อยากเทรดหุ้น วิเคราะห์กราฟ หรือจับตาดูความเคลื่อนไหวตลอดเวลา แต่ไม่อยากติดอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมัยนี้มีแอปพลิเคชันสำหรับคนเล่นหุ้น ที่ใช้ง่าย คนที่เป็นมือใหม่เพิ่งหัดเทรดก็สามารถใช้ได้ เพียงแค่โหลดแอปลงในโทรศัพท์ มีอินเตอร์เน็ตพร้อม ทุกอย่างก็พร้อมให้คุณได้เทรดเพียงในเวลาไม่กี่นาที บทความนี้ KTC จะมาตอบคำถาม เทรดหุ้นแอปไหนดี มือใหม่ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก ด้วยการแนะนำ 10 แอปเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่ รวมไว้ในบทความนี้ และเป็นแอปเล่นหุ้นง่ายๆ ฉบับปี 2025
วิธีเลือกแอปเทรดหุ้น
เทรดหุ้น แอปไหนดี 2025 ข้อแนะนำสำหรับคนที่อยากโหลดแอปพลิเคชันมาไว้สำหรับเทรดหุ้นผ่านมือถือ สิ่งแรกที่ควรเช็กคือความน่าเชื่อถือของแอปนั้นๆ ว่ามีหน่วยงานรับรองหรือไม่ หรือว่ามีระบบความปลอดภัยที่แข็งแรงไหม เพื่อป้องกันการถูกโจรกรรมออนไลน์ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือความเร็วของระบบ เพราะการเทรดหุ้นนั้นถ้าช้าเพียงเสี้ยววิ ก็อาจจะทำให้กำไรที่จะได้หายไป สิ่งสุดท้ายที่ต้องเลือกคือ ค่าธรรมเนียม และระบบการถอนเงิน เพราะว่าค่าธรรมเนียมก็ถือว่าเป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง และที่สำคัญคือระบบการถอนเงินออกต้องเชื่อถือได้ และรวดเร็ว
1. Dime
จุดเด่น |
ระบบใช้งานง่าย เทรดเงินบาทได้เลย และค่าธรรมเนียมต่ำ |
จุดด้อย |
ซื้อขายหุ้นต่างประเทศในสหรัฐเท่านั้น และจำกัดแค่เพียงคนที่เปิดบัญชีซื้อ-ขายกับ Dime เท่านั้น |
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่แอป “Dime” เกิดเป็นกระแสขึ้นมา เพราะมียอดดาวน์โหลดที่เยอะ และขึ้นชื่อเรื่องการเทรดหุ้นที่ง่าย เหมาะกับมือใหม่ก็ใช้ได้ แถมยังมีระบบที่ค่อนข้างเร็ว ที่สำคัญคือเป็นแอปที่ครบเรื่องการออมเงิน และการลงทุน โดยการเทรดหุ้นของแอป Dime จะเป็นการเทรดหุ้นต่างประเทศเท่านั้น ทำให้คุณสามารถซื้อหุ้นต่างประเทศในบริษัทระดับโลกได้หลายบริษัทเลยหล่ะ เพียงแค่มีเงินเริ่มต้น 50 บาทก็เทรดได้แล้ว นอกจากนั้นจุดเด่นที่ทำให้ Dime กลายเป็นแอปเทรดหุ้นที่น่าใช้ คือค่าธรรมเนียมต่ำ ใช้เงินบาทเทรดได้เลย ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินให้วุ่นวาย
2. Streaming
จุดเด่น |
มีฟีเจอร์ให้เลือกเยอะมาก ทั้งการดูความเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ มีข้อมูลการเจาะลึกของหุ้นให้ดูได้ตลอด สามารถแจ้งเตือนเมื่อมีความเคลื่อนไหวของหุ้น และมีบทวิเคราะห์ของข่าวให้ได้เข้าไปอ่านและติดตามได้เลย |
จุดด้อย |
ไม่สามารถเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นได้ ผู้ใช้งานจะต้องเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆ มาก่อน และฟีเจอร์เยอะอาจจะใช้งานได้ยากในตอนแรก |
“Streaming” ติดอยู่ในลิสอันดับแรกๆ สำหรับแอปพลิเคชันเทรดหุ้นที่อยากจะแนะนำ เพราะจบครบ และรวมหลายฟังก์ชัน มีฟีเจอร์เด็ดอยู่ภายในแอปเดียว โดยแอปนี้เป็นแอปที่มีเอาไว้เพื่อซื้อ-ขาย หุ้นและอนุพันธ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือ SET แค่เพียงกดเข้าไปในแอพคุณจะสามารถเห็นความเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ มีการวิเคราะห์หุ้นผ่านกราฟ พร้อมแจ้งเตือนความเคลื่อนไหวต่างๆ และสามารถดูรายการขายแบบต่อวินาที ทำให้คุณไม่ผ่านการเทรดแม้แต่เสี้ยววินาทีแน่นอนถ้าใช้แอปนี้ ด้วยความที่ฟีเจอร์เยอะ อาจจะงงนิดหน่อยในตอนเริ่มใช้ แต่ถ้าใช้ไปเรื่อยๆ คล่องมือแน่นอน
3. KGI Power Trade
จุดเด่น |
คอนเซ็ปท์แอปแบบ All-in-one ทำทุกอย่างได้ครบ และจบภายในแอปเดียว ตั้งแต่กรองหุ้น ติดตามการเคลื่อนไหว และเทรดได้เลย |
จุดด้อย |
ค่าธรรมเนียมค่อนข้างสูง และคุณต้องเปิดบัญชีกับ KGI เท่านั้น |
ถ้าอยากเลือกที่ความหลากหลาย อยากเทรดหุ้น และ TFEX ดาวน์โหลด “KGI Power Trade” แล้วลองเข้าไปใช้งานดูได้เลย จุดเด่นของแอปพลิเคชันนี้คือการเป็นแอปแบบ All-in-one ที่สามารถทำได้ตั้งแต่เช็คความเคลื่อนไหว ดูราคา ติดตามแบบเรียลไทม์ พร้อมกับช่วยคัดกรองหุ้นที่มาแรงได้โดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 1 นาที ที่น่าตื่นเต้นไปกว่านั้น คือสามารถส่งคำซื้อ-ขาย ได้แบบ Auto Trade เลย เรียกว่าเป็นแอพเทรดหุ้นที่ครบจบภายในแอปเดียวของจริง แถมยังใช้ง่าย รับรองมือใหม่ก็ใช้ได้
4. efin Trade Plus
จุดเด่น |
ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์การลงทุน และไม่จำกัดว่าคุณต้องเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ใดก็สามารถใช้แอปนี้ได้ |
จุดด้อย |
มีค่าบริการเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับแพคเกจ และไม่มีบริการเปิดบัญชีเพื่อซื้อ-ขายหุ้น |
ล้ำสมัยมากกว่าด้วยการใช้ AI มาวิเคราะห์การเทรดหุ้นกับแอปพลิเคชั่น “efin Trade Plus” ที่เทรดง่าย จะเทรดในมือถือ โหลดแอปพลิเคชัน หรือว่าใช้ในคอมพิวเตอร์ก็ได้เช่นเดียวกัน จุดแข็งของแอปนี้คือการวิเคราะห์หุ้น ที่บอกทั้งจุดอ่อน และจุดแข็ง ให้คุณได้ช่วยประกอบการตัดสินใจในการเทรด เหมาะกับมือใหม่อย่างแน่นอน มาพร้อมฟีเจอร์ Auto Trade ที่จะทำให้การเทรดง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นแอปนี้ยังแจ้งเตือนราคาหุ้น ที่รับรองเลยว่าคุณจะไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหว และมีข่าวการลงทุนจากอีไฟแนนซ์ไทยให้ได้อ่านกันตลอด
5. Liberator
จุดเด่น |
ค่าคอมฟรี 0% เหมาะสำหรับคนที่ซื้อ-ขาย บ่อยๆ |
จุดด้อย |
ซื้อและขายได้แค่เฉพาะหุ้น หรือTFEX ในตลาดหุ้นไทยเท่านั้น |
มีความน่าเชื่อถือ และมั่นใจได้กับ “Liberator” แอปเทรดหุ้นจาก บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด เหมาะสำหรับใครที่ไม่อยากเสียค่าคอมมิชชั่นเยอะ เพราะว่าแอปนี้ค่าคอมคือ 0% ให้ซื้อและขายหุ้นกันได้เลยแบบฟรีๆ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่นักลงทุน เพราะผู้ที่เทรดจะจ่ายแค่เฉพาะค่าธรรมเนียมในตลาดหลักทรัพย์แต่เพียงเท่านั้น หรือถ้าใครเป็นคนที่ชอบซื้อ-ขาย ภายในวันหนึ่งบ่อยๆ แอปนี้ก็น่าสนใจ แม้ว่าฟีเจอร์ภายในแอปจะยังคงมีไม่มากมายนัก แต่โดยรวมคือใช้ง่าย และค่าคอม 0% ที่น่าดึงดูดใจ
6.Finansia HERO
จุดเด่น |
การใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน มีฟีเจอร์ที่ช่วยสนับสนุนในการเทรด และเป็นโบรกเกอร์เจ้าเดียวที่ให้รายย่อยจองหุ้น IPO ได้ |
จุดด้อย |
มีค่าคอมที่ค่อนข้างสูง และจะสูงขึ้นไปอีกถ้าเทรดผ่านเจ้าหน้าที่ของบริษัท |
ต้องการความไว และง่ายในการเทรดหุ้น “Finansia HERO” คือคำตอบ เพียงแค่โหลดแอปพลิเคชัน กรอกข้อมูล และยืนยันตัวตนก็เปิดบัญชีหุ้นได้แล้ว โดยแอปนี้จะเป็นแอปที่ถูกพัฒนาขึ้นจากระบบเทรดหุ้นออนไลน์ของเกาหลี และยังเป็นโบรกเกอร์แค่เพียงเจ้าเดียวที่ให้รายย่อยได้สามารถจองหุ้น IPO และตั้งค่าการซื้อ-ขายหุ้นล่วงหน้าได้ ซึ่งสามารถทำรายการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนฟีเจอร์ภายในแอปก็สามารถใช้ได้ฟรีโดยไม่มีขั้นต่ำในการเทรดแต่อย่างใด โดยส่วนใหญ่แล้วฟีเจอร์จะช่วยสนับสนุนการเทรด รับรองมือใหม่ใช้งานง่ายชัวร์
7.Mitrade
จุดเด่น |
เข้าถึงหุ้นต่างประเทศที่ยอดนิยมได้ง่าย เริ่มต้นด้วยค่าสเปรดที่ต่ำ และมีช่องทางการฝากเงินให้เลือกหลากหลาย |
จุดด้อย |
มีการคิดค่า Swap หรือการถือออเดอร์ข้ามคืน จึงไม่เหมาะกับคนที่เทรดหุ้นในระยะยาว หรือว่ามีงบประมาณในการเทดที่ค่อนข้างต่ำ |
เพราะความง่ายในการใช้งานของแอปก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าหากว่าคุณอยากได้แอปเทรดหุ้นที่มีอินเตอร์เฟสที่ดี ระบบไม่ซับซ้อน “Mitrad” คือตัวเลือกที่น่าสนใจ และอยากให้ลองโหลดมาทดลองใช้กันดู ซึ่งแอปนี้มาจากโบรกเกอร์ CFD สัญชาติออสเตรเลีย ที่สามารถเทรดหุ้นได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะหุ้นต่างประเทศจากหลายๆ ตลาดสำคัญทั่วทุกมุมโลก เป็นหนึ่งในแอปเทรดหุ้นที่เหมาะกับมือใหม่ น่าสนใจสำหรับคนเพิ่งเริมต้นเทรด เพราะมีบัญชีทดลองใช้ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งค่าสเปรดในช่วงเริ่มต้นจะลอยตัวและไม่มีค่าคอมเป็น 0%
8.Exness
จุดเด่น |
มีสินทรัพย์หลายแบบให้เลือกเทรดภายในแอพเดียว ค่าสเปรดต่ำ และค่อนข้างคงที่ |
จุดด้อย |
สำหรับการเปิด และปิดออเดอร์ อาจจะมีการ Delay บ้าง ไม่มีโปรโมชันสำหรับลูกค้าใหม่ |
หนึ่งในแอปสำหรับเทรดหุ้นที่น่าสนใจมาก เพราะว่า Exness เป็นแอปเทรดหุ้นที่มีให้เลือกหลากหลายแบบทั้ง หุ้น คริปโต หรือว่า Forex ลักษณะของแอปได้ถูกออกแบบมาใช้งานได้ง่าย แม้จะเป็นมือใหม่ก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าจะเทรดง่าย มีหลายฟังก์ชั่นให้เลือก แต่ว่าผู้ลงทุนก็ต้องมีความรอบคอบ และวางแผนเรื่องการลงทุนให้ดี เพราะว่า Exness ยังไม่ได้รับการรับรองจาก คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
9.Webull
จุดเด่น |
เป็นแอปที่เอื้อต่อการเทรดหุ้นที่จดทะเบียนใน อเมริกาโดยเฉพาะไม่มีการกำหนดยอดเงินคงเหลือในบัญชีขั้นต่ำ |
จุดด้อย |
ไม่มีระยะเวลาบ่งบอกแน่ชัดถึงเรื่องการถอนเงินออกจากระบบ ยังไม่มีระบบการ Copy Trade ที่แน่ชัด |
“Webull” เป็นแอปเทรดหุ้นที่น่าจับตามอง เพราะว่าเป็นแพลตฟอร์มใหม่ เหมาะกับคนที่อยากเทรดหุ้นที่จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา และมีค่าธรรมเนียมการฝากเริ่มต้นที่ 8 USD และการถอน 25 USD สำหรับผู้ใช้งานในประเทศ ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นการเทรดหุ้นต่างประเทศ แต่ว่ามี Customer Service ในไทยที่สามารถติดต่อได้ 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังเคลมว่ามีการใช้ API ที่ทำให้แอปรวดเร็ว และสามารถใช้งานได้ทั้งในคอมพิวเตอร์ และในมือถือได้อย่างเสถียรอีกด้วย
10.Streaming Click2Win
จุดเด่น |
เหมาะกับมือใหม่ลองเทรดหุ้น เพราะไม่ต้องใช้เงินจริง และมีเงินจำลองให้ทดลองเทรด 10 ล้านบาท ราคาหุ้นอิงตามตลาดจริง |
จุดด้อย |
ผู้ใช้งานจะสามารถซื้อและขายได้แต่เฉพาะหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย |
สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งหัดเทรดหุ้น แต่ยังมีความกังวล ยังไม่กล้าลงสนามจริง แนะนำดาวน์โหลดแอป “Streaming Click2Win” มาหัดเทรดหุ้นไปพลางๆ ก่อน เพราะแอปนี้เป็นแอปหัดเทรดที่ได้รับความนิยมมาก ใช้งานง่าย มือใหม่ลองใช้ได้ไม่ยาก โดยที่แพลตฟอร์มของแอปนี้จะเหมือนกับแอป Steaming มีเงินให้ทดลองเทรดมากถึง 10 ล้านบาท ช่วยให้คุณได้รู้หลักการของการเทรด และฝึกฝนลองเทรดให้ชำนาญโดยที่ไม่ต้องใช้เงินจริง เป็นอีกหนึ่งแอปแนะนำเทรดหุ้นสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่คล่อง หรือใครคล่องแล้วอยากลองเทรดฝึกฝีมือก็ตอบโจทย์ด้วยเหมือนกัน
แม้ว่าทุกวันนี้จะมีเทคโนโลยี และแอปพลิเคชันที่ถูกออกแบบมาให้การเทรดหุ้นเป็นเรื่องง่าย สามารถทำธุรกรรมทุกอย่างได้ครบจบภายในแอปเดียว ที่แตกต่างจากสมัยก่อนมากมายนัก เรื่องของการลงทุนก็ยังคงเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งที่อยากให้ทุกคนได้ตระหนักถือข้อนี้ ส่วนถ้าใครอยากนำเงินสดไปลงทุนเทรดหุ้น แล้วอยากจะจัดสรรการเงินให้ลงตัว แนะนำให้ใช้บัตรเครดิต KTC มาเป็นตัวช่วย ทั้งในเรื่องโปรโมชั่นการผ่อน 0% การแลกรับเครดิตเงินคืน หรือว่าการใช้สิทธิประโยชน์จากบัตรฯ แต่ทั้งนี้ควรใช้บัตรเครดิตฯ อย่างมีสติ และรับผิดชอบด้วยการจ่ายเงินค่าบัตรเต็มจำนวนทุกเดือน เพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ย ส่วนใครที่ยังไม่มีบัตรเครดิต ไปสมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ โดยเลือกบัตรใบที่ถูกใจเอาไว้ใช้สักใบ เพราะโปรโมชั่นดีๆ เพียบ
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC