ทำอย่างไร เมื่อใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี
ใบขับขี่หรือใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่คนมีรถ และขับขี่รถในชีวิตประจำวันต้องมี เพราะใบขับขี่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการใช้งานรถโดยผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมการขนส่งทางบกเรียบร้อยแล้ว การขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตขับรถถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย คนที่ต้องการใช้งานรถบนถนนร่วมกับผู้อื่นจึงควรทำใบขับขี่ให้ถูกต้องก่อน และควรต่ออายุใบขับขี่เป็นประจำ เป็นการปฏิบัติตามกฎจราจร
เลือกอ่านตามหัวข้อ
การทำใบขับขี่ครั้งแรกและต่ออายุใบขับขี่
ใบขับขี่ใบแรกเป็นใบขับขี่ที่เวลาทำจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนทุกขั้นตอนที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดมาตรการเอาไว้ ซึ่งจะไม่เหมือนการต่อใบขับขี่ที่ขั้นตอนจะน้อยกว่า การทำใบขับขี่ใบแรกและการต่อใบขับขี่ตามขั้นตอนปกติทำได้ดังนี้
ใบขับขี่เป็นใบรับรองการขับรถจากกรมการขนส่งทางบก
การทำใบขับขี่ใบแรก
ใบขับขี่เป็นสิ่งที่คนขับรถทุกคนต้องมี ดังนั้นเราจึงมาดูวิธีการทำใบขับขี่ใบแรกสำหรับมือใหม่สักหน่อย เน้นที่ใบขับขี่รถยนต์เป็นหลัก มีคุณสมบัติของผู้ที่สามารถทำใบขับขี่กำหนดไว้ ดังนี้
- อายุ 18 ปีขึ้นไป
- ไม่มีโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อการขับขี่ เช่น โรคลมชัก โรคความดัน ปัญหาสายตาที่มองทางไม่เห็นในระยะที่กำหนด
- รู้และเข้าใจกฎจราจรในการขับขี่เป็นอย่างดี
การทำใบขับขี่สามารถทำได้ด้วยตนเอง หรือจะทำผ่านการเรียนขับรถกับสถาบันสอนขับรถที่กรมการขนส่งทางบกรับรอง และมีบริการทำใบขับขี่ให้ด้วยก็ได้เช่นกัน ในที่นี้จะกล่าวถึงการทำใบขับขี่ด้วยตนเองที่สามารถทำได้ดังนี้
- ยื่นเอกสาร ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน และใบรับรองแพทย์ที่กรมการขนส่งทางบก สามารถยื่นขอทำใบขับขี่ออนไลน์ได้ที่ DLT Smart Queue เพื่อประหยัดเวลารอคิว
- ทดสอบสมรรถนะที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่เบื้องต้น ได้แก่ ทดสอบตาบอดสี ทดสอบการมองทางลึกและทางกว้าง ทดสอบเหยียบเบรก
- เข้าอบรมเกี่ยวกับกฎจราจร และทฤษฎีการขับรถ โดยจะแบ่งการอบรมออกเป็นภาคเช้าและภาคบ่าย ผู้ที่ทำใบขับขี่ครั้งแรกไม่สามารถอบรมออนไลน์ได้ ต้องเข้ารับการอบรมด้วยตนเองที่กรมการขนส่ง
- ทำข้อสอบผ่านระบบ E-exam จำนวน 50 ข้อ โดยจะต้องได้คะแนน 45 คะแนนจึงจะถือว่าผ่าน สามารถเก็งข้อสอบใบขับขี่ 2566 ได้ตามเว็บไซต์ที่อบรมเรื่องเกี่ยวกับการขับขี่ หากไม่ผ่านสามารถมาสอบใหม่ได้ภายใน 90 วัน
- สอบภาคปฏิบัติ โดยจะสอบทั้งหมด 3 ท่าขับ ได้แก่ การเดินหน้าและถอยหลัง การจอดรถเทียบทางเท้าโดยไม่ให้เกินป้ายหยุด และการถอยหลังเข้าซองโดยใช้ไม่เกิน 7 เกียร์
- เมื่อสอบผ่านแล้วจะจ่ายค่าธรรมเนียม 205 บาท เป็นค่าใบขับขี่ 200 บาท และค่าธรรมเนียม 5 บาท
- รอรับใบขับขี่กลับบ้านได้เลย
การต่ออายุใบขับขี่
ใบขับขี่มีวันหมดอายุ โดยการทำใบขับขี่ครั้งแรกจะมีอายุ 2 ปี แล้วจึงต่ออายุได้ครั้งละ 5 ปี การต่อใบขับขี่ทำได้ดังนี้
- ยื่นเอกสารที่เจ้าหน้าที่ ใช้เอกสารใบขับขี่ฉบับจริง ใบรับรองแพทย์ และบัตรประจำตัวประชาชน สามารถจองคิวออนไลน์ได้ก่อนเช่นเดิม
- ทดสอบสมรรถนะทางการขับขี่เบื้องต้น ได้แก่ การทดสอบตาบอดสี การทดสอบการมองทางกว้างและทางลึก การทดสอบเบรก
- เข้ารับการอบรม 1 ชั่วโมง สามารถอบรมออนไลน์ทางระบบ E-Learning ได้ แล้วยื่นหลักฐานให้แก่เจ้าหน้าที่ที่กรมการขนส่งทางบก
- จ่ายเงินค่าธรรมเนียมจำนวน 505 บาท เป็นค่าใบขับขี่ 500 บาท และค่าธรรมเนียม 5 บาท
- รอรับใบขับขี่กลับบ้านได้เลย
การทำใบขับขี่และต่อใบขับขี่สามารถทำได้ง่ายดาย ปัจจุบันสามารถจองคิวออนไลน์ได้จึงรอไม่นาน ทำเสร็จรอรับใบขับขี่กลับบ้านได้เลย กรมการขนส่งทางบกอนุญาตให้ต่อใบขับขี่ได้ก่อนหมดอายุ 3 เดือน และไม่ควรเกิน 1 ปี จึงควรต่ออายุใบขับขี่ก่อนบัตรจะหมดอายุ เพื่อลดขั้นตอนในการทำใบขับขี่ให้น้อยลง
ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีทำอย่างไร
ผู้ขับขี่ไม่ควรปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี
เนื่องจากใบขับขี่มีวันหมดอายุ และต้องต่ออายุเป็นประจำ แต่บางครั้งก็มีเหตุสุดวิสัยที่ทำให้การต่อใบขับขี่ถูกละเลยจนใบขับขี่ขาดเกิน 1 ปี การต่อใบขับขี่ที่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปีจะแตกต่างจากการต่อใบขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุ ดังนี้
- ยื่นเอกสาร ได้แก่ ใบขับขี่ที่หมดอายุ บัตรประจำตัวประชาชน และใบรับรองแพทย์
- ทดสอบสมรรถนะที่เกี่ยวกับการขับขี่ ได้แก่ ทดสอบตาบอดสี ทดสอบการมองทางกว้างและทางลึก ทดสอบการเหยียบเบรก
- เข้ารับการอบรม ผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี สามารถอบรมออนไลน์ได้เช่นกันผ่านระบบ E-Learning โดยจะต้องบันทึกผลการอบรมจำนวน 2 ชั่วโมงไปยื่นที่กรมการขนส่งทางบก
- สอบข้อเขียนใหม่ผ่านระบบ E-Exam จำนวน 50 ข้อ ต้องผ่าน 45 ข้อ
- จ่ายค่าธรรมเนียม 505 บาท และรอรับบัตรกลับบ้านได้เลย
ผู้ที่ขับขี่รถเป็นประจำควรต่อใบขับขี่ให้ถูกต้อง ใบขับขี่หมดอายุขับรถได้ไหม คำตอบคือไม่ได้ เพราะผิดกฎหมาย หากโดนจับและพบว่าใบขับขี่หมดอายุจะมีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท และที่สำคัญไม่ควรปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี เพราะจะต้องทำใบขับขี่ใหม่ทั้งหมดเหมือนทำใบขับขี่ใบแรก
การปฏิบัติตามกฎหมายจราจรช่วยสร้างระเบียบในการใช้รถใช้ถนน และยังสร้างประวัติที่ดีให้กับรถยนต์และผู้ขับขี่อีกด้วย นอกจากใบขับขี่ที่ต้องให้ความสนใจแล้ว ภาษีรถยนต์ และ พ.ร.บ.รถยนต์ ก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องต่ออายุเป็นประจำ เพื่อให้เวลาที่ต้องการขอสินเชื่อทะเบียนรถ หรือรถแลกเงินจะได้มีความสะดวก เพราะความต้องการใช้เงินฉุกเฉินเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ การเตรียมพร้อมไว้ก่อนจึงอุ่นใจมากกว่า สำหรับคนที่มองหาสินเชื่อรถแลกเงินที่น่าเชื่อถือ แนะนำ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ที่เพียงมีรถปลอดภาระและคุณสมบัติครบถ้วนก็สามารถลองยื่นขอสินเชื่อได้ มีบริการพี่เบิ้ม Delivery ไปหาถึงที่ พร้อมบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม สำหรับกดเงินใช้จ่ายยามจำเป็นอีกด้วย ตอบโจทย์การหาเงินก้อนฉุกเฉินในปัจจุบันเป็นอย่างมาก
ใส่ใจเรื่องใบขับขี่ และเอกสารเกี่ยวกับรถ ขอสินเชื่อรถแลกเงินง่ายมากขึ้น
บทความ

ใบขับขี่สากล ใช้ได้กี่ประเทศ ก่อนขับรถเที่ยวต้องรู้ ฉบับเข้าใจง่าย
ใบขับขี่สากล เป็นบัตรประจำตัวที่ใช้สำหรับการขับขี่ในต่างประเทศอย่างถูกกฏหมาย ทั้งยังสะดวกต่อการเช่ารถในต่างถิ่น สายเที่ยวควรรู้มีเงื่อนไขและเอกสารสำคัญอะไรบ้าง

อบรมใบขับขี่ออนไลน์ 2566 ต้องไปที่เว็บอะไร? ต่ออายุเลยได้หรือไม่
มัดรวมขั้นตอนการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ 2566 สำหรับผู้ที่ต้องการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รถกระบะ ทั้งส่วนบุคคลและสาธารณะ เพื่อความสะดวกสบายและรวดเร็ว

ไม่จ่ายค่าปรับจราจร เป็นไรไหม ต่อภาษีรถยนต์ได้หรือไม่
ในปัจจุบันผู้คนทำผิดกฎจราจรมากขึ้น ทั้งยังไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการจ่ายค่าปรับจราจร ทำให้มีการบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่ เพื่อลงโทษผู้ที่ไม่จ่ายค่าปรับจราจร