นอกจากการวางแผนธุรกิจ คิดกลยุทธ์การขาย สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ “เงินทุน” เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การทำธุรกิจราบรื่น ทั้งยังช่วยพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) หรือธุรกิจขนาดใหญ่ ล้วนแต่ต้องใช้เงินในการลงทุน ทั้งการจ่ายต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และค่าใช้จ่ายแอบแฝง ซึ่งในขณะที่การทำธุรกิจเริ่มต้นขึ้น ผู้ประกอบการยังต้องวางแผนการเงิน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าธุรกิจยังสามารถดำเนินต่อไปได้ แม้บริษัทจะยังไม่มีกำไร เชื่อว่าหลายคนที่มีความคิดอยากประกอบธุรกิจ มีโปรเจกต์ที่อยากทำ แต่ยังไม่มีเงินทุนสำหรับสานฝัน แนะนำลองอ่านบทความนี้ เพราะ KTC ได้รวบรวมข้อมูลสำหรับผู้ที่อยากกู้เงินเพื่อทำธุรกิจ หรือขอสินเชื่อ SME เพื่อเริ่มต้นธุรกิจ ว่ามีข้อควรรู้อะไรบ้าง
สินเชื่อ SME คือ สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย
สินเชื่อผู้ประกอบการ (สินเชื่อ SME) คืออะไร
สินเชื่อ SME คือ สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย ที่ประกอบธุรกิจขนาดเล็ก - ขนาดกลาง ซึ่งวงเงินของการขอสินเชื่อจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคาร และโปรโมชั่น โดยสินเชื่อนี้ได้ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ประกอบการ หรือเจ้าของบริษัทเท่านั้น บุคคลทั่วไปไม่สามารถกู้สินเชื่อนี้ได้
เลือกขอสินเชื่อ SME แบบไหนดี
ประเภทของสินเชื่อ SME แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ก็คือ สินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ และสินเชื่อแบบไม่ต้องมีหลักทรัพย์ ซึ่งมีรายละเอียดและความแตกต่างระหว่างสินเชื่อทั้ง 2 แบบ ดังนี้
- สินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ ข้อดีของการขอสินเชื่อ SME โดยใช้หลักทรัพย์ จะทำให้ธุรกิจของคุณมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และสามารถยื่นขอวงเงินได้มากกว่าแบบที่ไม่มีหลักทรัพย์ และได้ระยะเวลาผ่อนชำระนานมากขึ้นด้วย
- สินเชื่อแบบไม่มีหลักทรัพย์ มีหลายโครงการที่ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ก็ยื่นกู้ได้ แต่ส่วนใหญ่จะได้วงเงินต่ำกว่า เหมาะกับคนที่ไม่อยากยุ่งยากยื่นเอกสาร หรือไม่มีหลักทรัพย์ให้ค้ำประกัน ซึ่งนอกจากวงเงินจะต่ำแล้ว ดอกเบี้ยยังสูงกว่า และต้องผ่อนชำระคืนในเวลาที่สั้นกว่าแบบมีหลักทรัพย์
เทคนิคขอสินเชื่อ SME ให้ได้อย่างที่ต้องการ
หากยังไม่มีประสบการณ์ขอสินเชื่อ SME แนะนำลองศึกษาวิธีการเหล่านี้เป็นแนวทาง ในการเตรียมเอกสาร เตรียมข้อมูลให้พร้อม โดยเริ่มต้นให้เลือกโครงการที่ธุรกิจของคุณเข้าเงื่อนไข และมีคุณสมบัติตรงกับรายละเอียดที่ธนาคารได้แจ้งไว้ โดยแนะนำให้เลือกโครงการที่ต้องการกู้ไปเลยตั้งแต่แรก เพื่อที่จะได้มีเป้าหมาย วางแผนเรื่องวงเงินกู้ และระยะเวลาผ่อนชำระ โดยเทคนิคสำหรับการขอสินเชื่อเหล่านี้ เป็นแนวทาง ในการเตรียมตัวเพื่อให้มีโอกาสขอสินเชื่อผ่านมากขึ้น
- มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ถ้าอยากอุ่นใจมากกว่า ไม่อยากพลาดโอกาสในการยื่นกู้ แนะนำให้เตรียมหลักทรัพย์เอาไว้ค้ำประกัน เช่น ที่ดิน โรงงาน สำนักงาน หรือหลักทรัพย์อื่นๆ ขึ้นอยู่กับทางธนาคารที่ต้องการขอสินเชื่อกำหนด
- เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ขั้นตอนการเตรียมเอกสารนั้นสำคัญมาก เพราะหากเอกสารครบ และมั่นใจว่าตรงตามเงื่อนไข จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อให้ผ่านได้ง่ายมากขึ้น
- แยกบัญชีส่วนตัว และธุรกิจ สิ่งแรกที่ต้องทำสำหรับผู้ที่จะประกอบธุรกิจก็คือ การแยกบัญชีส่วนตัวและบริษัทออกจากกัน ให้เปิดบัญชีสำหรับนิติบุคคล และยื่นเอกสารให้ถูกต้อง โดยบัญชีนิติบุคคลจะต้องโปร่งใส มีที่มาทางการเงินชัดเจน ตรวจสอบได้ แนะนำให้ใช้จ่าย หรือรับเงินจากธุรกิจผ่านบัญชีบริษัท และมีหลักฐานการใช้จ่าย และรับเงินที่ถูกต้อง เพื่อให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของบริษัท
- รักษาเครดิต ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อประเภทใดก็ตาม ผู้ยื่นขอสินเชื่อจะถูกตรวจสอบเครดิตบูโร และถ้าหากว่ามีหนี้ที่ยังไม่ชำระ หรือมีประวัติทางการเงินไม่ดี จะส่งผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่ออย่างแน่นอน
เอกสารเบื้องต้นที่ควรมีเพื่อเพิ่มโอกาสในการยื่นกู้ผ่าน
สำหรับเอกสารเบื้องต้นที่ควรเพื่อเพิ่มโอกาสในการยื่นกู้จะมีระบุอยู่ในเงื่อนไขเอกสารที่ต้องใช้ในการขอยื่นกู้ โดยมีเอกสารสำคัญคือ เอกสารที่เกี่ยวกับการเงิน เช่น งบการเงิน พร้อมหมายเหตุประกอบงบการเงินปีล่าสุด เอกสารเดินบัญชีย้อนหลัง และเอกสารเกี่ยวกับการยื่นและชำระภาษี นอกจากนี้ธนาคารยังอาจขอเอกสารเพิ่มเติมอื่นๆ ตามที่ทางธนาคารกำหนดเพื่อประกอบการพิจารณาได้
เมื่อธุรกิจ SME ต้องการเงินทุนเพื่อขยายกิจการ การเตรียมตัวขอสินเชื่อมีความสำคัญมาก ซึ่งการเตรียมตัวอย่างรอบคอบจะช่วยให้ได้รับสินเชื่อที่ตรงกับวัตถุประสงค์และเงื่อนไขที่เหมาะสมกับธุรกิจ ทำให้มั่นใจว่าธุรกิจจะได้รับเงินทุนมาใช้จ่ายขยายกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำอีกหนึ่งตัวช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินก็คือ บัตรเครดิต KTC สำหรับบุคคล ที่สามารถใช้ชำระค่าอุปกรณ์และค่าวัตถุดิบในการเริ่มต้นทำธุรกิจได้ หรือหากต้องการเงินเร่งด่วน ก็ยังสามารถเบิกถอนเงินสดได้จากวงเงินคงเหลือผ่านการโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ผ่านแอป KTC Mobile หรือจะเบิกถอนจากตู้ ATM ก็ได้ และทุกการใช้จ่าย 25 บาท จะได้รับ 1 คะแนน KTC FOREVER ที่ใช้แลกคะแนนแทนเงินสดได้เลย 1,000 คะแนน = 100 บาท สมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ได้ด้วยตัวคุณเองตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อการเริ่มต้นธุรกิจที่ราบรื่น
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC