รถยนต์ไฟฟ้า (EV) คือนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ลดเสียงดังรบกวน และช่วยลดการใช้น้ำมัน หลายแบรนด์รถยนต์ชั้นนำได้ผลิตรถ EV ออกสู่ตลาด เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมัน แต่รถ EV จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่อยู่เสมอ หากคุณกำลังมองหาข้อมูลการชาร์จรถไฟฟ้า KTC มีข้อมูลมาแนะนำ ทั้งระบบการชาร์จ การติดตั้ง และระยะเวลาที่ควรชาร์จ เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมสำหรับยานยนต์เพื่ออนาคต
ระบบชาร์จไฟในรถยนต์ไฟฟ้า มี 2 ระบบ คือ AC Charging และ DC Charging
การชาร์จไฟของรถไฟฟ้า EV มีกี่แบบ กี่ประเภท
ระบบการชาร์จไฟในรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV มี 2 ระบบ ได้แก่
- ระบบการชาร์จไฟแบบ AC Charging เป็นระบบการชาร์จรถไฟฟ้า EV แบบธรรมดา ด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ โดยกระแสไฟจะมีการไหลสลับกันไปมา ไม่มีขั้วบวกหรือขั้วลบ ส่วนใหญ่จะเป็นกระแสไฟฟ้าที่มาจากตู้ชาร์จ หรือ Wall Box ที่ติดตั้งตามห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน และที่บ้าน
- ระบบการชาร์จไฟแบบ DC Charging เป็นระบบการชาร์จรถไฟฟ้า EV ด้วยกระแสตรง เป็นระบบที่ถูกพัฒนามาจาก AC Charging อีกที หลักการทำงานคือนำกระแสไฟฟ้าตรงเข้าสู่แบตเตอรี่ โดยไม่จำเป็นต้องแปลงกระแสไฟฟ้าก่อน
สำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า จะมีด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่
- การชาร์จแบบธรรมดา (Normal Charge) เป็นการชาร์จแบตจากเต้ารับโดยตรง ขนาดมิเตอร์ขั้นต่ำคือ 30(100)A โดยจะต้องใช้ไฟฟ้าแบบกระแสสลับ (AC) เท่านั้น
- การชาร์จแบบเร็ว (Double Speed Charge) เป็นการชาร์จแบตจากเครื่อง EV Charge หรือ Wall Box เท่านั้น ด้วยการใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) จากเครื่องจ่ายไฟ ไม่ใช่จากหัวชาร์จโดยตรง
- การชาร์จแบบด่วน (Quick Charge) เป็นการชาร์จแบตด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จจะเร็วกว่า แต่ก็มีโอกาสที่จะทำให้แบตเสื่อมเร็วกว่าด้วย
เปรียบเทียบการชาร์จไฟในรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC และ DC
ระบบการชาร์จไฟแบบ AC มีข้อดีคือ
- สามารถติดตั้งและใช้งานได้ง่ายในบริเวณบ้าน หรืออาคารสาธารณะ
- มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งน้อยกว่าระบบ DC
ข้อด้อย
- มีความเร็วในการชาร์จไฟช้ากว่าระบบ DC
- จำเป็นต้องใช้เวลาในการชาร์จนานกว่า
สำหรับระบบการชาร์จไฟแบบ DC มีข้อดีคือ
- มีความเร็วในการชาร์จไฟมากกว่าระบบ AC
- เหมาะสำหรับการชาร์จไฟในรถที่ต้องเดินทางระยะไกล หรือชาร์จระหว่างการเดินทาง
ข้อด้อย
- ระบบติดตั้งมีความซับซ้อนและราคาสูง
- จำเป็นต้องติดตั้งในสถานีชาร์จโดยเฉพาะ ไม่สามารถชาร์จที่บ้านหรืออาคารทั่วไปได้
เมื่อทำการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า จะต้องมีการเตรียมความพร้อมสำหรับพื้นที่ติดตั้งและอุปกรณ์ ในการทำจุดชาร์จไฟ
ชาร์จรถไฟฟ้า EV ที่บ้านทำอย่างไร
เมื่อซื้อรถไฟฟ้า ทางผู้จัดจำหน่ายรถยนต์จะมีหัวชาร์จ พร้อมบริการรับติดตั้งที่ชาร์จให้ โดยเจ้าของรถจะต้องมีการเตรียมความพร้อมสำหรับพื้นที่ติดตั้งและอุปกรณ์ ดังนี้
- เพิ่มขนาดมิเตอร์ หากมิเตอร์ไฟที่บ้านมีขนาดไม่ใหญ่มาก จะต้องเพิ่มขนาดมิเตอร์ให้ได้ประมาณ Single-Phase 30(100)A หรือ 3-Phase 15(45)A สำหรับการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้า EV
- เช็กขนาดสายไฟ ให้มีขนาด 25 ตารางมิลลิเมตร โดยสายไฟนี้จะต้องเป็นสายไฟหลักที่เชื่อมมายังตู้ชาร์จ
- ติดตั้งเต้ารับ โดยเต้ารับของรถยนต์ไฟฟ้านั้นจะแตกต่างจากเต้ารับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และจะต้องมีทั้งหมด 3 รู พร้อมติดตั้งสายดินเพื่อความปลอดภัย
- ติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว หรือว่า RDC ควรติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่วเพื่อความปลอดภัย โดยเครื่องนี้จะทำการตัดกระแสไฟเมื่อมีการใช้ไฟเกิน เกิดไฟดูด หรือไฟฟ้าลัดวงจร
- เลือกตำแหน่งในการติดตั้ง ก่อนจะทำการติดตั้ง ควรหาจุดติดตั้งที่ไม่ไกลจากตู้ควบคุมไฟฟ้ามากเกินไป ไม่ควรตั้งไว้กลางแจ้ง และไม่ควรห่างจากจุดจอดรถเกิน 5 เมตร
การชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้ามีทั้งแบบธรรมดา ใช้เวลา 4-16 ชม. และแบบเร็ว ใช้เวลาเพียง 20 นาที - 2 ชม.
ชาร์จรถไฟฟ้า EV ที่สถานี ทำอย่างไร
ปัจจุบันนี้มีการเพิ่มสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ไม่ใช่แค่เฉพาะในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น แต่ยังมีในจุดต่างๆ ทั้งสำนักงาน ปั๊มน้ำมัน หรือแหล่งชุมชน โดยการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านี้ก็ไม่ยาก เพียงค้นหาตำแหน่งที่ตั้งของสถานีโดยใช้แอปพลิเคชัน ทำการเลือกหัวชาร์จที่ต้องการ เลือกกดชาร์จ และกดจ่ายเงินผ่านทางแอปได้เลย ทั้งรวดเร็ว และไม่ยุ่งยาก สามารถควบคุมทุกอย่างได้ผ่านแอปในมือถือ
ชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้ากี่ชั่วโมง
หัวชาร์จและวิธีการชาร์จแต่ละแบบจะใช้เวลาในการชาร์จแตกต่างกัน ดังนี้
- การชาร์จรถไฟฟ้าแบบธรรมดา (Normal Charge / AC Charger) จะใช้เวลาชาร์จอยู่ที่ประมาณ 4-16 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับรุ่นของรถ และหัวชาร์จ โดยการชาร์จประเภทนี้สามารถชาร์จข้ามคืนได้ เหมาะกับคนที่มีเวลา ไม่เร่งรีบ หรือชาร์จรถได้เองที่บ้าน
- การชาร์จรถไฟฟ้าแบบเร็ว หรือแบบ DC Charger เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว เพราะใช้เวลาชาร์จอยู่ที่ประมาณ 20 นาที จนถึง 2 ชั่วโมงเท่านั้น โดยจะใช้กำลังไฟที่สูง จึงทำให้ชาร์จได้เร็วกว่าปกติ
ค่าบริการชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้ามีทั้งแบบราคาต่อหนึ่งหน่วย ราคาต่อชั่วโมง และแบบเหมาหลายชั่วโมง
ชาร์จแบตรถไฟฟ้า กี่บาท
ค่าบริการชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าของแต่ละสถานี จะมีเรทราคาที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ชาร์จ โดยราคาจะเริ่มตั้งแต่ 5.5 บาท ไปจนถึง 8.8 บาท สำหรับ 1 หน่วย สำหรับบางสถานีอาจจะนับเป็นรายชั่วโมง ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 80-400 บาท/ชั่วโมง ยิ่งคิดแบบเหมาหลายชั่วโมงขึ้นไปก็จะยิ่งถูก
ชาร์จแบตรถไฟฟ้าไม่เข้าทำอย่างไร
หากเกิดปัญหารถยนต์ไฟฟ้าชาร์จไฟไม่เข้า อันดับแรกให้ถอดหัวชาร์จออกจากตัวรถ แล้วลองเสียบหัวชาร์จเข้าไปใหม่ โดยต้องเสียบให้แน่นสนิท หลังจากนั้นให้ลองกดรีชาร์จอีกครั้งในแอปพลิเคชั่น หากยังไม่สามารถชาร์จได้ แนะนำให้ติดต่อบริษัทรถยนต์ของแบรนด์นั้นๆ เพื่อนำแบตเตอรี่ไปตรวจสอบ หรือหากชาร์จที่สถานี ให้ทำการติดต่อผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟก่อน หากพบว่าสถานีชาร์จทำงานปกติ จึงติดต่อศูนย์บริการรถยนต์
คำถามที่พบบ่อย
สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจสงสัยเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าก็คือระยะทางที่สามารถวิ่งได้ต่อการชาร์จแบตเต็มหนึ่งครั้ง ซึ่งระยะทางที่รถไฟฟ้าจะสามารถวิ่งได้จะขึ้นอยู่กับขนาดแบตเตอรี่ โดยส่วนใหญ่แล้วจะสามารถวิ่งได้ที่ประมาณ 200-500 กิโลเมตร สำหรับผู้ที่จะเดินทางไกล จะต้องวางแผน เตรียมหาจุดชาร์จตามเส้นทาง และกำหนดระยะเวลาในการชาร์จแต่ละครั้งให้ดี เพื่อให้การเดินทางราบรื่น
สำหรับผู้ที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้า บัตรเครดิต KTC มีโปรโมชั่นดีๆ มาฝาก ทั้งแลกรับเครดิตเงินคืน ทั้งผ่อน 0% และรับคะแนนสะสมพิเศษ
สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกบัตรเครดิต KTC ที่โชว์รูม NETA ในเครือ V Group Cars
ออกรถใหม่ NETA V ที่โชว์รูม V Group Cars ผ่อนชำระ 0% นาน 6 เดือน + รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 16%
สิทธิพิเศษ 1 ผ่อนชำระ 0% + รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 3%
- ค่าจองรถ มูลค่า 5,000 บาทขึ้นไป
- ค่าดาวน์รถ มูลค่า 30,000 บาทขึ้นไป สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
ไม่ต้องใช้คะแนนแลก! แค่มียอดผ่อนชำระต่อเซลส์สลิปผ่านบัตรฯ ตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ที่ศูนย์บริการที่ร่วมรายการผ่อนชำระ
ยอดผ่อนชำระ / เซลส์สลิป (บาท) |
ต่อที่ 1 : รายการผ่อนชำระ รับเครดิตเงินคืน 3% (ไม่ต้องใช้คะแนนแลก) |
5,000 - 9,999 |
100 |
10,000 - 29,999 |
300 |
30,000 - 49,999 |
800 |
50,000 บาทขึ้นไป |
1,500 |
สิทธิพิเศษ 2 ชำระเต็มจำนวน หรือ ผ่อนชำระ แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 13%
- เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป และใช้คะแนน KTC FOREVER ทุก 1,000 คะแนน แลกรับส่วนลด 130 บาท
- เฉพาะบัตรเครดิต KTC ที่มีคะแนนสะสม KTC FOREVER สามารถเข้าร่วมโปรโมชั่นได้
- ลงทะเบียนผ่านช่องทาง SMS หรือ Website ภายในวันที่ทำรายการผ่อนชำระ เพื่อรับสิทธิ์เข้าร่วมโปรโมชั่น
- จำกัดการแลกคะแนนสูงสุดไม่เกินยอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป
ยอดใช้จ่าย/เซลส์สลิป (บาท) |
ต่อที่ 2 : ยอดใช้จ่ายทุกประเภท ใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับเครดิตเงินคืน 13% ทุก 1,000 คะแนน = 130 บาท (สูงสุดไม่เกินยอดใช้จ่าย) |
1,000 - 4,999 |
แลกรับ 130 - 520 บาท |
5,000 - 9,999 |
แลกรับ 650 - 1,170 บาท |
10,000 - 29,999 |
แลกรับ 1,300 - 3,770 บาท |
30,000 - 49,999 |
แลกรับ 3,900 - 6,370 บาท |
50,000 บาทขึ้นไป |
แลกรับ 6,500 บาทขึ้นไป |
- ระยะเวลาโปรโมชั่น : 16 พ.ย. 66 - 30 เม.ย. 67
ดูรายละเอียดโปรโมชั่นออกรถใหม่ NETA V กับบัตรเครดิต KTC คลิกที่นี่
สิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกบัตรเครดิต KTC ที่โชว์รูม AION THAI (โกลด์ อินทิเกรท)
ออกรถใหม่ AION Y PLUS ที่โชว์รูม AION THAI (โกลด์ อินทิเกรท) ผ่อนชำระ 0% นาน 6 เดือน + รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 16%
สิทธิพิเศษ 1 ผ่อนชำระ 0% + รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 3%
- ค่าจองรถ มูลค่า 5,000 บาทขึ้นไป
- ค่าดาวน์รถ มูลค่า 30,000 บาทขึ้นไป สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
ไม่ต้องใช้คะแนนแลก! แค่มียอดผ่อนชำระต่อเซลส์สลิปผ่านบัตรฯ ตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป ที่ศูนย์บริการที่ร่วมรายการผ่อนชำระ
ยอดผ่อนชำระ / เซลส์สลิป (บาท) |
ต่อที่ 1 : รายการผ่อนชำระ รับเครดิตเงินคืน 13% (ไม่ต้องใช้คะแนนแลก) |
5,000 - 9,999 |
100 |
10,000 - 29,999 |
300 |
30,000 - 49,999 |
800 |
50,000 บาทขึ้นไป |
1,500 |
สิทธิพิเศษ 2 ชำระเต็มจำนวน หรือ ผ่อนชำระ แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน 13%
- เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป และใช้คะแนน KTC FOREVER ทุก 1,000 คะแนน แลกรับส่วนลด 130 บาท
- เฉพาะบัตรเครดิต KTC ที่มีคะแนนสะสม KTC FOREVER สามารถเข้าร่วมโปรโมชั่นได้
- ลงทะเบียนผ่านช่องทาง SMS หรือ Website ภายในวันที่ทำรายการผ่อนชำระ เพื่อรับสิทธิ์เข้าร่วมโปรโมชั่น
- จำกัดการแลกคะแนนสูงสุดไม่เกินยอดใช้จ่ายต่อเซลส์สลิป
ยอดใช้จ่าย/เซลส์สลิป (บาท) |
ต่อที่ 2 : ยอดใช้จ่ายทุกประเภท ใช้คะแนน KTC FOREVER แลกรับเครดิตเงินคืน 13% ทุก 1,000 คะแนน = 130 บาท (สูงสุดไม่เกินยอดใช้จ่าย) |
1,000 - 4,999 |
แลกรับ 130 - 520 บาท |
5,000 - 9,999 |
แลกรับ 650 - 1,170 บาท |
10,000 - 29,999 |
แลกรับ 1,300 - 3,770 บาท |
30,000 - 49,999 |
แลกรับ 3,900 - 6,370 บาท |
50,000 บาทขึ้นไป |
แลกรับ 6,500 บาทขึ้นไป |
- ระยะเวลาโปรโมชั่น : 5 ก.พ. 67 - 30 เม.ย. 67
ดูรายละเอียดโปรโมชั่นออกรถใหม่ AION Y PLUS กับบัตรเครดิต KTC คลิกที่นี่
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC