ป่วยอย่าขับ กับโรคประจำตัวที่มีผลต่อการขับรถ
ทุกวันนี้การใช้รถยนต์ในสังคมปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ด้วยความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบายเวลาเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ แต่รู้ไหมว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์นั้นไม่ได้มาจากความประมาทของผู้ขับขี่เพียงแค่อย่างเดียว ยังมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม สภาพรถยนต์ที่ไม่พร้อมต่อการใช้งาน หรือปัญหาด้านสุขภาพของตัวผู้ขับขี่ที่ทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ ซึ่งปัจจุบันมีโรคบางโรคที่เป็นข้อห้ามในการทำใบอนุญาตขับขี่ เพราะส่งผลกระทบต่อสมรรถนะและสภาวะการตัดสินใจของผู้ขับขี่ วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลโรคที่ห้ามขับรถมาฝากทุกคน ส่วนจะมีโรคไหนบ้างไปดูพร้อมกัน
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ทำใบขับขี่ใหม่ ต้องมีใบรับรองแพทย์จริงไหม
ใบรับรองแพทย์ สำหรับทำใบขับขี่ เป็นเอกสารสำคัญตามแบบที่แพทยสภารับรองที่ใช้เพื่อรับรองสุขภาพร่างกายและจิตใจ โดยผู้ที่มีความประสงค์ขอสอบใบขับขี่หรือต้องการต่ออายุใบขับขี่ ต้องใช้ใบรับรองแพทย์ประกอบการทำใบขับขี่ด้วยทุกครั้ง เพื่อยืนยันว่าผู้ทำใบขับขี่ไม่มีโรคประจำตัวหรือสภาวะของโรคที่เล็งเห็นว่าเป็นอันตรายกับการขับขี่ยานยนต์
การมีใบขับขี่เป็นสิ่งยืนยันว่าคุณมีความสามารถในการขับรถ
โรคที่กฎหมายห้ามขับรถ มีอะไรบ้าง
กรมการขนส่งทางบก ได้ระบุโรคหรืออาการป่วยที่ห้ามทำเรื่องขอรับและต่ออายุใบอนุญาตขับรถไว้ในใบรับรองแพทย์ ตามรูปแบบที่แพทยสภากำหนด ไว้ดังนี้
(1) โรคที่เกี่ยวกับสายตา
โรคที่เกี่ยวกับดวงตามีผลต่อสมรรถนะในการขับขี่
โรคที่ส่งผลต่อวิสัยทัศน์และความบกพร่องของการทำงานทางสายตา เช่น ต้อกระจก ต้อหิน หรือจอประสาทตาเสื่อม ที่ทำให้มุมมองสายตาแคบลง มองเห็นแสงไฟพร่ามัว มองเส้นทางช่วงเวลากลางคืนไม่ชัดเจนจึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
(2) โรคทางสมองและระบบประสาท
โรคทางสมองที่ยังเป็นไม่มาก อย่างมีอาการหลงลืมนอกจากจดจำเส้นทางไม่ได้ ยังทำให้ระบบสมาธิมีปัญหาจนไม่สามารถตัดสินใจเร่งด่วนได้
(3) โรคหลอดเลือดสมอง
เป็นภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้การทำงานของสมองหยุดชะงักและมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง เพราะระบบสมองไม่อาจสั่งการได้ดีเช่นเดิม นอกจากไม่มีแรงในการบังคับพวงมาลัยหรือเปลี่ยนเกียร์ และอาจเกิดปัญหาขากระตุก ไม่มีแรงขณะเหยียบคันเร่งหรือเหยียบเบรกอีกด้วย
(4) โรคพาร์กินสัน
ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้มักจะมีอาการเกร็ง มือสั่น เท้าสั่นในขณะที่อยู่นิ่ง ๆ และเคลื่อนไหวได้ช้าลง กรณีอาการรุนแรงจะทำให้เกิดภาพหลอน หากขับรถจะก่อให้เกิดอันตรายได้
(5) โรคลมชัก
หากอาการกำเริบขึ้นจะมีอาการชัก เกร็งกระตุก ไม่รู้สึกตัว หรือหมดสติจนเสียการควบคุมตนเองและนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงบนท้องถนน
(6) โรคข้ออักเสบหรือข้อเสื่อม
เป็นการเสื่อมสภาพของข้อ ทำให้มีอาการเจ็บปวดบริเวณข้อต่อจนไม่สามารถใช้ร่างกายได้อย่างเต็มที่ โดยอาการป่วยที่ส่งผลกระทบต่อการขับรถ เช่น
- ข้อเข่าเสื่อม ทำให้เหยียบเบรกหรือคันเร่งได้ไม่เต็มที่
- กระดูกคอเสื่อม ทำให้หันคอ หันหน้าดูสภาพการจราจรได้ลำบาก
- กระดูกหลังเสื่อม อาการนี้เป็นผลให้ผู้ป่วยไม่สามารถนั่งขับรถเป็นเวลานานได้
(7) โรคหัวใจ
การจราจรที่ติดขัดส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคหัวใจได้
ถ้าถามว่าโรคหัวใจขับรถได้ไหม ? คำตอบคือ ไม่ได้ เพราะถ้าเจอสภาพการจราจรที่ติดขัดเป็นเวลานานอาจทำให้ผู้ขับขี่เกิดความเครียด กดดันตัวเอง หรือเจอรถยนต์คันอื่นปาดหน้ากะทันหัน กรณีนี้อาจส่งผลให้ผู้ขับขี่เกิดอาการตกใจเฉียบพลัน และมีโอกาสมากที่ทำให้โรคหัวใจจะกำเริบระหว่างขับรถ
(8) โรคเบาหวานระยะควบคุมไม่ได้
โรคเบาหวานขับรถได้ไหม ? คำตอบคือ ผู้ป่วยเบาหวานในระยะควบคุมไม่ได้ ไม่สามารถขับรถได้ เพราะว่าเวลาที่ปริมาณน้ำตาลในเลือดต่ำลง จะทำให้ผู้ขับขี่มีอาการหน้ามืด วิงเวียนศีรษะ สายตาพร่ามัว เหงื่อออกมาก ใจสั่น หรือหมดสติ เลยมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถได้ แต่ถ้าอาการไม่รุนแรงยังสามารถขับรถได้ และควรเตรียมน้ำหวานหรือลูกอมไว้ทาน เพื่อป้องกันเวลาที่เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
(9) โรคความดันโลหิตสูง
เป็นโรคที่เสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรงกะทันหัน โดยเฉพาะเมื่อต้องพบเจอกับความเครียดบนท้องถนน หากความดันขึ้นสูงมาก ๆ ก็อาจถึงขั้นหน้ามืดเป็นลม หรือที่ร้ายกว่านั้นคือเกิดเส้นเลือดในสมองแตกได้
และนี่คือ 9 โรคที่ห้ามขับรถ เนื่องจากเป็นโรคที่มีความเสี่ยงต่อการตัดสินใจ และส่งผลต่อสภาพร่างกายโดยตรง ทำให้ความสามารถในการขับขี่รถยนต์น้อยลง ดังนั้นถ้ามีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับโรคที่กฎหมายห้ามขับรถ ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่รถยนต์จะดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยของตัวเราและผู้เพื่อนร่วมทาง สำหรับคนที่มองหาสินเชื่อรถแลกเงินที่น่าเชื่อถือ แนะนำ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน อนุมัติไว รับเงินโอนทันที ที่เพียงมีรถปลอดภาระและคุณสมบัติครบถ้วนก็สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ ที่สำคัญมีบริการพี่เบิ้ม Delivery ไปหาถึงที่ พร้อมบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม ไว้กดเงินใช้จ่ายยามจำเป็นอีกด้วย ถือเป็นบริการเงินด่วนถูกกฎหมายที่ตอบโจทย์การหาเงินก้อนฉุกเฉินในปัจจุบันเป็นอย่างมาก
ใส่ใจเรื่องใบขับขี่ และเอกสารเกี่ยวกับรถ ขอสินเชื่อรถแลกเงินได้รวดเร็วขึ้น