ความเข้มฟิล์มรถยนต์ ควรเลือกเท่าไหร่ให้เหมาะกับการขับขี่
สำหรับคนมีรถคงคุ้นเคยกับฟิล์มติดรถยนต์สิ่งจำเป็นที่รถยนต์ทุกคันควรต้องมี เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศร้อน ดังนั้นฟิล์มติดรถยนต์จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการป้องกันแสงแดดและลดความร้อนที่เกิดขึ้นภายในห้องโดยสาร ทั้งยังให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถจากการมองเห็นของบุคคลภายนอกอีกด้วย
ปัจจุบันมีผู้ผลิตฟิล์มติดรถยต์หลายแบบและหลายรุ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน โดยฟิล์มติดรถยนต์ที่มีวางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด มีดังนี้
ฟิล์มติดรถยนต์ประเภทย้อมสี (Deep Dye or Chip Dye Window Films)
ฟิล์มติดรถยนต์ที่มีความสามารถในการป้องกันแสงสว่างและรังสี UV ได้ แต่ไม่สามารถกันรังสีความร้อนจากแสงแดด มีอายุการใช้งานอยู่ที่ 1-3 ปี
ฟิล์มรถยนต์ประเภทฉาบไอโลหะหรือฟิล์มปรอท (Metallized Evaporation Window Films)
ฟิล์มติดรถยนต์ประเภทนี้ถูกเคลือบด้วยไอโลหะประเภทต่าง ๆ เช่น อะลูมิเนียม ไททาเนียม ทำให้เนื้อฟิล์มมีความมันเงา สามารถป้องกันรังสีความร้อนได้ในระดับหนึ่ง มีอายุการใช้งานอยู่ที่ 5-7 ปี
ฟิล์มรถยนต์ประเภทเคลือบอนุภาคโลหะ (Metal Sputtering Window Films)
ฟิล์มที่มีลักษณะคล้ายกับแบบฉาบไอโลหะ แต่มีการฉาบด้วยวิธี Sputtering ทำให้เนื้อฟิล์มมีความบางกว่าและเงาน้อยกว่า มีความใสเพิ่มขึ้นสามารถป้องกันความร้อนได้สูง แต่ก็มีราคาสูงด้วยเช่นกัน พร้อมอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 5-7 ปี
ฟิล์มรถยนต์ประเภทนาโน (Nano-Super IR Window Films)
ฟิล์มติดรถยนต์ที่ผลิตด้วยการใช้อนุภาคนาโนมาเคลือบเนื้อฟิล์มด้วยเทคโนโลยีแบบใหม่ ทำให้ฟิล์มประเภทนี้สามารถถป้องกันรังสีอินฟราเรดหรือรังสีความร้อน และรังสี UV ได้ดีมาก ตัวเนื้อฟิล์มจะใสไม่สะท้อนแสง มีความทนทานมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 7-10 ปี แต่ก็มีราคาที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน
ติดฟิล์มกระจกรถยนต์
ติดฟิล์มรถยนต์กี่เปอร์เซ็นต์ดี ถึงได้ความเข้มที่เหมาะสม
ควรติดฟิล์มรถยนต์ความเข้มกี่เปอร์เซ็นต์ดี? นี่เป็นคำถามยอดฮิตของคนมีรถที่กำลังมองหาฟิล์มรถยนต์หรือต้องการเปลี่ยนความเข้มฟิล์มรถยนต์ คำตอบแม้ระดับความเข้มฟิล์มที่สูงช่วยลดความร้อนและแสงแดดที่เข้าสู่ภายในห้องโดยสาร แต่ความมืดจากฟิล์มติดรถยนต์อาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้เช่นกัน เพราะคนขับไม่สามารถมองเห็นได้ชัดในขณะขับรถ สำหรับระดับความเข้มของฟิล์มรถยนต์ที่คนนิยมใช้กัน คือ ความเข้ม 40, 60 และ 80 เปอร์เซ็นต์
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ระดับความเข้ม 40 เปอร์เซ็นต์
เป็นฟิล์มที่มีความทึบ 40 เปอร์เซ็นต์ โดยมีค่าของแสงที่สามารถส่องผ่านได้ประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ทำให้ตัวฟิล์มมีลักษณะที่ค่อนข้างใส ส่วนใหญ่นิยมใช้ติดกระจกหน้ารถเพื่อให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ไม่นิยมติดรอบคันเนื่องจากไม่ค่อยซับความร้อนและกรองแสงเท่าที่ควร
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ระดับความเข้ม 60 เปอร์เซ็นต์
ฟิล์มที่มีความทึบ 60 เปอร์เซ็นต์ โดยฟิล์มมีค่าของแสงส่องผ่านได้ประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งเป็นค่าความเข้มที่คนส่วนใหญ่นิยมเลือกใช้ เพราะมีความเข้มที่ทึบกำลังดี สามารถกรองแสงและลดความร้อนได้ ทั้งยังไม่บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน ส่วนมากนิยมติดรอบคัน
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ระดับความเข้ม 80 เปอร์เซ็นต์
ฟิล์มที่มีความทึบ 80 เปอร์เซ็นต์ ฟิล์มที่มีลักษณะความเข้มสูงสุด โดยค่าแสงส่องผ่านได้เพียง 5 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น สามารถกันความร้อนและกรองแสงได้เป็นอย่างดี แต่ไม่แนะนำให้ติดรอบคัน เพราะทำให้มืดเกินไปหากขับขี่ในยามกลางคืนอาจเกิดอุบัติเหตุได้ เนื่องจากมีทัศนวิสัยในการมองเห็นที่ต่ำ ส่วนใหญ่นิยมติดบริเวณกระจกข้างหรือกระจกหลัง ไม่นิยมติดกระจกบานหน้า
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์
ติดฟิล์มรถยนต์ เท่าไหร่ดี ให้พอดีกับรถและการมองเห็น
การติดฟิล์มรถไม่มีระดับความเข้มที่ตายตัวว่าต้องติดที่ความเข้มเท่าไหร่ อยู่ที่ความต้องการส่วนตัวของผู้ใช้รถว่าอยากได้ความเข้มประมาณไหน โดยส่วนใหญ่แล้วระดับความเข้มจะขึ้นอยู่กับปัจจัยและรูปแบบการใช้งานรถยนต์ เช่น
หากเน้นใช้รถยนต์ในช่วงกลางวัน หรือความเป็นส่วนตัวอย่างมาก
- อาจใช้ความเข้มของกระจกบานหน้าอยู่ที่ความเข้มระดับ 60 เปอร์เซ็นต์ และรอบคันใช้ความเข้มที่ระดับ 80 เปอร์เซ็นต์
หากเน้นใช้รถในช่วงกลางคืน
- แนะนำให้ใช้ความเข้มของกระจกบานหน้าอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ หากต้องการความเป็นส่วนตัวความเข้มของฟิล์มรอบคันควรอยู่ที่ระดับ 60 เปอร์เซ็นต์
ต้องการความเป็นส่วนตัว สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
- อาจเลือกใช้ระดับความเข้มรอบคันอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงกระจกบานหน้า
การเลือกระดับความเข้มของฟิล์มติดรถยนต์ ควรเลือกตามการใช้งานและความต้องการ โดยการติดฟิล์มเหล่านี้ปกติแล้วจะไม่มีสูตรที่ตายตัวว่าควรใช้ระดับความเข้มเท่าไหร่ถึงจะเหมาะกับรถแต่ละคัน
ประโยชน์ของฟิล์มกรองแสงรถยนต์
ป้องกันความร้อน
คุณสมบัติหลัก ๆ ของฟิล์มกรองแสง คือช่วยลดความร้อนและแสงจากรังสียูวี รังสีอินฟาเรดที่ส่องมายังตัวรถ การติดฟิล์มจะช่วยป้องกันและดูดซับความร้อนได้เป็นอย่างดี
รักษาอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร
แน่นอนว่าแสงแดดและความร้อนถือเป็นศัตรูตัวฉกาจในการทำลายรถยนต์ให้เสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะถ้าต้องจอดรถตากแดด ดังนั้นสิ่งที่ช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นภายในห้องโดยสาร คือ ฟิล์มกรองแสงหรือฟิล์มติดรถยนต์ซึ่งช่วยลดความร้อนและไม่ให้แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาในตัวรถโดยตรง และส่งผลให้อุปกรณ์ภายในห้องโดยสารเสียหาย เช่น แผงคอนโซล เบาะที่นั่ง หรือวัสดุที่ทำจากยางหรือซิลิโคน เป็นต้น
เพิ่มความปลอดภัย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันมีมิจฉาชีพหลากหลายรูปแบบ การติดฟิล์มกรองแสงที่มีความเข้มช่วยทำให้ผู้ไม่หวังดีไม่สามารถมองเห็นภายในตัวรถได้ชัดเจน
ฟิล์มกรองแสงถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยสำหรับรถยนต์ในปัจจุบัน เพราะมีประโยชน์ที่หลากหลาย แต่อย่างไรก็ตามควรเลือกค่าความเข้มของฟิล์มติดรถยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นการเตรียมความพร้อมถือเป็นเรื่องที่ดี และถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันจำต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล พี่เบิ้มมีตัวช่วยเรื่องการเงินดี ๆ สำหรับคนมีรถปลอดภาระอย่าง KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มาแนะนำ เพราะให้วงเงินใหญ่เบิ้มสูงสุด 1 ล้านบาท อนุมัติไวใน 2 ชั่วโมง แถมรถยังมีขับ เพียงคุณเตรียมเอกสารให้พร้อม สามารถสมัครสินเชื่อผ่านช่องทางออนไลน์ จากนั้นรอทีมงานพี่เบิ้ม Delivery พร้อมเดินทางไปตรวจสอบสภาพรถถึงที่หน้าบ้าน เมื่อผ่านการอนุมัติรับเงินโอนเข้าบัญชีทันที ใครที่กำลังมองหาวงเงินสำรองในยามฉุกเฉินเพื่อเสริมสภาพคล่องหรือใช้จ่ายในยามจำเป็น อย่าลืมคิดถึงพี่เบิ้มนะครับ
สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ทุกการใช้จ่ายที่จำเป็นพี่เบิ้มช่วยได้…ที่นี่