Budapest, Hungary บูดาเปสต์ (Budapest) นครหลวงแสนสวยของประเทศฮังการี

2. ปราสาทเขาวงกตบูดา (Labyrinth of Buda Castle)

แหล่งน้ำพุร้อนใต้ดินที่เป็นเอกลักษณ์ของบูดาเปสต์ได้กัดเซาะชั้นหินจนกลายเป็นโพรงถ้ำใต้ดินมีความยาวหลายร้อยไมล์ตามวันเวลาที่ผันผ่าน ซึ่งปราสาทเขาวงกตก็เป็นหนึ่งในบรรดาถ้ำดังกล่าว ที่นี่ถูกค้นพบและใช้ครั้งแรกเมื่อหลายร้อยหลายพันปีก่อนโดยมนุษย์ยุคแรกๆ ต่อมาพวกเติร์กได้ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของโพรงใต้ดินเหล่านี้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหาร และในปี 1930 ถ้ำนี้ถูกพัฒนาเป็นที่กำบังสำหรับหลบภัยการโจมตีและทิ้งระเบิดช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปัจจุบันเปิด บริการให้เข้าชมเส้นทางเขาวงกต รวมถึง พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ และภาพวาดตามถ้ำต่างๆ  

3. น้ำพุร้อนและโรงอาบน้ำ

น้ำพุร้อนในบูดาเปสต์มีชื่อเสียงมายาวนานเกี่ยวกับคุณสมบัติด้านการบำบัดรักษาโรคต่างๆ และเมืองแห่งสปานี้มีห้องอาบน้ำร้อนจำนวนมากที่ลงทุนสร้างไว้เหนือแหล่งน้ำพุร้อน โรงอาบน้ำซีซ่ามีอายุย้อนไปถึงคริสตศตวรรษที่ 15 ภายในมีห้องอาบน้ำแบบโบราณของตุรกีและสระว่ายน้ำทันสมัย สปาและโรงอาบน้ำที่มีชื่อเสียงอื่นๆ รวมถึง โรงอาบน้ำ Lukacs (Lukacs Bath) โรงอาบน้ำ Rac (Rac Bath) และโรงอาบน้ำขนาดใหญ่อย่าง Szechenyi Bath ซึ่งเป็นโรงอาบน้ำแบบครบวงจรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป น้ำพุร้อนของที่นี่มีอุณหภูมิอุ่นตลอดทั้งปี และผู้มาใช้บริการสามารถออกไปว่ายน้ำเล่นในสระน้ำแร่กลางแจ้งได้แม้ในช่วงที่มีอากาศหนาวเหน็บของฤดูหนาว 

4. ป้อมชาวประมง (Fisherman’s Bastion)

แม้จะดูเก่าแก่แต่ความจริงแล้วป้อมชาวประมง (Fisherman Bastion) ในสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1905 ป้อมปราการแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญของเหล่าชาวประมงฮังกาเรียนที่เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องบ้านเมืองหลังกำแพงที่ทอดยาวนี้ ภายในป้อมปราการมีหอสังเกตการณ์เจ็ดแห่งซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนชนเผ่าแม็กยาร์ทั้งเจ็ดกลุ่มที่ตั้งถิ่นฐานบริเวณที่ราบเทือกเขาคาร์เพเธียนช่วงศตวรรษที่ 9 ป้อมชาวประมงตั้งอยู่ใกล้โบสถ์แมทเทียส (Matthias Church) บนป้อมชาวประมงนับเป็นจุดชมวิวรอบเมืองบูดาเปสต์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง 

5. Gellert Hill

เป็นเนินเขาที่ตั้งตระหง่านเหนือแม่น้ำดานูบ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นนครบูดาเปสต์ทั้งสองฝั่งได้เกือบทั้งเมืองเลยทีเดียว บน Gellert Hill บนยอดเนินขามีอนุสาวรีย์เสรีภาพ ซิตาเดลล่า (Citadella) เทพีเสรีภาพของฮังการีซึ่งสร้างขึ้นในคริสตทศวรรษ 1840 เป็นรูปปั้นผู้หญิงขนาดใหญ่ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองหลวงของประเทศฮังการี อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพนี้สร้างขึ้นเพื่อแสดงความเป็นเอกราชของประเทศฮังการี หลังจากการปลดปล่อยภายใต้การปกครองของนาซี  

6. สะพานเชน (Chain bridge)

สะพานแขวนแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สำคัญที่สุดของนครบูดาเปสต์ โดยสะพานที่งดงามนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ทอดตัวข้ามแม่น้ำดานูบ และยังเป็นสะพานแห่งแรกที่เชื่อมระหว่างฝั่งบูดาและฝั่งเปสต์ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่เมืองทั้งสองเมืองนี้ยังแบ่งเป็นสองเมือง ถูกทหารนาซีถล่มในช่วงใกล้จบสงคราม โลกครั้งที่2 และถูกซ่อมแซมขึ้นใหม่ให้คงลักษณะเดิม Chain Bride มีชื่อในภาษาฮังการีว่า Széchenyi lánchíd ซึ่งตั้งตามชื่อของท่านเคาท์ Széchenyi ผู้ริเริ่มในการก่อสร้างสะพานแห่งนี้ 

7. เกาะมาร์กาเรตในบูดาเปสต์ (Margaret Island)

เกาะกลางแม่น้ำดานูบที่มีขนาด 1.5 ไมล์นี้ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างฝั่งเปสต์และบูดา เดิมทีเกาะมาร์กาเร็ต (Margaret Island) ถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนา จนกระทั่งถูกเปลี่ยนเป็นฮาเร็มของชาวออตโตมันหลังการยึดครองของกลุ่มผู้รุกรานชาวเติร์ก ช่วงคริสตทศวรรษ 1800 เกาะมาร์กาเร็ตถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่สวนสาธารณะและเปิดให้คนทั่วไปเข้าใช้ได้นับแต่นั้นมา บนเกาะมีโรงแรมให้บริการจำนวนสองแห่งและเป็นพื้นที่ปลอดรถยนต์ เนื่องจากมีพื้นที่แยกเด็ดขาดจากผืนแผ่นดิน การสัญจรหลักบนเกาะแห่งนี้ได้แก่ รถจักรยาน รถม้าลากจูง และการเดิน  

ฝั่งเปสต์

1. โบสถ์เซนต์สตีเฟน (St. Stephen’s Basilica)

โบสถ์เซนต์สตีเฟน ตั้งเด่นเป็นสง่าบนพื้นที่เขตเมืองเปสต์และสร้างเสร็จสมบูรณ์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ลักษณะโครงสร้างของโบสถ์เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค ตรงกลางเป็นโดมที่สวยงามขนาบด้วยหอระฆังที่มีความใหญ่โตทั้งสองด้าน โดยหอระฆังด้านหนึ่งบรรจุระฆังขนาดใหญ่ที่สุดในฮังการีน้ำหนักเก้าตัน ภายในโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ (Holy Right Chapel) เป็นที่เก็บรักษาพระหัตถ์ด้านขวาของกษัตริย์สตีเฟนซึ่งยังคงมีสภาพที่สมบูรณ์ทุกประการ หากอยากชมวิวของเมืองบูดาเปสต์แบบโดยรอบ ลองปีนบันได 146 ขั้น (หรือใช้บริการลิฟต์) ขึ้นไปบนจุดสูงสุดของยอดโดมเพื่อชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามแบบ 360 องศา  

2. โบสถ์ยิว (Great Synagogue)

โบสถ์ยิวแห่งนี้เป็นโบสถ์ยิวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยมีขนาดความยาววัดได้ 246 ฟุตและกว้าง 88 ฟุต สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบมัวร์ ภายในโบสถ์ยิวสามารถเยี่ยมชมวิหารของวีรบุรุษ (สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 – Heroes’s Temple) สุสานชาวยิว และพิพิธภัณฑ์ชาวยิวจัดแสดงสำหรับผู้ที่สนใจ 

3. ถนน Andrassy (Andrassy Avenue)

ถนนสายนี้นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของบูดาเปสต์เชื่อมต่อระหว่าจัตุรัสอลิซาเบธ (Elizabeth Square) และซิตี้พาร์ค ถนนที่มีความสวยงามสายนี้เหมาะในการเดินเที่ยวชมสำรวจ เนื่องจากตลอดเส้นทางมีพิพิธภัณฑ์ต่างๆ อนุสาวรีย์ และสถานที่ทางประวัติศาสตร์หลายแห่งให้เที่ยวชมอย่างเพลิดเพลิน 

4. อาคารรัฐสภาฮังการี (Hungary Parliament)

อาคารรัฐสภาฮังการี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอันตระการที่ไม่ควรพลาดมาเที่ยวชม ถือว่าป็นสัญลักษณ์ของฮังการี อาคารรัฐสภาตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำดานูบบนฝั่งเปสต์ เป็นอาคารรัฐสภาที่ชาวฮังกาเรี่ยนภูมิใจว่าเป็นอาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก เพราะตัวอาคารมีความสวยงามด้วยสภาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคที่ดูคลาสสิคด้วย หลังคาสีแดง อาคารรัฐสภาแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1885 และใช้เวลากว่า 20 ปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ 

5. จตุรัสแห่งวีรบุรุษ (Heroes Square)

จตุรัสแห่งวีรบุรุษ (Heroes Square) เป็นสถานที่แห่งนี้เป็นลานโล่งกว้างขนาดใหญ่ ที่มีอนุสาวรีย์แห่งสหัสวรรษ (Millennium Memorial) ตั้งอยู่กลางลาน สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการก่อตั้งอาณาจักรฮังการีครบรอบหนึ่งพันปี เสาสูงตระหง่าน เป็นที่ตั้งของ รูปหล่อเทวทูตกาเบรียล เป็นสัญลักษณ์ของคริสตจักรโรมันคาทอลิก รอบเสาสูงเป็นที่ตั้งของรูปหล่อผู้นำของชนเผ่าทั้ง 7 ที่ร่วมกันก่อตั้งอาณาจักรฮังการีขึ้นเมื่อคริสตศวรรษที่ 9 นอกจากนี้ยังมีเสาระเบียงโดยรอบที่ประดับประดาไปด้วยรูปหล่อของบุคคลสำคัญของฮังการี 

6. พิพิธภัณฑ์ House of Terror

อนุสรณ์สถานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์อาชญากรรมและความโหดร้ายของพวกฟาสซิสต์ในช่วงศตวรรษที่ 20 นิทรรศการที่จัดแสดงส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมที่กระทำโดยโจเซฟ สตาลิน รวมถึงบันทึกเหตุการณ์ความโหดร้ายของกลุ่มฟาสซิสต์ฮังการีในช่วงต้นๆ บริเวณลานกว้างของพิพิธภัณฑ์ ประดับด้วยรถถังขนาด ใหญ่ที่จอดนิ่งสงบรอต้อนรับแขกผู้แวะมาเยี่ยมเยียน ภายในพิพิธภัณฑ์มีห้องที่จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ มากมายหลายห้อง ท่ามกลางรูปภาพของบุคคลต่างๆ ที่แสดงอยู่ ณ ที่นี้มีทั้งผู้ตกเป็นเหยื่อจากการกระทำที่โหดร้าย รวมถึงภาพเหมือนของผู้ที่เป็นต้นเหตุการก่ออาชญากรรมซึ่งหลายคนยังเป็นที่กล่าวขวัญอยู่จนถึงทุกวันนี้  

7. โรงละครโอเปร่าเฮ้าส์ (Opera house)

ตั้งอยู่ที่กรุงบูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศ เป็นโรงละครที่สร้างขึ้นในยุคฟื้นฟูเรเนซองส์ (Neo Renaissance) ได้รับการยกย่องให้เป็นอาคารที่สวยที่สุดในกรุงบูดาเปสต์อีกด้วย เปิดทำการแสดงอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อปี 1884 ทั้งนี้ หากใครที่สนใจจะไปเยี่ยมชมก็สามารถไปได้ทุกวัน เพราะเขาเปิดให้เข้าชมทุกวัน และจะมีเจ้าหน้าที่นำทัวร์ไว้คอยต้อนรับชาวต่างชาติ และบอกข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับที่นี่มากมาย 

8. ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ (Shoes on the Danube Promenade)

บริเวณริมฝั่งแม่น้ำดานูบมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจตั้งอยู่มากมาย ซึ่งทางเดินริมฝั่งน้ำดานูบที่ตกแต่งด้วยรูปหล่อจำลองทำด้วยเหล็กของรองเท้ากว่า 60 คู่ (Shoes on the Danube Promenade) แห่งนี้เป็นอนุสรณ์สถานซึ่งสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ชาวยิวโดยไล่ต้อนยิงแล้วโยนร่างทิ้งลงในแม่น้ำดานูบของกลุ่มนาซีลัทธิฟาสซิสท์ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 

9. Vaci Street

ถนนนักช้อปและย่านโรงแรมไฮโซทั้งหลาย ที่นี่เป็นแหล่งช้อปปิ้งหลักของนักท่องเที่ยวจะเป็นถนนเส้นนี้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ฟากถนน ประกอบไปด้วย ร้านค้าแบรนด์เนมทั้งหลาย ร้านขายของที่ระลึก คาเฟ่ บาร์ให้นั่งกินลมชมวิวและโรงแรมห้าดาว หกดาว จึงทำให้ย่านนี้สินค้าและบริการทั้งหลายราคาค่อนข้างสูง สามารถเดินทางโดย Metro ใช้ M3: สถานี Ferenciek tere 

Cruise Trip

Budapest Sightseeing Cruises

ไปบูดาเปสต์ทั้งที จะเที่ยวชมความงามของแม่น้ำดานูบ แม่น้ำสายสำคัญที่เป็นตัวแบ่งระหว่างเมืองบูดา และเมืองเปสต์ ทางบกทางเดียวได้อย่างไร ท่านสามารถจองทริปล่องเรือเที่ยวชมสองฝากฝั่งแม่น้ำในตอนกลางวัน ที่ยังได้แวะให้ท่านได้ไปเที่ยวที่ Margaret Island หรือจะจองทริปล่องเรือยามค่ำคืนที่ท่านจะได้ดื่มด่ำบรรยากาศโรแมนติก รับประทานอาหารและเต้นรำภายใต้แสงจันทร์ 

ในบูดาเปสต์ มีผู้ประกอบการอยู่หลายเจ้าที่ให้บริการล่องเรือเที่ยวชมแม่น้ำดานูบ ส่วนใหญ่แล้วจะมีบริการคู่มือนำเที่ยวแบบออดิโอที่มีหลากหลายภาษาให้เลือก อีกทั้งท่านยังสามารถเลือกโปรแกรมได้ เช่น ทริป 1 ชั่วโมงกับทุกสถานที่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบ ทริป 2 ชั่วโมง ให้ทันได้ใช้เวลาเที่ยวชมอย่างจุใจบน Margaret Island และทริปดินเนอร์บนเรือสุดโรแมนติก ที่มีดนตรีสบายๆคอยบรรเลง แถมยังมีฟลอร์เต้นรำเปิดให้บริการอีกด้วย บริษัทที่เด่นๆ ได้แก่ Legenda, EUrama or Mahart 

สำหรับทริปล่องเรือในช่วงกลางวัน ท่านจะได้รับชมบรรยากาศและได้ศึกษาเรื่องราวความเป็นมาของทั้ง 2 ฝั่งเมือง คือฝั่งเปสต์และฝั่งบูดา และเมื่อถึง Margaret Island ท่านจะได้ลงจากเรือเพื่อไปเที่ยวชมบริเวณเกาะ โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลได้จากใบปลิวที่แจกให้ หลังจากนั้นท่านจะนั่งเรือรอบต่อไปเพื่อกลับไปยังสถานีต้นทางก็ได้ แต่ถ้าท่านไม่ได้อยากแวะที่เกาะตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อย่าเพิ่งลงจากเรือ เพราะหลังจากคนลงจากเรือ 5 นาที เรือจะมุ่งหน้ากลับไปที่สถานีต้นทางทันที 

ส่วนทริปยามค่ำคืน ท่านจะได้ดื่มด่ำกับทั้งภาพ เสียง และการแสดงต่างๆ โดยเรือจะออกจากท่าที่บูดาเปสต์ ไป-กลับ ในเมือง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ท่านจะตื่นตาตื่นใจไปกับทัศนียภาพที่สวยงาม ที่ซ่อนเรื่องราวความเป็นมาของประเทศฮังการี จากประวัติศาสตร์ของประเทศ พระราชา พระราชินี กวี นักประดิษฐ์ แม้กระทั่งแม่น้ำดานูบก็สามารถบอกเล่าตำนานของเมืองนี้ได้เป็นอย่างดี 

บริการเรือเฟอรี่และเรือโดยสารอื่นๆ

นอกจากเรือครูซแล้ว ท่านยังสามารถใช้บริการเรือโดยสารที่มีตารางเวลากำหนดอย่างแน่นอนได้ อย่างเช่น เรือของบริษัท Budapest Transport Company (BKV) ที่ให้บริการในเส้นทางระหว่าง Boráros tér และ Rómaifürdő โดยมีสถานีหยุดพักอยู่ที่ Petőfi tér (ตั้งอยู่ที่เชิงสะพาน Elizabeth ในฝั่งเปสต์) Batthyány tér และ Margaret Island และเมื่อปี 2012 ทาง BKV ก็ได้เปิดให้บริการ Danube River ferry service ที่มีเส้นทางระหว่าง Kopaszi-gát และ Rómaifürdő  

ในช่วงฤดูร้อน เรือโดยสารประเภทนี้จะให้บริการโดย บริษัท Mahart ตามเส้นทางระหว่าง Vigadó tér Batthyány tér และ Margaret Island ส่วนในระหว่างวันก็มีเรือให้บริการอยู่หลากหลายสถานี แต่ถ้าเป็นช่วงนอกฤดูกาลละก็ เรือโดยสารเหล่านี้จะเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเพียงแค่วันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น เรือของ Mahart มีเส้นทางการเดินเรือดังนี้ 

Vigadó tér - Batthyány tér - Margaret Island, Hotels (Pest side of the island) - Margaret Island, South (Buda side of the island) - Vigadó tér 

Danube Bend Cruises

Danube Bend เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางในดวงใจของใครหลายๆคน เมือง Szentendre Esztergom และ Visegrád ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำนับเป็นอาณานิคมที่เก่าแก่และสำคัญของประเทศฮังการี และวิธีเดินทางไปยังเมืองเหล่านี้ที่ได้อรรถรสมากที่สุดก็คงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากทางเรือ 

เส้นทางการเดินเรือมีดังนี้ Budapest (Vigadó tér) – Szentendre Budapest (Vigadó tér) – Visegrád Budapest (Vigadó tér) – Vác Budapest (Vigadó tér) – Esztergom  

เรือไฮโดรฟอยล์ในบูดาเปสต์

เรือไฮโดรฟอยล์จะช่วยให้ทริปจาก Danube Bend ไป Vienna ของท่านมีสีสันมากยิ่งขึ้น เพราะใช้เวลาแค่ 1.30 ชั่วโมงเท่านั้นในการไปถึง Esztergom นับเป็นวิธีการเดินทางอีกหนึ่งวิธีที่สนุกและรวดเร็ว 

บริการ Danube Bend hydrofoil จะมีสถานีปลายทางอยู่ที่ Visegrád และ Esztergom ส่วนเส้นทางที่ออกนอกประเทศมีอยู่ที่กรุง Vienna ในประเทศ Austria เรือ Hydrofoils นี้ จะให้บริการในช่วงเดือน เมษายน – กันยายน 

เส้นทางอื่นๆ ที่น่าสนใจได้แก่ Komárom (ทางตอนเหนือของบูดาเปสต์ มีป้อมปราการที่มีชื่อเสียง) Kalocsa (ทางตอนใต้ของบูดาเปสต์ มีโบสถ์ที่สำคัญสไตล์บาโร้คและเป็นแหล่งเพาะปลูกปาปริก้า) และ Mohács (ทางตอนใต้ โดดเด่นในเรื่องของเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ) 

บริษัทที่ให้บริการล่องเรือบูดาเปสต์

• Mahart (Mahart Passnave Passenger Shipping Ltd.) – เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดที่ให้บริการเรือเฟอรี่ เรือโดยสาร เรือไฮโดรฟอยล์ และเรือครูซ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและดูตารางการเดินเรือได้ที่ www.mahartpassnave.hu
• Legenda Ltd. – อีกหนึ่งบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านเรือครูซ โดยเฉพาะทัวร์ Duna Bella เป็นทัวร์กลางวันแบบ 1 ชั่วโมง และทัวร์กลางคืน Danube Legend ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.legenda.hu
• EUrama – มีชื่อเสียงด้านการให้บริการ Dunarama หรือเรือลิมูซีนส่วนตัว เช็คเส้นทางและราคาได้ที่ www.eurama.hu

ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.budapestdanubecruise.com
http://www.mahartpassnave.hu/webset32.cgi?MAHART%40%40EN%40%4038%40%40GOOGLEBOT
http://visitbudapest.travel/activities/danube-cruises