ทำเลสิค ที่ไหนดี หมอเก่ง บริการดี ราคาเหมาะสม ผ่อนได้ ในปี 2025

คนที่มีปัญหาเรื่องสายตา ไม่ว่าจะสั้น ยาว หรือว่าเอียง รวมถึงภาวะสายตาที่ผิดปกติทั้งหลาย ถ้าไม่อยากใส่แว่นตาอีกต่อไป ไม่ว่าจะเรื่องของความไม่ถนัด หรืออยากปรับบุคลิกภาพส่วนตัว แนะนำให้ลองเลือกดูวิธีการทำ “เลสิค” (Lasik) ที่ในปัจจุบันนี้มีให้เลือกหลายรูปแบบ หลายราคา ใช้เวลาพักฟื้นสั้น และทำการผ่าตัดไม่นานมากนัก รวมถึงวิธีการดูแลตัวเองหลังทำเลสิคก็ไม่ยาก ทำให้การทำเลสิคกลายมาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่ไม่อยากใส่แว่นตาอีกต่อไป เพราะเสียเงินครั้งเดียวแล้วจบจริง แถมช่วยทำให้ค่าสายตากลับมาปกติในทันที ส่วนคนที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเลสิค เราได้ลิสต์มาให้ว่าทำเลสิคที่ไหนดี ราคาดี และสามารถผ่อนจ่ายได้ ในปี 2025

เลสิค (Lasik) เป็นเทคนิคการใช้แสงเลเซอร์ปรับแต่งเนื้อเยื่อกระจกตาเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาผิดปกติ

เลสิค คืออะไร

เลสิค (Lasik) ย่อมาจาก Laser-Assisted In Situ Keratomileusis ซึ่งเป็นเทคนิคการใช้แสงเลเซอร์ปรับแต่งเนื้อเยื่อกระจกตาเพื่อแก้ไขปัญหาสายตาผิดปกติ เช่น สายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง วิธีการนี้ช่วยให้ผู้ที่ต้องพึ่งพาแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์สามารถมองเห็นได้ชัดเจนโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยอีกต่อไป

ทำเลสิคมีกี่แบบ

เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา ทำให้การทำเลสิคมีให้เลือกหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น จากแต่เดิมทีที่มีให้เลือกเพียงแค่แบบเดียว ซึ่งการทำเลสิคจะอยู่ 4 แบบหลักที่เป็นที่นิยมได้แก่

1. PRK (Photorefractive Keratectomy) เชื่อว่าคนส่วนใหญ่มักจะคุ้นหูชื่อของการปรับค่าสายตาแบบนี้ เพราะว่าเป็นรุ่นแรกสุดของการปรับแก้ไขสายตา และยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน วิธีการทำคือจะไม่แยกชั้นกระจกตา แต่จะลอกชั้นกระจกตาที่อยู่นอกสุด แล้วใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer laser) ทำการปรับความโค้งของกระจกตา เหมาะสำหรับคนที่ตาแห้ง หรือทำอาชีพ หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยง อาทิ นักมวย ทหาร หรือว่านักบิน
2. เลสิคใบมีด (Lasik) นั้นมีชื่อเรียกอีกมากมาย Microkeratome LASIK หรือ Blade LASIK และเรียกย่อๆ อย่างที่รู้กันว่าคือการทำเลสิค ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะเห็นภาพชัดได้ไว ฟื้นตัวน้อย วิธีการทำคือใช้ใบมีดผ่ากระจกตาขึ้น และใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer laser) ปรับความโค้งของกระจกตา เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้น ยาว และเอียงไม่มากนัก
3. เฟมโตเลสิค (FemtoLASIK) ผู้ที่มีภาวะกระจกตาบาง หรือตาเล็ก ส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำให้ทำเลสิคแบบนี้ เพราะจะใช้เลเซอร์ (Femtosecond Laser) ในการเปิดฝากระจกตา และต่อด้วยการใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer laser) ปรับความโค้งของกระจกตา โดยไม่ต้องใช้ใบมีด และจะมีความแม่นยำมากกว่า จะระคายเคืองน้อยกว่า แต่ราคาก็แพงกว่าด้วยเช่นเดียวกัน
4. เลสิคแบบไร้ใบมีด (ReLEx Smile) หลายคนอาจจะกังวลเรื่องการใช้ใบมีดเปิดกระจกตาเพื่อทำการรักษา แต่การทำเลสิคแบบนี้จะไม่ใช้ใบมีดเลย แต่จะมีวิธีการใช้เลเซอร์ตัดเนื้อกระจกตาเป็นชิ้นเลนส์ จากนั้นก็นำชิ้นเลนส์ออกผ่านจากแผลขนาดเล็กเพียงแค่ 2-4 มม. เท่านั้น จะทำให้เกิดภาวะตาแห้ง หรือระคายเคืองน้อยมาก แต่จะใช้เวลาในการพักฟื้นมากกว่า เหมาะกับผู้ที่มีตาแห้ง และมีกิจกรรมที่จะกระทบกระเทือนดวงตา อย่างเช่น การออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยๆ

ทำเลสิคที่ไหนดี

เพราะว่าเลสิคนั้นส่วนใหญ่แล้วจะทำครั้งเดียว อาจจะทำครั้งที่สองได้ซ้ำ แต่ต้องอยู่ในการประเมินของแพทย์อย่างละเอียด และมักจะใช้เวลานานกว่า 10 ปีขึ้นไป สายตาถึงจะมีการเปลี่ยนแปลงอีก ฉะนั้นคนที่สนใจทำเลสิคต้องหาข้อมูล และเลือกโรงพยาบาล รวมถึงประเภทของเลสิคที่จะทำให้ดีก่อน โดยเราได้เลือกโรงพยาบาลที่มีแพคเกจเลสิคในราคาที่เหมาะสม ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ บริการดี และไว้ใจได้

1. ศูนย์เลสิกไทยนครินทร์

บอกลาปัญหาค่าสายตายาว สั้น เอียง สำหรับผู้ที่ต้องใส่แว่นตาตลอดเวลา ทำเลสิคที่ “ศูนย์เลสิคไทยนครินทร์” จุดเด่นคือการผ่าตัดไร้ใบมีดที่ใช้เทคโนโลยีจากเยอรมนี ทำให้ศูนย์เลสิคไทยนครินทร์ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังเลือกและตัดสินใจว่าอยากทำเลสิคแบบไร้ใบมีด ซึ่งถ้าใครที่กังวลเรื่องการทำเลสิค ก็สามารถเข้าไปรับคำปรึกษากับทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ และเริ่มต้นวัดค่าสายตากันได้

2. ศูนย์เลสิค โรงพยาบาลยันฮี

ขึ้นชื่อเรื่องการทำเลสิคเป็นอย่างมาก สำหรับโรงพยาบาลยันฮี หนึ่งในโรงพยาบาลที่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา และรักษาแก้ไขปัญหาสายตายาว สั้น หรือเอียง โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Quest ที่จะช่วยปรับเปลี่ยนความโค้งของกระจกตาอย่างเหมาะสม และทำให้มองเห็นภาพได้ชัด รวดเร็ว พร้อมได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) 

3. ศูนย์เลสิค โรงพยาบาลพระราม 9

ถ้าต้องการรับคำปรึกษา หรือตรวจสภาพดวงตาก่อนเริ่มต้นทำเลสิค แนะนำไปที่ศูนย์เลสิค ของโรงพยาบาลพระราม 9 เพราะเต็มไปด้วยหมอเก่งมากมาย รอคิวไม่นาน สามารถเข้าไปรับคำปรึกษา หรือนัดหมอได้ทุกวัน มีเทคโนโลยี และเครื่องมือที่ทันสมัย ใช้เครื่องทำเลสิคนำเข้าจากเยอรมนี มีโปรแกรมให้เลือกทำเลสิคครบทั้ง 4 แบบ พร้อมมีโปรแกรมดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากว่าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาด้วยโรคอื่นๆ 

4. ศูนย์เลสิค โรงพยาบาลปิยะเวท

อีกหนึ่งศูนย์เลสิคชื่อดัง ที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนาน การันตีความน่าเชื่อถือ และมีคุณภาพด้วยการผ่านการตรวจรับรองมาตรฐานคุณภาพระดับสากล JCI ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าสายตาคุณจะกลับมามีค่าปกติ ด้วยการทำเลสิคจากเครื่องมือที่ทันสมัย และมีทีมแพทย์เฉพาะทางที่ไม่ได้มีชื่อเสียงแค่ในเรื่องของการทำเลสิค แต่ยังรวมไปถึงการรักษาปัญหาเกี่ยวกับสายตาอื่นๆ อย่างเช่น การเลเซอร์ผ่าตัดต้อหิน หรือการยิงเลเซอร์รักษาโรคเบาหวานขึ้นตา ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นศูนย์เลสิคที่โดดเด่นมากอีกแห่งหนึ่ง แนะนำถ้าหากใครสนใจ สามารถนัดจองคิวเพื่อปรึกษา และตรวจประเมินการทำเลสิคได้โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่าย

5. ศูนย์เลสิค โรงพยาบาลวิภาวดี

ที่โรงพยาบาลวิภาวดี นอกจากจะมีแผนกจักษุที่มีเครื่องมือครบ และทันสมัย ยังมีศูนย์เลสิคสำหรับให้บริการเลสิค และรักษาความผิดปกติของค่าสายตาด้วยเลเซอร์ ถ้าหากใครที่สนใจ หรืออยากได้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำเลสิค แนะนำที่โรงพยาบาลวิภาวดี เพราะมีทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ และมีเลสิคให้เลือกหลายแบบ โดยสามารถจองคิว เข้านัดตรวจสภาพตา และประเมินก่อนเริ่มทำเลสิคได้เลย

ทำเลสิค ราคาเท่าไร

การทำเลสิค ราคาจะขึ้นอยู่กับรูปแบบของการทำเลสิคที่คุณเลือก เพราะการทำเลสิคแต่ละแบบจะมีราคาเริ่มต้นที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ราคาของการทำเลสิคจะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ และปัญหาค่าสายตาของแต่ละคน รวมถึงแพคเกจของแต่ละโรงพยาบาล โดยเลสิค ราคาจะมีให้เลือกคร่าวๆ ดังนี้

• PRK (Photorefractive Keratectomy) ราคาจะอยู่ที่ 40,000 - 60,000 บาท
• เลสิคใบมีด (Lasik) ราคาจะอยู่ที่ 40,000 - 60,000 บาท
• เฟมโตเลสิค (FemtoLASIK) ราคาจะอยู่ที่ 70,000 - 100,000 บาท
• เลสิคแบบไร้ใบมีด (ReLEx Smile) ราคาจะอยู่ที่ 90,000 - 100,000 บาท

ทําเลสิค ข้อดี-ข้อเสีย

การทำเลสิคคือการแก้ไขปัญหาค่าสายตาที่ต้นเหตุ ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่แน่นอนหลังจากการทำ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องพึงพาอุปกรณ์ช่วยปรับค่าสายตา อย่าง แว่นตา หรือคอนแทคเลนส์อีกต่อไป แต่การทำเลสิคก็จะมีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป แนะนำสำหรับคนที่สนใจอยากทำเลสิค ให้ศึกษาข้อดี และข้อเสียให้แน่ใจก่อน

ข้อดีของการทำเลสิค

• ไม่ต้องพึงอุปกรณ์ช่วยปรับค่าสายตา
• พักฟื้นไม่นาน ใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์
• ปรับได้ทั้งสายตาสั้น ยาว และเอียง
• ผลข้างเคียง และภาวะแทรกซ้อนหลังจากการทำเลสิคนั้นต่ำมาก

ข้อเสียของการทำเลสิค

• อาจจะทำให้เกิดภาวะตาแห้งหลังจากการทำเลสิค
• สำหรับคนที่ทำ เฟมโตเลสิค (FemtoLASIK) ถ้ามีอะไรกระทบกระเทือนดวงตาอย่างรุนแรง อาจจะทำให้ฝากระจกตาเกิดการเคลื่อนที่
• ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับสายตาที่ผิดปกติมาก ราคาก็แพงกว่าเรทปกติ
• การทำ เลสิคแบบไร้ใบมีด (ReLEx Smile) ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาสำหรับคนที่มีสายตายาวได้

หลังทํา เลสิค ห้ามอะไรบ้าง

แม้ว่าการทำเลสิคจะใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน การทำเลสิคบางประเภท อย่างเช่น เลสิคใบมีด (Lasik) และ เฟมโตเลสิค (FemtoLASIK) อาจจะใช้เวลาพักฟื้นแค่ 2 วัน นานสุดก็แค่ 2 อาทิตย์ แต่ข้อห้ามสำหรับคนที่ทำเลสิคก็มีไม่น้อย ซึ่งผู้ทำเลสิคควรปฎิบัติตามข้อห้ามเหล่านี้อย่างเคร่งครัด ได้แก่

• ควรนอนหลับอย่างพอเพียง และพักสายตาให้มาก นอนไม่เกิน 2 ทุ่ม หรือพักงีบตอนกลางวันครั้งละ 2-3 ชั่วโมง
• งดการเพ่งดูจอโทรศัพท์ โทรทัศน์ หรือการใช้สายตามองสิ่งใดสิ่งหนึ่งในระยะเวลานานๆ
• งดแต่งหน้ารอบดวงตา จนกว่าจะพ้นระยะพักฟื้น
• งดฉีดสเปรย์ และน้ำหอม
• งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งก่อน และหลังผ่าตัด จนกว่าการพักฟื้นจะสิ้นสุดลง
• ห้ามขยี้ตา ถ้ามีน้ำตาไหลออกมา ทำได้เพียงแค่ใช้ทิชชู่ซับออกเท่านั้น
• ห้ามให้น้ำ หรือฝุ่นละอองเข้าตา
• ห้ามว่ายน้ำหลังทำเลสิค 2 สัปดาห์
• ห้ามดำน้ำลึกหลังจากทำเลสิคแล้วประมาณ 4 สัปดาห์
• ห้ามใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่น จนกว่าได้รับการอนุญาต
• ควรใส่แว่นกันแดดในระยะเวลา 3 เดือน หลังจากการทำเลสิค

หลายคนที่มีปัญหาสายตาหันมาให้ความสนใจในการทำเลสิคกันมากขึ้น เพราะจ่ายครั้งเดียวแล้วจบ เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุที่ได้รับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ คือสายตาจะกลับมาเป็นปกติทันทีหลังจากพักฟื้น แถมยังไม่ต้องพักฟื้นนาน ที่สำคัญไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร และมีเงื่อนไขในการทำกิจกรรมหลังจากการทำเลสิคก็สามารถเลือกประเภทของการทำเลสิคให้ตรงตามจุดประสงค์ได้ สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC ทำเลสิก เมื่อใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต KTC มีโปรโมชั่น และสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น สะสมคะแนน KTC FOREVER นำคะแนนไปแลกเครดิตเงินคืนได้ สำหรับโรงพยาบาลที่ร่วมรายการสามารถเข้าไปดูรายละเอียดของแลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 13% แบบไม่จำกัดตลอดรายการ ที่โรงพยาบาลและคลินิกทั่วประเทศ กันได้เลย ระยะเวลาโปรโมชั่น 1 ต.ค. 67 - 31 ธ.ค. 68 สุดท้ายแล้วถ้าใครยังลังเลเรื่องการทำเลสิค สามารถเข้าไปรับคำปรึกษา หรือตรวจสภาพค่าสายตาก่อนการเริ่มทำเลสิคกันได้เลย และอย่าลืมไปสมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ กันเอาไว้ รับรองโปรโมชั่นมีให้เลือกเยอะ บางโรงพยาบาลสามารถผ่อน 0% ได้ด้วย

ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC