หนึ่งในการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เป็นปัญหาที่ยากเกินจะแก้สำหรับหลายคน เพราะการที่ผมบาง ผมร่วง หรือว่าศีรษะล้านเป็นหย่อมๆ นั้นเกิดขึ้นได้กับทุกคน อีกทั้งยังสืบทอดได้จากกรรมพันธุ์ด้วย เมื่อการใช้แชมพูและเซรั่มต่างๆ ไม่ได้ผล “การปลูกผม” จึงเป็นตัวเลือกที่หลายคนนึกถึง ซึ่งการปลูกผมในปัจจุบันมีให้เลือกหลายแบบ ทำให้คนที่ต้องการปลูกผมมีตัวเลือกในการรักษาปัญหาศีรษะล้านมากขึ้น ทั้งนี้ก่อนจะหาคลินิกหรือโรงพยาบาลเพื่อทำการปลูกผม แนะนำให้ลองทำความรู้จักกับการปลูกผมถาวรแบบ FUE พร้อมทุกเรื่องที่ควรรู้ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจเรื่องปลูกผมได้รอบด้านมากขึ้น
การปลูกผมแบบ FUE ได้รับความนิยมมากสำหรับผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้าน
ปลูกผม แบบไหนดี
สำหรับการปลูกผมในแต่ละแบบ จะมีวิธีการและจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับผู้รักษาว่าอยากได้วิธีการแบบไหน และพึงพอใจกับการรักษาแบบใดมากกว่า โดยปัจจุบัน การปลูกผมที่มีความนิยมมากที่สุด คือเทคนิค FUE เพราะการปลูกผมเทคนิคนี้ คนไข้ไม่ต้องมีการพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ทำให้มีเเผลเป็นด้านหลัง ซึ่งมีความเเตกต่างจากการปลูกผมในวิธีเเรกๆ ที่จะทำให้มีแผลเป็นขนาดยาว
การปลูกผมช่วยแก้ปัญหาผมบางศีรษะล้านได้อย่างเห็นผล
ปลูกผม FUE คืออะไร
เป็นวิธีการปลูกผมแบบถาวร จุดเด่นคือการย้ายเซลล์ผมของผู้รับการรักษาจากบริเวณท้ายทอย ไปปลูกถ่ายไว้ที่บริเวณผมบาง โดยการใช้อุปกรณ์ที่มีการนำเซลล์รากผมขนาดเล็กมากๆ คัดเซลล์รากผมออกมา หรือ Forceps ซึ่งแพทย์จะทำการย้ายรากผมทีละราก คัดเลือกเซลล์รากผมที่มีความเเข็งเเรงที่สุด นำไปปลูกในบริเวณที่คนไข้กังวล ทำให้บริเวณที่ถูกปลูกถ่ายผมจะไม่ค่อยร่วงซ้ำ แต่จะใช้เวลาปลูกถ่ายค่อนข้างนาน 6-8 ชั่วโมง แต่พักฟื้นไม่นาน จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมาก
กราฟคืออะไร?
กราฟ หรือกราฟผม (Hair Graft) เป็นชื่อที่ใช้เรียกกอรากผม โดย 1 กราฟ จะเท่ากับ 1 กอรากผม หรือบริเวณเนื้อเยื่อ โดยการนำกราฟออกมาจากบริเวณท้ายทอย หรือหลังศีรษะ สามารถนำไปปลูกถ่ายที่บริเวณอื่นได้ และกราฟผมสามารถเติบโตได้ตามปกติ
ปลูกผม เจ็บไหม?
ในระหว่างการปลูกผม ผู้รับการรักษาจะไม่รู้สึกเจ็บเพราะมีการให้ยาชา หรือในบางกรณีจะมีการดมยาเพื่อช่วยให้ผ่อนคลาย และรู้สึกเจ็บน้อยลง หลังจากที่ปลูกผมเสร็จแล้ว จะรู้สึกเจ็บระบมอย่างแน่นอน แต่จะไม่เกิน 48 ชั่วโมง และไม่ต้องกังวล เพราะแพทย์จะให้ยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทา
ปลูกผม กี่วันรากติด?
หลังจากที่ได้รับการปลูกผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ขึ้นไป รากผมจึงจะเริ่มติด จากนั้นจะเข้าสู่ช่วงระยะการพักตัว หลังจากนั้น 4 เดือนขึ้นไป ผมถึงจะขึ้นตามปกติ
ปลูกผม พักฟื้นกี่วัน?
สำหรับการพักฟื้นหลังจากที่ปลูกผม จะใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน ทั้งนี้การพักฟื้นจะขึ้นอยู่กับวิธีที่เลือกปลูกผมด้วย ถ้าเป็นวิธีการปลูกผมแบบ DHI ก็จะใช้เวลาน้อยกว่าวิธี FUE
หลังจากปลูกผมแล้ว ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องรับประทานยาต่อเนื่อง อย่างน้อย 1 ปี
ปลูกผม ต้องกินยาไหม
ปลูกผมเสร็จแล้ว ผู้รับการรักษาทุกคนจะต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีศีรษะล้าน หรือผมบางจากพันธุกรรม ที่ต้องกินยาเป็นระยะเวลานานกว่าคนทั่วไป เพราะมีโอกาสที่ผมจะกลับมาบางอีกครั้ง
ปลูกผมราคาเท่าไหร่
ในส่วนของราคาค่ารักษาและการปลูกผมนั้น จะคิดหน่วยเป็นกราฟ ขั้นต่ำที่ 1,000 กราฟ โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 35,000 บาทเป็นต้นไป คลินิกบางแห่งอาจมีราคาสูงมากถึง 100,000 บาท ทั้งนี้ ราคาจะขึ้นอยู่กับความยาก-ง่ายของการปลูกผม และจำนวนกราฟผมที่ต้องใช้
ปลูกผม ดีไหม (ข้อดี-ข้อเสีย)
แน่นอนว่าการปลูกผมนั้นมีข้อดี แต่ก็ต้องมีข้อเสียด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ผู้ที่กำลังตัดสินใจว่าจะปลูกผม อาจจะนำข้อดี - ข้อเสียเหล่านี้ ไปใช้ประกอบการตัดสินใจได้
ข้อดีของการปลูกผม
- ช่วยแก้ปัญหาผมบาง หรือศีรษะล้านได้อย่างชัดเจน
- เสริมบุคลิกให้ดูดี ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้าน
- ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
ข้อเสียของการปลูกผม
- ถ้ามีศีรษะล้านจากฮอร์โมน การปลูกผมอย่างเดียวอาจจะไม่ช่วยเท่าไหร่ จำเป็นต้องกินยาฮอร์โมนควบคู่ไปด้วย
- สำหรับผู้ที่ใช้วิธีการปลูกผมแบบ FUT ช่วงเวลาพักฟื้น เวลานอนอาจจะเจ็บแผลมากเป็นพิเศษ
- คนผมบางแบบกรรมพันธุ์ หรือคนที่มีผมบางเป็นจำนวนมาก หลังปลูกผมมีโอกาสที่ผมจะกลับมาบางอีกครั้ง อาจจะไม่หนาแน่นเท่ากับการปลูกผมช่วงแรกๆ
วิธีเลือกคลินิกปลูกผม
การจะหาคลินิกสำหรับปลูกผมที่ไหนดี จะขึ้นอยู่กับวิธีการปลูกผมที่ต้องการเป็นหลัก เพราะแต่ละคลินิกจะมีความชำนาญในแต่ละวิธีการปลูกผมแตกต่างกันไป ก่อนทำการรักษา ควรเข้ารับการตรวจสภาพเส้นผม รวมถึงปรึกษาถึงวิธีการปลูกผมที่เหมาะสมจากหลายคลินิกหรือโรงพยาบาล เพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยต้องเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีรีวิวจากผู้เข้ารับการรักษาจริง เพราะการปลูกถ่ายเซลล์รากผมนั้นสำคัญมาก หากปลูกถ่ายได้ไม่ดี อาจทำให้ผมบางเหมือนเดิม การรักษาไม่ได้ผลตามต้องการ
แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12.5% เมื่อชำระเต็มจำนวน กับบัตรเครดิต KTC ณ สถาบันความงามทั่วประเทศ
สิทธิประโยชน์ที่ 1 : รับเครดิตเงินคืน 0.5% ตั้งแต่บาทแรก เมื่อใช้จ่ายเต็มจำนวน
สิทธิประโยชน์ที่ 2 : แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนเพิ่ม 12% เมื่อใช้จ่ายเต็มจำนวนทุก 1,000 บาท/เซลส์สลิป และใช้คะแนน KTC FOREVER ทุก 1,000 คะแนน แลกรับเครดิตเงินคืน 120 บาท
*ลงทะเบียนรับสิทธิ์
- ระยะเวลาโปรโมชั่น : 1 ม.ค. 68 – 30 มิ.ย. 68
นอกจากคลินิกที่แนะนำแล้วยังมีคลินิกปลูกผมที่น่าสนใจและสามารถตรวจสอบโปรโมชั่นก่อนชำระเงินได้สำหรับการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต KTC ทั้งโปรโมชั่นผ่อน 0% และแลกคะแนนรับเครดิตเงินคืน หลังจาการปลูกผม ควรดูแลรักษาผม ใช้แชมพูที่อ่อนโยนและช่วยถนอมหนังศีรษะ รวมถึงการใช้ทรีตเมนต์เพื่อบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง ชะลอการขาดหลุดร่วง ทั้งนี้หากมีปัญหาผมบาง หรือศีรษะล้านที่เกิดมาจากกรรมพันธุ์ ควรปรึกษาแพทย์ และขอคำแนะนำอย่างใกล้ชิด เพราะมีโอกาสที่ศีรษะจะกลับมาล้านอีกครั้ง สำหรับผู้ที่กำลังสนใจอยากปลูกผมแต่ยังไม่มีบัตรเครดิต KTC อย่าพลาดโปรโมชั่นดีๆ สำหรับสมาชิกบัตรฯ กดสมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สมัครง่าย อาชีพไหนก็สมัครได้
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC