Headphone ยี่ห้อไหนดี เลือกหูฟังคู่ใจที่เข้ากับสไตล์ของคุณ

การเลือกซื้อ Headphone ดี ๆ สักตัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ในตลาดมีหูฟัง Headphone หลากหลายรุ่น หลากหลายแบรนด์จนหลายคนตัดสินใจลำบากว่าจะเลือก Headphone ยี่ห้อไหนดี บทความนี้จึงจะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมของการเลือกหูฟังที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพเสียง ดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน ความสบายในการสวมใส่ มาดูกันว่ายี่ห้อไหนที่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในตอนนี้

วิธีการเลือก Headphone ควรพิจารณาเรื่องอะไรบ้าง?

ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกว่า Headphone ยี่ห้อไหนดี สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจว่าหูฟังครอบหู แนะนําที่ดีสำหรับคุณนั้นต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง ลองมาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่คุณควรพิจารณา

• ประเภทของหูฟังHeadphone
• Over-Ear (ครอบหูทั้งหมด): หูฟัง Headphone แบบครอบหู กันเสียงรบกวนได้อย่างดีเยี่ยม สวมใส่สบายสำหรับการใช้งานระยะยาว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดื่มด่ำกับเสียงเพลงอย่างเต็มที่
• On-Ear (แปะหู): ประเภทนี้จะวางทับอยู่บนใบหู มักจะมีขนาดเล็กกว่าและพกพาง่ายกว่าแบบ Over-Ear แต่การกันเสียงรบกวนอาจไม่ดีเท่า
• Open-Back (แบบเปิด): มีโครงสร้างด้านหลังเปิด ทำให้เสียงสามารถเล็ดลอดออกไปได้ และเสียงจากภายนอกก็สามารถเข้ามาได้เช่นกัน เหมาะสำหรับการฟังเพลงในบ้านที่ต้องการคุณภาพเสียงสูงสุด
• Closed-Back (แบบปิด): มาพร้อมโครงสร้างด้านหลังปิดสนิท เพื่อป้องกันเสียงเล็ดลอดออกและกันเสียงจากภายนอกได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในที่สาธารณะ
• คุณภาพเสียง
• ควรเลือกหูฟัง Headphone ที่มีคุณภาพเสียงตรงกับความต้องการ บางรุ่นเน้นเบสหนักแน่น บางรุ่นมีเสียงกลางใส ๆ เรื่องคุณภาพเสียงค่อนข้างเป็นความชอบส่วนบุคคล โดยสำหรับคนที่เลือกไม่ถูก สามารถลองเทสหูฟังก่อนเลือกซื้อหรือหาอ่านรีวิวเพิ่มเติม
• ความสบายในการสวมใส่
• หูฟัง Headphone ที่ดีควรมีน้ำหนักเบา สามารถสวมใส่ได้นานโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้า และมี Earpad ที่ทำมาจากวัสดุอ่อนนุ่ม ระบายอากาศได้ดี ช่วยลดอาการระคายเคือง ไม่บีบรัดศีรษะมากเกินไปจนรู้สึกเจ็บ
• ฟังก์ชันการใช้งาน
• ฟังก์ชันการใช้งานเป็นอีกตัวเลือกที่นำมาประกอบการพิจารณาว่าควรเลือก Headphone ยี่ห้อไหนดี โดยอันดับแรกควรพิจารณาว่าหูฟังที่ต้องการเป็นแบบมีสายหรือไร้สาย เพราะการทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น การออกกำลังกาย หูฟังแบบมีสายจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่นัก รวมถึงการเลือกหูฟังที่มี Noise Cancellation และไมโครโฟน ก็เป็นอีกฟังก์ชันที่ควรเลือกให้สะดวกและครอบคลุมการใช้งานมากที่สุด
• ดีไซน์และวัสดุ
• ดีไซน์ที่สวยงามจะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้หลายคนนำมาตัดสินใจเลือก Headphone เนื่องจากความชอบและแฟชั่นของหูฟังที่เข้ากับการแต่งตัว ช่วยเสริมลุคให้ดูดี นอกจากนั้นยังควรเลือกหูฟังที่ทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

10 Headphone ยี่ห้อไหนดี คัดสรรที่สุดสำหรับคุณ

มาถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย สำหรับใครที่กำลังมองหา Headphone ยี่ห้อไหนดี เราได้รวบรวมหูฟังครอบหู ไร้สาย แนะนํายอดนิยมในตลาดกว่า 10 รุ่น พร้อมรายละเอียดคุณสมบัติเด่น เพื่อช่วยให้คุณหาหูฟังที่ใช่สำหรับตัวเอง

1.Sony WH-1000XM5

หากคุณกำลังมองหาหูฟังบลูทูธ ครอบหู ยี่ห้อไหนดีที่โดดเด่นเรื่องการตัดเสียงรบกวน Sony WH-1000XM5 คือตัวเลือกอันดับต้น ๆ ด้วยเทคโนโลยี Noise Cancelling ขั้นสูง พร้อมโปรเซสเซอร์ Integrated Processor V1 และ HD Noise Cancelling Processor QN1 ที่ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว ทำให้สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมง และดีไซน์ที่ทันสมัย

2. Bose QuietComfort Ultra Headphones

อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการตัดเสียงรบกวนคือ Bose QuietComfort Ultra Headphones หูฟัง Headphone แนะนํารุ่นนี้มอบประสบการณ์การฟังที่เหนือระดับ ด้วยเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดจาก Bose พร้อมโหมด Immersive Audio ที่ช่วยให้เสียงสมจริงยิ่งขึ้น และฟีเจอร์ CustomTune ที่ปรับแต่งเสียงให้เหมาะกับหูของคุณโดยเฉพาะ ดีไซน์สวยงาม สวมใส่สบาย เหมาะสำหรับการเดินทางและการใช้งานในชีวิตประจำวัน

3. Apple AirPods Max

สำหรับผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ Apple ที่กำลังมองหาที่ครอบหูฟังระดับพรีเมียม Apple AirPods Max คือตัวเลือกที่ลงตัว ด้วยการออกแบบที่หรูหรา วัสดุคุณภาพสูง และการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อกับอุปกรณ์ Apple อื่น ๆ รุ่นนี้มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ (Active Noise Cancellation) และโหมด Transparency ที่ช่วยให้คุณได้ยินเสียงรอบข้าง นอกจากนี้ยังให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม พร้อม Spatial Audio ที่มอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่น่าทึ่ง

4. Sennheiser Momentum 4 Wireless

Sennheiser Momentum 4 Wireless เป็นหูฟังแบบครอบหู ไร้สายที่โดดเด่นด้วยคุณภาพเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Sennheiser พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 60 ชั่วโมง ทำให้คุณสามารถฟังเพลงได้อย่างต่อเนื่องตลอดวัน ให้เสียงที่คมชัด รายละเอียดครบถ้วน พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Adaptive Noise Cancellation ที่ปรับการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ ดีไซน์เรียบหรู สวมใส่สบาย

5. Audio-Technica ATH-M50xBT2

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบคุณภาพเสียงแบบ Audiophile และมองหาหูฟังครอบหัวที่ให้รายละเอียดเสียงคมชัด Audio-Technica ATH-M50xBT2 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ รุ่นนี้พัฒนามาจากรุ่น M50x ที่เป็นที่ยอมรับในวงการสตูดิโอ มาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 รองรับ Codec คุณภาพสูงอย่าง LDAC และ AAC ให้เสียงที่เที่ยงตรง เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับนักดนตรี โปรดิวเซอร์

6. Marshall Monitor II ANC

Marshall Monitor II ANC คือหูฟังครอบหูที่ผสานดีไซน์สุดคลาสสิกของ Marshall แบรนด์ลำโพงชื่อดังที่ใช้กันในทุกงาน ทั้งเปิดในคาเฟ่ งานขึ้นบ้านใหม่ หรือแม้แต่งานปาร์ตี้ หูฟังรุ่นนี้จึงมาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ ให้คุณภาพเสียงที่ทรงพลังตามสไตล์ Marshall พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมง (เมื่อเปิด ANC) มาพร้อมประสิทธิภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม

7. Jabra Elite 85h

Jabra Elite 85h เป็นหูฟังอันใหญ่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี SmartSound ที่สามารถปรับการตั้งค่าเสียงและระบบตัดเสียงรบกวนได้โดยอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมของคุณ ให้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมสำหรับการฟังเพลงและการสนทนา พร้อมไมโครโฟนถึง 8 ตัว เพื่อการโทรที่คมชัดในทุกสถานการณ์ กันน้ำและฝุ่นได้ในระดับ IP52 รองรับการใช้งานที่หลากหลาย

8. Anker Soundcore Life Q30

หากคุณกำลังมองหาหูฟังครอบหู ราคาไม่เกิน 1000 ที่มาพร้อมฟังก์ชัน Active Noise Cancellation Anker Soundcore Life Q30 คือตัวเลือกที่น่าสนใจ มอบประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนที่ดีเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย พร้อมคุณภาพเสียงที่น่าประทับใจ และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 40 ชั่วโมง

9. Sony WH-CH720N

รีวิวหูฟังครอบหูราคาที่ไม่แพงมากนัก Sony WH-CH720N คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่า มาพร้อมเทคโนโลยี Digital Noise Cancelling และฟังก์ชัน Ambient Sound Mode ที่ช่วยให้คุณสามารถเลือกฟังเสียงรอบข้างได้ตามต้องการ ให้คุณภาพเสียงที่ดีตามมาตรฐาน Sony พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 35 ชั่วโมง

10. JBL Tune 720BT

JBL Tune 720BT เฮดโฟน คือหูฟังที่โดดเด่นด้วยเสียงเบสที่หนักแน่นตามสไตล์ JBL เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเพลงแนว Pop, EDM หรือ Hip-Hop รุ่นนี้มาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.3 และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 76 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชัน Fast Pair

หากสนใจผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพิ่มเติมอ่านได้ที่ : โทรศัพท์ซัมซุงราคาไม่เกิน5000 และ แทบเล็ตไม่เกิน 3000

ความแตกต่างระหว่าง Headphone กับ Headset ควรเลือกแบบไหน?

ถึงตรงนี้แล้วหลายคนน่าจะมีคำถามมากมายจากการเลือกว่าจะซื้อ Headphone ยี่ห้อไหนดี โดยเฉพาะความสับสนระหว่างคำว่าหูฟังเฮดโฟนกับ Headset เพราะดูเหมือนกันมาก แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองอย่างมีความแตกต่างกันในแง่ของฟังก์ชันการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น

• Headphone มุ่งเน้นไปที่คุณภาพเสียงสำหรับการฟังเพลง ชมภาพยนตร์ หรือเล่นเกมแบบดื่มด่ำ โดยส่วนใหญ่จะไม่มีไมโครโฟนในตัว หรือมีแต่เป็นแบบที่ซ่อนอยู่และไม่สามารถปรับตำแหน่งได้อิสระ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงสูงสุดและไม่ได้เน้นการสื่อสารด้วยเสียงบ่อยนัก จึงมักเน้นเรื่องคุณภาพเสียงเป็นหลัก
• Headset เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการการสื่อสารเป็นหลัก เช่น การเล่นเกมออนไลน์กับเพื่อนร่วมทีม, การประชุมออนไลน์, การทำงานใน Call Center หรือการเรียนออนไลน์ มีไมโครโฟนที่สามารถปรับตำแหน่งได้ เพื่อให้เสียงพูดคมชัด และมักจะมีปุ่มควบคุมเสียงหรือไมโครโฟนอยู่ที่ตัวหูฟังเลย

ควรเลือกแบบไหน?

การเลือกขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งานของคุณ

• หากคุณเน้นการฟังเพลง ดูหนัง หรือต้องการหูฟัง Full size ที่ให้คุณภาพเสียงดีเยี่ยม และไม่จำเป็นต้องใช้ไมโครโฟนบ่อยนัก คือตัวเลือกที่เหมาะสม เน้นที่การตอบสนองความถี่ที่กว้าง และความเที่ยงตรงของเสียง
• หากคุณเป็นนักเล่นเกมที่ต้องการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม หรือทำงานที่ต้องประชุมออนไลน์เป็นประจำ มันจึงตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้ดีกว่า เพราะมีไมโครโฟนคุณภาพดีในตัว ทำให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่น

Headphone ยี่ห้อไหนดี ที่สมบูรณ์แบบเพื่อไลฟ์สไตล์ของคุณ

หลังจากที่เราได้สำรวจโลกของหูฟัง เฮดโฟนกันอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยในการเลือกซื้อ การแนะนำ Headphone ยี่ห้อไหนดี หลากหลายรุ่น หวังว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์และสามารถตัดสินใจเลือกหูฟังครอบหู ไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างลงตัว

หากคุณต้องการหูฟังมาใช้งานแบบด่วน ๆ โดยเฉพาะคนที่ทำอาชีพเกี่ยวกับดนตรี เช่น Sound Engineer หรือนักดนตรี บัตรกดเงินสด KTC PROUD เป็นอีกตัวช่วยด้านการเงินที่เข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้หูฟังแบบด่วน ๆ เพียงมีเงินเดือนเริ่มต้น 12,000 บาทก็สามารถสมัครได้แล้ว ด้วยอัตราดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดที่คิดตามยอดใช้จริง เรียกได้ว่าบัตรกดเงินสด คือทางออกยามฉุกเฉิน ช่วยให้การเงินของคุณคล่องตัวไม่มีสะดุด โดยคนที่สนใจสามารถสมัครได้ที่ KTC TOUCH ทุกสาขา

อ่านเพิ่มเติมสำหรับเตรียมตัวสมัครบัตรกดเงินสด : เอกสารสมัครบัตรกดเงินสด และ ทําบัตรกดเงินสดใช้อะไรบ้าง

สมัครบัตรกดเงินสด KTC PROUD ภายใน 15 ธ.ค. 2568 นอกจากจะได้รับโปรโมชันโค้ดส่วนลด Lazada มูลค่า 2,000 บาท แล้ว เมื่อได้รับบัตรคุณยังสามารถผ่อนสินค้า 0% นานสูงสุด 20 เดือน บนแอป Lazada ได้อีกด้วย

• สมัครง่าย เงินเดือน 12,000 บาท ก็สมัครได้
• อนุมัติไว เลือกรับเงินโอนเข้าบัญชีได้ทันที เมื่ออนุมัติ
• เบิกเงินได้ 24 ชั่วโมง ผ่านแอป KTC Mobile และ ATM ทั่วประเทศ
• ผ่อนสินค้า 0% นานสูงสุด 24 เดือน ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ
• รูดซื้อสินค้า และช้อปออนไลน์ พร้อมรับสิทธิพิเศษทั้งปี

เพิ่มอิสระทางการเงินให้ชีวิต เลือกบัตรกดเงินสด KTC PROUD

*กู้เท่าที่จําเป็นและชําระคืนได้ตามกําหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 25% ต่อปี