หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องการสมัครบัตรเครดิตว่า...
สมัครบัตรนั้นผ่าน สมัครบัตรนี้ไม่ผ่าน
ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก...
เพราะเกณฑ์การประเมิน คุณสมบัติ และการรับภาระหนี้ของแต่ละสถาบันการเงินนั้นรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน
ยุคนี้การสมัครบัตรเครดิตอาจดูเป็นเรื่องง่าย เพราะสามารถสมัครได้หลายช่องทาง แต่การสมัครบัตรเครดิตให้ผ่านไม่ง่ายเสมอไป ดังนั้นถ้าไม่อยากปวดใจกับการสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน ต้องลงแรงใส่ใจก่อนสมัครกันสักนิด
8 เช็กลิสต์ทำตามนี้ไม่มีสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน
1) รายได้ต่อเดือนต้องถึง
ตามกฎของแบงก์ชาติกำหนดให้ใครก็ตามที่ต้องการสมัครบัตรเครดิต หรือสินเชื่อในรูปแบบต่างๆ ต้องมีรายได้ขั้นต่ำเป็นตัวเลขกลมๆ อยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือนหรือ 180,000 บาทต่อปี ถ้าที่ทำงานโอนเงินเข้าแบงก์ทุกเดือนก็หมดห่วงเพราะจะพิจารณาได้ง่ายกว่า แต่ถ้าที่ทำงานจ่ายเป็นเงินสดทุกเดือนก็อาจต้องขอหนังสือรับรองเงินเดือนมาประกอบ ถ้าเช็กแล้วใครยอดไม่ถึงแนะนำให้หารายได้เสริมที่มีเงินเข้าทุกเดือนก่อนสมัครจะช่วยให้ผ่านได้ง่ายขึ้น
2) อาชีพต้องชัดเจน
สำรวจอาชีพที่ทำอยู่ตอนนี้ ต้องเป็นอาชีพที่มีรายได้ประจำเข้าทุกเดือน ดังนั้นถ้าเป็นงานประจำอย่างพนักงานบริษัท ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ฯลฯ ก็ไม่น่าติดปัญหาอะไร ขอให้เป็นที่ทำงานที่ตรวจสอบรายละเอียดได้ชัดเจน นอกจากนี้หากอายุงานยิ่งมากยิ่งดี มีส่วนให้ผ่านการอนุมัติได้ง่ายขึ้น
3) อายุต้องถึง 20
อายุก็เป็นเกณฑ์สำคัญ จะสมัครบัตรเครดิตได้ต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพราะเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะ คือตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล หากอายุต่ำกว่านี้คงต้องขอผู้ปกครองในรูปแบบบัตรเสริม แต่ถ้าจะให้ดีอายุถึง 20 ค่อยสมัครก็ไม่ช้าเกินไป
4) มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี
หากสมัครบัตรเครดิตใบแรกอย่าคิดว่าไม่เคยมีบัตรมาก่อนแล้วต้องผ่านแน่ ๆ เพราะการสมัครใบเครดิตใบแรก สถาบันการเงินยังไม่สามารถเช็กข้อมูลทางการเงิน โดยเฉพาะพฤติกรรมการชำระหนี้ได้ จึงต้องพิจารณาอย่างละเอียดก่อนอนุมัติ แต่หากมีบัตรเครดิตใบที่ 2 3 สถาบันการเงินจะตรวจสอบประวัติและข้อมูลทางการเงินได้ การพิจารณาอนุมัติจึงเป็นเรื่องง่ายกว่า หากมีประวัติการชำระที่ดี ไม่หนี จ่ายตรงตามกำหนด โดยภาระหนี้ต้องสอดคล้องไม่มากจนเกินความสามารถชำระหนี้
5) บ้านต้องถูกเบอร์ต้องชัด
การให้ข้อมูลที่พักอาศัยที่ถูกต้อง และเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ชัดเจน เพื่อยืนยันตัวตนมีความสำคัญมาก โดยต้องกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วนตามความจริงด้วยตัวคุณเอง เพราะสถาบันการเงินจะโทรหาผู้สมัครเพื่อยืนยันข้อมูลโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ดังนั้นหากข้อมูลที่ให้ไว้ไม่มี หรือไม่สามารถติดต่อได้จริง ตามตัวไม่เจอ สมัครบัตรเครดิตยังไงก็ไม่ผ่านแน่ ๆ
6) เอกสารยื่นไม่ครบ
ไม่มีใครชอบการยื่นเอกสาร แต่ถ้ายื่นแล้วต้องยื่นให้ครบ เพราะการยื่นเอกสารไม่ครบ ทำให้เกิดความล่าช้า บางสถาบันการเงินอาจมีการแจ้งว่าเอกสารใดตกหล่นไปบ้างและรอจนกว่าจะครบถ้วนจึงยื่นพิจารณาอนุมัติ แต่บางสถาบันการเงินอาจยื่นเอกสารตามที่ได้รับ เมื่อเอกสารไม่ครบ ทำให้สมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน อาจต้องยื่นใหม่ทั้งหมดอีกรอบ บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ เสียเวลาละเอียดรอบคอบสักนิดจะได้ไม่มาเสียเวลาทีหลัง
7) บัญชีต้องไม่นิ่งเกินไป
การเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารมีส่วนสำคัญในการพิจารณา แนะนำให้เลือกบัญชีที่มีเงินเดือนเข้าหรือเงินหมุนเวียนในธุรกิจสำหรับเจ้าของกิจการ ไม่ว่าจะฝาก ถอน โอน หากมีการทำรายการอย่างต่อเนื่อง ย่อมบ่งบอกว่ามีการใช้จ่าย และบริหารบัญชีอยู่เสมอ แต่หากบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวในช่วง 6 เดือนย้อนหลัง ย่อมส่งผลต่อการพิจารณาอนุมัติบัตรเครดิตได้
8) เคยยกเลิกบัตร
หลายคนอาจไม่รู้ว่าการยกเลิกบัตรเครดิตมีส่วนในการสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่านเช่นกัน โดยต้องตรวจสอบนโยบายของแต่ละสถาบันการเงินเกี่ยวกับการปิดบัตรเครดิตแล้วกลับมาสมัครใหม่ หากเป็นบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินเดิมส่วนใหญ่ต้องเว้นระยะเวลาตามที่กำหนดจึงจะสมัครบัตรใบใหม่ได้ เนื่องจากการยกเลิกบัตรแล้วสมัครใหม่อาจเกี่ยวข้องกับโปรโมชั่นหรือของขวัญพิเศษที่ลูกค้าต้องการจะได้รับ ทางสถาบันการเงินจึงต้องเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด
การสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่านดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่คงจะดีกว่าถ้าสมัครแล้วผ่านเลย เพราะฉะนั้นแนะนำให้เตรียมพร้อมและตรวจเช็ครายละเอียดให้ครบถ้วน หากสมัครแล้วไม่ผ่านการอนุมัติลองดูสาเหตุที่สถาบันการเงินแจ้งมา เพื่อจะได้เตรียมตัวสมัครใหม่ในครั้งต่อไป อย่าท้อเพราะเครดิตทางการเงินไม่ว่าใครก็มีได้
KTC TIP : การกรอกรายละเอียดในเอกสารที่เป็น ความจริงและครบถ้วน จะช่วยให้ง่ายต่อการพิจารณาอนุมัติบัตรเครดิตเป็นอย่างมาก
|
สมัครบัตรเครดิตช่องทางออนไลน์
ไม่มีค่าธรรมเนียม