การเที่ยวลาวในปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางชาวไทยที่อยากไปเปิดประสบการณ์ใหม่ในต่างประเทศแบบใกล้ ๆ ราคาย่อมเยา แต่คำถามที่คนจำนวนมากสงสัยคือ เที่ยวลาวใช้เงินเท่าไหร่? คำตอบนั้นขึ้นอยู่กับแผนการเดินทาง ระยะเวลา และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
บทความนี้จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเที่ยวลาวอย่างครบถ้วน ทั้งไปประเทศลาวใช้เงินเท่าไหร่? ที่เที่ยวที่ไหนที่ห้ามพลาด? และต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ช่วยให้คุณวางแผนเที่ยวลาวได้คุ้มค่าแน่นอน
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับประเทศลาว
- วิธีการเดินทางไปเที่ยวลาว ไปได้ด้วยวิธีไหนบ้าง
- เที่ยวลาวใช้เงินเท่าไหร่ ถึงจะพอตลอดการเดินทาง
- เที่ยวลาวช่วงไหนดี แต่ละฤดูมีบรรยากาศแบบไหน
- จะเที่ยวลาว ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
- แนะนำที่เที่ยวลาวน่าสนใจ 10 แห่ง มีครบทุกสายให้เลือก
- ข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยวลาว
- เที่ยวลาวใช้เงินเท่าไหร่ วางแผนให้รอบคอบ เที่ยวให้คุ้มค่า
ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับประเทศลาว
ประเทศลาว หรือสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพรมแดนติดกับไทย กัมพูชา เวียดนาม จีน และเมียนมา เมืองหลวงของลาวคือเวียงจันทน์ ลาวเป็นประเทศที่ยังคงเสน่ห์แบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี โดยเฉพาะธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งยังมีการสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศสำหรับผู้ที่สนใจ
ลาวเป็นประเทศในเขตร้อน ทำให้มีแดดออกตลอดปี ภูมิอากาศไม่ต่างจากประเทศไทยมาก โดยคนลาวพูดภาษาลาว ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับภาษาไทย แม้ไม่รู้ภาษาลาวแต่หากเป็นนักท่องเที่ยวไทยก็สามารถเที่ยวเองได้ไม่ยาก สกุลเงินใช้เป็นเงินกีบลาว แต่ก็สามารถใช้เงินบาทไทยได้ทั่วประเทศหากต้องการ ถึงไม่แลกเงินก็สามารถไปเที่ยวลาวได้ การเที่ยวลาวด้วยตัวเองจึงไม่ใช่เรื่องยาก
วิธีการเดินทางไปเที่ยวลาว ไปได้ด้วยวิธีไหนบ้าง
การเดินทางไปเที่ยวลาวมีหลากหลายวิธี เหมาะกับทั้งสายประหยัดและสายสะดวกสบาย ถ้าอยากรู้ว่าเที่ยวลาวใช้เงินเท่าไหร่ต้องอย่าลืมบวกค่าเดินทางเข้าไปด้วย
- เครื่องบิน มีสายการบินบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปที่ลาวโดยตรง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยหากต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่ม สามารถนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงที่สนามบินอุดรและต่อรถตู้เข้าลาวได้
- สนามบินนานาชาติวัตไต สำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวเมืองอย่างยังเวียงจันทน์
- สนามบินนานาชาติหลวงพระบาง สำหรับผู้ที่ต้องการไปเที่ยวหลวงพระบางหรือเที่ยวลาวเหนือ
- สนามบินนานาชาติปากเซ ถ้าอยากเที่ยววัดหลวงปากเซ ปราสาทหินวัดพู หรือสถานที่อื่นๆในลาวใต้ แนะนำให้ลงสนามบินนี้
- สนามบินอื่น ๆ ตามความใกล้ไกลของสถานที่ที่ต้องการเที่ยว
- รถทัวร์ รถโดยสารระหว่างประเทศจากขนส่งหมอชิต กรุงเทพฯ ไปยังเวียงจันทน์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง
- รถส่วนตัว ขับรถข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว โดยต้องมีเอกสารข้ามแดนและใบอนุญาตขับรถสากล
- รถไฟ สถานีปลายทางหนองคายมีรถไฟไปต่อถึงเวียงจันทน์ได้สะดวก หรือใช้บริการรถไฟขบวน ไทย - สปป. ลาว จากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ไปถึงเวียงจันทร์
เที่ยวลาวใช้เงินเท่าไหร่ ถึงจะพอตลอดการเดินทาง
ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวลาวจะแตกต่างกันไปตามแผนการเดินทาง และไลฟ์สไตล์ที่ต้องการ เช่น นักท่องเที่ยวบางคนเน้นเที่ยวกิน ก็อาจจะต้องประเมินค่าอาหารไว้มากเมื่อคำนวณว่าเที่ยวลาวใช้เงินเท่าไหร่ ถ้าอยากเที่ยวลาวแบบประหยัดก็ลองประหยัดค่าเดินทางหรือค่าอาหารได้
เที่ยวลาว 2 วัน 1 คืน งบเท่าไหร่
- ค่ารถทัวร์ไป-กลับ: 1,000 บาท แต่ถ้าเดินทางด้วยเครื่องบินไป-กลับราคาจะอยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 บาท
- ที่พัก 1 คืน: 1,000 บาท
- ค่าอาหาร: 500-600 บาท ต่อวัน แต่ถ้าเน้นกินประหยัดอาจใช้เพียงแค่ 200-300 บาท ต่อวัน
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว: 300 บาท
- ค่าเดินทางในลาว: ถ้าเหมารถใช้ประมาณ 1,000 บาท แต่ถ้าเช่ารถขับเองหรือใช้ขนส่งสาธารณะราคาจะลดลง
- รวมค่าใช้จ่ายเที่ยวลาวโดยประมาณ 3,700 - 9,100 บาท
เที่ยวลาว 3 วัน 2 คืน งบเท่าไหร่
- ค่ารถทัวร์ไป-กลับ: 1,000 บาท แต่ถ้าเดินทางด้วยเครื่องบินไป-กลับราคาจะอยู่ที่ประมาณ 4,000 - 5,000 บาท
- ที่พัก 2 คืน: 1,000 บาท ต่อคืน รวมเป็น 2,000 บาท
- ค่าอาหาร: 500-600 บาท ต่อวัน แต่ถ้าเน้นกินประหยัดอาจใช้เพียงแค่ 200 - 300 บาท ต่อวัน
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว: 400 บาท
- ค่าเดินทางในลาว: ถ้าเหมารถใช้ประมาณ 1,000 บาท แต่ถ้าเช่ารถขับเองหรือใช้ขนส่งสาธารณะราคาจะลดลง
- รวมค่าใช้จ่ายเที่ยวลาวโดยประมาณ 5,000 - 10,200 บาท
ถ้าคุณสงสัยว่าไปเที่ยวลาวใช้เงินเท่าไหร่ ก็สามารถคำนวณจากรายการเหล่านี้ได้ และปรับตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
เที่ยวลาวช่วงไหนดี แต่ละฤดูมีบรรยากาศแบบไหน
เที่ยวลาวเดือนไหนดี? สภาพอากาศของลาวไม่ต่างจากไทยมาก ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวหรือเตรียมเสื้อผ้าเป็นพิเศษ
- ฤดูหนาว (พ.ย.-ก.พ) อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิอาจลดลงถึง 15 องศาเซลเซียส เหมาะแก่การท่องเที่ยวมากที่สุด
- ฤดูร้อน (มี.ค.-พ.ค.) อากาศร้อนจัดและเป็นอากาศร้อนแบบร้อนแห้ง ไม่เหมาะกับคนไม่ชอบแดดแรง แต่จะอยู่ในช่วงปีใหม่ลาวซึ่งคล้ายคลึงกับสงกรานต์ของไทย
- ฤดูฝน (มิ.ย.-ต.ค.) ธรรมชาติสวยงาม ชุ่มฉ่ำด้วยฝน เหมาะกับการไปเที่ยวชมน้ำตก แต่อาจเดินทางลำบาก หรืออาจเลือกไปทางตอนใต้ที่ฝนตกน้อย
หากยังสงสัยว่าเที่ยวลาวช่วงไหนดี อาจลองเลือกจากสถานที่ที่อยากไปหรือกิจกรรมที่อยากทำแล้วค่อยดูว่าควรไปในฤดูกาลใด
จะเที่ยวลาว ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
ไปเที่ยวลาวต้องอะไรบ้าง? ไปลาวต้องใช้พาสปอร์ตไหม? การเที่ยวลาวใช้เพียงแค่เอกสารตามนี้
- พาสปอร์ต
- อยากเที่ยวลาวไม่มีพาสปอร์ต ต้องใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราวแทน แต่จะอยู่ที่ลาวได้เพียง 3 วัน ถ้าต้องการทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชน
- รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 ใบ
- ค่าธรรมเนียม 50 บาท
- หากต้องการอยู่เกิน 30 วัน ต้องใช้พาสปอร์ตและวีซ่า
แนะนำที่เที่ยวลาวน่าสนใจ 10 แห่ง มีครบทุกสายให้เลือก
ที่เที่ยวลาวมีสถานที่มากมายที่น่าสนใจ จึงกลายเป็นจุดหมายลาพักร้อนสำหรับใครหลายคน มีทั้งสถาปัตยกรรมสวยงาม ธรรมชาติเขียวขจี และอื่น ๆ อีกมากมาย สถานที่ยอดนิยมสำหรับการเที่ยวประเทศลาวมีดังนี้
1. หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก อบอวลด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรม
หากกำลังวางแผนว่าพฤศจิกายน เที่ยวไหนดี? อย่าพลาดมาเยี่ยมชมเมืองวัฒนธรรมอย่างหลวงพระบาง หลวงพระบางเป็นเมืองที่มีเสน่ห์เกินคำบรรยาย โดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างศิลปะล้านช้างและฝรั่งเศสได้อย่างลงตัว ตรอกซอกซอยเต็มไปด้วยบ้านไม้โบราณ วัดเก่าแก่ และคาเฟ่เล็ก ๆ ที่มีกลิ่นกาแฟหอมกรุ่น หากคุณต้องการซึมซับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม นี่คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด
สิ่งที่ทำให้หลวงพระบางน่าหลงใหลคือความสงบเรียบง่ายของผู้คนและบรรยากาศร่มรื่น โดยเฉพาะช่วงเช้า ที่ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวจะร่วมใจกันใส่บาตรข้าวเหนียวอย่างเงียบสงบริมถนนสายเก่า วิวแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านตัวเมืองยิ่งเติมเต็มเสน่ห์ของเมืองให้สมบูรณ์แบบ
จุดเด่น: เมืองเก่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO
กิจกรรมแนะนำ: ใส่บาตรข้าวเหนียว เที่ยวพระธาตุพูสี ตลาดกลางคืน
ควรเที่ยวช่วง: พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์
2. เวียงจันทน์ เมืองหลวงที่รวมศิลปะลาวกับกลิ่นอายฝรั่งเศส
เวียงจันทน์อาจไม่ใช่เมืองหลวงที่วุ่นวายเหมือนกรุงเทพฯ แต่เต็มไปด้วยบรรยากาศสบาย ๆ เที่ยวเวียงจันทน์ด้วยตัวเองทำได้ไม่ยาก ทั้งยังมีอาคารแบบโคโลเนียลที่งดงาม ไม่ว่าจะเป็นประตูชัยที่ได้สร้างขึ้นเพื่อประกาศเอกราชจากฝรั่งเศส หรือวัดเก่าอย่างวัดสีสะเกดที่เต็มไปด้วยพระพุทธรูปนับพันองค์ ใกล้ ๆ วัดสีสะเกดก็มีหอพระแก้วอันโด่งดัง ทั้งหมดนี้ล้วนเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์อันยาวนานของลาวได้อย่างลึกซึ้ง
เวียงจันทน์ยังเหมาะกับการเดินเล่นริมโขงตอนเย็น มีถนนคนเดิน จับจ่ายใช้สอยของพื้นเมือง หรือจะไปพักผ่อนที่สวนเจ้าอนุวงศ์ก็ได้ เป็นเมืองที่เหมาะทั้งสำหรับนักเดินทางสายวัฒนธรรมและสายถ่ายภาพแนวอาร์ต ถ้าอยากเที่ยวเมืองลาว แนะนำที่เวียงจันทร์ ตอบโจทย์แน่นอน
จุดเด่น: สถาปัตยกรรมผสมผสานยุคอาณานิคมฝรั่งเศส
กิจกรรมแนะนำ: เยี่ยมชมพระธาตุหลวง ประตูชัย หอพระแก้ว
ควรเที่ยวช่วง: พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์
3. คอนพะเพ็ง น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
คอนพะเพ็งคือความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่แท้จริง น้ำตกขนาดมหึมาที่มีพลังน้ำไหลเชี่ยวแรงอยู่ตลอดเวลา ถือเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้ชื่อว่าเป็นไนแองการ่าแห่งเอเชีย การชมความยิ่งใหญ่ของกระแสน้ำแบบใกล้ชิดถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ธรรมชาติของคอนพะเพ็ง หรือแก่งจันทร์เพ็ญ มีความสมบูรณ์เป็นอย่างมาก มีสัตว์น้ำหายากหลากหลายชนิด เช่น โลมาหัวบาตร ปลาค้อคอนพะเพ็ง และยังมีพิพิธภัณฑ์ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ มะนีโคด ถ้าอยากเที่ยวลาวแบบเน้นธรรมชาติ คอนพะเพ็งเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
จุดเด่น: น้ำตกขนาดยักษ์ ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์
กิจกรรมแนะนำ: ชมวิว ถ่ายภาพ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ต้นไม้มะนีโคด
ควรเที่ยวช่วง: มกราคม-มีนาคม
4. จำปาสัก เมืองเก่าแก่ของลาวใต้
อยากเที่ยวลาวชมเมืองเก่าต้องไม่พลาดที่นี่ จำปาสักเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะกับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์โบราณและธรรมชาติบริสุทธิ์ ไฮไลต์ของที่นี่คือวัดพู มรดกโลกที่เก่าแก่และสำคัญไม่แพ้เมืองพระนครในกัมพูชา นอกจากนี้ยังมีธรรมชาติและน้ำตกอีกมากมายให้เที่ยวชม
จุดเด่น: วัดพู มรดกโลกเก่าแก่ยุคศตวรรษที่ 11
กิจกรรมแนะนำ: เที่ยววัดพู
ควรเที่ยวช่วง: พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ หรือ มิถุนายน-ตุลาคม สำหรับเที่ยวชมธรรมชาติ
5. ปากเซ เมืองศูนย์กลางของภาคใต้ลาว
ปากเซเป็นเมืองเอกของจำปาศักดิ์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์จากธรรมชาติและวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นทิวเขาเขียวชอุ่มของที่ราบสูงโบละเวน หรือไร่กาแฟที่เรียงรายกันเป็นแนวยาว ทริปในปากเซมักจะพาเราไปพบกับน้ำตกตาดฟานและตาดเยือง ซึ่งมีความสวยงามราวกับภาพวาด
สำหรับคนที่กำลังสงสัยว่าช่วงเดือนธันวาคม เที่ยวไหนดี? ถ้าชอบที่เที่ยวอากาศดี ๆ สบาย ๆ จิบกาแฟชมบรรยากาศ แนะนำที่เมืองปากเซ เพราะความสงบของปากเซทำให้คุณสามารถดื่มด่ำธรรมชาติอย่างแท้จริง อีกทั้งการได้ลิ้มลองกาแฟลาวรสเข้มแท้จากแหล่งปลูกถือเป็นไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ เหมาะทั้งสำหรับสายถ่ายรูปและคนที่ต้องการชาร์จพลังชีวิตอย่างแท้จริง
จุดเด่น: เมืองริมโขงที่มีทั้งธรรมชาติและสถาปัตยกรรมน่าท่องเที่ยว เช่น วัดหลวงปากเซ
กิจกรรมแนะนำ: เที่ยวน้ำตกผาส้วม น้ำตกตาดฟาน ลิ้มรสกาแฟลาว
ควรเที่ยวช่วง: พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์
6. วังเวียง เมืองท่องเที่ยวสายลุย แหล่งธรรมชาติ
วังเวียงเปรียบเสมือนสวรรค์ของนักผจญภัยที่รักธรรมชาติ รายล้อมด้วยภูเขาหินปูนสูงตระหง่านและแม่น้ำซองที่ไหลผ่านเมือง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ทั้งบอลลูนลมร้อน, พายเรือคายัค, ทัวร์ถ้ำน้ำ, ปีนผา และซิปไลน์สุดตื่นตา
แม้จะเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่บรรยากาศของวังเวียงกลับเต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีคาเฟ่ริมแม่น้ำ และแสงไฟยามค่ำที่อบอุ่น บรรยากาศผ่อนคลายแต่แฝงไปด้วยความสนุกเหมาะสำหรับการเที่ยวลาวแบบเอาใจสายลุย
จุดเด่น: ธรรมชาติสวยงาม มีภูเขา ถ้ำ แม่น้ำล้อมรอบ มีกิจกรรมให้ทำมากมาย
กิจกรรมแนะนำ: บอลลูนลมร้อน สำรวจถ้ำ เล่นซิปไลน์
ควรเที่ยวช่วง: พฤศจิกายน-มกราคม
7. สี่พันดอน หมู่เกาะกลางลำน้ำโขง
สี่พันดอนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นด้วยความตระการตาของธรรมชาติ แม่น้ำขนาดใหญ่ถึง 15 กิโลเมตรไหลผ่านโขดหินต่าง ๆ ที่นี่เป็นหมู่เกาะนับพันที่กระจายตัวกลางแม่น้ำใหญ่ ดอนโขง ดอนเดตและดอนคอนเป็นเกาะยอดนิยมที่เต็มไปด้วยที่พักยอดนิยม คาเฟ่น่ารัก และธรรมชาติบริสุทธิ์
การเที่ยวลาวที่สี่พันดอนมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ล่องเรือดูโลมาอิรวดี พายคายัค หรือปั่นจักรยานรอบเกาะ ช่วยให้คุณสัมผัสธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ใหม่ๆ ใช้ชีวิตบนเกาะกลางแม่น้ำ
จุดเด่น: เกาะกลางแม่น้ำโขงที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์
กิจกรรมแนะนำ: ปั่นจักรยานรอบเกาะดอนคอน ล่องเรือดูโลมาน้ำจืด
ควรเที่ยวช่วง: พฤศจิกายน-เมษายน
8. ทุ่งไหหิน ที่เที่ยวลึกลับและโบราณของลาว
ทุ่งไหหินเป็นสถานที่ลึกลับและน่าค้นหาที่สุดแห่งหนึ่งในลาว ถูกค้นพบเมื่อประมาณ ค.ศ. 1930 ด้วยไหหินขนาดมหึมากว่า 440 ใบที่ตั้งกระจัดกระจายอยู่ทั่วทุ่ง แบ่งเป็น 3 แหล่งด้วยกัน ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าไหเหล่านี้มีจุดประสงค์อะไรแม้จะมีทฤษฎีว่าเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมบางอย่างที่เกี่ยวโยงกับความตาย เนื่องจากค้นพบวัตถุอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความตายโดยรอบ ทุกคนล้วนต้องมนต์เสน่ห์ของสถานที่แห่งนี้
พื้นที่รอบทุ่งไหหินเงียบสงบและเต็มไปด้วยเสน่ห์ของภูเขาสูงและทุ่งหญ้าเขียวขจี แฝงบรรยากาศลึกลับ หากคุณเป็นคนชอบเรื่องราวลึกลับและโบราณคดี ที่นี่จะมอบประสบการณ์ที่คุณไม่มีวันลืม
จุดเด่น: ไหหินโบราณลึกลับกระจายทั่วที่ราบสูงเชียงขวาง
กิจกรรมแนะนำ: เดินชมแหล่งไหหิน
ควรเที่ยวช่วง: พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์
9. ถ้ำกองลอ ผจญภัยพายเรือลอดถ้ำ
ถ้ำกองลอ อยู่ที่แขวนคำม่วนบนแม่น้ำหินบูน เป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศลาว ความยาวมากถึง 7.5 กิโลเมตรและกว้างประมาณ 30 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือหางยาวล่องลำน้ำภายในถ้ำเปี่ยมด้วยความลึกลับ และตื่นตาตื่นใจกับไฮไลต์อย่างถ้ำหินงอกหินย้อยประดับแสงนีออน เป็นประสบการณ์ที่ทั้งแปลกใหม่และน่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง
จะวางแผนว่าเที่ยวลาวใช้เงินเท่าไหร่ดีก็ต้องเผื่อค่าเข้าชมสถานที่เอาไว้ด้วย ค่าเข้าถ้ำจะอยู่ที่ประมาณ 8 บาท ส่วนค่าล่องเรือผ่านถ้ำจะอยู่ที่ประมาณ 166 บาท สามารถเดินชมถ้ำด้วยตนเองโดยไม่นั่งเรือได้
จุดเด่น: ชมหินงอกหินย้อยในถ้ำที่ใหญ่ที่สุดของลาว
กิจกรรมแนะนำ: ล่องเรือผ่านถ้ำ ใช้เวลาไปกลับประมาณ 3 ชั่วโมง
ควรเที่ยวช่วง: พฤศจิกายน-พฤษภาคม
10. บลูลากูน สระน้ำจืดสีฟ้าใสกลางหุบเขา
บลูลากูนเป็นสระน้ำจืดในวังเวียงที่มีสีฟ้าใส เอกลักษณ์จากน้ำบาดาลที่มาจากภูเขาหินปูน บลูลากูนมีทั้งหมด 3 แห่งด้วยกัน
- แห่งแรกอยู่ใกล้ถ้ำภูคำ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวทั้งสระน้ำจืดและสำรวจถ้ำ ทั้งยังใกล้กับตัวเมืองวังเวียง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
- แห่งที่สองจะห่างจากแห่งแรกไปประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นจุดที่เหมาะแก่การชมวิวทิวทัศน์มากที่สุด สายถ่ายรูปลงโซเชียลต้องไม่พลาด บลูลากูนแห่งที่สองเป็นที่กลางแจ้ง ไกลออกไปจะล้อมรอบไปด้วยภูเขาหินปูน อีกทั้งยังมีกิจกรรมให้ทำมากมายนอกจากเล่นน้ำ
- แห่งที่สามจะเหมาะกับสายธรรมชาติ ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้และภูเขาอย่างใกล้ชิด มีกิจกรรมให้ทำ เช่น ชิงช้า แพไม้ไผ่ โหนสลิง แม้จะห่างไกลจากตัวเมืองแต่ก็ยังมีร้านค้าคอยให้บริการ
จุดเด่น: สระน้ำจืดสีฟ้าใสตามธรรมชาติ
กิจกรรมแนะนำ: ถ่ายภาพ ซิปไลน์ ชิงช้า กระโดดน้ำ
ควรเที่ยวช่วง: ตุลาคม-มีนาคม
ข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยวลาว
สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเที่ยวลาว มีข้อควรรู้ที่ช่วยให้การท่องเที่ยวของคุณสะดวกสบายมากขึ้นดังนี้
- สามารถทักทายคนลาวได้ด้วยคำว่า “สะบายดี” และยกมือไหว้
- สามารถใช้เงินบาทได้ทั้งประเทศ แต่จะแลกเป็นเงินกีบก็ทำได้ ขึ้นอยู่กับค่าเงินในขณะนั้น 1 บาทอยู่ที่ประมาณ 600 กีบ
- ค่าครองชีพในลาวแพงกว่าในไทย
- เวลาในลาวเท่ากับเวลาในไทย
- การแต่งตัวเที่ยวลาวไม่ต่างจากการเที่ยวไทยเพราะสภาพอากาศคล้ายกัน ไม่ต้องเตรียมเสื้อผ้าที่หนาหรือบางเป็นพิเศษ
- ขับรถข้ามชายแดนเพื่อเที่ยวในลาวได้ โดยต้องทำพาสปอร์ตรถที่กรมขนส่ง
- ที่ลาวขับรถชิดขวา เนื่องจากเคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ต่างกับประเทศไทยที่ชิดซ้าย
- หากไม่พักในโรงแรมอาจผิดกฎหมาย ที่ลาวจะไม่สามารถพักบ้านเพื่อนหรือคนรู้จักได้หากไม่มีใบอนุญาตพักเช่าจากตำรวจ
- เที่ยวลาวใต้ ช่วงไหนดี? แนะนำช่วงที่อากาศเย็นสบายช่วง พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์
เที่ยวลาวใช้เงินเท่าไหร่ วางแผนให้รอบคอบ เที่ยวให้คุ้มค่า
การวางแผนเที่ยวลาวไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าคุณมีข้อมูลครบ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย การเดินทาง เอกสาร และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม คำถามอย่างเที่ยวลาวใช้เงินเท่าไหร่ จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นอกจากนี้ ประเทศลาวยังเป็นประเทศที่น่าสนใจในการออกไปท่องโลก เพราะมีบรรยากาศคล้ายกับไทยมาก ๆ และยังสามารถใช้เงินบาทในการใช้จ่ายได้อีกด้วย
หากคุณต้องการวางแผนการเงินให้รอบคอบและมีตัวช่วยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ขอแนะนำบัตรกดเงินสด KTC PROUD ทำรายการได้ทุกที่ ใช้จ่ายที่ลาวได้อย่างอุ่นใจ และรับเงินโอนเข้าบัญชีได้ทันที่ถึง 15 ธนาคาร ผ่านแอปพลิเคชัน KTC Mobile
- สมัครง่าย เงินเดือน 12,000 บาท ก็สมัครได้
- อนุมัติไว เลือกรับเงินโอนเข้าบัญชีได้ทันที เมื่ออนุมัติ
- เบิกเงินได้ 24 ชั่วโมง ผ่านแอป KTC Mobile และ ATM ทั่วประเทศ
- ผ่อนสินค้า 0% นานสูงสุด 24 เดือน ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ
- รูดซื้อสินค้า และช้อปออนไลน์ พร้อมรับสิทธิพิเศษทั้งปี
มีเงินสำรองอุ่นใจ ไปเที่ยวที่ไหนก็ไม่มีสะดุด ด้วยบัตรกดเงินสด KTC PROUD
*กู้เท่าที่จําเป็นและชําระคืนได้ตามกําหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 25% ต่อปี