การแต่งตัวไปทำงานไม่ใช่แค่เรื่องของแฟชั่น แต่ยังเป็นเรื่องของการสร้างความประทับใจและเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะสำหรับ First Jobber ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่โลกของการทำงาน การแต่งตัวไปทำงานให้เหมาะสมและมีกาลเทศะ จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และทำให้ดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ในบทความนี้ KTC จะพาไปเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการแต่งตัว มีอะไรบ้าง แต่ละแบบเป็นอย่างไร และจะช่วยให้การแต่งตัวไปทำงานของเหล่าพนักงานมือใหม่ “ดูดี” ได้ทุกวัน ได้อย่างไร
ศึกษาวัฒนธรรมองค์กรก่อนเลือกเสื้อผ้าแต่งตัวไปทำงาน
ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าชุดทำงานตัวใหม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือการศึกษาและเข้าใจ “วัฒนธรรมองค์กร” ที่คุณทำงานอยู่ หรือกำลังจะเข้าไปทำงาน เพราะแต่ละบริษัทก็จะมีบรรยากาศและระเบียบแต่งตัวไปทำงานที่แตกต่างกัน
- องค์กรแบบ Formal หรือ Traditional
องค์กรที่เน้นความเป็นทางการ ความน่าเชื่อถือ เช่น ธนาคาร, บริษัทกฎหมาย หรือสำนักงานใหญ่ ๆ
- องค์กรแบบ Semi-Formal หรือ Smart Casual
ประเภทองค์กรที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น แต่ยังคงความสุภาพ เช่น บริษัทเทคโนโลยี หรือเอเจนซี่โฆษณาบางแห่ง
- องค์กรแบบ Casual หรือ Creative
องค์กรเหล่านี้จะเน้นให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ ผ่านการมีอิสระในการแต่งตัว เช่น บริษัท Startup, บริษัทสื่อ หรือ บริษัทออกแบบ
ทั้งนี้ การสังเกตจากเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ในออฟฟิศ หรือสอบถามจากฝ่ายบุคคล จะช่วยให้คุณแต่งตัวไปทำงานได้ถูกกาลเทศะและกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
รู้จักกฎการแต่งตัวไปทำงานของออฟฟิศแต่ละแบบ
เมื่อทราบแล้วว่าองค์กรของคุณเป็นองค์กรประเภทใด ต่อมาก็เป็นการทำความเข้าใจถึงรูปแบบการแต่งตัวหลัก ๆ ซึ่งมีรายละเอียดเป็นดังนี้
1. Formal (ทางการ)
การแต่งตัว Formal หรือภาษาไทย การแต่งตัวแบบทางการ หมายถึงการแต่งกายที่เป็นระเบียบ เรียบร้อย และเหมาะสม จุดสำคัญคือการแต่งตัวให้ดูสุภาพ และมีความเคารพต่อสถานที่หรือสถานการณ์นั้น ๆ โดยมีลักษณะเป็นดังนี้
ผู้ชาย
- เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีพื้น หรือลายเรียบง่าย
- กางเกงขายาวสีดำ น้ำเงินเข้ม หรือสีเทา
- เนคไท ในโอกาสที่เป็นทางการมาก
- รองเท้าหนังสีดำหรือน้ำตาล
- เข็มขัดหนังที่เข้ากับรองเท้า
ผู้หญิง
- เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อบลาวส์ ทั้งแขนยาวและแขนสั้น
- กระโปรงคลุมเข่า หรือกางเกงขายาวที่มีความยาวเหมาะสม มีความสุภาพและมีกาลเทศะ
- ชุดเดรสทรงสุภาพ ไม่เปิดเผยเนื้อหลังมากเกินไป
- รองเท้าส้นเตี้ย หรือส้นสูงแบบปิดหัวเท้า
- เครื่องประดับที่เรียบง่าย มีสีสันไม่ฉูดฉาด
2. Semi-formal / Smart Casual (กึ่งทางการ / ลำลองแต่ดูดี)
การแต่งตัวไปทำงานแบบ Semi-formal / Smart Casual หมายถึงการแต่งตัวแบบกึ่งทางการ เป็นสไตล์การแต่งกายที่อยู่ระหว่างความเป็นทางการกับแบบลำลอง โดยหลักการสำคัญคือ สามารถผสมผสานความเป็นทางการกับความลำลองได้อย่างลงตัว หรืออาจกล่าวได้ว่า มีความดูดีแต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่ดูเครียดจนเกินไป
ผู้ชาย
- เสื้อเชิ้ตแขนยาวหรือแขนสั้น โดยอาจจะไม่ต้องติดกระดุมเม็ดบนสุด
- เสื้อโปโลคุณภาพดี
- เสื้อสเวตเตอร์
- กางเกงขายาวผ้าชิโน (chinos) หรือกางเกงผ้า
- รองเท้าหนังแบบลำลอง หรือรองเท้าผ้าใบสีเรียบ
- เข็มขัดหนังแบบเรียบ
ผู้หญิง
- เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อบลาวส์สีพื้น หรือมีลายเรียบ ๆ
- เสื้อไหมพรม หรือเสื้อคาร์ดิแกน
- กางเกงขายาวทรงสวย หรือกระโปรงที่มีความยาวเหนือเข่าเล็กน้อย
- ชุดเดรสแบบลำลอง แต่ทรงสวยและสีสันไม่ฉูดฉาด
- รองเท้าส้นเตี้ย รองเท้าแฟลต รองเท้าคัทชู หรือรองเท้าผ้าใบที่มีแบบและสีเรียบ ๆ
- เครื่องประดับเรียบง่าย
3. Casual / Creative (ลำลอง / เน้นความคิดสร้างสรรค์)
การแต่งตัว Casual / Creative หรือภาษาไทย แบบลำลอง เน้นความคิดสร้างสรรค์ เป็นสไตล์การแต่งตัวไปทำงานที่เน้นความสบาย รสนิยมส่วนตัว และสื่อถึงความเป็นตัวเอง หลักการสำคัญคือ ยึดมั่นในความชอบของตนเอง เน้นความสนุกและการแสดงออกที่แท้จริง โดยไม่ต้องกังวลกับกฎเกณฑ์มากนัก
ผู้ชาย
- เสื้อยืดลวดลายต่าง ๆ หรือเสื้อสีพื้นโทนสีสีสันสดใส
- เสื้อเชิ้ตผ้าลินิน
- เสื้อฮู้ด หรือเสื้อสเวตเตอร์
- กางเกงยีนส์ หรือกางเกงขาสามส่วน
- รองเท้าผ้าใบหลากสี หรือรองเท้าแฟชั่น
- เครื่องประดับเพิ่มเติม เช่น หมวก แว่นตา หรือสร้อยคอ
ผู้หญิง
- เสื้อยืดพิมพ์ลายกราฟิก หรือข้อความ
- เสื้อครอป หรือเสื้อแขนสั้น
- กระโปรงยีนส์ หรือกางเกงยีนส์ขายาวทรงต่าง ๆ
- ชุดเดรสลวดลายสนุกสนานและมีสีสันสดใส
- รองเท้าผ้าใบ รองเท้าบูท หรือรองเท้าแฟชั่น
- เครื่องประดับโดดเด่น เช่น ต่างหูใหญ่ หรือสร้อยคอจิวเวลรี่
ไอเดียชุดทำงานสำหรับ First Jobber
สำหรับ First Jobber มือใหม่ ที่อยากสร้างความประทับใจตั้งแต่วันแรกของการทำงาน สามารถนำไอเดียเหล่านี้ไปปรับใช้ในการแต่งตัวไปทำงาน เพื่อสร้างลุคสมบูรณ์แบบในทุกวัน
ลุคทำงานสำหรับผู้ชาย
- ลุคมืออาชีพ : เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีพื้น เช่น สีฟ้า หรือขาว แมทช์กับกางเกงสแลคสีดำ หรืออาจเป็นเทาเข้ม ปิดท้ายด้วยการสวมเข็มขัดหนังสีเดียวกับรองเท้า
- ลุค Smart Casual : เสื้อโปโลสีเข้ม หรือเสื้อเชิ้ตแขนสั้นพับแขน ใส่เข้าคู่กับกางเกงชิโน่สีน้ำตาลหรือสีกากี และรองเท้า Loafers
- ลุคที่เน้นความคล่องตัว : เสื้อเชิ้ตผ้าออกซ์ฟอร์ดสีอ่อน กับกางเกงยีนส์สีเข้ม ปิดท้ายด้วยรองเท้าผ้าใบหนังสีขาว
ลุคทำงานสำหรับผู้หญิง
- ลุคเรียบหรูดูโปร : เสื้อเบลาส์สีพื้น เช่น สีขาว, สีครีม หรือสีฟ้าอ่อน แมทช์กับกางเกงสแลคทรงสวยสีดำ หรือกรมท่า และคลุมทับด้วย Blazer สีคุมโทน
- ลุคสดใสแต่สุภาพ : เดรสทรงตรงหรือทรงเอสีพาสเทล ที่มีความยาวคลุมเข่า พร้อมสวมทับด้วยคาร์ดิแกน หรือนำ Blazer มาคลุมไหล่
- ลุคมินิมอล : เสื้อเชิ้ตโอเวอร์ไซส์สีขาวสะอาดตา เก็บชายเสื้อด้านหน้าเข้าในกางเกง สวมเข้าคู่กับกางเกงผ้าสีเอิร์ธโทน และรองเท้าคัทชู
สำหรับเคล็ดลับไอเดียการเลือกเสื้อผ้าใส่ไปทำงานนั้น สามารถเริ่มต้นจากการมีเสื้อผ้าพื้นฐาน (Basic Wardrobe) เช่น เสื้อเชิ้ตสีขาว หรือฟ้า, กางเกงสแลคสีด หรือกรมท่า และ Blazer สีเรียบ ๆ เพราะเสื้อผ้าเหล่านี้สามารถนำมา Mix & Match ได้หลากหลายลุค และหลากหลายสไตล์
ทริคเลือกรองเท้า กระเป๋า และเครื่องประดับให้ดูดี
ไอเทมเครื่องแต่งกายที่เป็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของการแต่งตัวไปทำงาน อย่างรองเท้า กระเป๋า และเครื่องประดับ ก็มีความสำคัญไม่แพ้เสื้อผ้า ดังนั้นการเลือกสวมใส่ให้เข้ากับภาพรวมของลุค และตามระเบียบขององค์กรที่ทำงานอยู่ จึงเป็นสิ่งที่ควรเลือกสรรอย่างตั้งใจและคำนึงถึงโอกาสและสถานที่เป็นสำคัญ
รองเท้า
ผู้หญิง ควรมีรองเท้าคัทชูสีดำ สีนู้ด หรือรองเท้าส้นสูง ที่ไม่สูงจนเดินลำบาก และรองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาดตา เตรียมไว้สำหรับวันสบาย ๆ
ผู้ชาย ควรมีรองเท้าหนัง (Oxford/Derby) สีดำ หรือน้ำตาลเข้ม รวมถึงรองเท้า Loafers และรองเท้าผ้าใบสีขาว หรือสีดำเรียบ ๆ ติดตู้เสื้อผ้าไว้อย่างละคู่
กระเป๋า
หากต้องการมีไว้เพื่อใส่ของจำเป็น และขณะเดียวกันก็เพื่อช่วยเสริมลุคในการแต่งตัวไปทำงานให้ดูดีด้วย การเลือกกระเป๋าสะพายข้าง กระเป๋าถือ หรือ Tote Bag ที่มีขนาดพอเหมาะกับความสูงและขนาดตัวของผู้ถือกระเป๋า รวมถึงสามารถใส่ของจำเป็น เช่น โน้ตบุ๊ก เอกสารได้ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี
- ผู้หญิง ควรเลือกกระเป๋าสีสุภาพ เช่น สีดำ, สีน้ำตาล, สีกรมท่า และเบจ และมีดีไซน์ที่ดูเป็นทางการ หรือ Semi-formal
- ผู้ชาย อาจเลือกใช้เป็นกระเป๋าเอกสาร หรือ Backpack ที่มีดีไซน์เรียบหรู
เครื่องประดับ
คำว่า “เครื่องประดับ” ในที่นี้ หมายถึง ไอเทมเครื่องแต่งกายจำพวก นาฬิกา เข็มขัด และเครื่องประดับสวยงามอื่น ๆ
- นาฬิกา : ควรเป็นนาฬิกาข้อมือแบบคลาสสิกหรือ Smartwatch ที่ดีไซน์เรียบง่าย
- เข็มขัด : เลือกสีที่เข้ากับรองเท้า (สำหรับผู้ชาย)
- เครื่องประดับอื่น ๆ : สำหรับผู้หญิง ควรเลือกเครื่องประดับที่ไม่ใหญ่หรือระยิบระยับเกินไป เช่น ต่างหูมุกเม็ดเล็ก, สร้อยคอเส้นเล็กๆ เน้นความเรียบหรูและดูดี
ทริคเลือกซื้อเสื้อผ้าให้คุ้ม ด้วยสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิต KTC
บัตรเครดิต KTC มีโปรโมชั่น END OF SEASON ลดใหญ่กลางปี ที่จะช่วยให้สมาชิกบัตรเครดิต KTC ที่เป็น First Jobber มือใหม่ในออฟฟิศ ได้รับสิทธิพิเศษสุดคุ้มค่า ในทุกการใช้จ่ายสินค้าเกี่ยวกับเครื่องแต่งกาย
โปรโมชั่นที่ 1
สมาชิกบัตรเครดิต KTC แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน สูงสุด 18% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC และลงทะเบียน เพื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดซื้อ ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 68 - 31 ก.ค. 68 (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์กำหนด)
- แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 18% เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป ต่อเซลส์สลิป
- แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 13% เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1 - 14,999 บา ต่อเซลส์สลิป
ร้านค้าที่ร่วมรายการ
- CLUB21 Group : CLUB21, CLUB21 LAB, ISSEY MIYAKE, PHILLIP LIM , ALEXANDER WANG, BAO BAO เป็นต้น
- PP Group : LONGCHAMP, MAISON KITSUNE, MCM, OFF-WHITE™, TORY BURCH, Ami เป็นต้น
- Pacifica : American Eagle, Camper, Coach, Coccinelle, Kate Spade, Keds
ทั้งนี้ ไม่จำกัดยอดแลกคะแนนสูงสุดตลอดรายการ ติดตามรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ KTC
โปรโมชั่นที่ 2
สมาชิกบัตรเครดิต KTC แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 18% หรือ แลกรับสิทธิ์ผ่อนชำระ 0% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC และลงทะเบียน เพื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดซื้อ ระยะเวลาโปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 68 - 31 ส.ค. 68 (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์กำหนด)
- แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 18% เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 8,000 บาทขึ้นไป ต่อเซลส์สลิป
- แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 15% เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 4,000 - 7,999 บาท ต่อเซลส์สลิป
- แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 13% เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1 - 3,999 บาท ต่อเซลส์สลิป
หรือ
- แลกคะแนนรับสิทธิ์ผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1,500 บาทขึ้นไป ต่อเซลส์สลิป
- ใช้คะแนน KTC FOREVER 20% ของยอดใช้จ่าย/เซลส์สลิป รับสิทธิ์ ผ่อนชำระ 0% นาน 3 เดือน
- ใช้คะแนน KTC FOREVER 40% ของยอดใช้จ่าย/เซลส์สลิป รับสิทธิ์ ผ่อนชำระ 0% นาน 6 เดือน
- ใช้คะแนน KTC FOREVER 50% ของยอดใช้จ่าย/เซลส์สลิป รับสิทธิ์ ผ่อนชำระ 0% นาน 10 เดือน
ร้านค้าที่ร่วมรายการ
- CMG Group ( Armani Exchange/Emporio Armani , Polo Ralph Lauren , Paul Smith, Calvin Klein)
- ZARA Gropu (ZARA , MASSIMO DUTTI, PULL&BEAR)
- Jaspal (CCOO , CPS, JASPAL , marithe francois girbaud)
- H&M
- COS
- Pomelo
- Mango
- แบรนด์อื่น ๆ ที่ร่วมรายการ
ทั้งนี้ ไม่จำกัดยอดแลกคะแนนสูงสุดตลอดรายการ ติดตามรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ KTC
การแต่งตัวไปทำงานวันแรกให้น่าประทับใจนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณรู้จักสไตล์ที่ใช่ เลือกเสื้อผ้าที่เหมาะกับตัวเอง เป็นไปตามระเบียบขององค์กร และที่สำคัญคือมีความมั่นใจที่จะทำให้คุณดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร และหากถ้าต้องการอัพเกรดลุคให้ดูดีสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น อย่าลืมว่าบัตรเครดิต KTC พร้อมเป็นผู้ช่วยให้คุณดูดีได้ทุกวัน เพราะไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือแม้แต่เครื่องประดับ บัตรเครดิต KTC ก็มีโปรโมชั่นดี ๆ มากมาย ทั้งยังได้สะสมคะแนน KTC FOREVER เพื่อแลกรับส่วนลด เงินคืน หรือของรางวัลสุดพิเศษ หรือจะเลือกโปรโมชั่นผ่อนชำระ 0% สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ ก็ทำได้เช่นกัน เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของแฟชั่นไอเทมที่ใฝ่ฝันได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
สมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า ครอบคลุมทุกความคุ้มค่าการใช้จ่าย ด้วยการรับคะแนน KTC FOREVER สะสมได้ไม่จำกัดและไม่มีวันหมดอายุ
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC