10 เทศกาลท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ห้ามพลาดในแต่ละเดือนตลอด 12 เดือน

นาทีนี้ถ้าไม่พูดถึงประเทศญี่ปุ่นคงจะไม่ได้ เพราะเป็นแลนด์มาร์คสถานที่เที่ยว และเป็นประเทศที่มีเทศกาลท่องเที่ยวสำหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบศิลปะวัฒนธรรมอันมีเรื่องราวน่าหลงใหล ประกอบกับบรรยากาศ และสภาพอากาศที่มีทั้ง 4 ฤดูกาลให้ได้สัมผัสอย่างหลากหลายตลอดทั้งปี เทศกาลญี่ปุ่นแต่ละเดือนจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย

1. เดือนมกราคม : เทศกาลคบเพลิงโนซาวะ (Nozawa Onsen Fire Festival)

1 ใน 3 เทศกาลไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เป็นเทศกาลญี่ปุ่นโบราณมีอายุตั้งแต่ช่วงปี 1800 โดยจะมีการสร้างศาลเจ้าชั่วคราวที่เรียกกันว่า “ชาเด็น” พร้อมกับกลุ่มชายหนุ่มที่มีอายุ 25 และ 42 ปี ซึ่งถือว่าเป็นช่วงอายุเบญจเพส เมื่อเริ่มงานเทศกาลชาวบ้านจะถือคบเพลิงเพื่อไปเผาศาลเจ้าชั่วคราว โดยชายหนุ่มอายุ 25 ปีจะต้องคอยปกป้องศาลเจ้า ส่วนชายหนุ่มอายุ 42 ปีจะร้องเพลง และตะโกนไปด้วย ถึงแม้ว่าลักษณะของเทศกาลนี้จะดูเป็นการทำลายสิ่งของ แต่งานนี้จัดขึ้นเพื่อยกย่องเทพเจ้าโดโซจิน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้าที่จะช่วยขับไล่วิญญาณร้าย โชคร้ายต่างๆ และอวยพรให้มีชีวิตแต่งงานที่มีความสุขด้วยเช่นกัน

• ชื่อเทศกาล : เทศกาลคบเพลิงโนซาวะ
• วันที่จัดเทศกาล : วันที่ 15 มกราคมของทุกปี
• ที่อยู่ : Toyosato, Nozawaonsen, Shimotakai District, Nagano 389-2502(https://maps.app.goo.gl/RJij26mrw8x9VKLy5)
• วิธีเดินทาง : ขึ้นโฮคุริคุชินคันเซนจากสถานีโตเกียว ไปยังอียามะ แล้วต่อรถบัส ไปยังโนซาวะอนเซ็น

2. เดือนกุมภาพันธ์ : เทศกาลปาถั่ว (Setsubun Festival)

เทศกาลโบราณที่เกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล โดยเทศกาลปาถั่วเซ็ทสึบุน มีมาตั้งแต่สมัยมุโระมะจิ ซึ่งเชื่อกันว่าได้รับอิทธิพลจากเทศกาลไล่ยักษ์เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายของจีน เซ็ทสึบุนเป็นงานประเพณีที่จัดขึ้นทั่วญี่ปุ่นในช่วงสิ้นสุดฤดูหนาว โดยจะมีกลุ่มคนที่ใส่หน้ากากหรือสวมเครื่องแต่งกายเป็นยักษ์และจะมีการปาถั่ว (มาเมมากิ) ใส่ “ยักษ์” เพื่อขับไล่ปีศาจ และเรียกโชคลาภเข้ามานั่นเอง

• ชื่อเทศกาล : เทศกาลปาถั่ว (เซ็ทสึบุน)
• วันที่จัดเทศกาล : ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์
• ที่อยู่ : ตามวัดและศาลเจ้าต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น

3. เดือนมีนาคม : เทศกาลวันเด็กผู้หญิง (Hina Matsuri Festival)

ในวันที่ 3 มีนาคมของทุกปี ชาวญี่ปุ่นจะประดับบ้านเรือนด้วยดอกท้อ ซึ่งเชื่อว่าสามารถขับไล่สิ่งชั่วร้าย พร้อมกับการประดับตุ๊กตาที่เรียกว่า “ฮินะนินเงียว” ตุ๊กตาคู่ชายหญิงที่จำลองพิธีสมรสของราชวงศ์จักรพรรดิ ซึ่งเชื่อว่าการประดับตุ๊กตาเป็นการอธิษฐานขอพรให้มีความสุข มีสุขภาพดี และขอให้ลูกสาวมีคู่ครองที่ดีเฉกเช่นงานพิธีของราชวงศ์ ซึ่งเป็นงานเทศกาลที่เฉลิมฉลองทั่วญี่ปุ่น จะมีการจัดโชว์การประดับตุ๊กตาที่สวยงามตามสถานที่สำคัญของแต่ละจังหวัด

• ชื่อเทศกาล : เทศกาลวันเด็กผู้หญิง (ฮินะมัตสึริ)
• วันที่จัดเทศกาล : วันที่ 3 มีนาคมของทุกปี
• ที่อยู่ : ตามบ้าน และสถานที่สำคัญของแต่ละจังหวัด

4. เดือนเมษายน : เทศกาลชมดอกซากุระ (Hanami Festival)

เทศกาลชมดอกซากุระ หรือเทศกาลฮานามิ คำว่า ฮานะ (花) แปลว่าดอกไม้ ส่วน มิ (見) แปลว่าดู ฮานามิจึงแปลตรงตัวว่าเทศกาลชมดอกไม้ ซึ่งจะหมายถึงเทศกาลชมซากุระโดยเฉพาะ เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น หรือก็คือในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี เป็นช่วงที่ดอกซากุระบาน โดยจะกินระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ชาวญี่ปุ่นส่วนมากจะนิยมทำข้าวกล่อง มานั่งปิกนิก กับกลุ่มเพื่อน คู่รัก และครอบครัว ตามที่เที่ยวอย่างสวนสาธารณะ ปราสาท ไปจนถึงสถานที่ใกล้บ้าน ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ชาวไทย และต่างชาติจำนวนมากนิยมเดินทางไปชมความสวยงามของดอกซากุระ ที่พร้อมใจกันบานสระพรั่ง ทำให้เป็นหนึ่งในช่วง High Season ของการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเลยทีเดียว

• ชื่อเทศกาล : เทศกาลชมดอกซากุระ (เทศกาลฮานามิ)
• วันที่จัดเทศกาล : เดือนเมษายนของทุกปี
• ที่อยู่ : สวนสาธารณะ ปราสาท และสถานที่สำคัญของแต่ละพื้นที่

5. เดือนมิถุนายน : เทศกาลโยซาโกอิโซรัน (Yosakoi Festival)

ขาแดนซ์ต้องไม่พลาดกับเทศกาลยิ่งใหญ่ของซัปโปโรช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นเทศกาลการแข่งเต้นสุดยิ่งใหญ่ และได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 10 เทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เป็นงานที่นำนารูโกะ (Naruko) เครื่องดนตรีพื้นเมืองทำมาจากไม้ มาผสมผสานกับโซรันบุชิ (Soran Bushi) เพลงพื้นบ้านที่ชาวประมงมักร้องเวลาออกเรือหาปลา เพื่อสร้างความฮึกเหิม ผสานกับลักษณะการเต้นแบบสมัยใหม่เข้าไป เป็นเทศกาลญี่ปุ่นที่มีผู้เข้าชมในแต่ละปีมากกว่า 2 ล้านคน ซึ่งเวทีหลักจะอยู่ที่สวนโอโดริ ส่วนที่จัดงานอื่นๆ มีด้วยกัน 15 จุด กระจายอยู่ตามย่านการค้า และถนนสายหลัก ละแวกเดียวกับสวนโอโดริ สร้างความสนุกสนาน ครึกครื้นไปทั่วพื้นที่สำคัญของซัปโปโร ถือเป็นเทศกาลญี่ปุ่นสุดเด็ดที่น่าสนใจไม่น้อย

• ชื่อเทศกาล : เทศกาลโยซาโกอิโซรัน
• วันที่จัดเทศกาล : ต้น-กลางเดือนมิถุนายน
• ที่อยู่ : Odori Park, Sapporo, Chuo Ward, Odorinishi, Hokkaido 060-0042(https://maps.app.goo.gl/SCrr6tETYJQAE3jYA)
• วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Namboku Line, Tozai Line หรือ Toho Line ลงสถานี Odori

6. เดือนกรกฎาคม : เทศกาลกิอง (Gion Festival)

1 ใน 3 งานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น กับงานเทศกาลกิอง แห่งเมืองเกียวโต เทศกาลที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ มีความเกี่ยวข้องกับศาลเจ้ากิอง หรือศาลเจ้ายาซากะ ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตของเทพซุซะโนะโอะ (Susanoo-no-Mikoto) เทพเจ้าแห่งลมพายุ และผู้ปกครองปีศาจ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวเกียวโต มีระยะเวลาในการจัดงานตลอดทั้งเดือนกรกฎาคม ทำให้เป็นเทศกาลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยขบวนแห่รถลากยามาโฮโกะที่เป็นตัวแทนจาก 66 จังหวัดของญี่ปุ่น ออกแบบตกแต่งตามเรื่องราวประเพณีโบราณ บอกเล่าตำนานของประเทศญี่ปุ่น เต็มไปด้วยเรื่องราวของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน ใครมีแพลนไปเที่ยวญี่ปุ่นเดือนกรกฎาคมไม่ควรพลาด

• ชื่อเทศกาล : เทศกาลกิอง
• วันที่จัดเทศกาล : ตลอดเดือนกรกฎาคม
• ที่อยู่ : 625 Gionmachi Kitagawa, Higashiyama Ward, Kyoto, 605-0073, Japan(https://maps.app.goo.gl/NG4Zi6PNE5vxNhdTA)
• วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keihan Main Line สถานี Gion-Shijo (เดินประมาณ 5 นาที) หรือ นั่งรถไฟสาย Hunkyu Kyoto Line สถานี Kyoto-Kawaramachi (เดินประมาณ 8 นาที)

7. เดือนสิงหาคม : เทศกาลอาโอะโมริเนบุตะ (Aomori Prefecture Nebuta Festival)

เทศกาลที่มีขบวนแห่โคมไฟเนบุตะขนาดใหญ่ที่สร้างเป็นรูปบุคคลและสิ่งมีชีวิตในประวัติศาสตร์ และตำนานของญี่ปุ่น หรือก็คือเทศกาลอาโอโมริเนบุตะ เป็นเทศกาลแบบโบราณดั้งเดิมของจังหวัดอาโอโมริ (Aomori) โคมไฟที่ชนะรางวัลประจำปีของงานเทศกาลจะถูกนำมาบรรทุกลงเรือและแห่ไปรอบๆ อ่าวอาโอโมริเพื่อปลอบประโลมดวงวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับ และภาวนาขอให้คนในครอบครัวห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เต็มไปด้วยความสวยงามและเอกลักษณ์อันแสนมีเสน่ห์ที่น่าลองไปสัมผัสสักครั้ง

• ชื่อเทศกาล : เทศกาลอาโอะโมริเนบุตะ
• วันที่จัดเทศกาล : วันที่ 2-7 สิงหาคมของทุกปี
• ที่อยู่ : 1 Chome Central, Aomori, 030-0822, Japan(https://maps.app.goo.gl/oMzeHfwDjQ1RhA9h6)
• วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Aomori ทางออกทิศตะวันออก (East Exit) จากสถานีรถไฟอาโอโมริ (Aomori)

8. กันยายน : เทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีอุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง (Mountain Festival, Daisetsuzan)

ฤดูกาลแห่งใบไม้เปลี่ยนสีของที่ประเทศญี่ปุ่นนับได้ว่าเป็นฤดูกาลที่น่าตื่นตาตื่นใจชวนให้น่าหลงใหลอยู่เสมอ สำหรับจุดเริ่มต้นในการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไม่ควรพลาดต้องเป็นที่อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดแห่งเกาะฮอกไกโด หรือ “อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง” นั่นเอง ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 2,267 ตารางกิโลเมตร ทำให้อุทยานแห่งนี้ประกอบไปด้วยเทือกเขา พืชพันธุ์ สัตว์ป่านานาชนิด รวมถึงเส้นทางเดินป่า และน้ำพุร้อน ซึ่งอุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซังนี้จะเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับนักเดินทางท่องเที่ยวสายธรรมชาติ หรือผู้ที่ต้องการสัมผัสช่วงเวลาในการชมใบไม้เปลี่ยนสีก่อนที่จะร่วงโรยเข้าสู่ฤดูหนาวเป็นที่แรกๆ ของทุกปี

• ชื่อเทศกาล : เทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีอุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง
• วันที่จัดเทศกาล : กลางเดือนกันยายนของทุกปี
• ที่อยู่ : Sounkyo, Kamikawa, Kamikawa District, Hokkaido 078-1701, Japan(https://maps.app.goo.gl/j3JTiVEuftg7zicW9)
• วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟ JR ไปลงสถานี Asahikawa แล้วต่อรถบัสไปยังสถานี Ropeway

9. เดือนพฤศจิกายน : เทศการชมใบแปะก๊วย สวนเมจิ จิงกุ ไกเอ็น (Jingu Gaien Ginkgo Festival)

เทศกาลท่องเที่ยวสุดฮิตแห่งกรุงโตเกียว หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น เทศกาลชมต้นแปะก๊วยเปลี่ยนสี (Jingu Gaien Ginkgo Festival) บริเวณสวนเมจิ จิงกุ ไกเอ็น ซึ่งมักจะจัดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน ระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ภายในสถานที่จัดงานจะประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านขนม การแสดงพื้นบ้าน และกิจกรรมต่างๆ สไตล์ท้องถิ่น ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศความสวยงามของธรรมชาติ พร้อมกับกลิ่นอายของวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม

• ชื่อเทศกาล : เทศการชมใบแปะก๊วย สวนเมจิ จินกุ ไกเอ็น
• วันที่จัดเทศกาล : กลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
• ที่อยู่ : 1-1 Kasumigaokamachi, Shinjuku City, Tokyo 160-0013, Japan
• (https://maps.app.goo.gl/8X8QAWYhzSsLpxPe9)
• วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Ginza ลงสถานี Gaien-mae ทางออก 4A (เดินประมาณ 3 นาที)หรือ นั่งรถไฟใต้ดินสาย Hanzomon, Ginza หรือรถไฟ Toei สาย Oedo ลงสถานี Aoyama-itchome ทางออกหมายเลข 1 (เดินประมาณ 5 นาที)

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.japan-guide.com/e/e6552.html

10. เดือนธันวาคม : เทศกาลชิชิบุโยมัตสึริ (Chichibu Night Festival)

เทศกาลเก่าแก่โบราณของประเทศญี่ปุ่น ที่มีประวัติยาวนานกว่า 300 ปี ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองจิจิบุ จังหวัดไซตามะ เป็นเทศกาลที่มีรถแห่ขนาดใหญ่ ประดับประดาไปด้วยโคมไฟ พร้อมการแสดงร่ายรำบนรถเปรียบเสมือนเวทีการแสดงเคลื่อนที่ ที่มีน้ำหนักถึง 20 ตันของตำบลต่างๆ มารวมตัวกัน ในช่วงท้ายของงานเทศกาลก็จะมีการจุดดอกไม้ไฟเพื่อทำการปิดฉากเทศกาลอย่างยิ่งใหญ่ นับได้ว่าเป็นเทศกาลประจำฤดูหนาวที่คึกคัก และเต็มไปด้วยแสง สี อันน่าตื่นตาตื่นใจ

• ชื่อเทศกาล : เทศกาลชิชิบุโยมัตสึริ
• วันที่จัดเทศกาล : ต้นเดือนธันวาคมของทุกปี
• ที่อยู่ : Chichibu Shrine, 1-3 Banbamachi, Chichibu, Saitama 368-0041, Japan (https://maps.app.goo.gl/UG4QpFCKyJW7FHPG8)
• วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Chichibu ลงสถานี Chichibu หรือสถานี Ohanabatake หรือนั่งรถไฟสาย Seibu ลงสถานี Seibu Chichibu

ญี่ปุ่นนั้นเต็มไปด้วยสุดยอดเทศกาลหลากหลาย แถมมีให้ได้ไปสัมผัสกันทุกเดือน ยิ่งใครมีบัตรเครดิต KTC รับรองว่าการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ต้องคุ้มแน่นอน เพราะจัดเต็มเรื่องโปรโมชั่น KTC Fly FOREVER แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อจองตั๋วเครื่องบินตรงกับเว็บไซต์สายการบิน ตอบโจทย์ครบทุกเรื่องเที่ยว เปลี่ยนทริปญี่ปุ่นธรรมดาให้คุ้มค่า และประทับใจกว่าที่เคย ด้วยโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินเฉพาะสมาชิกบัตรเครดิต KTC กับสายการบินยอดนิยม อาทิ AirAsia, ANA, Thai Airways เป็นต้น

ทุกทริปเที่ยว คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC