วางแผนการเงินให้ดีก่อนจัดงานแต่งงาน

            รู้หรือไม่ครับว่า การแต่งงานในแต่ครั้งต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่? พี่เบิ้มต้องขอบอกเอาไว้คร่าว ๆ ก่อนว่า ในการตั้งงบแต่งงานแต่ละก้อน จะขึ้นอยู่กับความต้องการในวันจัดงานของแต่ละคน แต่หลัก ๆ แล้วจะมีเรื่องของสถานที่ จำนวนแขกที่เชิญมา รูปแบบการจัดงาน ไปจนถึงค่าสินสอดทองหมั้น ซึ่งหากใครที่กำลังวางแผนแต่งงานอยู่ล่ะก็ วันนี้พี่เบิ้มมีข้อแนะนำดี ๆ มาฝาก จะได้คำนวณและวางแผนค่าใช้จ่ายกันได้อย่างถูกต้อง หรือขาดเหลืออะไร จะได้หาลู่ทางเตรียมเงินเอาไว้สำรองจ่ายจะได้อุ่นใจ ใครพร้อมแล้ว ตามพี่เบิ้มไปดูถึงรายละเอียดกันได้เลยครับ  

แต่งงานทั้งที ต้องใช้เงินอะไรบ้าง?

งบประมาณคร่าว ๆ ในการจัดงาน

            เรื่องของงบประมาณคร่าว ๆ ในการจัดงานนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะถ้าหากตัดสินใจว่าจะแต่งงานแล้ว ก็ต้องมีการวางแผนเกี่ยวกับงบประมาณให้ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าสถานที่จัดงานแต่งงาน ค่าอาหารสำหรับจัดเลี้ยง ค่าตกแต่งสถานที่ ค่าพิธีกร ไปจนถึงค่าของชำร่วยและค่าการ์ดเชิญต่าง ๆ เป็นต้น พี่เบิ้มแนะนำว่าให้วางแผนงบประมาณเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะช่วยให้เราสามารถจัดการงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยให้เราควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่ให้บานปลาย

            ยิ่งไปกว่านั้น ในยุคโควิดแบบนี้ ยังสามารถปรับหรือลดขั้นตอนการจัดงานได้อีก ช่วยให้ประหยัดงบประมาณการจัดงานแต่งไปได้ เพราะต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ ซึ่งควรดูว่าจะสามารถงดหรือตัดกิจกรรมไหนไปได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจำนวนแขกที่เข้าร่วมงาน ซึ่งอาจเชิญเฉพาะคนสนิทหรือคนสำคัญในครอบครัวเท่านั้น รวมถึงเรื่องการจัดเตรียมของชำร่วยที่หากมีเวลามากพอ ก็สามารถทำเองในแบบ DIY ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เช่นกัน

ค่าใช้จ่ายภายในงานแต่งงาน

            อย่างที่ได้บอกกันไปนะครับว่างบประมาณคร่าว ๆ ในงานแต่งงานมีอะไรบ้าง ตอนนี้ก็ถึงเวลามาเจาะลึกถึงค่าใช้จ่ายในแต่ละส่วน ว่ามีอะไรที่เราควรต้องวางแผนบ้าง

1. สถานที่จัดงาน
   สำหรับสถานที่จัดงาน หลายคนอาจจะวางแผนจัดทั้งงานหมั้นและงานแต่งงานให้แยกกันคนละวัน แต่บางคนก็วางแผนที่จะไปจัดในวันเดียวกัน หรือบางคนก็อาจจะจัดงานเลี้ยงสำหรับผู้ใหญ่รอบหนึ่งและสำหรับเพื่อน ๆ อีกรอบหนึ่ง ถ้าหากตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าจะจัดงานอย่างไร คราวนี้เราก็จะสามารถจำแนกค่าใช้จ่ายที่ต้องจัดการได้
   แต่ถ้าหากใครต้องการประหยัดงบค่าใช้จ่าย การรวบจัดงานในวันเดียวก็อาจเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุด ส่วนในงานเลี้ยงกลางคืน เราอาจจะมีการจัดโซนหรือตกแต่งพื้นที่สำหรับแขกผู้ใหญ่ โดยเฉพาะ และอีกหนึ่งโซนเป็นสำหรับเพื่อน ๆ ของเรานั่นเอง
2. อาหาร
   นอกจากนี้แล้ว เรื่องของอาหารภายในงาน บางคู่อาจจะวางแผนสำหรับอาหารและเครื่องดื่มเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นค็อกเทล โต๊ะจีน บุฟเฟต์ เป็นต้น ซึ่งสิ่งสำคัญที่เราจะต้องวางแผนให้รัดกุมก็คือจำนวนคนเข้าร่วมงาน และศึกษาให้ดีว่าในช่วงวัยต่าง ๆ มีความชอบแบบไหนมากกว่ากัน และเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะสมและอยู่ในค่าใช้จ่ายที่ได้ตั้งเอาไว้
3. พิธีกร ช่างภาพ
   ถ้าหากทั้งคู่บ่าวสาวตัดสินใจที่จะจ้างช่างภาพ เพื่อมาเก็บภาพในวันสำคัญ หรือต้องการพิธีกรเพื่อช่วยรันงานแต่งงาน อาจต้องทำใจในเรื่องของงบที่เพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าหากคุณมีเพื่อนที่มีความสามารถในการเป็นพิธีกร ก็อาจลองขอเขาช่วยทำหน้าที่นี้ให้ ซึ่งน่าจะช่วยให้เบาใจไปได้บ้าง เมื่อประหยัดงบประมาณในส่วนนี้ไปได้ ที่สำคัญเพื่อนของคุณที่จะมาเป็นพิธีกร ยังจะช่วยสร้างบรรยากาศในงานให้มีความเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น เพราะรู้จักคุณและแขกหลาย ๆ คนเป็นอย่างดี ในส่วนของช่างภาพก็เช่นกัน หากสามารถหาคนรู้จักเข้ามาช่วย หรือให้คนรู้จักช่วยแนะนำ ก็อาจได้ราคาที่ไม่แพงและยังอยู่ในงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ 

เงินสินสอด

            สำหรับคู่รักคู่ไหนที่มีการวางแผนว่าอยากจะให้มีเงินสินสอดวางไว้ในงานแต่งงาน ทั้งเพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นชีวิตคู่ หรือเพื่อภาพสวย ๆ ในพิธีงานหมั้น พี่เบิ้มขอแนะนำครับว่า ควรที่จะต้องเก็บเงินสะสมเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ อย่างน้อยก็แยกเงินเก็บสะสมสำหรับสินสอดเอาไว้ก่อน ซึ่งควรแยกกับเงินค่าใช้จ่ายในการแต่งงานเลยนะครับ เพื่อป้องกันความสับสนระหว่างเงินสินสอด ที่อาจกลายเป็นเงินที่ใช้เริ่มต้นชีวิตคู่ กับเงินอีกก้อนถ้าหากเราจำเป็นต้องไปหาเงินแต่งงานด่วนมาเพื่อใช้สำรองจ่ายในวันสำคัญครั้งนี้

            อย่างที่พี่เบิ้มได้บอกไปล่ะครับ ว่างบประมาณและค่าใช้จ่ายที่เราจะต้องเตรียมสำหรับการจัดงานแต่งงานนั้น จะต้องควบคุมไม่ให้บานปลาย แต่ถ้าใครต้องการสร้างความอุ่นใจ ก็สามารถหาเงินแต่งงานด่วนมาเสริมกำไรเอาไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะหากมีเรื่องด่วนที่ต้องใช้จริง ๆ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปขอยืมใครให้วุ่นวายครับ

            ก่อนจะจากกันไป พี่เบิ้มอยากจะแนะเพิ่มเติมอีกหน่อยว่า หากต้องการจัดงานแต่งงานจริง ๆ ในช่วงสถานการณ์แบบนี้ อย่าลืมดูสภาพคล่องในกระเป๋าของทั้งคู่บ่าวสาวกันด้วย เพราะว่าจัดงานแต่งทั้งที ก็ต้องมีความสุขกันอย่างถ้วนหน้า จะได้เริ่มต้นชีวิตคู่กันอย่างมีความสุข และอย่าลืมว่าการจัดงานแต่งงานนั้นควรอยู่ในงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ และไม่ควรจัดเกินตัว เพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินที่จะตามมาในภายหลังด้วย

            แต่ถ้าหากต้องการที่จะมีเงินสำรองเอาไว้สำหรับเรื่องด่วนฉุกเฉินจริง ๆ ก็สามารถมายื่นขอสินเชื่อทะเบียนรถกับ KTC พี่เบิ้มได้เลยที่จุดบริการ KTC TOUCH ทุกสาขา หรือจะเรียกใช้บริการพี่เบิ้ม Delivery ให้ไปรับเอกสารและรู้ผลอนุมัติถึงบ้านก็สะดวกสุด ๆ ลงทะเบียนได้ที่นี่