สาเหตุในการเกิดหนี้ และอายุความหนี้บัตรเครดิตที่ต้องรู้
ในปัจจุบัน ผู้คนหันมานิยมสมัครบัตรเครดิตและใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มมากขึ้นในยุคสังคมไร้เงินสด เนื่องจากผู้ถือบัตรสามารถนำบัตรเครดิตไปซื้อสินค้าและบริการตามวงเงินที่ได้รับจากธนาคารหรือสถาบันการเงินได้อย่างสะดวกสบาย รวมทั้งได้รับสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายจากการใช้บัตรเครดิตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาวะเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น รายจ่ายที่ไม่สัมพันธ์กับรายรับ รวมทั้งพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เกินตัว โดยลืมคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ อาจทำให้ผู้ถือบัตรจ่ายค่าบัตรเครดิตไม่ไหว และทำให้เกิดหนี้บัตรเครดิตตามมา ซึ่งส่งผลให้ผู้ถือบัตรเสียเครดิตทางการเงิน ถูกฟ้องร้อง หรือได้รับผลกระทบอื่น ๆ ตามมา บทความนี้ KTC จะพาไปรู้จักการเป็นหนี้บัตรเครดิต เรื่องใกล้ตัวที่ควรรู้
สาเหตุที่ทำให้เกิดหนี้บัตรเครดิต มีอะไรบ้าง
หนี้บัตรเครดิตเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมในการใช้จ่ายของแต่ละบุคคล โดยสาเหตุส่วนใหญ่ที่ก่อให้เกิดหนี้บัตรเครดิตมีดังนี้
- จ่ายเงินค่าบัตรเครดิตไม่ตรงเวลา เมื่อผู้ถือบัตรจ่ายเงินค่าบัตรเครดิตเกินเวลาที่กำหนดไว้ จะทำให้ผู้ถือบัตรถูกธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรเรียกเก็บดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม รวมถึงค่าปรับจากการการชำระหนี้ล่าช้ากว่ากำหนด
- จ่ายเงินค่าบัตรเครดิตในยอดขั้นต่ำทุก ๆ เดือน เมื่อผู้ถือบัตรจ่ายเงินค่าบัตรเครดิตในยอดขั้นต่ำ หรือจ่ายไม่เต็มจำนวน จะส่งผลให้ผู้ถือบัตรถูกธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรเรียกเก็บดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระรายจ่าย และยืดระยะเวลาในการชำระหนี้ให้ยาวขึ้น
- ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโดยที่ไม่มีวินัยทางการเงิน หรือไม่ได้วางแผนชำระหนี้ ผู้ถือบัตรหลายคนมักใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต โดยไม่มีการวางแผนการเงินหรือวางแผนชำระหนี้ ไปจนถึงไม่กำหนดขอบเขตในการใช้จ่าย จนทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ค่าบัตรเครดิตได้ในเวลาที่กำหนด ซึ่งทำให้เกิดภาระรายจ่ายจากการถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม รวมถึงค่าปรับจากธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตร ดังนั้น ผู้ถือบัตรควรวางแผนการใช้จ่ายบัตรเครดิตทุกครั้ง เพื่อสร้างวินัยให้ตนเองและไม่ก่อให้เกิดหนี้บัตรเครดิตในอนาคต
ไม่จ่ายบัตรเครดิตอันตรายกว่าที่คิด
ไม่จ่ายบัตรเครดิต มีผลอย่างไรบ้าง?
หากผู้ถือบัตร หยุดจ่ายบัตรเครดิตหรือปล่อยให้มียอดหนี้ค้างชำระ ผู้ถือบัตรจะถูกเรียกเก็บดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม รวมถึงค่าปรับจากธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตร และหากปล่อยให้มีหนี้ค้างชำระเกินกว่า 3 เดือน ธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรจะเปลี่ยนสถานะของผู้ถือบัตรจากลูกหนี้ปกติเป็นลูกหนี้ที่มีประวัติการค้างชำระหนี้ โดยข้อมูลประวัติการค้างชำระจะปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ซึ่งธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ ที่เป็นสมาชิกเครดิตบูโรสามารถเข้ามาตรวจสอบข้อมูล และเช็คประวัติทางการเงินของผู้ขอสินเชื่อ หรือผู้ใช้บริการทางการเงินได้ ดังนั้น หากผู้ถือบัตรมีประวัติการค้างชำระหนี้ในเครดิตบูโร จะทำให้ผู้ถือบัตรถูกลดทอนความน่าเชื่อถือทางการเงิน โอกาสที่จะได้รับการพิจารณาสินเชื่อ หรือเงินกู้ใหม่ลดลง นอกจากนี้ ผู้ถือบัตรที่ค้างชำระหนี้ยังอาจเจอกับผลกระทบอื่นๆ ดังต่อไปนี้
ถูกทวงถามหนี้ค้างชำระจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน
เมื่อผู้ถือบัตรหยุดจ่ายบัตรเครดิตหรือปล่อยให้มีหนี้บัตรเครดิตค้างชำระ สิ่งที่ผู้ถือบัตรจะต้องเจอเป็นอันดับแรกคือ ธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรเครดิตจะทำการทวงถามและติดตามให้ผู้ถือบัตรชำระเงิน อาทิ การส่งข้อความ SMS การส่งจดหมายไปตามที่อยู่ที่ผู้ถือบัตรได้แจ้งไว้ หรือการโทรทวงถามโดยเจ้าหน้าที่ของธนาคารหรือสถาบันการเงิน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ผู้ถือบัตรสามารถเจรจาเบื้องต้นกับธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรได้เช่นกัน
ธนาคารหรือสถาบันการเงินอาจใช้สิทธิทางศาลเพื่อเรียกหนี้คืน
หากธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรได้ทำการติดตามทวงถามหนี้แล้ว แต่ผู้ถือบัตรยังไม่ยอมติดต่อชำระหนี้กับธนาคารหรือสถาบันการเงิน หรือในกรณีที่ไม่สามารถตกลงไกล่เกลี่ยกันได้ ธนาคารหรือสถาบันการเงินอาจใช้สิทธิทางศาล เพื่อดำเนินคดีและบังคับชำระหนี้ในขั้นตอนต่อไป ซึ่งคดีบัตรเครดิตตามกฎหมายถือเป็นคดีแพ่ง ซึ่งผู้ถือบัตรที่เป็นลูกหนี้จะต้องถูกบังคับชำระหนี้ หรือชดใช้ค่าเสียหายตามที่ศาลเห็นสมควร รวมถึงอาจจะต้องจ้างทนายความเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาล
อย่างไรก็ดี ลูกหนี้อาจไปที่ศาล เพื่อทำการไกล่เกลี่ย หรือหาข้อตกลงในการชำระหนี้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินได้ โดยในขั้นตอนการไกล่เกลี่ยลูกหนี้สามารถทำข้อตกลงเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้กับธนาคารหรือสถาบันการเงิน โดยไม่จำเป็นต้องจ้างทนายความ
ถูกยึดทรัพย์หรืออายัดเงินเดือน
หากเรื่องอยู่ในขั้นตอนดำเนินการทางกฎหมายและผู้ถือบัตรที่เป็นลูกหนี้ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้คืนให้แก่ธนาคารหรือสถาบันการเงินตามที่ศาลสั่ง หรือลูกหนี้เพิกเฉยไม่ยอมติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อชำระหนี้ หรือตกลงเรื่องการจ่ายเงินคืนไม่ได้ ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ หรืออายัดเงินเดือนของลูกหนี้ได้
อายุความหนี้บัตรเครดิต
คดีหนี้บัตรเครดิต อายุความกี่ปี?
เมื่อธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรได้แจ้งกำหนดการจ่ายเงินคืนค่าบัตรเครดิตให้ผู้ถือบัตรได้ทราบแล้ว แต่ผู้ถือบัตรผิดนัดไม่จ่ายเงินคืนตามกำหนดเวลาดังกล่าว จะทำให้อายุความฟ้องหนี้บัตรเครดิตเริ่มนับทันทีในวันถัดไป โดยมีอายุความทั้งสิ้น 2 ปี นับแต่วันที่ผู้ถือบัตรผิดนัดชำระหนี้ ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 193/34 กำหนดไว้
อีกวิธีการหนึ่งที่ผู้ถือบัตรสามารถทำได้ เมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิต คือ การประนอมหนี้ ซึ่งเป็นการเจรจาระหว่างธนาคารหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรและลูกหนี้บัตรเครดิต เพื่อให้ได้แนวทางในการชำระหนี้ที่ชัดเจนและเหมาะสมกับลูกหนี้ ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดหนี้เสียที่อาจส่งผลไปถึงการฟ้องร้องในอนาคต เคทีซีมีทางออกสำหรับการเจรจาเพื่อประนอมหนี้ที่สามารถเข้ามาปรึกษาได้ทาง KTC PHONE 02 123 5000 ได้ 24 ชั่วโมง หรือติดต่อผ่านคู่สายกลาง งานประนอมหนี้ 02-631 3399, 02-631 3600, 02-631 3666 , 02-631 3700 , 02-631 3555 เวลา 08.00 น.-17.00 น.
กรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อสมัครบัตรเครดิต KTC
.