• บัตรเครดิต
    • ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
    • คะแนน
    • ผ่อนชำระ
    • บริจาค
    • บริการหักค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ
    • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
    • KTC Device Pay
  • สินเชื่อบุคคล
    • ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
    • บัตรกดเงินสด KTC PROUD
    • สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH
    • สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน
    • ผ่อนชำระ
    • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
  • โปรโมชั่น
  • ธุรกิจร้านค้า
    • บริการธุรกิจร้านค้า
    • บริการเครื่องรูดบัตร EDC 
    • บริการ QR Code Payment
    • บริการรับชำระเงินออนไลน์
    • บริการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ
    • บริการรับชำระเงินผ่านลิงก์
    • บริการรับชำระด้วย ALIPAY & ALIPAY+
  • บริการท่องเที่ยว
  • ช้อปสินค้าออนไลน์
  • บริการลูกค้า
    • ติดต่อ KTC
    • แอป KTC Mobile
    • ช่องทางการชำระเงิน
    • บริการ KTC E-Book
    • ดาวน์โหลดแบบฟอร์มและคู่มือ
    • คำถามที่พบบ่อย
บัตรเครดิต
บัตรเครดิต
  • ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
  • คะแนน
  • ผ่อนชำระ
  • บริจาค
  • บริการหักค่าใช้จ่ายอัตโนมัติ
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
  • KTC Device Pay
สินเชื่อบุคคล
สินเชื่อบุคคล
  • ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
  • บัตรกดเงินสด KTC PROUD
  • สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH
  • สินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน
  • ผ่อนชำระ
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
โปรโมชั่น โปรโมชั่น
ธุรกิจร้านค้า
ธุรกิจร้านค้า
  • บริการธุรกิจร้านค้า
  • บริการเครื่องรูดบัตร EDC
  • บริการ QR Code Payment
  • บริการรับชำระเงินออนไลน์
  • บริการเรียกเก็บเงินอัตโนมัติ
  • บริการรับชำระเงินผ่านลิงก์
  • บริการรับชำระด้วย ALIPAY & ALIPAY+
บริการท่องเที่ยวบริการท่องเที่ยว ช้อปสินค้าออนไลน์ช้อปสินค้าออนไลน์
บริการลูกค้า
บริการลูกค้า
  • ติดต่อ KTC
  • แอป KTC Mobile
  • ช่องทางการชำระเงิน
  • บริการ KTC E-Book
  • ดาวน์โหลดแบบฟอร์มและคู่มือ
  • คำถามที่พบบ่อย
เปลี่ยนภาษา

EN

TH

KTC Search Icon KTC Search Icon
สมัครบัตร
KTC Login Icon KTC Login Icon เข้าสู่ระบบ KTC Mobile Login
KTC Profile

บัญชีของฉัน

  • KTC Online

    บัตร KTC ของฉัน

  • KTC Promotions

    โปรโมชั่นของฉัน

  • KTC Logout

    ออกจากระบบ

KTC Online Profile
  1. หน้าหลัก
  2. /
  3. บทความ
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. เครดิตทางการเงินคืออะไร? ต้องเริ่มยังไง คู่มือสร้างเครดิตดีฉบับ Gen Z
  1. หน้าหลัก
  2. /
  3. บทความ
  4. /
  5. Knowledge
  6. /
  7. เครดิตทางการเงินคืออะไร? ต้องเริ่มยังไง คู่มือสร้างเครดิตดีฉบับ Gen Z
เครดิตทางการเงิน

เครดิตทางการเงินคืออะไร? ต้องเริ่มยังไง คู่มือสร้างเครดิตดีฉบับ Gen Z

หมวดหมู่ : Knowledge

หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเครดิตคือเพียงแค่บัตรเครดิตที่ใช้ซื้อของ แต่ความจริงแล้วเครดิตคือ ความน่าเชื่อถือทางการเงิน ที่สะท้อนถึงพฤติกรรมการใช้เงินและการชำระหนี้ ซึ่งจะถูกบันทึกเป็นประวัติและให้คะแนน (Credit Score) โดยเครดิตบูโร เมื่อไหร่ที่ต้องการขอสินเชื่อ กู้บ้าน ซื้อรถ หรือใช้บริการทางการเงินต่าง ๆ ผู้ให้สินเชื่อจะนำประวัติเครดิตนี้มาใช้ประเมินความเสี่ยงในการพิจารณาอนุมัติ  นี่คือเหตุผลที่ Gen Z ควรเริ่มสร้างเครดิตดีตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อเปิดโอกาสทางการเงินในอนาคต เพราะจะทำให้อนาคตของคุณง่ายขึ้นมาก เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่หรือต้องการความช่วยเหลือทางการเงิน

เครดิตทางการเงินคืออะไร ใช้งานอย่างไร

เครดิตทางการเงิน คือ ความน่าเชื่อถือทางการเงินที่สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมทางการเงินที่ผ่านมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการใช้เงิน การฝากเงิน การนำเงินไปลงทุน ไปจนถึงวินัยในการชำระหนี้สินที่ตรงต่อเวลา โดยเครดิตทางการเงินนี้จะเป็นข้อมูลสำคัญที่ธนาคารและสถาบันทางการเงินใช้พิจารณาอนุมัติธุรกรรมและบริการทางการเงินที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากยิ่งผู้ใช้บริการมีเครดิตดีมากเท่าไหร่ ความน่าเชื่อถือทางการเงินก็จะยิ่งสูงมากขึ้น ทำให้ช่วยเพิ่มโอกาสที่ธนาคารและสถาบันทางการเงินจะอนุมัติธุรกรรมและบริการต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น

เครดิตบูโรคืออะไร เกี่ยวข้องยังไงกับเครดิตทางการเงิน

เครดิตบูโร (Credit Bureau) คือองค์กรที่ทำหน้าที่เป็น "ธนาคารข้อมูลทางการเงิน" ที่รวบรวม จัดเก็บ และให้บริการข้อมูลเครดิตของบุคคลและนิติบุคคลทั่วประเทศ เปรียบเสมือนห้องสมุดยักษ์ที่เก็บประวัติการเงินของทุกคนไว้ เพื่อให้สถาบันการเงินต่าง ๆ สามารถเข้ามาตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงได้

เครดิตบูโรเก็บข้อมูลอะไรบ้าง?

ข้อมูลพื้นฐาน

  • ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน
  • ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์
  • ข้อมูลการทำงาน

ข้อมูลสินเชื่อ

  • ประเภทของสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติ: เช่น สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย, สินเชื่อรถยนต์, บัตรเครดิต, บัตรกดเงินสด รวมถึงสินเชื่อประเภทอื่น ๆ ที่ได้รับอนุมัติจากสถาบันการเงิน
  • ประวัติการชำระหนี้: แสดงรายละเอียดการชำระหนี้รายเดือน ไม่ว่าจะเป็นการชำระตรงเวลา การชำระล่าช้า หรือการค้างชำระ
  • สถานะของบัญชีสินเชื่อ: ระบุสถานะของแต่ละบัญชี เช่น อยู่ในสถานะปกติ ปิดบัญชีแล้ว ค้างชำระเกิน 90 วัน หรืออยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย

ข้อมูลที่ไม่ได้ถูกจัดเก็บโดยเครดิตบูโร:

  • หมายเลขโทรศัพท์
  • ข้อมูลทางการเงินอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อหรือประวัติการชำระหนี้

ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูล:

  • ข้อมูลประวัติการชำระหนี้ จะถูกจัดเก็บย้อนหลังเป็นระยะเวลา 36 เดือน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ที่เกิน 90 วัน จะถูกจัดเก็บต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี และจะค่อย ๆ ถูกลบออกจากระบบภายในระยะเวลา 3 ปีหลังจากนั้น

ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้จะได้มาจากที่ธนาคารพาณิชย์, บริษัทเงินทุน, สถาบันการเงิน, บริษัทบัตรเครดิต, บริษัทสินเชื่อส่วนบุคคล, บริษัทลิสซิ่ง ส่งรายงานเข้ามาทุกเดือน

ทำไมต้องมีประวัติเครดิต?

1. ช่วยในการสมัครสินเชื่อ เพราะธนาคารมีข้อมูลประเมินความเสี่ยง เพิ่มโอกาสอนุมัติ และอาจได้อัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า
2. สร้างความน่าเชื่อถือ แสดงให้เห็นว่ามีความรับผิดชอบ สามารถชำระได้ตรงเวลา
3. เข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสมัครบัตรเครดิตใหม่, ขอเพิ่มวงเงิน, กู้บ้าน หรือขอสินเชื่อ

วิธีสร้างเครดิตดีตั้งแต่เริ่มต้น

1. เปิดบัญชีธนาคารและใช้อย่างมีวินัย
บัญชีธนาคารเป็นรากฐานแรกของประวัติทางการเงิน แม้ว่าจะไม่ส่งผลโดยตรงต่อคะแนนเครดิต แต่เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงและความรับผิดชอบทางการเงิน แนะนำให้ฝากเงินสม่ำเสมอ ให้บัญชีมีความเคลื่อนไหว เพื่อให้ธนาคารมีข้อมูลพฤติกรรมทางการเงินและง่ายต่อการสมัครผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในอนาคต

2. เริ่มใช้บัตรเครดิตแบบรูดน้อย-จ่ายเต็ม
ก่อนอื่นถ้าใครยังไม่มีบัตรเครดิต อาจจะต้องสมัครไว้เพื่อสร้างเครดิตที่ดี โดยการเลือกบัตรเครดิตใบแรก แนะนำให้เลือกบัตรที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ที่สุด มีสิทธิประโยชน์เยอะ เช่น บัตรเครดิต KTC ที่ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 25 บาทจะสามารถสะสมคะแนน KTC FOREVER ได้ 1 คะแนน มีโปรโมชั่นเยอะ ที่สำคัญคือไม่มีค่าธรรมเนียม

  • หลักการ "รูดน้อย-จ่ายเต็ม"
    รูดน้อย คือการใช้ไม่เกิน 30% ของวงเงิน เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณใช้เครดิตอย่างมีวินัย ไม่ขาดแคลนเงินสด หากทำได้สม่ำเสมอก็จะช่วยให้คะแนนเครดิตจะดีขึ้น ที่สำคัญคือจะต้องจ่ายเต็มในวันครบกำหนดชำระ ไม่เคยชำระแค่จำนวนขั้นต่ำ

3. จ่ายบิลตรงเวลา
การจ่ายบิลตรงเวลาเป็นปัจจัยที่มีน้ำหนักมากที่สุดในการประเมินเครดิต แม้จะเป็นบิลจำนวนเล็ก ๆ แต่ก็มีผลต่อประวัติเครดิต ไม่ว่าจะเป็น ค่าโทรศัพท์มือถือ (รายเดือน/เติมเงิน), ค่าอินเทอร์เน็ตบ้าน,  การผ่อนชำระสินค้า (โทรศัพท์, แท็บเล็ต, เครื่องใช้ไฟฟ้า), ค่าสาธารณูปโภค (ไฟฟ้า, น้ำ, แก๊ส)

4. ใช้บริการผ่อน 0% อย่างมีการวางแผน
ผ่อน 0% คือการผ่อนชำระสินค้าโดยไม่มีดอกเบี้ย แบ่งยอดชำระเป็นงวด สูงสุด 3-10 เดือน ช่วยบริหารกระแสเงินสด แต่แนะนำว่าไม่ควรผ่อนสินค้ามากเกินไป ให้เน้นไปที่ของจำเป็นที่มีราคาสูง ประเมินดูแล้วไม่สามารถจ่ายเป็นก้อนได้ไม่งั้นจะกระทบเงินส่วนอื่นในชีวิตประจำวัน
ก่อนเลือกผ่อน 0% องคำนวณความสามารถในการจ่าย ให้เอา รายได้ต่อเดือน - ค่าใช้จ่ายจำเป็น = เงินที่ใช้ผ่อนได้ ระวังไม่ให้ยอดผ่อนรวมเกิน 30% ของรายได้

5. ตรวจเครดิตบูโรและเช็กสถานะเครดิตปีละครั้ง
อย่างที่บอกไปว่าเครดิตบูโรมีความสำคัญกับประวัติทางการเงินของตัวเรา ดังนั้นควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ติดตามการพัฒนาคะแนนเครดิต ป้องกันการใช้เอกลักษณ์โดยไม่ได้รับอนุญาต หากมีจุดไหนที่ทำให้เครดิตดูไม่ดี ก็ให้วางแผนการปรับปรุงเครดิต

พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง ถ้าไม่อยากเสียเครดิต

1. ชำระหนี้ล่าช้า
หลายคนอาจมองว่า ถ้าตั้งใจจะชำระอยู่แล้ว ชำระตอนไหนก็คงไม่ต่างกัน แต่จริง ๆ การชำระหนี้ต่าง ๆ มีกำหนดการชำระที่ชัดเจนว่าต้องจ่ายภายในวันไหน ซึ่งถ้าหากไม่จ่ายให้ตรงเวลา เกินกำหนดเพียงไม่กี่วันก็ถูกบันทึกในระบบเครดิตบูโร ทำให้เสียคะแนนเครดิตทันที และมีดอกเบี้ยปรับเพิ่ม ทำให้อาจจะต้องจ่ายเงินมากขึ้น

2. ใช้วงเงินเต็มตลอดเวลา
สำหรับคนที่ใช้บัตรเครดิต แม้ว่าธนาคารหรือสถาบันการเงินจะให้วงเงินสำหรับใช้จ่ายในแต่ละเดือน และจริงที่เจ้าของบัตรเครดิตจะใช้เท่าไหร่ก็ได้หากจ่ายไหว แต่การใช้วงเงินบัตรเครดิตจนเต็มหรือใกล้เต็มอยู่ตลอดแม้จะจ่ายตรงเวลา แต่ก็แสดงถึงภาระหนี้สูง คะแนนเครดิตลดลงและอาจถูกมองว่าเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระ

3. ไม่เคยชำระเต็มจำนวน
เมื่อถึงวันสรุปยอดบิล จะมียอดที่ต้องชำระขั้นต่ำในกรณีที่ยอดเดือนนั้นอาจจะสูงเกินจนทำให้จ่ายเต็มไม่ไหว แต่หลายคนเมื่อเห็นยอดขั้นต่ำน้อย ๆ ก็คิดว่าสามารถจ่ายในจำนวนเท่านี้ไปตลอดได้ แต่จริง ๆ การจ่ายแค่ขั้นต่ำทุกเดือน ดอกเบี้ยจะทบต้น และหนี้ไม่ลดลงจริงส่งผลให้ภาระหนี้พอกพูนและยังแสดงให้เห็นถึงการบริหารเงินไม่ดีอีกด้วย

4. ขอกู้หรือเปิดบัตรเครดิตหลายใบในเวลาใกล้กัน
การยื่นคำขอหลายสถาบันพร้อมกัน ระบบจะเห็นว่าการขอกู้รัวแปลว่ากำลังขัดสนหรือมีปัญหาเรื่องการเงินอยู่ ซึ่งการจะอนุมัติเงินหรือบัตรเครดืตให้กับคนที่มีปัญหาด้านการเงิน ก็มีความเสี่ยงสูงที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินนั้น ๆ จะไม่ได้เงินคืน  ธนาคารหรือสถาบันการเงินหลาย ๆ แห่งจึงอาจไม่อนุมัติ และทำให้คะแนนเครดิตลด

5. เพิกเฉยต่อหนี้ก้อนเล็ก
หลายคนมีหนี้เล็ก ๆ เช่น หนี้มือถือ, หนี้ซื้อผ่อนของ, หนี้ไฟแนนซ์ที่มียอดไม่ได้สูงมาก ทำให้มองข้าม คิดว่าไม่ใช่ยอดใหญ่อะไร คงไม่ถูกเอาไปนับหรือทำให้เครดิตเสียได้ แต่ที่จริงไม่ว่าหนี้จะน้อยหรือไม่ แต่หากไม่จ่ายภายในระยะเวลาที่กำหนด ก็อาจถูกส่งข้อมูลเข้าสู่เครดิตบูโรได้ ทำให้ เครดิตเสียจากหนี้จำนวนน้อย ทั้งที่จริงเงินจำนวนนี้คุณอาจมีความสามารถที่จะจ่ายได้ตรงเวลาแบบไม่กระทบเงินส่วนอื่น

6. ค้ำประกันโดยไม่คิดให้รอบคอบ
การค้ำประกัน คือการที่เซ็นรับรองว่าจะรับผิดชอบหนี้แทนผู้กู้ ถ้าเขาไม่สามารถชำระเงินได้ เช่น ค้ำให้เพื่อนซื้อรถ / ขอสินเชื่อ / กู้เงิน แม้คุณจะไม่ใช่คนยืม แต่ถ้าผู้กู้ผิดนัด คุณต้องจ่ายแทน และถูกบันทึกในเครดิตบูโรเหมือนเป็นหนี้ของคุณเอง ปัญหาเหล่านี้อาจจะทำให้เครดิตเสียโดยไม่รู้ตัว

7. ไม่ตรวจสอบเครดิตตัวเองเลย
อย่างที่กล่าวไปว่า เครดิตบูโรควรตรวจและเช็กสถานะเครดิตปีละครั้ง เพราะเราไม่รู้เลยว่าตัวเองมีหนี้ที่หลงลืมหรือไม่
หรือบางครั้งก็อาจมีชื่อไปค้ำประกันให้คนอื่น ซึ่งถ้าคุณไม่เข้าไปเช็กเลย ไม่รู้ว่าผู้กู้ชำระตรงเวลาหรือไม่ หากมีปัญหาเกิดขึ้นก็จะทำให้เครดิตของตัวเองมีปัญหาได้

ถ้ามีเครดิตไม่ดี แก้ไขได้ไหม?

ถ้าเครดิตไม่ดี สามารถแก้ไขได้ โดยสามารถทำได้ตามวิธีด้านล่างนี้

1. ปิดหนี้เก่าทั้งหมดให้เรียบร้อย
เพื่อแก้ไขเครดิตที่ไม่ดี ให้จ่ายยอดที่ค้างชำระให้ครบ และขอใบรับรองว่าหนี้ปิดแล้ว หากมีการประนอมหนี้ ควรยืนยันว่าหนี้ถือว่าชำระสมบูรณ์ แต่ทั้งนี้ ต่อให้ปิดหนี้เก่าไปแล้วเครดิตจะไม่ฟื้นทันทีหลังปิดหนี้  แต่สถานะจะเปลี่ยนเป็นปิดบัญชีและเริ่มนับเวลาฟื้นตัว

2. รอเวลาให้เครดิตฟื้นตัว
หลังจากที่ชำระหนี้ให้ครบหมดและปิดบัญชีเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลประวัติการชำระหนี้ จะถูกจัดเก็บย้อนหลังเป็นระยะเวลา 36 เดือน ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ที่เกิน 90 วัน จะถูกจัดเก็บต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี และจะค่อย ๆ ถูกลบออกจากระบบภายในระยะเวลา 3 ปีหลังจากนั้น

3. อย่าค้างชำระใหม่เด็ดขาด
ในระหว่างที่เครดิตฟื้นตัว ให้หลีกเลี่ยงการก่อหนี้ใหม เพราะถ้ามีหนี้ค้างอีกครั้ง เครดิตบูโรจะเห็นทุกการค้างใหม่ทันที แม้จะค้างแค่ 1 วัน ก็มีการบันทึก ยิ่งค้างหลายรอบ ยิ่งสะสมว่าเป็นผู้เสี่ยงผิดนัดซ้ำ นอกจากนี้เครดิตยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ช่วงหลังปิดหนี้เก่า 3 ปี คือ ช่วงเฝ้าระวัง ถ้าคุณค้างชำระซ้ำอีก จะ รีเซ็ตเวลาใหม่หมด (ต้องรออีก 3 ปีนับจากครั้งล่าสุด)

4. ติดต่อเจ้าหนี้เพื่อหาทางออก
ในกรณีที่ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายหนี้ทั้งหมดและปิดบัญชีได้ แนะนำว่าให้เจรจาผ่อนจ่าย, ขอประนอมหนี้, ขอปิดบัญชีแบบมีส่วนลด โดยขอเอกสารยืนยัน, ขอเขียนคำชี้แจงแนบในเครดิตบูโร หากมีเหตุจำเป็น เช่น ป่วย, ตกงาน ไม่ควรหายไปเงียบ ๆ

วิธีมีสร้างเครดิตที่ดีนั้นไม่ยาก บางอย่างก็สามารถสร้างได้ผ่านการใช้ชีวิตประจำวันอย่างพฤติกรรมใช้บัตรเครดิต  โดยหากปฏิบัติตามเงื่อนไขของทางธนาคารครบถ้วน มีการชำระยอดบัตรเครดิตตรงเวลา และไม่นำบัตรเครดิตไปใช้ผิดจุดประสงค์ ก็จะทำให้มีเครดิตดีได้ เพิ่มความน่าเชื่อถือทางการเงินสูง ทำให้มีโอกาสได้รับการอนุมัติธุรกรรมและบริการต่าง ๆ ของธนาคารและสถาบันทางการเงินที่มากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลกับการเงินส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่ออการทำธุรกรรมเพื่อธุรกิจในอนาคตอีกด้วยรู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมวางแผนทางการเงินให้รอบคอบเพื่อสร้างเครดิตทางการเงินที่ดีตั้งแต่วันนี้ และสำหรับใครยังไม่มีบัตรเครดิต ก็สามารถสมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ทุกที่ทุกเวลา พร้อมรับคะแนน KTC FOREVER จากทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต สะสมได้ไม่จำกัด และไม่มีวันหมดอายุ สามารถใช้คะแนนแลกรับส่วนลดหรือเครดิตเงินคืนได้ สมัครบัตรเครดิต KTC ไม่ยาก กดสมัครได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC

สมัครออนไลน์ด้วยตนเอง

ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
และบัตรกดเงินสด KTC PROUD

QR Code สมัครออนไลน์ด้วยตนเอง
สแกนเพื่อสมัครบัตร
KTC กำลังปรับปรุงการแสดงภาพ อาจมีบางรายการแสดงผลไม่สมบูรณ์
ศึกษาเพิ่มเติม

สมัครออนไลน์
ด้วยตนเอง

ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต
และบัตรกดเงินสด
KTC PROUD

เริ่มสมัครเลย
KTC กำลังปรับปรุงการแสดงภาพ
อาจมีบางรายการแสดงผลไม่สมบูรณ์
ศึกษาเพิ่มเติม

ลงชื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

ให้คำปรึกษา และอำนวยความสะดวก
ในการสมัครผลิตภัณฑ์ของ KTC

บัตรเครดิต KTC บัตรเครดิต KTC สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์
บัตรกดเงินสด KTC PROUD บัตรกดเงินสด KTC PROUD สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน รถยนต์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์
บัตรเครดิต KTC บัตรเครดิต KTC บัตรกดเงินสด KTC PROUD บัตรกดเงินสด KTC PROUD สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน รถยนต์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน บิ๊กไบค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน มอเตอร์ไซค์

เกี่ยวกับเรา

  • วิสัยทัศน์ / พันธกิจ
  • ข้อมูลทั่วไป
  • โครงสร้างการถือหุ้นกลุ่มบริษัท
  • โครงสร้างองค์กร
  • คณะกรรมการ
  • คณะผู้บริหาร
  • เลขานุการบริษัท
  • หัวหน้างานกำกับดูแล และหัวหน้างานตรวจสอบภายใน
  • ผู้ควบคุมดูแลการทำบัญชี
  • นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • บทความ
  • สมัครงาน / ฝึกงาน

บริการลูกค้า

  • บริการออนไลน์
  • อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
  • คำนวณดอกเบี้ย / ค่าธรรมเนียม
  • ช่องทางการชำระเงิน
  • บริการหักค่าใช้จ่ายรายเดือนอัตโนมัติ
  • ดาวน์โหลด
  • ประกาศบริษัท
  • คำถามที่พบบ่อย
  • แผนผังเว็บไซต์

การพัฒนาเพื่อความยั่งยืน

  • มิติเศรษฐกิจ
  • มิติสังคม
  • มิติสิ่งแวดล้อม
  • การควบคุมภายในและการบริหารจัดการความเสี่ยง
  • การรับรองมาตรฐานระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสําหรับสารสนเทศ (ISO/IEC 27001:2013)

นักลงทุนสัมพันธ์

  • ข้อมูลสำคัญทางการเงิน
  • ข้อมูลนำเสนอ
  • ข้อมูลสำหรับผู้ถือหุ้น
  • ข้อมูลและกิจกรรมหุ้นกู้
  • นโยบาย
  • ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์

KTC PHONE

02 123 5000
CAC Certified

ดาวน์โหลดแอป

KTC Mobile
KTC Mobile KTC Mobile KTC Mobile
KTC Facebook KTC Twitter KTC Instagram KTC LINE
© 2563 บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ติดตามข่าวสารได้ที่
KTC LINE KTC LINE KTC Facebook KTC Facebook KTC instagram KTC instagram KTC Youtube KTC Youtube KTC TikTok KTC TikTok KTC twitter KTC twitter

EN

TH

KTC LIVE CHAT

Live Chat

KTC LIVE CHAT
สมัครบัตรเครดิต KTC
สมัครกดเงินสด KTC PROUD
ทั้งหมด
โปรโมชั่น
ผลิตภัณฑ์
บทความ
ข่าวประชาสัมพันธ์
0 ผลลัพธ์
คุณกำลังหมายถึง?
    ดูเพิ่มเติม

    ไม่พบผลลัพธ์ที่ค้นหา

    ตรวจสอบคำค้นหาของคุณแล้วลองอีกครั้ง
    ลองค้นหาด้วยคำหลักที่น้อยลง
    ประวัตการค้นหา
    ไม่มีประวัตการค้นหา
    ลบทั้งหมด
    KTC
    ตัวกรองโปรโมชั่น
    หมวดหมู่โปรโมชั่น
    • เลือกทั้งหมด
    • ล้างทั้งหมด
    ประเภทบัตรทั้งหมด
    • เลือกทั้งหมด
    • ล้างทั้งหมด
    เลือกผลิตภัณฑ์

    บัตรเครดิต KTC

    บัตรกดเงินสด KTC PROUD

    สินเชื่ออเนกประสงค์ KTC CASH

    สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ <span>KTC พี่เบิ้ม</span>

    สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้ม

    Filter

    ตัวกรอง

    Search
    www.ktc.co.th ไม่รองรับเบราว์เซอร์ Internet Explorer
    หากดำเนินการต่อ การใช้งานในบางเมนู/รายการอาจไม่สมบูรณ์

    สงวนสิทธิ์ © 2563 บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

    EN

    TH

    Live Chat