ตู้เย็นไม่เย็น แต่ไฟติด เกิดจากอะไร ซ่อมเองได้ไหม?

เมืองไทยอากาศร้อน “ตู้เย็น” กลายเป็นที่พึ่งของใครหลายคน ทั้งแช่น้ำ เครื่องดื่ม เย็นชื่นใจ ไอศกรีม ของหวาน รวมทั้งใช้เก็บวัตถุดิบในการทำอาหาร ทั้งผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ตู้เย็นเสีย ตู้เย็นไม่เย็น แต่ไฟติด สร้างปัญหาหนักใจให้กับเจ้าของบ้านไม่น้อย ครั้งนี้เราจึงมาตอบปัญหาคาใจ ตู้เย็นไม่เย็น แต่ไฟติด เกิดจากอะไร ซ่อมเองได้ไหม? เรารวมมาให้แล้ว แก้ไขเบื้องต้น อาการตู้เย็นไม่เย็น ไม่ต้องเป็นช่างก็สามารถจัดการได้เอง

ตู้เย็นไม่เย็น มีหลากหลายสาเหตุ เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้ผู้เชี่ยวชาญมาเช็กอาการดีที่สุด

10 สาเหตุตู้เย็นไม่เย็น แต่ไฟติด ปัญหาที่พบมากที่สุด

1.ตู้เย็นไม่เย็น เพราะ Compressor ชำรุด

ปัญหา Compressor หลังตู้เย็นชำรุดถือเป็นปัญหาหลักที่ช่างซ่อมตู้เย็นพบมากที่สุด วิธีการสังเกตง่ายๆ คือ หากระหว่างการใช้งานตู้เย็น แล้วไม่ได้ยินเสียง Compressor ที่อยู่บริเวณด้านหลังตู้เย็นทำงาน แสดงว่า Compressor เสีย แนะนำให้เปลี่ยนทันที แต่การเปลี่ยน Compressor แอร์อาจจำเป็นต้องอาศัยการช่างจึงจะเปลี่ยนด้วยตนเองได้ หรือควรให้ผู้ที่มีความชำนาญจัดการให้

2.ตู้เย็นไม่เย็น เพราะเซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำแข็งเสียหาย

หากพบว่าตู้เย็นไม่เย็น แต่ช่องฟรีซเย็น สันนิษฐานเบื้องต้นได้เลยว่าตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำแข็ง หรือระบบละลายน้ำแข็งภายในตู้เย็นเกิดความเสียหาย และเพื่อให้มั่นใจอาจจะสังเกตตัวคอมเพรสเซอร์แอร์ด้วยว่าทำงานปกติหรือไม่ หากทำงานปกติ ให้รีบซ่อมระบบละลายน้ำแข็งทันที เพราะหากปล่อยปัญหานี้ไว้อาจจะส่งผลให้ตู้เย็นมีความเย็นจัด และเกิดน้ำแข็งในปริมาณมาก

3.ตู้เย็นไม่เย็น เพราะขอบยางเสื่อม

เมื่อใช้งานตู้เย็นไปได้สักระยะ วัสดุหรืออะไหล่อาจเสื่อมสภาพได้ โดยเฉพาะยางบริเวณขอบตู้เย็น ซึ่งทุกบ้านสามารถสังเกตได้ด้วยตนเอง เพียงลองใช้มือจับดูว่าขอบยางเกิดการแข็งตัวหรือไม่ หากแข็งตัวแสดงว่าขอบยางตู้เย็นเสื่อมสภาพ ส่งผลให้ตู้เย็นไม่เย็นเพราะประตูตู้เย็นจะปิดไม่สนิท 

4.ตู้เย็นไม่เย็น เพราะกระแสไฟไม่สม่ำเสมอ

ปัญหาตู้เย็นไฟไม่เข้า ติดๆ ดับๆ บางครั้งอาจเกิดจากปัญหากระแสไฟที่ใช้กับตู้เย็นไม่มีความสม่ำเสมอ หรือใช้ไฟร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ มากจนเกินไป จึงส่งผลให้ตู้เย็นไม่เย็น แต่ไฟติด ซึ่งหากปล่อยไว้อาจส่งผลให้ Compressor ของตู้เย็นทำงานหนัก และเสียหายได้ ดังนั้น ก่อนการใช้งานตู้เย็น ควรสังเกตและคำนวณกระแสไฟที่จะใช้งาน โดยเฉพาะหากต้องใช้ปลั๊กพ่วงร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ

5.ตู้เย็นไม่เย็น เพราะน้ำแข็งเกาะช่องฟรีซ

ในช่องฟรีซหากมีน้ำแข็งเกาะอยู่ในปริมาณมาก โดยเฉพาะตู้เย็นรุ่นเก่าที่ไม่มีระบบละลายน้ำแข็ง จำเป็นต้องหาเวลาเพื่อทำความสะอาด โดยส่วนใหญ่แล้วควรละลายน้ำแข็งอย่างน้อย 3-4 ครั้งต่อปี หรือดูตามความเหมาะสมของปริมาณน้ำแข็งที่ถูกสะสม เพราะหากปล่อยให้น้ำแข็งอัดแน่นภายในช่องฟรีซ จะส่งผลต่อการหมุนเวียนของระบบทำความเย็นลดลง การทำความสะอาดไม่ยุ่งยากตู้เย็นรุ่นใหม่ๆ จะมีระบบทำความสะอาดให้มาด้วยอยู่แล้ว แต่สำหรับตู้เย็นรุ่นเก่าอาจจะต้องดึงปลั๊กตู้เย็นออก แล้วเคลียร์ของภายในตู้เย็นออกให้หมด หลังจากนั้นรอให้น้ำแข็งละลายด้วยตนเอง โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ของแข็งช่วย เพราะอาจจะกระทบต่อท่อน้ำยาแผงทำความเย็นจนเกิดความเสียหาย 

6.ตู้เย็นไม่เย็น เพราะใส่ของเต็มพิกัด

การจัดระเบียบข้าวของภายในตู้เย็นเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาตู้เย็นไม่เย็น หากมีทั้งของสด ผัก ผลไม้ แช่ไว้แน่นตู้เย็นจะส่งผลให้ตู้เย็นทำงานหนัก ระบบหมุนเวียนทำความเย็นไม่ทั่วถึง จึงจำเป็นต้องจัดระเบียบของที่จะแช่ตู้เย็นเพื่อให้อากาศภายในหมุนเวียนได้สะดวก หรือเลือกใช้ตู้เย็นที่มีขนาดเหมาะสมกับสมาชิกในครอบครัว และปริมาณของที่ต้องแช่ บางบ้านมักเข้าใจผิดว่าตู้เย็นขนาดใหญ่จะกินไฟ แต่จริงๆ แล้วหากเราใช้ตู้เย็นขนาดเล็ก แต่แช่ของในปริมาณที่มากไปนั้นจะยิ่งกินไฟมากกว่า

7.ตู้เย็นไม่เย็น เพราะปรับอุณหภูมิไม่เหมาะสม 

อุณหภูมิของตู้เย็นมีผลต่อความเย็น จึงจำเป็นต้องปรับอุณหภูมิความเย็นให้เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันตู้เย็นรุ่นใหม่ที่เป็นหน้าจอดิจิทัลจะสามารถปรับอุณหภูมิได้ไม่ยุ่งยาก แต่หากเป็นตู้เย็นรุ่นเก่าจะมีปุ่มให้หมุนปรับ ส่วนใหญ่แล้วจะหมุนตั้งอยู่ในระดับอุณหภูมิที่เลข 3 หรือขึ้นอยู่กับรุ่นตู้เย็นที่เลือกใช้งาน

8.ตู้เย็นไม่เย็น เพราะพัดลมระบายอากาศเสีย

ตู้เย็นจะมีพัดลมระบายอากาศคอยช่วยระบายความร้อนและส่งความเย็นให้กระจายไปรอบตู้เย็น ซึ่งตัวพัดลมระบายอากาศจะถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังช่องแช่แข็ง หากตู้เย็นเกิดปัญหา ตู้เย็นไม่เย็นแต่ไฟติด หรือตู้เย็นไม่เย็นแต่ช่องฟรีซเย็น ให้ลองสังเกตที่พัดลมระบายอากาศ ซึ่งหากเป็นตู้เย็นรุ่นเก่าอาจจะต้องละลายน้ำแข็งออกให้หมดเสียก่อน แล้วดูว่าพัดลมระบายอากาศยังทำงานอยู่หรือไม่ หากไม่ทำงานให้เปลี่ยนใหม่ทันที โดยทุกบ้านสามารถเปลี่ยนได้ด้วยตนเอง เพียงแต่ต้องซื้อให้ตรงรุ่น

9.ตู้เย็นไม่เย็น เพราะการเคลื่อนย้าย

การเคลื่อนย้ายตู้เย็นเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง แม้ว่าตู้เย็นจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดูมีความแข็งแรง แต่มีข้อห้ามสำหรับการเคลื่อนย้ายตู้เย็นเลยคือ ห้ามยกตู้เย็นเป็นแนวนอน เพราะจะทำให้น้ำยาคอมเพรสเซอร์ไหลออกมาได้ โดยวิธีการยกตู้เย็นที่ถูกต้องคือ ยกเอียงไม่เกิน 40 องศา และหลังจากการขนย้ายเรียบร้อยแล้ว ไม่ควรเปิดใช้งานตู้เย็นทันที ควรปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 5-6 ชั่วโมงเสียก่อน แล้วจึงเปิดใช้งานได้ตามปกติ

10.ตู้เย็นไม่เย็น เพราะนำของร้อนเข้าแช่

การนำอาหารที่ร้อนอยู่เข้าไปใส่ตู้เย็นทันทีส่งผลให้เกิดปัญหาตู้เย็นไม่เย็น เนื่องจากระบบการทำงานภายในของตู้เย็นจะทำงานได้ลดลง การหล่อเย็นไม่ดี ดังนั้นจึงควรรอให้อาหารที่จะนำไปแช่ภายในตู้เย็นเย็นลงเสียก่อนแล้วถึงนำไปแช่ได้

เทคนิคแก้ไขตู้เย็นไม่เย็นเบื้องต้น ไม่เป็นช่างก็ทำได้

วิธีซ่อมตู้เย็นไม่เย็นเบื้องต้นที่เราสามารถซ่อมแซมได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองมีดังนี้

การละลายน้ำแข็งในตู้เย็นรุ่นใหม่

ภายในตู้เย็นรุ่นใหม่นั้นจะมีโหมดละลายน้ำแข็งโดยเฉพาะ สามารถใช้งานได้ง่ายๆ เพียงแค่เปิดโหมดดังกล่าว และรอจนน้ำแข็งละลาย จึงค่อยเปลี่ยนกลับไปเป็นโหมดปกติ เพียงเท่านี้ก็สามารถละลายน้ำแข็งในตู้เย็นได้แล้ว

การละลายน้ำแข็งในตู้เย็นรุ่นเก่า

ภายในตู้เย็นรุ่นเก่านั้นจะไม่มีโหมดละลายน้ำแข็ง ดังนั้น เราจะต้องทำการถอดปลั๊กตู้เย็น เพื่อให้น้ำแข็งละลายเอง และไม่ควรทุบน้ำแข็งที่อยู่ภายในตู้เย็นให้หลุดออกมา เพราะอาจจะทำให้ตู้เย็นเกิดความเสียหายได้ แต่ก่อนจะถอดปลั๊กนั้นควรนำของออกจากตู้เย็นเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำแข็งที่ละลายแล้วทำให้ของที่แช่อยู่เสียหาย

การเช็กยางขอบประตูตู้เย็น

อันดับแรก แนะนำให้ตรวจเช็กยางขอบประตู โดยให้สอดกระดาษแล้วปิดประตูตู้เย็น จากนั้นใช้มือดึงกระดาษออกมา ถ้ารู้สึกว่าแน่นดึงกระดาษออกไม่ได้ แสดงว่าตู้เย็นยังปิดได้สนิทดีไม่มีปัญหาใดๆ แต่ถ้าดึงกระดาษออกมาได้ง่าย แสดงว่ายางขอบประตูตู้เย็นอาจเริ่มเสื่อมสภาพ ส่งผลให้ตู้เย็นปิดไม่สนิท เป็นที่มาของอาการตู้เย็นไม่เย็น โดยสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการทำความสะอาดยางขอบประตูด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด กำจัดฝุ่นและคราบสกปรกออกให้หมด จากนั้นให้ใช้น้ำอุ่นราด แล้วลองใช้มือบีบที่ขอบยาง หากขอบยางกลับมานิ่มเช่นเดิมก็สามารถนำกลับไปใช้งานต่อได้ แต่หากขอบยางไม่นิ่ม ให้เปลี่ยนขอบยางตู้เย็นใหม่ ซึ่งการเปลี่ยนขอบยางตู้เย็นทุกบ้านสามารถทำเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องเรียกช่าง

ขอบยางที่ซื้อใหม่ไม่นิ่ม

ขอบยางตู้เย็นที่เพิ่งซื้อมาใหม่นั้นมักจะแข็ง ซึ่งไม่สามารถดัดและยึดไปตามแนวขอบตู้เย็นที่ต้องการติดได้ แต่สามารถแก้ได้ด้วยการนำขอบยางไปแช่ในน้ำอุ่นประมาณ 2-3 นาที ก็จะทำให้ยางอ่อนตัว และยืดหยุ่นมากขึ้น และสามารถดัดไปตามแนวของขอบตู้เย็นได้

การถอดขอบยาง

สำหรับวิธีการถอดขอบยางตู้เย็นนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่คลายนอตที่ทำการยึดขอบยางตู้เย็นออก และค่อยดึงขอบยางเก่าออกจากประตูตู้เย็น โดยเริ่มดึงจากมุมประตูฝั่งที่เปิดด้านบนออก หลังจากนั้นด้านข้างๆ และด้านอื่นๆ ก็จะหลุดออกมาเอง

การใส่ขอบยางอันใหม่

การใส่ขอบยางตู้เย็นอันใหม่นั้นง่ายมาก เพียงแค่ใส่ไปตามรอยเดิม โดยเริ่มจากการติดขอบยางที่มุมประตูด้านบนก่อน หลังจากนั้นใส่นอตลงไปตามรูที่ถอดออกมาให้เหมือนเดิมทุกจุด และเมื่อทำเสร็จแล้วให้ทดลองเปิด-ปิดประตู เพื่อตรวจสอบดูว่าแนบสนิททุกจุดหรือไม่ และยังมีช่องว่างระหว่างประตูตู้เย็นหรือเปล่า ถ้าหากไม่มีก็แสดงว่าเปลี่ยนขอบยางตู้เย็นสำเร็จแล้ว

ทั้งหมดที่กล่าวไว้ข้างต้น คือสาเหตุบางส่วนที่ตู้เย็นไม่เย็น แต่ไฟติด และอาการอื่นๆ ที่พบบ่อย พร้อมคำแนะนำวิธีตรวจสอบ และแก้ไขเบื้องต้นที่เราสามารถทำได้เอง แต่หากตู้เย็นยังคงไม่เย็น และไม่สามารถหาสาเหตุได้ว่าเกิดขึ้นจากอะไร หรือเป็นปัญหาเฉพาะทาง แนะนำให้สอบถามช่างผู้เชี่ยวชาญดีกว่า

ส่วนใครที่กำลังมองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านชิ้นใหม่ หรืออยากเปลี่ยนตู้เย็นใหม่ มีโปรโมชั่นช้อปคุ้มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านมากมายเมื่อจ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC

บัตรเครดิต KTC ผ่อนชำระรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 3%

ไม่ต้องใช้คะแนนแลก! แค่มียอดผ่อนชำระตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ผ่านบัตรฯ และลงทะเบียนตามเงื่อนไข

• รับเครดิตเงินคืน 150 บาท เมื่อมียอดผ่อนชำระ 8,000 - 24,999 บาท/เซลส์สลิป
• รับเครดิตเงินคืน 500 บาท เมื่อมียอดผ่อนชำระ 25,000 - 49,999 บาท/เซลส์สลิป รับเครดิตเงินคืน 1,000 บาท เมื่อมียอดผ่อนชำระ 50,000 - 79,999 บาท/เซลส์สลิป
• รับเครดิตเงินคืน 2,000 บาท เมื่อมียอดผ่อนชำระ 80,000 - 119,999 บาท/เซลส์สลิป
• รับเครดิตเงินคืน 3,600 บาท เมื่อมียอดผ่อนชำระ 120,000 บาทขึ้นไป/เซลส์สลิป
• ระยะเวลาโปรโมชั่น 1 มี.ค. 67 – 31 พ.ค. 67

ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC