้งเดิมที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเขียนขึ้นเอง ณ ที่เกิดเหตุ โดยจะระบุรายละเอียดต่างๆ เช่น วันที่ เวลา สถานที่ที่กระทำผิด ข้อหา และจำนวนเงินค่าปรับ เมื่อถูกเรียกตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกใบสั่งให้เราติดไว้ที่กระจกหน้ารถ โดยสามารถจ่ายค่าปรับจราจรประเภทนี้ได้ที่สถานีตำรวจที่ออกใบสั่ง หรือช่องทางอื่นๆ ที่ระบุในใบสั่ง เช่น ธนาคาร หรือไปรษณีย์
2. แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับส่งทางไปรษณีย์
ใบสั่งที่เกิดจากการตรวจจับความเร็วด้วยกล้อง หรือการกระทำผิดที่ไม่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ทันที ใบสั่งจะถูกส่งไปยังที่อยู่ตามทะเบียนรถจะได้รับใบสั่งทางไปรษณีย์ที่บ้าน โดยสามารถชำระได้ตามช่องทางที่ระบุในใบสั่ง เช่น ธนาคาร ไปรษณีย์ หรือจ่ายใบสั่งช่องทางออนไลน์
3. แบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Ticket)
ใบสั่งที่เกิดจากการตรวจจับด้วยกล้องอัตโนมัติ เช่น กล้องจับความเร็ว หรือกล้องจับรถฝ่าไฟแดง ใบสั่งจราจรจะถูกส่งไปยังระบบและแจ้งเตือนไปยังเจ้าของรถผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น SMS, Email หรือแอปพลิเคชัน จะได้รับการแจ้งเตือนผ่านช่องทางที่เจ้าของรถได้ลงทะเบียนไว้ โดยสามารถจ่ายค่าปรับจราจรออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือจ่ายค่าปรับจราจรผ่านแอป
วิธีตรวจสอบใบสั่งจราจรด้วยตัวเอง
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าโดนใบสั่งต้องจ่ายภายในกี่วัน คำตอบคือถ้าไม่จ่ายภายใน 30 วันจะได้รับ "ใบเตือน" ให้ชำระค่าปรับ แต่ถ้ายังหมุนเงินไม่ทัน ไม่ตอบรับใบเตือนภายใน 15 วัน ตำรวจจะออก "หมายเรียก" ให้มาชำระค่าปรับ ถ้าเพิกเฉยต่อหมายเรียกถึง 2 ครั้ง ตำรวจจะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อออก "หมายจับ" โดยคุณจะถูกปรับเพิ่มอีก 1,000 บาท หากไม่จ่ายค่าปรับตามใบสั่ง ระบบจะบล็อกการต่อทะเบียนภาษีรถยนต์
การจ่ายค่าปรับจราจร โดยปกติแล้วเมื่อโดนใบสั่ง หลายคนเข้าใจว่าวิธีเดียวในการจ่ายค่าปรับจราจร คือการไปจ่ายที่สถานีตำรวจด้วยตนเอง ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ค่อยสะดวกและใช้เวลานาน เมื่อไม่มีเวลาไปสถานีตำรวจบางคนอาจจะลืมไปว่าตัวเองเคยโดนใบสั่ง แต่ปัจจุบันเราสามารถจ่ายค่าปรับออนไลน์ได้แล้ว ซึ่งวิธีนี้สะดวก รวดเร็ว และง่ายกว่าการเดินทางไปเสียค่าปรับที่สถานีตำรวจ โดยสามารถเสียค่าปรับจราจรออนไลน์ได้ที่ https://ptm.police.go.th/eTicket/#/ ตามขั้นตอนดังนี้
- ลงทะเบียนใช้งานเว็บไซต์: ใช้หมายเลขบัตรประชาชน, หมายเลขใบขับขี่ หรือหมายเลขทะเบียนรถในการสมัคร
- เข้าสู่ระบบ: กรอกหมายเลขบัตรประชาชนและรหัสผ่านที่ตั้งไว้
- ค้นหาใบสั่ง: ระบุวันที่กระทำผิด แล้วกดปุ่ม “ค้นหา”หากต้องการกรองข้อมูลเพิ่มเติม สามารถใส่เลขทะเบียนรถหรือหมายเลขใบสั่งได้
- ตรวจสอบใบสั่ง: ระบบจะแสดงรายการใบสั่งทั้งหมดที่เคยได้รับ สามารถกดดูรายละเอียดใบสั่งแต่ละฉบับได้ หากมีรถหลายคันที่เป็นชื่อเจ้าของคนเดียวกัน จะมีรายการทั้งหมดให้เลือก
- ชำระค่าปรับ: เมื่อเลือกใบสั่งที่ต้องการแล้ว สามารถดำเนินการชำระค่าปรับออนไลน์ได้ทันที
แนะนำช่องทางการชำระเงินจ่ายค่าปรับจราจร
จ่ายค่าปรับจราจรออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน “Krungthai NEXT”
- เปิดแอป Krungthai NEXT
- เลือกเมนูจ่ายบิล
- เลือกรายการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ – ค่าปรับจราจร > หมวดหน่วยงานราชการ
- กรอก เลขที่ใบสั่ง 13 หลัก และเลขบัตรประชาชน
- ตรวจสอบยอดค่าปรับ > กดยืนยัน > จ่ายค่าปรับจราจรเรียบร้อย
จ่ายค่าปรับจราจรออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
- เปิดแอปเป๋าตัง
- เลือก G-Wallet
- เลือกเมนูจ่ายบิล > ค่าปรับจราจร
- กรอก เลขที่ใบสั่ง และ เลขบัตรประชาชน
- ใส่ยอด ค่าปรับ > ตรวจสอบข้อมูล > กด ยืนยันการจ่ายค่าปรับจราจร
- เสร็จสิ้นการทำรายการ!
จ่ายค่าปรับจราจรออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน “Mobile Banking”
- เปิดแอป Mobile Banking
- สแกน QR Code ท้ายใบสั่ง
- ตรวจสอบชื่อผู้รับโอน: สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมค่าปรับจราจร/strong>
- ยอดค่าปรับจะแสดงตามใบสั่ง > กดชำระเงิน > ทำรายการสำเร็จ
จ่ายค่าปรับจราจรออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน “KHUB DEE”
- เข้าแอป KHUB DEE > ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ
- เลือก ตรวจสอบใบสั่ง
- ชำระค่าปรับง่าย ๆ ผ่าน QR Code ที่ปรากฏ
จ่ายค่าปรับจราจรที่สถานีตำรวจ
- เตรียมเอกสารที่จำเป็น ได้แก่ ใบสั่งจราจรที่ได้รับ บัตรประชาชน หรือใบขับขี่
- เดินทางไปที่สถานีตำรวจ หลายคนอาจสงสัยว่าจ่ายค่าปรับสน. อื่นได้ไหม จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะได้รับ ใบสั่งจากเขตไหน ก็สามารถนำไปจ่ายได้ที่ทุกสน.ทั่วประเทศ
- ติดต่อเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ โดยแจ้งความประสงค์ที่จะจ่ายค่าปรับจราจร
- ยื่นใบสั่งให้เจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบข้อมูลและยอดค่าปรับจราจร
- ชำระเงินตามยอดค่าปรับที่กำหนด
- รับใบเสร็จยืนยันการชำระเงิน
จ่ายค่าปรับจราจร เรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย
การจ่ายค่าปรับจราจรนับเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากปล่อยให้ค้างชำระเกินกำหนดเป็นเวลานาน จะส่งผลกระทบต่อการต่อทะเบียนภาษีรถยนต์ในภายหลัง ดังนั้น ผู้ขับขี่ทุกคนควรศึกษาให้ดีว่าต้องเสียค่าปรับจราจรภายในกี่วัน สามารถเสียค่าปรับได้ที่ไหนบ้าง ในปัจจุบันการจ่ายค่าปรับจราจรสะดวกขึ้นมาก เนื่องจากสามารถทำได้ผ่านช่องทางออนไลน์ที่รวดเร็วและสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังสามารถไปจ่ายที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสของ 7-11 ทุกสาขาได้อีกด้วย ซึ่งช่วยทำให้การชำระค่าปรับไม่ยุ่งยาก และช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัญหาการค้างชำระที่อาจส่งผลกระทบต่อการต่อทะเบียนภาษีรถยนต์ในอนาคต
สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยด้านการเงิน เพื่อแก้ปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินหรือใช้ในยามจำเป็น แนะนำบัตรกดเงินสด KTC PROUD ตัวช่วยทางการเงินที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการกดเงิน สมัครง่าย สะดวกสบายสามารถเบิกถอนเงินสดออนไลน์ ผ่านแอป KTC Mobile ได้ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังผ่อนสินค้าที่ร่วมรายการ นานสูงสุด 24 เดือน
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี
วางแผนการใช้เงินอย่างฉลาดด้วยบัตรกดเงินสด KTC PROUD