วัยทำงานนับเป็นช่วงชีวิตที่ท้าทาย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องแบกรับภาระหนี้สินด้วย บางคนอาจมีหนี้สินจำมากจนแบกรับไม่ไหว เมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้แล้ว บางคนอาจเกิดคำถามสงสัยว่า แล้วจะยังมีโอกาสขอสินเชื่อเพื่อปิดหนี้ได้หรือไม่?
คำตอบก็คือ ยังมีโอกาสที่จะขอสินเชื่อได้ โดยการยื่นขอ "สินเชื่อไม่เช็คบูโร" นั่นเอง สำหรับใครที่ทราบว่าสินเชื่อไม่เช็คบูโร คืออะไร ? มีความน่าเชื่อถือ และถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ รวมถึงต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับสินเชื่อพนักงานประจำไม่เช็คบูโร วันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ไว้ให้แล้ว
เครดิตบูโร คืออะไร ?
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจก่อนว่าเครดิตบูโร คืออะไร สำหรับเครดิตบูโร ก็คือ ข้อมูลและประวัติการชำระหนี้ ข้อมูลนิติบุคคล กับสถาบันการเงินต่างๆ ที่ถูกรวบรวมโดยบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ
- ข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตนของบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน
- ข้อมูลด้านสินเชื่อและการชำระหนี้ต่างๆ เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อบ้าน รถยนต์ พร้อมประวัติการผ่อนชำระ
ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งจากสถาบันการเงินมายังเครดิตบูโรเป็นประจำทุกเดือน เพื่อใช้ในการประเมินความเสี่ยงของผู้กู้ก่อนอนุมัติสินเชื่อ หากผู้กู้รายใดมีประวัติการผิดนัดชำระหนี้หรือค้างชำระ ข้อมูลดังกล่าวก็จะถูกบันทึกไว้ในเครดิตบูโร
ดังนั้นเครดิตบูโรจึงมีความสำคัญในการเป็นแหล่งข้อมูลที่ช่วยลดความเสี่ยงในระบบสินเชื่อ และยังเป็นข้อมูลสำคัญที่สถาบันการเงินจะใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้กับผู้กู้ด้วย
สินเชื่อไม่เช็คบูโร คือการกู้ยืมเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีความน่าเชื่อถือ
สินเชื่อไม่เช็คบูโร คืออะไร ?
สินเชื่อไม่เช็คบูโร หรือ สินเชื่อ Non-bank ไม่เช็คบูโร เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ให้บริการกู้ยืมเงินแก่กลุ่มบุคคลที่มีประวัติเครดิตไม่ดี ผิดนัดชำระหนี้ จ่ายไม่เต็มจำนวน ซึ่งจะประสบปัญหาในการขอสินเชื่อจากธนาคารหรือสถาบันการเงินทั่วไป สินเชื่อประเภทนี้จึงเป็นทางเลือกที่เปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบที่สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
หนี้แบบไหนไม่สามารถยื่นขอสินเชื่อส่วนบุคคลได้?
หนี้เยอะไม่ได้แปลว่ายื่นขอสินเชื่อไม่ได้ แต่อาจจะมีหนี้บางประเภทที่ทำให้ ยื่นขอสินเชื่อส่วนบุคคลไม่ผ่าน หรือถูกพิจารณาอย่างเข้มงวดขึ้น โดยปกติแล้ว ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะพิจารณาจาก ประวัติทางการเงิน, รายได้, และภาระหนี้สิน ปัจจัยที่อาจทำให้ขอสินเชื่อไม่ได้มีดังนี้
- หนี้ที่มีประวัติค้างชำระ หากมีค้างชำระนานเกิน 90 วัน โอกาสขอสินเชื่อจะน้อยมาก แม้จะปิดหนี้ไปแล้ว ประวัติค้างชำระอาจยังอยู่ในเครดิตบูโร 3 ปี ทำให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินยังมองว่าคุณมีความเสี่ยง
- หนี้ที่ภาระสูงเกินไป ถ้าคุณมีภาระหนี้รวมเกิน 40-50% ของรายได้ โอกาสอนุมัติสินเชื่อจะลดลง
- หนี้ที่อยู่ระหว่างการฟ้องร้อง หากถูกฟ้องร้องจากเจ้าหนี้ หรือถูกบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์ ข้อมูลจะอยู่ในระบบเครดิตบูโร และธนาคารหรือสถาบันการเงินจะไม่ปล่อยสินเชื่อให้
- หนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อที่ถูกปรับโครงสร้างหนี้ แม้ว่าจะยังไม่เป็นหนี้เสีย แต่หากคุณเคย ปรับโครงสร้างหนี้ หรือขอลดดอกเบี้ย อาจถูกมองว่ามีปัญหาสภาพคล่อง ทำให้การอนุมัติสินเชื่อได้ยากขึ้น
สินเชื่อที่ไม่เช็คเครดิตบูโรมีอะไรบ้าง มีจริงไหม ?
ปัจจุบันมีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจทางการเงินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ให้บริการสินเชื่อหรือการกู้ยืมเงินแก่บุคคลที่มีประวัติเครดิตไม่ดี บริษัทเหล่านี้จะเปิดโอกาสให้ยื่นขอสินเชื่อและมีโอกาสผ่านการอนุมัติได้จริง โดยมีเงื่อนไขและใช้เอกสารไม่มากนัก สามารถเลือกยื่นขอได้ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล เช่น สินเชื่อรถแลกเงิน แม้ยังอยู่ในระยะผ่อน ก็สามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาค้ำประกัน เพื่อขอกู้เงินได้ สินเชื่อเงินก้อน สามารถกู้เงินด่วนได้ไม่ยากผ่านช่องทางออนไลน์ หรือสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ สำหรับกู้เงินเพื่อการนำไปลงทุนทำธุรกิจหรือสร้างรายได้ เป็นต้น
สินเชื่อไม่เช็คบูโรถูกกฎหมายหรือไม่ ?
สินเชื่อไม่เช็คบูโร ถือว่าถูกต้องตามกฎหมาย โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย มีการให้บริการทั้งช่องทางออนไลน์ และมีสถานประกอบการจริง แสดงถึงความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีกระบวนการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของผู้ขอสินเชื่ออย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติที่ดี
ดังนั้นสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องเครดิตบูโร ก็ยังมีโอกาสได้รับสินเชื่อหรือกู้ยืมเงินระยะสั้นจากบริษัททางการเงินที่ถูกกฎหมายเหล่านี้ ซึ่งเป็นทางออกทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน
แต่การขอสินเชื่อไม่เช็คบูโรอาจต้องใช้ทรัพย์สิน เช่น บ้าน หรือรถ นำมาเป็นหลักประกัน เพื่อลดความเสี่ยงในการขอปล่อยสินเชื่อ บางสถานที่จะมีดอกเบี้ยที่สูง อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อ ควรศึกษาข้อมูล ดอกเบี้ย และเงื่อนไขให้มั่นใจเสียก่อน รวมถึงวางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนี้สินซ้ำซ้อน การใช้เงินอย่างมีวินัย ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น มีบัตรเครดิตไว้ยามฉุกเฉิน ต้องการใช้เงินก้อนก็ถอนได้ เป็นการช่วยเรื่องปัญหาการใช้เงินไม่พอได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งการสมัครบัตรเครดิตง่ายกว่า และไม่ต้องใช้หลักประกัน อีกทั้งยังมีความปลอดภัยในการใช้จ่ายอีกด้วย อย่างบัตรเครดิต KTC มีโปรโมชั่น เปลี่ยนรายการใช้จ่ายเป็นรายการผ่อนชำระ นาน 3 - 10 เดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ย พิเศษ 0.74% ต่อเดือน
ทั้งนี้ หากคุณกำลังมองหาบัตรเครดิตที่ช่วยบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน บัตรเครดิต KTC นับว่าตอบโจทย์ เพราะมีบัตรเครดิตหลากหลายประเภทให้เลือกเหมาะกับไลฟ์สไตล์ มาพร้อมสิทธิประโยชน์ต่างๆ อีกมากมาย หากสนใจสามารถสมัครบัตรเครดิต KTC ผ่านทางออนไลน์ได้ง่ายๆ รับสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นสุดคุ้มตลอดทั้งปี
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC