“สิว” เป็นปัญหาผิวหน้าที่หลายคนต้องเคยเผชิญ โดยเฉพาะเมื่อก้าวเข้าสู่วัยรุ่น ระบบการทำงานของฮอร์โมนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง สิวก็จะมาทักทายและสร้างความกวนใจให้อยู่เสมอ โดยเฉพาะสาวๆ ที่มักจะต้องเจอกับปัญหาสิวเกือบทุกครั้งในช่วงมีประจำเดือน ซึ่งสิวที่เกิดขึ้น บางครั้งอาจพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบ หรือขึ้นลุกลามไปทั่วใบหน้า จนทำให้เกิดความไม่มั่นใจ และไม่ว่าจะใช้อะไร ก็ไม่ดีขึ้น ก่อนจะหาผลิตภัณฑ์มาดูแลปัญหาสิว KTC ขอพาไปทำความรู้จักกับ “สิวอักเสบ” กันให้มากขึ้น เพื่อจะให้รู้ถึงสาเหตุ และสามารถรักษาสิวอักเสบนี้ได้อย่างตรงจุด พร้อมโบกมือลาปัญหาสิวอักเสบกวนใจได้อย่างถูกต้อง
สิวอักเสบคือสิวผดหรือสิวอุดตันที่เกิดอาการอักเสบ
สิวอักเสบ คืออะไร
สิวนั้นมีหลายประเภท แต่ประเภทที่สร้างความกังวลใจ และทำให้หมดความมั่นใจในเหล่าคนเป็นสิวมากที่สุดก็คือ “สิวอักเสบ” ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือสิวผด หรือสิวอุดตันที่เกิดการอักเสบ ทำให้มีลักษณะบวม แดง แสบร้อน และเจ็บปวด ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นสิว แล้วมาพร้อมลักษณะบวมแดง เมื่อกดมีอาการเจ็บปวด สิวเม็ดนั้นก็คือสิวอักเสบนั่นเอง
สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ สาเหตุหลักมาจากการกระตุ้นของแบคทีเรีย C.acnes ที่มีเอนไซม์ Lipase มีความสามารถในการย่อยไขมันจนกลายเป็นกรดไขมันออกมาสู่ผิวหนังภายนอก จนกระตุ้นให้เกิดเป็นสิวอักเสบ ซึ่งสาเหตุที่กระตุ้นให้แบคทีเรียดังกล่าวสามารถกระตุ้นให้เกิดเป็นสิวอักเสบได้ มีดังนี้
- พันธุกรรม หากสมาชิกในครอบครัว มีประวัติเป็นสิวอักเสบ ผิวแพ้ง่าย ก็อาจจะส่งผลต่อมายังสมาชิกคนในครอบครัวคนอื่นๆ ได้
- การหลั่งของฮอร์โมนที่ไม่สมดุลในร่างกาย อย่างการผลิตฮอร์โมนเพศชาย (Androgens) มากกว่าปกติ ก็จะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไปจนเกิดเป็นสิวอักเสบ
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การรับประทานของมัน ของทอด อาหารไขมันสูง พักผ่อนไม่เพียงพอ ร่วมกับความเครียด ก็จะกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบ
- สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่น ควัน มลพิษทางอากาศ ซึ่งสามารถสร้างการระคายเคืองบนผิว ทำให้ผิวสกปรก และกลายเป็นสิวอักเสบได้เช่นกัน
อาการเห่อของสิวเกิดได้จากหลายสาเหตุ
สิวเห่อ เกิดจากอะไร
ปัญหาสิวเห่อ ถือเป็นอีกปัญหาสิวที่หลายคนสงสัย เพราะบางครั้งอยู่ดีๆ สิวก็เกิดเห่อเต็มหน้าขึ้นมาเสียดื้อๆ โดยจริงๆ แล้วอาการสิวเห่อนั้นมีสาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้นได้ดังนี้
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางประเภท
เช่น การใช้สเตียรอยด์ โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ อาจส่งผลให้ผิวเกิดการระคายเคือง จนเกิดเป็นอาการสิวแพ้สาร หรือสิวสเตียรอยด์ที่หลายคนคุ้นเคยกัน
- เกิดการอุดตันของผิวหนัง
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ ที่ใช้อยู่เป็นประจำ อาจมีสารที่ก่อให้เกิดการอุดตันของผิวหนัง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิวเห่อ โดยบางครั้งอาจจะไม่แสดงผลในช่วงแรกแต่เมื่อมีการใช้ไปสักระยะ ก็จะส่งผลให้เกิดอาการสิวเห่อขึ้นมาภายหลังได้เช่นกัน
- ความเครียด
ทุกครั้งที่เครียด ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่มีชื่อว่า Corticotrophin-releasing ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะไปกระตุ้นให้ผิวหนังอักเสบ และผลิตน้ำมันมามากยิ่งขึ้น จนเกิดการอุดตันขึ้นผิวหนัง ซึ่งแน่นอนว่าก็กลายเป็นการเห่อของสิวได้อีกเช่นกัน
- การทานอาหาร
อาหารที่มีน้ำตาล หรือไขมันสูง สามารถทำให้เกิดอาการสิวเห่อได้เช่นกัน เมื่อร่างกายได้รับอาหารดังกล่าว ก็จะผลิตอินซูลินเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอินซูลินนั้นกระตุ้นให้ผลิตไขมัน รวมไปถึงเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ผิวมันและอุดตันกลายเป็นสิวเห่อในที่สุด
สิวเห่อเกิดในตำแหน่งไหนได้บ้าง
อาการสิวเห่อ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกพื้นที่ของผิวหนังที่สามารถมีการอุดตันได้ แต่หลักๆ จะเป็นบริเวณใบหน้าเป็นส่วนใหญ่ เพราะใบหน้าของเรานั้นมีลักษณะผิวที่บอบบางกว่าบริเวณอื่นๆ และยังเป็นบริเวณที่ต้องเผชิญกับฝุ่น ควัน และสิ่งสกปรก ที่เข้ามาสร้างความระคายเคืองให้กับผิว นอกจากใบหน้าแล้ว สิวเห่อยังสามารถเกิดขึ้นที่หลังได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งสาเหตุก็มาจากความอับชื้น หรืออาการแพ้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณหลัง รวมไปถึงการเสียดสีในร่มผ้า
จะป้องกันสิวเห่อได้อย่างไร
สิวเห่อสามารถป้องกันได้ง่ายๆ โดยเริ่มจากการ
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิว เช่น สูตรอ่อนโยน หรือเป็นมิตรกับผิวแพ้ง่ายและไม่ควรเปลี่ยนบ่อย เพราะผิวมักจะคุ้นชินกับสิ่งที่ใช้อยู่เป็นประจำ หากเปลี่ยนบ่อยๆ ก็จะทำให้เกิดการระคายเคือง และกลายเป็นสิวเห่อได้
- รักษาความสะอาดของใบหน้า และร่างกายเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงสิ่งสกปรก งดการใช้มือจับใบหน้าบ่อยๆ และหมั่นล้างมืออยู่เสมอ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ซักปลอกหมอนเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
สิวเห่อหายเองได้ไหม
บางครั้งเมื่อเกิดอาการสิวเห่อ ก็ยังคงลังเลว่าควรไปพบแพทย์หรือไม่ หรืออาการสิวเห่อนั้นสามารถหายได้เอง ก่อนอื่นต้องพิจารณาก่อนว่าสิวเห่อดังกล่าวเป็นสิวประเภทไหน หากเป็นสิวทั่วไป ไม่มีอาการปวด อักเสบ บวมแดง และมีจำนวนไม่มาก ก็อาจหายได้เอง แต่ถ้าหากเริ่มมีจำนวนมากยิ่งขึ้น และมีการอักเสบที่รุนแรงขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาจะดีที่สุด
สิวอักเสบ เมื่อไหร่ที่เราควรตัดสินใจไปพบหมอ
หากใครเป็นสิวอักเสบ ถ้าหากว่าเป็นไม่มาก เพียงแค่ 1 - 2 เม็ด ก็อาจปล่อยให้หายเองได้ แต่ถ้าหากมีจำนวนมาก ขอแนะนำให้ไปหาหมอจะดีที่สุด เพราะการรักษาสิวนั้นต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้อง เพราะสิวอักเสบมีสาเหตุจากหลายปัจจัย และยิ่งเรารักษาได้เร็วเท่าไหร่ สิวก็จะไม่อักเสบจนกลายเป็นสิวขนาดใหญ่ ที่อาจสร้างรอยแผลเป็น รอยดำ และหลุมสิวทิ้งไว้บนใบหน้าของเราได้ ซึ่งร่องรอยเหล่านี้สามารถรักษาได้ยากกว่าสิว มีราคาที่สูง และอาจลดทอนความมั่นใจ ทำให้เกิดเป็นปมในใจได้ ดังนั้นการรักษาสิวกับแพทย์อย่างถูกวิธีตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุด
สิทธิพิเศษ! สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC พร้อมมอบความสวยแบบจัดเต็ม ด้วยโปรโมชั่นจากพรเกษมคลินิก โปรแกรม E-lase Plus และ โปรแกรม Pico Scar ราคาพิเศษและ แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 12.5% เมื่อใช้จ่ายที่พรเกษมคลินิก ผ่านบัตรเครดิต KTC พร้อมรับเครดิตเงินคืนเพิ่ม 0.5% เมื่อใช้จ่ายเต็มจำนวน สิทธิประโยชน์ดีๆ ที่มีเฉพาะบัตรเครดิต KTC เท่านั้น ดูรายละเอียดโปรโมชั่น
เพราะเรื่องของสิวเป็นเรื่องใหญ่ จึงควรรีบรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ และดูแลอย่างถูกวิธี พร้อมรับสิทธิ์แลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนจากบัตรเครดิต KTC ยิ่งคุ้มค่ากว่าเดิม ใครยังไม่มีบัตรเครดิต KTC สามารถสมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ พร้อมรับสิทธิพิเศษได้เลย
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC