ทุกวันนี้การซื้อขายออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติของมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งของผ่านโซเชียลมีเดียหรือซื้อสินค้าจากร้านค้ารายย่อย แต่สิ่งที่ต้องระวังให้มากที่สุดคือ "เลขบัญชีมิจฉาชีพ"ที่อาจทำให้เงินที่เราตั้งใจจะจ่ายเพื่อสินค้าและบริการ กลายเป็นเงินที่หายไปโดยไม่ได้อะไรกลับมาเลย! ซึ่งปัญหานี้ใช่ว่าจะเกิดแต่กับผู้สูงอายุที่ แต่คนรุ่น ๆ วัยทำงานเองก็เจอกันบ่อยไม่แพ้กัน แต่จะทำอย่างไรให้รู้ทันเลขบัญชีมิจฉาชีพ เมื่อต้องซื้อของออนไลน์ล่ะ ลองไปดูกัน
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ทำไมต้องเช็กเลขบัญชีก่อนโอนเงิน?
การเช็กเลขบัญชีมิจฉาชีพเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะมิจฉาชีพมีวิธีการหลอกลวงหลายรูปแบบ เช่น
- ขายของออนไลน์แต่ไม่ส่งของ
- หลอกให้ลงทุนแล้วเชิดเงินหนี
- อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หลอกให้โอนเงินค่าธรรมเนียมปลอม
- สวมรอยเป็นเพื่อนหรือญาติ แล้วขอยืมเงิน
ดังนั้น ก่อนจะโอนเงินทุกครั้ง เราควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเลขบัญชีปลายทางไม่ใช่บัญชีของมิจฉาชีพ!
4 วิธีเช็กเลขบัญชีมิจฉาชีพ 2568
1. ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันตรวจสอบบัญชี
ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้เราสามารถเช็กเลขบัญชีมิจฉาชีพได้ง่าย ๆ เช่น
- blacklistseller.comเว็บไซต์เช็กบัญชีต้องสงสัย
- เว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีฐานข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับมิจฉาชีพ
- เช็กผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร บางธนาคารมีระบบแจ้งเตือนบัญชีที่ถูกร้องเรียน
2. ค้นหาเลขบัญชีบน Google และโซเชียลมีเดีย
บางครั้งผู้เสียหายมักโพสต์เตือนกันในกลุ่ม Facebook หรือเว็บบอร์ด ลองคัดลอกเลขบัญชีที่คุณได้รับ แล้วนำไปค้นหาใน Google หรือ Facebook อาจพบประวัติการโกงของเลขบัญชีดังกล่าวก็ได้
3. ขอข้อมูลผู้ขายเพิ่มเติม
ถ้าคุณกำลังจะซื้อของจากร้านค้าออนไลน์ที่ไม่คุ้นเคย ลองขอข้อมูลเพิ่มเติม เช่น
- บัตรประชาชนของผู้ขาย
- หน้าสมุดบัญชีที่มีชื่อเจ้าของบัญชี
- ตรวจสอบชื่อบัญชีว่าตรงกับชื่อผู้ขายหรือไม่
หากผู้ขายบ่ายเบี่ยงหรือไม่ยอมให้ข้อมูล อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังจะเจอมิจฉาชีพ
4. โอนเงินผ่านช่องทางที่ปลอดภัย
หากเป็นไปได้ ควรเลือกโอนเงินผ่านแพลตฟอร์มที่มีระบบรับประกัน เช่น การเก็บเงินปลายทาง (COD) หรือโอนผ่านแอปฯ ที่มีระบบคุ้มครองผู้ซื้อ
สัญญาณเตือนว่าคุณอาจกำลังถูกหลอก
- ผู้ขายกดดันให้โอนเงินเร็ว ๆ
- สินค้าถูกเกินกว่าปกติจนดูไม่น่าเชื่อถือ
- บัญชีผู้ขายเป็นบัญชีบุคคล ไม่ใช่บัญชีร้านค้า
- ไม่มีรีวิวหรือมีแต่รีวิวปลอม
- เปลี่ยนเลขบัญชีบ่อย ๆ
ถ้าโอนไปแล้ว ทำอย่างไรดี?
หากคุณเผลอโอนเงินให้มิจฉาชีพไปแล้ว รีบดำเนินการดังนี้
1. ติดต่อธนาคารให้ธนาคารช่วยตรวจสอบและอายัดบัญชีปลายทาง
2. แจ้งความกับตำรวจเพื่อให้มีหลักฐานทางกฎหมาย
3. แจ้งข้อมูลไปยังแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องเช่น Facebook, Shopee, Lazada เพื่อให้ร้านค้าหรือบัญชีที่โกงถูกระงับ
4. โพสต์เตือนในกลุ่มออนไลน์ เพื่อให้คนอื่นไม่ตกเป็นเหยื่อซ้ำ
การป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพ
- หมั่นเช็กเลขบัญชีมิจฉาชีพก่อนโอนเงินเสมอ
- ใช้วิธีชำระเงินที่ปลอดภัย เช่น การเก็บเงินปลายทาง
- อย่าโอนเงินให้บุคคลที่ไม่รู้จักโดยไม่ตรวจสอบให้ดี
- ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวหรือ OTP กับใครง่าย ๆ
เงินหายแล้ว แต่ค่าใช้จ่ายยังอยู่ จะทำอย่างไร?
บางครั้งเราอาจพลาดถูกโกงจนเสียเงินไปแล้ว แต่ภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันยังคงต้องดำเนินต่อไป หากคุณกำลังติดขัดเรื่องเงินหมุนเวียน บัตรกดเงินสด KTC PROUD สามารถช่วยคุณได้
บัตรกดเงินสด KTC PROUD พกไว้ไม่สะดุด ทุกการใช้จ่าย
- สมัครง่าย เงินเดือน 12,000 บาท ก็สมัครได้
- อนุมัติไว เลือกรับเงินโอนเข้าบัญชีได้ทันที เมื่ออนุมัติ
- เบิกเงินได้ 24 ชั่วโมง ผ่านแอป KTC Mobile และ ATM ทั่วประเทศ
- ผ่อนสินค้า 0% นานสูงสุด 24 เดือน ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ
- รูดซื้อสินค้า และช้อปออนไลน์ พร้อมรับสิทธิพิเศษทั้งปี
วางแผนการเงินให้คล่องตัวในทุกสถานการณ์ ใช้บัตรกดเงินสด KTC PROUD
*กู้เท่าที่จําเป็นและชําระคืนได้ตามกําหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 25% ต่อปี