โปรโมชั่น 
บริการท่องเที่ยว
ช้อปสินค้าออนไลน์
เข้าสู่ระบบ
เผยสูตรลับขับรถประหยัดน้ำมันที่คนมีคนควรรู้
ด้วยราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งไม่มีทีท่าว่าจะลดลง เห็นได้จากที่บรรดาผู้ผลิตน้ำมันประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันกันแทบทุกสัปดาห์ ทำเอาผู้ใช้รถได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ ดูราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 ที่ปรับสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนหลายคนถึงขั้นเปรยว่าราคาน้ำมัน 2 ลิตร 100 บาท อาจเกิดขึ้นภายในปี 2565 หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงน้ำมันแพง ผู้ใช้รถหลายคนต่างหาวิธีขับรถให้ประหยัดน้ำมัน นอกจากช่วยเซฟค่าใช้จ่ายที่หมดไปกับค่าเชื้อเพลิงแล้วยังเป็นการถนอมรถยนต์อีกด้วย สำหรับใครที่กำลังหาทริคที่ช่วยให้ขับรถทางไกลยังไงให้ประหยัดน้ำมัน หรือควรขับรถความเร็วเท่าไหร่ให้ประหยัดน้ำมันอยู่ วันนี้พี่เบิ้มมีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกันครับ
แชร์ 6 เทคนิคขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมัน ช่วยเซฟเงินในกระเป๋า
(1) ขับรถด้วยความเร็วคงที่ และสม่ำเสมอ
พี่เบิ้มขอบอกว่าความเร็วมีผลต่ออัตราสิ้นเปลืองน้ำมันมาก นั่นเท่ากับการเหยียบคันเร่งเพื่อทำความเร็วในแต่ละครั้ง ทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่าปกติแล้วผู้ขับขี่อาจเจอใบสั่งเพราะขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดแบบไม่รู้ตัวอีกด้วย โดยความเร็วที่เหมาะสม คือ การขับรถด้วยความเร็วประมาณ 60-80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ช่วยเซฟค่าน้ำมันมากที่สุดไม่ว่าจะขับรถเกียร์ออโต้หรือเกียร์ธรรมดา ดังนั้นถ้าอยากขับรถให้ประหยัดน้ำมันควรรักษาความเร็วให้สม่ำเสมอ ส่วนใครที่ขับรถทางไกลแนะนำว่าควรใช้ความเร็วประมาณ 90-110 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งให้รักษาระดับความเร็วให้คงที่ รวมถึงหลีกเลี่ยงการชะลอความเร็วที่ไม่จำเป็นนะครับ
(2) ขนสัมภาระเท่าที่จำเป็น
หลายคนอาจไม่รู้ว่าการบรรทุกของหนักเกินพิกัด หรือนำสิ่งของไว้บนหลังคารถส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าเดิม ดังนั้นของอะไรที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานก็นำออกไปจากตัวรถบ้าง เครื่องยนต์จะได้ไม่ทำงานหนักจนเกินไป เพื่อถนอมอายุการใช้งานของเครื่องยนต์และเป็นการประหยัดน้ำมันอีกด้วย
(3) ออกตัวเบา ๆ ไม่เร่งรีบ
พี่เบิ้มอยากขอให้ผู้ใช้รถทุกคนท่องไว้ให้ขึ้นใจว่า การออกตัวแบบกระชากหรือรีบพุ่งตัวด้วยความเร็วแบบรถแข่ง นอกจากทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น ยังเป็นการเร่งให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์และเกียร์สึกหรอเร็วขึ้นอีกด้วย ดังนั้นถ้าคุณต้องการขับรถประหยัดน้ำมัน ควรหลีกเลี่ยงการออกตัวกระชาก ให้ใช้วิธีค่อย ๆ กดคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วแบบค่อยเป็นค่อยไปแทน
(4) หมั่นตรวจสอบลมยาง
เติมลมยางรถยนต์ให้พอดี ช่วยเซฟน้ำมันเชื้อเพลิง
ไหน ๆ ก็เข้าไปเติมน้ำมันแล้ว คุณควรแวะไปเช็คลมยางรถตรงจุดเติมลมยางฟรีที่ปั๊มน้ำมันจัดไว้เพื่อบริการรถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือแม้แต่รถบรรทุก เพราะถ้าปล่อยให้ลมยางอ่อนจะทำให้เกิดแรงเสียดสีมากขึ้น ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักโดยไม่จำเป็น ฉะนั้นควรตรวจสอบลมยางรถยนต์ทั้งล้อหน้าและล้อหลังอยู่เสมอ เพื่อลดการเผาผลาญน้ำมัน
(5) วางแผนก่อนเดินทางเสมอ
การที่ต้องติดอยู่บนท้องถนนเป็นเวลานาน นอกจากเป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันแบบฟรี ๆ ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้รถอีกด้วย ฉะนั้นก่อนขับรถออกจากบ้านทุกครั้ง ควรวางแผนการเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการจราจรติดขัด โดยอาจเช็คจาก Maps บนสมาร์ทโฟนว่าเส้นทางไหนรถติดหนักถึงขั้นไม่ขยับไปไหนได้ หรือเส้นทางไหนสามารถเคลื่อนตัวไปได้เรื่อย ๆ เพื่อให้การเดินทางของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ขับรถอ้อมจนเกินไปและไม่หลงทาง
(6) ปรับแอร์ให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสม
เซฟค่าน้ำมันมากกว่าที่คิด เมื่อเปิดแอร์ในอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส
ปฏิเสธไม่ได้ว่าระบบแอร์ของรถยนต์เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เร่งอัตราการเผาผลาญน้ำมัน แต่ถึงอย่างนั้นก็สามารถประหยัดน้ำมันได้ง่าย ๆ เพียงปรับอุณหภูมิภายในรถให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยปรับไปที่ 25 องศาเซลเซียส และถ้าฝนตกจนทำให้อุณหภูมิด้านนอกเย็นขึ้น อาจทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ตัดการทำงานในบางจังหวะ ซึ่งเรื่องนี้ช่วยลดการใช้น้ำมันได้ในระดับหนึ่ง ส่วนวันไหนที่อากาศเย็นสบายและมลพิษทางอากาศไม่สูงมากคุณอาจลดการใช้แอร์ด้วยการปิดแอร์แล้วเปิดกระจกขับรถก็ได้นะครับ
เป็นอย่างไรกับวิธีประหยัดน้ำมันรถที่พี่เบิ้มนำมาฝาก บอกก่อนว่าสามารถปรับใช้ได้ทั้งรถเกียร์ธรรมดาและเกียร์ออโต้ นอกจากช่วยประหยัดน้ำมันและเงินในกระเป๋าแล้ว ยังเป็นการถนอมเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานอีกด้วย ยิ่งถ้าปฏิบัติตามจนติดเป็นนิสัยจะช่วยประหยัดค่าซ่อมบำรุงอีกด้วย
แต่รถยนต์เป็นทรัพย์สินที่เสื่อมค่าไว การนำรถเข้าตรวจสภาพตามระยะการใช้งานอย่างสม่ำเสมอช่วยชะลอความเสื่อมของรถ แน่นอนว่าการนำรถเข้าไปเช็คมีค่าใช้จ่ายตามมาด้วย ยิ่งถ้าพบความบกพร่องที่ต้องแก้ไขโดยด่วนนั่นหมายถึงต้องใช้เงินก้อนใหญ่ขึ้น หากเงินสดที่เตรียมไว้ไม่พอซื้อยางรถยนต์ใหม่ เปลี่ยนแบตเตอรี่ สายพานใหม่ หรือเปลี่ยนอะไหล่อื่น ๆ พี่เบิ้มมีผู้ช่วยดี ๆ อย่าง "KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน" สินเชื่อที่รู้ผลอนุมัติรวดเร็วทันใจใน 2 ชั่วโมง และให้วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท พร้อมรับเงินทันทีที่รู้ผลอนุมัติ ถ้าใครกำลังมองหาเงินด่วนทันใจสามารถติดต่อพี่เบิ้มได้ที่จุดบริการ KTC TOUCH ทุกสาขา หรือกรอกข้อมูลที่ด้านล่างแล้วรอทีมงานพี่เบิ้ม Delivery เดินทางไปรับสมัครและอนุมัติสินเชื่อถึงที่
อ้างอิงข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก, nrcan.gc.ca
