ในขณะที่ข้าวของแพงขึ้นเรื่อยๆ แต่ค่าแรงขั้นต่ำแทบไม่ขยับ ลำพังเงินเดือนเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอต่อรายจ่าย นอกจากจะต้องประหยัดแล้ว หลายคนจำเป็นต้องหารายได้เพิ่ม หนึ่งในอาชีพเสริมยอดฮิต คือ การขายของผ่านช่องทางออนไลน์ เปลี่ยนของเก่าให้เป็นรายได้ และนี่คือ 10 แอปขายของมือสอง แอปขายของออนไลน์ ไม่ต้องลงทุน ขายง่าย ได้เงิน ที่เราอยากแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังมองหารายได้เสริม
1. ขายดี (Kaidee)
แอปขายของมือสองอันดับหนึ่งของไทย อยู่คู่คนไทยมายาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554
โดยเปิดให้บริการทั้งในรูปแบบเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน มียอดผู้ใช้งานมากกว่า 650,000 คน ต่อวัน มาพร้อมคอนเซปต์ ใครๆ ก็ซื้อง่าย ขายดี ที่ Kaidee เป็นสื่อกลางให้ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถพบปะกัน (ผ่านทางระบบแชท) เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้า ผสานความพึงพอใจที่ทั้งสองฝ่ายจะได้รับกลับไป เปิดการขายได้ง่าย ด้วยการสมัครด้วยเบอร์โทรศัพท์เพื่อยืนตัวตน จากนั้นก็ลงขายของได้เลย ทุกที่ทุกเวลา สามารถลงขายของได้ฟรีทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าใหม่ หรือขายของมือสอง
ข้อดี
- สามารถขายของได้สะดวก มีอะไรก็นำมาขายได้แทบจะทุกสิ่งอย่าง ด้วยสินค้ากว่า 200 หมวดหมู่ ครอบคลุมทุกความต้องการ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ พระเครื่อง
- แพลตฟอร์มใช้งานสะดวก เปิดการขายได้ง่าย ค้นหาง่าย หาอะไรก็เจอ ทำให้ง่ายต่อการใช้งานทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ
2. ช้อปปี้ (Shopee)
เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2558 และได้กลายเป็นแพลตฟอร์มสุดฮิตที่คนไทยใช้ในการซื้อขายทั้งสินค้าใหม่และมือสอง โดยของมือสองที่นิยมขายใน Shopee ได้แก่ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า สำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่สามารถเริ่มการขายได้โดยการสมัครสมาชิก Shopee และยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย จากนั้นเข้าไปที่ เริ่มขาย ซึ่งอยู่มุมบนซ้ายของหน้าบัญชีผู้ใช้ กดเพิ่มสินค้า และใส่รูปภาพ ชื่อสินค้า ราคา รายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน หากสินค้ามีตำหนิ ก็ควรแจ้งให้ชัดเจน จะได้ไม่โดนรีวิวคะแนนต่ำจากลูกค้า เมื่อเรียบร้อยก็กดลงขายสินค้าได้ เรียกว่าสะดวกมากๆ
ข้อดี
- ผู้ขายสามารถโปรโมตสินค้าได้ฟรีเพื่อเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น อาทิ กดโปรโมตสินค้าได้ฟรีทุก 4 ชั่วโมง ครั้งละ 5 รายการ
- ผู้ขายสามารถสร้างโปรโมชั่นคูปองโค้ดส่วนลดให้กับลูกค้าได้ โดยมีโค้ดหลากหลายรูปแบบให้เลือกสร้าง เช่น โค้ดส่วนลด 30% โค้ดส่งฟรี ทั้งยังมีมี Shopee Live ที่ให้ผู้ขายไลฟ์สดเพื่อโปรโมตสินค้าได้อีกด้วย
3. ลาซาด้า (Lazada)
มีแอปส้มก็ต้องมีแอปน้ำเงิน โดย Lazada เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2555 มีสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งสินค้าใหม่และของมือสอง รองรับการชำระเงินหลากหลายวิธี มีพันธมิตรกว่า 100 แห่งในการจัดส่งและรับคืนสินค้า ทำให้สะดวกต่อผู้ซื้อและผู้ขายเป็นอย่างยิ่ง สำหรับวิธีการตั้งขายของมือสอง ให้เข้าหน้าแอปของ Lazada จากนั้นกดไปที่ Sell on Lazada แล้วกรอกรายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วนรวมถึงหลักฐานยืนยันตัวตน เพื่อเปิดบัญชีร้านค้า จากนั้นลงขายสินค้าที่ต้องการได้เลย
ข้อดี
- เพิ่มโอกาสในการขายสินค้า เนื่องจากแอปมีฐานลูกค้าจำนวนมากและเหนียวแน่น เปิดโอกาสการมองเห็นสินค้าเท่าๆ กัน มีทีมงานคอยให้บริการอย่างครบวงจร เพื่อช่วยให้การซื้อขายเป็นไปอย่างสะดวกและราบรื่นที่สุด
- ผู้ขายสามารถสร้างโปรโมชั่นเป็นคูปองโค้ดส่วนลด เพื่อให้ลูกค้านำไปกรอกโค้ดรับส่วนลดได้ อีกทั้งยังมีโค้ดลับพิเศษสำหรับส่งให้ลูกค้าบางคนหรือจะเป็นโค้ดที่เห็นได้ทุกคน เพื่อเรียกให้ลูกค้าใหม่เข้ามาซื้อของในร้าน
4. ติ๊กตอกช็อป (TikTok Shop)
บริการ TikTok Shop นับเป็นฟีเจอร์มาแรงในแอป TikTok โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ขายของออนไลน์ ซึ่งสามารถซื้อสินค้าได้โดยตรงผ่านแอป เริ่มเป็นพ่อค่าแม่ค้าได้ง่าย หากมีบัญชีอยู่แล้วให้เปลี่ยนจากบัญชีสำหรับผู้ใช้ธรรมดาเป็นบัญชีธุรกิจ เลือกหมวดหมู่ให้ตรงกับธุรกิจ จากนั้นทำการสมัคร TikTok Shop โดยใช้บัญชีผู้ใช้นี้สมัครได้เลย ทั้งนี้ในการขายสินค้ามือสองที่นี่ต้องมีการระบุชื่อสินค้าที่ชัดเจนว่าเป็นของมือสอง เช่น [สินค้ามือสอง] กระเป๋า", "[สินค้ามือสอง] นาฬิกาข้อมือ" รวมถึงมีค่าธรรมเนียมการขายสินค้าเริ่มต้นที่ 4% และค่าธรรมเนียมคำสั่งซื้ออีก 3.21%
ข้อดี
- TikTok เป็นแอปที่มีความแข็งแกร่งเรื่องคลิปสั้น ดังนั้นการไลฟ์สดเป็นวิธีขายของใน TikTok Shop ที่สามารถสร้างยอดขายได้สูงมากในเวลาสั้นๆ หากเป็นคนคุยเก่ง คุยสนุก ย่อมมีโอกาสขายดีมีลูกค้าประจำสูง
- มีการจัดแคมเปญอยู่ตลอด ถ้าหากเข้าร่วมกับแคมเปญบ่อยๆ จะช่วยให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น และเพิ่มโอกาสขายสินค้าได้มากขึ้น รวมถึงมีฟีเจอร์ที่สามารถสร้างคูปองส่วนลดให้กับร้านค้าได้ ช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้า และเพิ่มโอกาสขายสินค้าได้มากขึ้น
5. เฟซบุ๊ก มาร์เก็ตเพลส (Facebook Marketplace)
Facebook Marketplace เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่เปิดตัวในปี พ.ศ. 2559 บนโซเชียลมีเดียสุดฮิตอย่าง Facebook โดยสามารถขายได้สินค้าใหม่และสินค้ามือสอง ที่สำคัญไม่มีค่าธรรมเนียม และเนื่องจากมีผู้ใช้ FB จำนวนมาก ทำให้มีโอกาสขายสินค้าได้เร็วขึ้นอีกด้วย สำหรับวิธีการตั้งขายของมือสอง เริ่มจากเข้าไปแอป Facebook จากนั้นค้นหาปุ่ม Marketplace คลิก สร้างรายการสินค้าใหม่ จากนั้นคลิก สินค้าที่จะขาย เพิ่มรูปภาพ กรอกข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า แล้วกดเผยแพร่ เป็นอันเรียบร้อย สามารถขายสินค้าเองง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีเพจร้านค้า
ข้อดี
- Facebook มีการพัฒนาระบบ AI ที่ช่วยทำให้การขายของบน Facebook เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น คือ AI จะนำสินค้าของเราไปแสดงให้กับผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าทันทีที่เราโพสต์ขายลงใน Facebook Marketplace
- พูดคุยแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้ากันได้อย่างอิสระ โดยผู้ขายและผู้ซื้อสามารถพูดคุยกันแบบตัวต่อตัว สามารถต่อรองราคากันได้ภายหลัง เพื่อให้ได้ราคาที่น่าพอใจที่สุดนั่นเอง
6. อินสตาแกรม (Instagram)
Instagram คืออีกหนึ่งโซเชียลมีเดียที่คนส่วนใหญ่มีในมือถือ จึงเป็นช่องทางขายของมือสองออนไลน์ที่น่าสนใจมากสำหรับพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ จะโพสต์ขายในไอจีส่วนตัว ไอจีสตอรี่ หรือสร้างไอจีร้านเพื่อขายของมือสองโดยเฉพาะก็ทำได้ง่าย โดยเข้าไปที่ การตั้งค่าฯ เลือก ประเภทบัญชีและเครื่องมือ ไปที่ เปลี่ยนไปใช้บัญชีมืออาชีพ แล้วเลือกหมวดหมู่ที่ตรงกับธุรกิจของเรา จากนั้นก็ใส่ข้อมูลต่างๆ ของร้านค้าในไอจี แล้วมาโพสต์ขายของได้เลย ทั้งนี้อย่าลืมติด Hashtag (#) ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ขาย เพื่อจัดหมวดหมู่และกระจายรูปสินค้าของเราไปยังกลุ่มเป้าหมาย
ข้อดี
- Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่โดดเด่นในเรื่องของภาพและวิดีโอ ผู้ขายสามารถดึงดูดลูกค้าได้ผ่านการครีเอทภาพและวิดีโอที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังมีฟีเจอร์ต่างๆ ให้เลือกใช้มากมาย เช่น การลงรูป ลงสตอรี่ Reel รวมถึงการโฆษณา และการใช้บัญชีธุรกิจโดยเฉพาะ สามารถโปรโมตสินค้าผ่านทางไอจีสตอรี่หรือการไลฟ์สดเพื่อให้ลูกค้าเห็นสินค้าแบบเรียลไทม์
- สามารถติดต่อซื้อขายผ่านคอมเมนต์ได้โดยตรง จึงสะดวกทั้งกับผู้ขายและผู้ซื้อ
7. พันทิปมาร์เก็ต (Pantipmarket)
รู้จักกันดีในฐานะเว็บสื่อสังคมออนไลน์ของไทยที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อวัน โดย Pantip ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2539 และเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายมากขึ้นจึงได้เปิดตัวแอปใหม่ Pantipmarket ในปี พ.ศ. 2560 สำหรับผู้ที่ต้องการลงขายสินค้าหรือบริการต่างๆ ในส่วนของวิธีการตั้งขายของมือสองนั้นเริ่มจากยืนยันตัวตนโดยใช้ภาพถ่ายตนเองคู่กับบัตรประชาชน และไฟล์สแกนรูปบัตรประชาชน แล้วอัปโหลดเข้าสู่ระบบ จากนั้นกรอกข้อมูลต่างๆ ให้ครบถ้วน หากส่งเอกสารสำเร็จแล้วจะต้องรออนุมัติประมาณ 3 วันทำการ จากนั้นก็โพสต์ขายของได้เลย
ข้อดี
- ลงขายของได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
- มีสินค้าหลากหลายประเภท เช่น อสังหาริมทรัพย์ ยานพาหนะ แฟชั่นและความงาม สัตว์เลี้ยง (รวมถึงบริการ เช่น กราฟิกดีไซน์ งานช่าง ดูดวง) มีการจัดเป็นหมวดหมู่ ทำให้สามารถค้นหาได้ง่าย ทั้งยังสามารถค้นหาได้โดยดูสินค้าตามจังหวัดหรือประเทศ
8. กระปุกมาร์เก็ต (Kapook Market)
อีกหนึ่งแอปขายของมือสองยอดนิยม มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ซื้อง่าย ขายคล่อง ของเพียบ ลงประกาศขายกันฟรี ๆ หาซื้อสินค้าโดนใจได้ที่ Kapook Market สำหรับวิธีสมัคร สามารถทำได้ง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอน 1. สมัครสมาชิก Kapook โดย Kapook Market จะ Login ด้วยสมาชิก Kapook.com 2. โพสต์ขายสินค้า ฝากร้าน ใส่ข้อมูลให้ชัดเจน รูปภาพสวยๆ 3. จะได้รับ URL ของร้าน สำหรับส่งต่อให้ลูกค้า และโปรโมทใน Kapook.com นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นสำหรับผู้สมัครสมาชิก เช่น ลุ้นรับสิทธิ์การสนับสนุนสื่อโฆษณาย่อย (แบบ Classified Ad) ในเว็บไซต์ Kapook ด้วย
ข้อดี
- ลงขายของได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
- มีการจัดหมวดหมู่ให้เข้าถึงได้ง่าย เพื่อโปรโมตสินค้าบนเว็บไซต์ Kapook.com ที่มีผู้เข้าชมถึง 150 ล้านครั้งต่อเดือนจากผู้เข้าชมกว่า 25-30 ล้านราย แอบใช้งานไม่ยาก ข้อมูลสินค้าก็หาดูได้ง่าย จึงเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้เป็นอย่างดี
9. อีเบย์ (eBay)
แอปซื้อขายของออนไลน์ระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2538 โดย eBay เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งานสามารถซื้อขายสินค้าทั้งของใหม่และของมือสอง รองรับการขายสินค้าทุกประเภท เช่น เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ ของสะสม แต่ผู้ขายต้องเสียค่าธรรมเนียมในการลงขายสินค้าและค่าธรรมเนียมการขายเพิ่มเติม สำหรับวิธีการตั้งขายของมือสองนั้น หลังจากลงทะเบียนบัญชีเพื่อการค้าใน eBay เรียบร้อยแล้ว ให้กดที่ Sell จากนั้นให้จัดหมวดหมู่ของสินค้าและใส่รายละเอียดให้ถูกต้องและครบถ้วน ตั้งราคาสินค้าและการจัดส่ง เพียงเท่านี้ก็สามารถขายสินค้าได้แล้ว
ข้อดี
- เป็นแพลตฟอร์ม Worldwide มีผู้ซื้อจำนวนมากจากทั่วโลก โดย eBay มีให้บริการใน 180 ประเทศ และมีผู้ใช้งานมากกว่า 138 ล้านคนทั่วโลก จึงช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการขายสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- มีฟังก์ชันการใช้งานที่รองรับความต้องการผู้ขายแบบครบวงจร อาทิ ระบบรับชำระเงิน การวิเคราะห์ Business Performance ระบบการประมูลเพื่อให้มีโอกาสขายสินค้าได้ราคาสูงขึ้น
10. เอ็นโซ่ (ENNXO)
แอปขายของออนไลน์น้องใหม่มาแรง เปิดให้บริการการซื้อขายสินค้าใหม่ และแอปขายของมือสอง มีสินค้าหลากหลาย กว่า 30 หมวดหมู่ เช่น รถยนต์ ที่ดิน วัตถุมงคล ของสะสม อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่ให้คนซื้อ และคนขายขายของกันได้โดยตรงแบบไม่มีคนกลางซึ่งช่วยสร้างโอกาสในการซื้อขายและการทำธุรกิจขนาดเล็กและใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบาย สำหรับผู้ที่อยากลงขายของใน ENNXO ต้องสมัครสมาชิกก่อน โดยใช้อีเมลหรือเชื่อมต่อบัญชีใน Facebook ก็ได้ แล้วทำการกรอกข้อมูลต่างๆ รวมถึงยืนยันตัวตน เมื่อเรียบร้อยก็เริ่มขายของได้เลย
ข้อดี
- ลงขายของได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และมีระบบดันประกาศแบบฟรีให้ใช้ได้ 20 ครั้งต่อวัน
- มีฟังก์ชันและฟีเจอร์เจ๋งๆ ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งาน เช่น ตัวกรอง ช่วยให้ลูกค้าหาสินค้าได้ง่าย, ระบบดันประกาศ สำหรับผู้ที่ต้องการให้สินค้าที่ลงประกาศขายนั้นให้อยู่อันดับต้นๆ เพื่อเพิ่มการมองเห็นของลูกค้า, ระบบแชทโดยตรง ทำให้สามารถสื่อการกับผู้สนใจซื้อได้ทันที และระบบแจ้งเตือนเมื่อมีผู้ซื้อทักมา
อย่างไรก็ตาม ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ไม่แนะนำให้ซื้อของมือสองมาขาย ควรเริ่มจากการขายของเก่า ของที่เราไม่ได้ใช้แล้ว โดยเลือกใช้ช่องทางที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากทำออกมาได้ดีจึงค่อยๆ ขยับขยายซื้อสินค้ามาขายเพิ่มรายได้ให้กับตัวเอง
สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC ต้องการใช้จ่าย แนะนำให้จ่ายด้วยบัตรเครดิต KTC เพราะคุ้มค่ากว่าและมีสิทธิประโยชน์ที่หลากหลาย เช่น ซื้อสินค้าอัตราดอกเบี้ยพิเศษผ่อน 0%, อีกทั้งการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC ทุก 25 บาท รับ 1 คะแนน KTC FOREVER
สามารถนำคะแนนไปแลกรับส่วนลด และสิทธิพิเศษมากมาย ซึ่งคะแนนไม่มีวันหมดอายุ เป็นต้น ใครยังไม่มีบัตรเครดิต KTC สามารถสมัครบัตรเครดิตออนไลน์ได้เลย สมัครง่าย อาชีพไหนก็ใช้ได้ ทุกการใช้จ่ายเงินที่มีความฉุกเฉิน มีบัตรเครดิต KTC ไว้ช่วยได้
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC