การติดตามเทรนด์ใหม่ๆ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ และสำหรับปี 2025 นี้ ก็มีเทรนด์ธุรกิจหลายอย่างที่น่าจับตามอง สำหรับผู้ประกอบการที่อยากทราบว่าเทรนด์ธุรกิจ 2025 มีอะไรบ้างที่กำลังมาแรง มีโอกาสเป็นเทรนด์ธุรกิจอนาคต และกำลังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจอยู่ นี่คือ 12 เทรนด์ธุรกิจ 2025 ที่เราขอแนะนำ
1. เทรนด์ธุรกิจสำหรับคนรักสัตว์
เทรนด์การเลี้ยงสัตว์แบบลูกหรือสมาชิกในครอบครัว (Pet Parents) นั้นมาแรงอย่างต่อเนื่อง ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น และพร้อมที่จะใช้จ่ายเพื่อสร้างความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสัตว์เลี้ยง จึงทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเติบโตได้ดีในปี 2025 นี้ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายอาหารสัตว์เกรดพรีเมียม อาหารเสริมสำหรับสัตว์เลี้ยง คลินิกและโรงพยาบาลรักษาสัตว์ อุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง โรงแรมสัตว์เลี้ยง สปา สระว่ายน้ำ ร้านตัดแต่งขน ธุรกิจถ่ายภาพสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น แอปติดตามสุขภาพสัตว์เลี้ยง อุปกรณ์อัจฉริยะที่ช่วยดูแลสัตว์ เทคโนโลยีช่วยเหลือสัตว์พิการ ก็ล้วนเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ หากสร้างแบรนด์ที่เน้นเรื่องคุณภาพและความใส่ใจในรายละเอียด ก็จะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้ได้
2. เทรนด์การนำปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ
หากเอ่ยถึงเทรนด์ธุรกิจ 2025 และเทรนด์ธุรกิจในอนาคต จะไม่พูดถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติ (Automation) ก็คงไม่ได้ เพราะทั้งระบบ AI และ Automation ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่การผลิต การตลาด ไปจนถึงการดูแลลูกค้า อีกทั้ง AI ไม่เพียงแค่ช่วยลดต้นทุน แต่ยังเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพของการทำงานได้อีกด้วย โดยธุรกิจที่สามารถนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนาสินค้าและบริการ การจัดการภายในองค์กร การวิเคราะห์และคาดการณ์ความต้องการของลูกค้า รวมถึงการจัดเก็บข้อมูล และรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล จะได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมากขึ้น
ตัวอย่างธุรกิจที่น่าสนใจ เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชัน AI เฉพาะทางอย่างระบบวิเคราะห์สุขภาพ การตรวจจับการฉ้อโกงในธุรกิจการเงิน หรือจะเป็นสร้างแพลตฟอร์มที่ใช้ Automation อย่างระบบจัดการสต๊อกสินค้าอัตโนมัติ ระบบตอบแชทลูกค้า (Chatbot) ฯลฯ
3. เทรนด์ธนาคารเสมือนจริง (Virtual Bank)
Virtual Bank คือเทรนด์ธุรกิจในอนาคตที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงระบบการเงินและการธนาคารทั่วโลก เพราะ Virtual Bank คือธนาคารเสมือนจริงที่ไม่มีสาขาตั้งอยู่เลย ทุกกระบวนการดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว
ด้วยความสะดวกสบายของเทคโนโลยี Virtual Bank ถือว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก ทำให้กลายเป็นเทรนด์ธุรกิจ 2025 ที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและผู้ประกอบการที่ต้องการการทำธุรกรรมที่คล่องตัว ทั้งการเปิดบัญชีภายในไม่กี่นาทีผ่านสมาร์ทโฟน, การชำระเงินผ่าน QR Code, e-Wallet, การขอสินเชื่อ, การลงทุนในหุ้น หรือกองทุน เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้น Virtual Bank ยังช่วยลดข้อจำกัดของธนาคารแบบเดิมๆ เช่น เวลาเปิด-ปิด การเดินทางไปสาขา หรือลดขั้นตอนที่ซับซ้อนด้วย
4. เทรนด์ธุรกิจเพื่อสุขภาพผู้สูงอายุ
ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แล้ว ดังนั้นเทรนด์ธุรกิจ 2025 ที่มาแรงและน่าลงทุนก็คือเทรนด์ธุรกิจเพื่อสุขภาพผู้สูงอายุ ซึ่งความต้องการด้านสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพ การดูแล และเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้สูงอายุใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ยกตัวอย่างที่น่าลงทุน เช่น
- ศูนย์ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบครบวงจร เช่น บริการฟื้นฟูสุขภาพ กายภาพบำบัด
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินสำหรับผู้สูงอายุ เช่น อาหารเสริมสำหรับบำรุงกระดูก หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลสมอง
- นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ เช่น Smart Watch สำหรับตรวจวัดสัญญาณชีพ เตียงหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบเฉพาะเพื่อความปลอดภัย
- แอปพลิเคชันสำหรับช่วยเหลือผู้สูงอายุ เช่น แอปเตือนรับประทานยา
5. เทรนด์ธุรกิจสินค้ารักษ์โลก
เทรนด์ธุรกิจ 2025 ที่มาแรงและน่าจับตามองอย่างมากก็คือ ธุรกิจสินค้ารักษ์โลก ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ประกอบการขนาดเล็กหรือวัยรุ่นที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจ ด้วยกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นทั้งจากผู้บริโภคและนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ
ซึ่งสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ กล่องอาหารจากฟางข้าว หลอดสเตนเลส แปรงสีฟันไม้ไผ่ น้ำยาล้างจานออร์แกนิก หรือสินค้าที่ผลิตจากขยะรีไซเคิล กลายเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาด โดยผู้ที่สนใจสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมวางแผนการตลาดที่ชัดเจนเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าสายรักษ์โลก โดยการลงทุนในเทรนด์นี้ไม่เพียงช่วยสร้างรายได้ แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างความแตกต่างและความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาว และถือเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจเล็กๆ สำหรับวัยรุ่นยุคใหม่ที่ให้ความสนใจในสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
6. เทรนด์ธุรกิจเกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพ
ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพยังคงเป็นเทรนด์ธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะปัจจุบันผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพและการเลือกบริโภคอาหารที่ดีต่อร่างกายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อาหารคลีน อาหารออร์แกนิก อาหารมังสวิรัติหรือ อาหารสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการบริโภค เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้ รวมถึง ผลิตภัณฑ์จากพืชและผลไม้ปลอดสารพิษ ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการในตลาด
โอกาสสำหรับธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพไม่ได้จำกัดเฉพาะการผลิตและจำหน่ายอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจเกี่ยวข้องกันด้วย เช่น ฟาร์มผักออร์แกนิก ฟาร์มผลไม้ปลอดสารพิษ ผู้ผลิตเครื่องปรุงเพื่อสุขภาพ หรือแม้แต่ธุรกิจขนส่งสินค้าอาหารสด ที่ช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่
สำหรับ SMEs หรือผู้ที่สนใจเริ่มต้นอยากทำธุรกิจ การลงทุนในกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพนี้ ไม่เพียงแค่ช่วยสร้างกำไรในระยะสั้น แต่ยังตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเข้าสู่ตลาดนี้จึงเป็นโอกาสทองที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงในยุคที่การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ
7. เทรนด์ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด
การสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากภาครัฐ ทำให้ธุรกิจในกลุ่มนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับรถ EV และพลังงานสะอาดจึงมีโอกาสขยายตัวสูง ยกตัวอย่างธุรกิจที่น่าลงทุน เช่น ธุรกิจติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีความจุสูง น้ำหนักเบา และมีความปลอดภัยในการใช้งาน ธุรกิจติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้านและโรงงาน เทคโนโลยีสำหรับบ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Home เป็นต้น
8. เทรนด์ธุรกิจ ESG และธุรกิจเพื่อความยั่งยืน
ปัจจุบันผู้บริโภคตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและผลกระทบทางสังคมมากขึ้น การดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือ ESG (Environmental, Social, and Governance) ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจโลก โดยธุรกิจที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างความยั่งยืนจึงเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ประกอบการและนักลงทุนในปี 2025 นี้ ยกตัวอย่างธุรกิจ ESG ที่น่าลงทุนในปี 2025 เช่น
- ธุรกิจที่ผลิตสินค้าโดยใช้วัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุทดแทน เช่น เสื้อผ้าจากขวดพลาสติก เฟอร์นิเจอร์จากวัสดุเหลือใช้ การใช้ไบโอพลาสติกหรือบรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้
- ธุรกิจจัดการขยะและรีไซเคิลขยะ
- ธุรกิจพลังงานสะอาด เช่น โซลาร์เซลล์ พลังงานลม หรือพลังงานน้ำ
- ธุรกิจที่ส่งเสริมการเกษตรยั่งยืน เช่น การผลิตปุ๋ยชีวภาพ การปลูกพืชที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ
การลงทุนในธุรกิจ ESG และธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ไม่ได้เป็นเพียงกระแสนิยม แต่เป็นการสร้างโอกาสที่ยั่งยืนและตอบโจทย์ความต้องการของโลกอนาคตอย่างแท้จริง
9. เทรนด์ธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม
ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจดูแลตัวเองทั้งภายในร่างกายและจิตใจมากขึ้น รวมถึงการใส่ใจรูปลักษณ์เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ ผ่านการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกาย การดูแลผิวพรรณ รวมไปถึงเทรนด์อายุยืนอย่างมีคุณภาพ (Healthy Aging) ที่กำลังมาแรง ทำให้คนทุกช่วงวัยหันมาลงทุนในบริการเพื่อความงามและสุขภาพ ดังนั้นเทรนด์ธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม จึงเป็นเทรนด์ธุรกิจ 2025 ที่มาแรง โดยธุรกิจสุขภาพและความงามที่น่าลงทุนในปีนี้ เช่น
- คลินิกเสริมความงามที่ให้บริการ Anti-aging การฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ เลเซอร์ การดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก
- ฟิตเนสแบบครบวงจร พร้อมคลาสออกกำลังกายเฉพาะทาง เช่น พิลาทิส โยคะ
- บริการเทรนเนอร์ส่วนตัวที่ช่วยออกแบบโปรแกรมเฉพาะบุคคล
- บริการด้านโภชนาการและสุขภาพจิต เช่น การจัดโปรแกรมอาหารเพื่อสุขภาพแบบเดลิเวอรี่ บริการให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ การจัดการความเครียด
- สปาที่ผสานการบำบัดด้วยศาสตร์ธรรมชาติ เช่น อโรมาเทอราพี สมุนไพรไทย
- บริการรีทรีตเพื่อสุขภาพที่เน้นการผ่อนคลายและการฟื้นฟูพลังงาน
- การจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม เช่น ครีมบำรุงผิว เซรั่ม ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย อาหารเสริมเพื่อสุขภาพที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและชะลอวัย
10. เทรนด์ธุรกิจ Omni Channel
สิ่งที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งในยุคนี้ก็คือ การมอบความสะดวกสบายและประสบการณ์การซื้อสินค้าแบบไร้รอยต่อให้กับลูกค้า จะเห็นได้ว่าร้านค้าหลายๆ ร้าน ได้นำกลยุทธ์ Omni Channel มาปรับใช้
โดย Omni Channel คือการผสานการขายสินค้าและบริการทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ไว้เป็นหนึ่งเดียว ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกช่องทางที่สะดวกที่สุดในการสั่งซื้อ ชำระเงิน และรับสินค้าได้ โดยธุรกิจที่นำกลยุทธ์ Omni Channel มาปรับใช้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้า เพิ่มยอดขาย ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดี ทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ
พร้อมแข่งขันในตลาดได้อย่างมั่นคง ดังนั้นหากธุรกิจของคุณยังไม่ได้นำเทรนด์ Omni Channel มาปรับใช้ อาจพลาดโอกาสสำคัญในการดึงดูดลูกค้าได้นั่นเอง
11. เทรนด์ธุรกิจ Subscription-Based
ธุรกิจรูปแบบสมัครสมาชิก (Subscription-Based) กลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงในหลายอุตสาหกรรม เนื่องจากตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายและบริการที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการในระยะยาว โมเดลธุรกิจนี้ช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับผู้ประกอบการ พร้อมเพิ่มความภักดีของลูกค้า (Customer Loyalty) ผ่านการให้บริการที่สม่ำเสมอ ยกตัวอย่างธุรกิจที่น่าลงทุน เช่น
- คอร์สเรียนออนไลน์ : บริการเก็บค่าธรรมเนียมรายเดือนหรือรายปี เพื่อเข้าถึงเนื้อหาการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
- แพลตฟอร์มความบันเทิง : เช่น การสมัครสมาชิกสำหรับการดูหนัง ฟังเพลง หรืออ่านหนังสืออีบุ๊ก
- บริการเพื่อสุขภาพ : เช่น โปรแกรมออกกำลังกายออนไลน์ โปรแกรมจัดส่งอาหารเพื่อสุขภาพถึงบ้าน
12. เทรนด์ธุรกิจการค้าข้ามพรมแดน (Cross-border E-commerce)
ในยุคที่โลกเชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยี การเติบโตของ Cross-border E-commerce หรือการค้าขายสินค้าและบริการข้ามประเทศ กลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ธุรกิจ 2025 ที่มาแรง โดยธุรกิจนี้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกได้ง่ายขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ด้วยต้นทุนที่ลดลงและโอกาสที่ขยายตัวอย่างไม่มีขอบเขต ผู้บริโภคทั่วโลกมีความสะดวกสบายในการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น Amazon, Alibaba, Shopee, Lazada ฯลฯ พร้อมระบบโลจิสติกส์ ที่มีประสิทธิภาพ การจัดส่งด่วนข้ามประเทศ รวมไปถึงระบบชำระเงินออนไลน์ที่รวดเร็วและปลอดภัย เช่น Alipay, PayPal, Apple Pay ที่รองรับการชำระเงินข้ามประเทศ ทำให้การซื้อขายข้ามพรมแดนง่ายขึ้น สามารถซื้อสินค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่ก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสดด้วย
ยกตัวอย่างธุรกิจและสินค้า Cross-border E-commerce ที่น่าลงทุน เช่น
- สินค้าแฟชั่นและเครื่องประดับ เช่น เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ โดยเจาะกลุ่มลูกค้าต่างประเทศที่มองหาสินค้าที่สะท้อนตัวตน
- ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม เช่น สกินแคร์ เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกและวีแกน
- อาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะสินค้าอาหารเฉพาะถิ่น
และทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือ 12 เทรนด์ธุรกิจ 2025 ที่มาแรง ซึ่งการเตรียมความพร้อมและการปรับตัวเข้าหาเทรนด์เหล่านี้อย่างรวดเร็ว จะช่วยสร้างโอกาสและความได้เปรียบทางการแข่งขันให้แก่ธุรกิจได้
นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการมีระบบรองรับการรับชำระเงินที่ทันสมัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครบถ้วน ด้วยบริการ KTC MERCHANT บริการรับชำระเงินหลากหลายรูปแบบเพื่อธุรกิจร้านค้า เช่น การรับชำระผ่านเครื่องรูดบัตร รับชำระผ่าน QR Code การรับชำระผ่านลิงก์ ฯลฯ ซึ่งตอบโจทย์ทุกประเภทธุรกิจ ครอบคลุมทุกการใช้งานจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลก เพื่อให้ทุกการรับชำระเงินเป็นเรื่องง่าย เหล่านี้จะช่วยสร้างโอกาสและความได้เปรียบทางการแข่งขันให้แก่ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน สู่การเป็นผู้นำทางธุรกิจในยุคดิจิทัลได้อีกด้วย
สำหรับธุรกิจใดที่สนใจ สามารถสมัครบริการ KTC MERCHANT ผ่านออนไลน์ได้ง่ายๆ พร้อมอนุมัติและติดตั้งภายใน 7-10 วัน* หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 123 5700 กด 3 ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ตอบรับทุกบริการ ชำระเงิน ด้วย KTC MERCHANT