พี่เบิ้มรู้ว่าเวลาที่เราเดือดร้อนต้องการใช้เงินก้อน หลายคนก็คงจะคิดกันแบบหัวหมุนว่าจะเลือกกู้แบบไหนดี ที่ดอกเบี้ยไม่สูง อนุมัติง่าย ได้เงินเร็ว เหมาะสมกับความต้องการของเรา ไม่ต้องเสียค่าดอกเบี้ยเงินกู้มากเกินความจำเป็น วันนี้พี่เบิ้มมีวิธีพิจารณาเลือกประเภทของสินเชื่อมาฝากกันครับ
วัตถุประสงค์ในการขอกู้
อันดับแรกที่พี่เบิ้มอยากให้ทุกคนลองพิจารณาก็คือ เรากู้ไปเพื่ออะไร ซึ่งวัตถุประสงค์ในการขอกู้ก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน ซื้อรถ ทำธุรกิจ จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล จ่ายค่าซ่อมบ้าน หรือใช้จ่ายฉุกเฉินเรื่องอื่น ๆ ซึ่งแต่ละประเภทก็มีความแตกต่างกัน พี่เบิ้มขอยกตัวอย่างสัก 3-4 ประเภทมาให้ทุกคนเห็นภาพกันมากขึ้นครับ
1. สินเชื่อบ้าน เป็นเงินกู้ที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจน คือ เพื่อซื้อบ้าน ไม่ว่าจะซื้อเป็นที่อยู่อาศัย สำนักงาน หรือร้านค้า โดยผู้กู้จะใช้บ้านเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ เป็นการกู้เงินซื้อบ้าน โดยเงินที่ได้จะนำไปจ่ายให้แก่โครงการหรือเจ้าของบ้านเดิม อีกแบบคือการนำบ้านไปจำนอง เพื่อนำเงินมาใช้ในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป
สินเชื่อบ้านที่มีอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ โดยมากอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3-7 เท่านั้นครับ
2. สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นหนึ่งในสินเชื่อที่ใกล้ตัวพวกเราทุกคนมากที่สุด เป็นสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ไม่จำเป็นต้องมีหลักประกันหรือผู้ค้ำประกัน มีหลากหลายรูปแบบ ที่เราคุ้นเคยกันดีจะเป็นสินเชื่อทะเบียนรถ และสินเชื่อเงินสด
• สินเชื่อทะเบียนรถ เป็นหนึ่งในสินเชื่อที่ได้รับความนิยม สามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ คือ แบบโอนเล่ม กับแบบไม่โอนเล่ม ซึ่งพี่เบิ้มก็อยู่ในประเภทนี้ครับ
หลายคนชอบสินเชื่อทะเบียนรถ โดยเฉพาะแบบไม่ต้องโอนเล่ม เพราะวงเงินใหญ่ ได้รับเงินไว แถมยังมีรถใช้งาน อัตราดอกเบี้ยสูงสุดจะอยู่ที่ร้อยละ 24 ต่อปี ซึ่งวัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อทะเบียนรถค่อนข้างหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการนำไปใช้ในกรณีฉุกเฉิน ที่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนอย่างเร่งด่วน เช่น ค่ารักษาพยาบาล เสริมสภาพคล่องของธุรกิจ
3. สินเชื่อเพื่อธุรกิจ สำหรับคนทั่วไปอาจจะไม่คุ้นเคยกับเงินกู้ประเภทนี้นัก แต่สำหรับผู้ที่ต้องการต่อยอดและสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง พี่เบิ้มขอแนะนำให้ลองพิจารณาสินเชื่อตัวนี้ดู โดยสามารถนำแผนธุรกิจและผลประกอบการที่ผ่านมาไปคุยกับธนาคารเพื่อขอกู้ได้ครับ ซึ่งจะมีทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว อัตราดอกเบี้ยจะแตกต่างกันออกไป
ที่จริงประเภทของสินเชื่อมีรายละเอียดมากมาย เรียกว่าถ้าเอามาบอกทีเดียวคงต้องคุยกันยาว เอาเป็นว่าสิ่งจำเป็นอันดับแรก พี่เบิ้มอยากให้ทุกคนศึกษาและรู้ความต้องการของตัวเองก่อนว่า ต้องการขอกู้ไปเพื่ออะไร จะได้เลือกได้อย่างถูกใจนั่นเอง
ระยะเวลาที่เราต้องการขอกู้
หลังจากที่รู้แล้วว่าเราจะกู้ไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร เรื่องต่อมาที่พี่เบิ้มอยากให้ทุกคนคิดอย่างรอบคอบใน 2 ประเด็นหลัก คือ 1. ระยะเวลาในการชำระหนี้ และ 2. จำนวนเงินค่างวด
ประเด็นแรกที่พี่เบิ้มขอกล่าวถึงคือ ระยะเวลาในการใช้หนี้ หากว่าเราสามารถปิดยอดเงินกู้ได้ในระยะเวลาสั้น ๆ เราอาจจะต้องเสียอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าสินเชื่อที่มีระยะเวลาการผ่อนชำระนานกว่านั่นเอง
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมเราต้องรู้ถึงระยะเวลาการผ่อนชำระ มีความสำคัญอย่างไร? เหตุผลหลัก ๆ นั่นก็เป็นเพราะว่าเราจะได้คำนวณจำนวนเงินดอกเบี้ยที่จะต้องจ่าย รวมถึงค่าปรับ เพราะหากเป็นสัญญาเงินกู้ระยะยาว อย่างสินเชื่อบ้าน บางธนาคารจะออกอัตราดอกเบี้ยพิเศษให้ 3 ปีแรก แต่หากปิดบัญชีเร็วกว่ากำหนดจะต้องเสียค่าปรับ ซึ่งอาจจะไม่คุ้มค่า หรือแพงกว่าการขอเงินกู้ระยะสั้นนั่นเองครับ ดังนั้น หากว่าใครอยากจะขอเงินกู้ระยะยาว พี่เบิ้มแนะนำให้ตรวจสอบสัญญาให้ดี จะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
ประเด็นที่ 2 คือ จำนวนเงินค่างวดที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน เราจะต้องดูภาระหนี้และค่าใช้จ่ายของเราประกอบ ตามหลักการแล้ว ภาระหนี้ทั้งหมดไม่ควรจะเกิน 40% ของเงินได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นภาระหนี้ที่หนักมากเกินไป และเสี่ยงต่อการกลายเป็นหนี้เสียได้ครับ
ความเร่งด่วนในการใช้เงิน
อุบัติเหตุ เจ็บป่วยกะทันหัน พายุพัดบ้านพัง น้ำท่วมดินทรุด หรือสารพัดปัญหาที่ทำให้เราต้องใช้เงินก้อนแบบด่วน ๆ ซึ่งหากว่าเราต้องใช้เงินแบบเร่งด่วน ภายใน 1-2 วัน เราอาจจะต้องมองหาเงินกู้ที่อนุมัติไว ให้วงเงินสูง อย่างสินเชื่อทะเบียนรถของพี่เบิ้มนั่นเอง
เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย
สินเชื่อแต่ละประเภทจะมีอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละประเภท เงินกู้ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน อย่างสินเชื่อส่วนบุคคลก็จะมีอัตราดอกเบี้ยที่แพงกว่าสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ที่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่วนเงินกู้ระยะยาวก็มักจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าเงินกู้ระยะสั้น โดยปัจจุบันได้มีปรับลดอัตราดอกเบี้ยแต่ละประเภทภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้กู้ ดังต่อไปนี้
ประเภท |
อัตราดอกเบี้ย (ต่อปี) |
สินเชื่อบัตรเครดิต |
16% |
สินเชื่อบุคคลที่เรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าธรรมเนียมรวมกันแบบลดต้นลดดอก |
25% |
สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ |
24% |
จุดเด่นและจุดด้อยของสินเชื่อแต่ละประเภท
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะมึนกับข้อมูลไปหมด มาครับ พี่เบิ้มขอสรุปจุดเด่นและจุดด้อยของสินเชื่อบ้านและสินเชื่อส่วนบุคคลแบบสั้น ๆ ให้ทุกคนอ่านเพื่อประกอบการตัดสินใจกัน
สินเชื่อบ้าน
จุดเด่น วงเงินสูง อัตราดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนได้นาน
จุดด้อย ใช้เวลาอนุมัตินาน และมีค่าธรรมเนียมต่าง ๆ สูง เช่น ค่าจดจำนอง ค่าโอน
สินเชื่อส่วนบุคคล
จุดเด่น อนุมัติไว เหมาะกับผู้ที่ต้องการเงินก้อนฉุกเฉินหรือเร่งด่วน มีหรือไม่มีหลักทรัพย์ในการค้ำประกันก็ได้ ถึงมีค่าโอนเล่มทะเบียนก็มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าสินเชื่อบ้านอยู่มาก
จุดด้อย วงเงินต่ำกว่าสินเชื่อบ้าน อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า
สำหรับคนที่ต้องการสินเชื่อเงินด่วนดอกเบี้ยต่ำ พี่เบิ้มขอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนไม่ท้อ ใครต้องการเงินด่วน เตรียมเอกสารให้ครบ แล้วขับรถออกมาหาพี่เบิ้ม เราอนุมัติไว ให้วงเงินสูง จะลงทะเบียนที่นี่ ไปสมัครที่จุดบริการ KTC TOUCH ทุกสาขา หรือเรียกบริการพี่เบิ้ม Delivery ให้พี่เบิ้มไปหาถึงบ้านก็ได้เลยครับ