หากคุณเคยประสบปัญหารถเข้าเกียร์ไม่ได้ คงรู้ดีว่าเป็นสถานการณ์ที่สร้างความกังวลใจไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไกลหรืออยู่บนท้องถนนที่พลุกพล่าน วันนี้ KTC เราจะพามาทำความเข้าใจสาเหตุ และวิธีแก้ไขปัญหารถเข้าเกียร์ไม่ได้กัน เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างมั่นใจ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ปัญหารถเข้าเกียร์ไม่ได้ เกิดจากอะไร
ระบบเกียร์เป็นหนึ่งในระบบสำคัญของรถยนต์ที่ช่วยควบคุมความเร็ว และกำลังในการขับเคลื่อน เมื่อเกิดปัญหารถเข้าเกียร์ไม่ได้ จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการใช้งานรถ และอาจสร้างความสับสนให้ผู้ใช้รถคิดว่ารถเร่งไม่ขึ้น หรือพังหรือเปล่า เรามาทำความเข้าใจสาเหตุของปัญหานี้กันว่ามีอะไรบ้าง
บูชคันเกียร์แตก
บูชคันเกียร์เป็นชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างท่อเกียร์กับเพลาเครื่องยนต์ เมื่อบูชคันเกียร์เกิดการแตกหักหรือสึกหรอ จะส่งผลให้การเข้าเกียร์ทำได้ยาก หรือไม่สามารถเข้าเกียร์ได้เลย สังเกตได้จากอาการคันเกียร์หลวม หรือมีเสียงดังผิดปกติขณะเปลี่ยนเกียร์
น้ำมันเกียร์รั่วซึม
น้ำมันเกียร์ทำหน้าที่หล่อลื่น และระบายความร้อนให้กับชิ้นส่วนภายในระบบเกียร์ หากเกิดการรั่วซึม จะส่งผลให้การหล่อลื่นไม่เพียงพอ ทำให้เกิดความฝืด และความเสียหายต่อชิ้นส่วนภายใน จนอาจทำให้เข้าเกียร์ไม่ได้
แผ่นคลัตช์สึกหรอ
คลัตช์เป็นอุปกรณ์สำคัญในการควบคุมการส่งกำลังระหว่างเครื่องยนต์และเกียร์ เมื่อแผ่นคลัตช์เกิดการสึกหรอ จะทำให้การเชื่อมต่อระหว่างเครื่องยนต์ และเกียร์ไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เข้าเกียร์ได้ยาก หรือเข้าเกียร์ไม่ได้
น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพ
น้ำมันเกียร์ที่ใช้งานมานานเกินไปจะเสื่อมคุณภาพ ทำให้ประสิทธิภาพในการหล่อลื่นลดลง เกิดการสะสมของเศษโลหะและสิ่งสกปรก ส่งผลให้การทำงานของระบบเกียร์ผิดปกติ จนอาจทำให้เข้าเกียร์ไม่ได้
ท่อหายใจเกียร์ตัน
ท่อหายใจเกียร์มีหน้าที่ระบายความร้อน และแรงดันภายในระบบเกียร์ หากเกิดการอุดตัน จะทำให้เกิดแรงดันสูงเกินไปภายในเกียร์ ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน และอาจทำให้เข้าเกียร์ไม่ได้
ฟันเฟืองเกียร์ชำรุด
ฟันเฟืองภายในระบบเกียร์อาจเกิดการชำรุดจากการใช้งานที่ผิดวิธี หรือการสึกหรอตามอายุการใช้งาน เมื่อฟันเฟืองเสียหาย จะทำให้การเข้าเกียร์ทำได้ยาก หรือไม่สามารถเข้าเกียร์ได้เลย
วิธีแก้ปัญหาเมื่อรถเข้าเกียร์ไม่ได้
เมื่อประสบปัญหารถเข้าเกียร์ไม่ได้ สิ่งสำคัญคือต้องไม่ตื่นตระหนก และควรตรวจสอบสาเหตุเบื้องต้นก่อนตัดสินใจเข้าศูนย์บริการ เพราะบางครั้งอาจเป็นปัญหาเล็กน้อยที่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง มาดูวิธีแก้ปัญหาสำหรับรถแต่ละประเภทกัน
วิธีแก้ปัญหาเมื่อรถเข้าเกียร์ไม่ได้ในเกียร์ออโต้
สำหรับรถเกียร์ออโต้ เมื่อพบว่าเข้าเกียร์ไม่ได้ ควรทำดังนี้
- ตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์ว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่
- สังเกตการทำงานของระบบล็อกเกียร์ ต้องแน่ใจว่าเหยียบเบรกสุดขณะเปลี่ยนเกียร์
- หากพบการรั่วซึมของน้ำมันเกียร์ ควรนำรถเข้าศูนย์บริการโดยเร็ว
- ตรวจสอบระบบไฟฟ้า และสายไฟที่เกี่ยวข้องกับระบบเกียร์
วิธีแก้ปัญหาเมื่อรถเข้าเกียร์ไม่ได้ในเกียร์ธรรมดา
สำหรับรถเกียร์ธรรมดา สามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ ดังนี้
- ตรวจสอบการทำงานของคลัตช์ว่าเหยียบแล้วตัดการส่งกำลังได้สมบูรณ์หรือไม่
- สังเกตระดับน้ำมันคลัตช์ในกระปุกน้ำมัน
- ตรวจหาเสียงผิดปกติขณะเหยียบคลัตช์
- หากพบความผิดปกติ ควรนำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์บริการ
ดูแลรักษาเกียร์รถยนต์อย่างไรให้อยู่ได้นาน
การดูแลรักษาระบบเกียร์ที่ถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งาน และป้องกันปัญหารถเข้าเกียร์ไม่ได้ ดังนี้
1. เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะที่คู่มือกำหนด เพื่อให้การหล่อลื่นภายในระบบเกียร์มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะช่วยลดการสึกหรอของชิ้นส่วนและป้องกันการเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร โดยทั่วไปควรเปลี่ยนทุก 40,000-60,000 กิโลเมตร
2. หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนเกียร์กะทันหันหรือรุนแรง โดยเฉพาะการเปลี่ยนจากเกียร์เดินหน้าเป็นถอยหลังในขณะที่รถยังเคลื่อนที่ เพราะจะทำให้เฟืองเกียร์กระแทกกันรุนแรง ส่งผลให้ฟันเฟืองเสียหาย และอายุการใช้งานสั้นลง
3. ตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือทุกครั้งที่นำรถเข้าศูนย์บริการ หากพบว่าระดับน้ำมันต่ำกว่าขีดกำหนด ต้องรีบเติมน้ำมันเกียร์ที่ได้มาตรฐานตามที่ผู้ผลิตแนะนำทันที
4. หมั่นสังเกตอาการผิดปกติของระบบเกียร์ เช่น เสียงดังผิดปกติขณะเปลี่ยนเกียร์ การสั่นสะเทือนที่ผิดปกติ หรือการเข้าเกียร์ที่ไม่ราบรื่น หากพบความผิดปกติใด ๆ ควรรีบนำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์บริการทันที
5. นำรถเข้าตรวจเช็กตามระยะที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบสภาพโดยรวมของระบบเกียร์ ทั้งการรั่วซึม การสึกหรอของชิ้นส่วน และการทำงานของระบบควบคุมต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
สรุปบทความ รถเข้าเกียร์ไม่ได้ เกิดจากอะไร แก้ไขได้อย่างไรบ้าง
แม้ว่าปัญหารถเข้าเกียร์ไม่ได้ จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้แบบไม่มีสัญญาณเตือนก็ตาม แต่หากมีการดูแลรักษาเกียร์อย่างถูกวิธีในการใช้งาน รวมไปถึงเรียนรู้วิธีรับมือเบื้องต้น เรื่องนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลใจอย่างใด ส่วนใครที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนเพื่อซ่อมรถ แต่ไม่รู้จะหยิบยืมที่ไหน หากคุณมีรถอีกคันที่บ้านที่ยังอยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน สามารถนำมาขอสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ ด้วยวงเงินสินเชื่อก้อนใหญ่ สมัครง่าย ไม่ยุ่งยาก และยังมีบริการ พี่เบิ้ม Delivery ไปประเมินราคารถให้ถึงหน้าบ้าน อนุมัติไวใน 1 ชม. รับเงินก้อนได้ทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน โดยสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม ไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินได้อย่างอุ่นใจ หากไม่มีการกดใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ยแต่อย่างใด
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี*
*กรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด สามารถนำมาประเมินวงเงินเบื้องต้นก่อนได้*