ข้อควรรู้ วัคซีน Pfizer ก่อนนำเข้าไทย
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในปัจจุบันยังคงน่าเป็นห่วง และสิ่งสำคัญที่หลายคนตั้งตารอคอยก็คือวัคซีนโควิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัคซีน mRNA ที่มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทั้งลดอัตราการเจ็บป่วยรุนแรงไปจนถึงลดความเสี่ยงในการเสียชีวิต ทั้งสามารถยับยั้งและป้องกันเชื้อไวรัสโควิค 19 กลายพันธุ์ ไม่แปลกวัคซีน mRNA เป็นวัคซีนที่หลายคนให้ความสนใจและหาข้อมูล เนื่องจากเป็นวัคซีนที่มีการใช้กันทั่วโลก ประกอบกับประเทศไทยมีแผนนำเข้าวัคซีนชนิดนี้เข้ามาเช่นกัน ก่อนทำการจองวัคซีน Pfizer วันนี้ KTC ขอพาไปทำความรู้จัก พร้อมตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับวัคซีนไฟเซอร์ที่เตรียมนำเข้ามาฉีดในประเทศไทยว่ามีข้อควรรู้อะไรบ้าง
1. วัคซีนไฟเซอร์คืออะไร
วัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) มีชื่อทางการว่า BNT162b2 เป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิด mRNA ที่ถูกคิดค้นโดยบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ประเทศสหรัฐอเมริกา ร่วมกับไอโบเอ็นเท็ค (BioNTech) บริษัทสัญชาติเยอรมัน
2. วัคซีนชนิด mRNA คืออะไร
เป็นวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ ในการสังเคราะห์สารพันธุกรรมเอ็มอาร์เอ็นเอ (messenger RNA: mRNA) หรือวัคซีน mRNA ที่เฉพาะเจาะจงกับเชื้อไวรัส แตกต่างจากวัคซีนโควิด-19 ชนิดอื่น ๆ ที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะหรือนำเชื้อตายมาทำวัคซีน เพื่อฉีดกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้ม
3. วัคซีนชนิด mRNA ในวัคซีนไฟเซอร์ดียังไง
ไฟเซอร์ เป็นวัคซีนชนิด mRNA เมื่อมีการฉีดกลับเข้าไปในร่างกาย ก็จะสั่งการให้ร่างกายผลิตโปรตีน (Spike protein) รูปแบบเดียวกันกับเชื้อไวรัสโควิด เพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สร้างแอนติบอดี้ขึ้นมาต้านเชื้อ
4. วัคซีน Pfizer ประสิทธิภาพ
Pfizer ถือเป็นวัคซีนชนิดแรก ๆ ที่ได้รับการอนุมัติและการรับรองจากองค์การอนามัยโลก และได้รับอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (Food and Drug Administration: FDA) เพื่อฉีดป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่ผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป จากผลการทดลองพบว่าหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ครบ 2 โดส มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงถึง 91.3% นอกจากนี้ยังมีผลการทดลองอื่น ๆ ที่ช่วยยืนยันประสิทธิภาพของวัคซีน Pfizer อาทิ
- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (Centers for Disease Control and Prevention: CDC) กำหนดให้ Pfizer มีประสิทธิภาพสูงถึง 100% ในการป้องกันความรุนแรงของโรค
- องค์การอาหารและยาของสหรัฐ (Food and Drug Administration: FDA) กำหนดให้ประสิทธิภาพที่ 95.3% ในการป้องกันอาการรุนแรงที่เกิดจากโควิด
- สำหรับการทดลองในอิสราเอล พบว่าไฟเซอร์มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อสูงถึง 92% ป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการสูงถึง 94% และป้องกันอาการรุนแรงสูงถึง 92%
สมัครบัตรเครดิต รับโปรโมชั่นทำประกันภัยในยุคโควิด-19…กรอกข้อมูลที่นี่
5. วัคซีนไฟเซอร์ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ไหนได้บ้าง
ทางไฟเซอร์ได้มีการเปิดเผยว่า วัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ต่าง ๆ ได้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
โควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ B.1.351 หรือสายพันธุ์เบตา ป้องกันได้ 100% หากได้รับวัคซีนครบ 2 โดส มีประสิทธิภาพป้องกันและมีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ B.1.1.7 หรือสายพันธุ์อัลฟ่าได้ถึง 89.5% นอกจากนี้งานวิจัยของหน่วยงานสาธารณสุขประเทศอังกฤษเผยว่า วัคซีนไฟเซอร์ ช่วยป้องกันการป่วยจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย B.1.617.2 หรือสายพันธุ์เดลต้า ด้วยประสิทธิภาพสูงถึง 88%
ฉีดวัคซีนไฟเซอร์
6. รูปแบบการฉีดวัคซีนไฟเซอร์
วัคซีนไฟเซอร์ ต้องฉีดจำนวน 2 โดส โดยเว้นระยะหว่างระหว่างโดสที่ 1 และ โดสที่ 2 ห่างกันประมาณ 21-28 วัน โดยฉีดวัคซีนเข้าบริเวณกล้ามเนื้อแขน หลังจากฉีดวัคซีนร่างกายจะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกัน แต่ภูมิคุ้มกันจะทำงานได้อย่างเต็มที่หลังจากได้รับวัคซีนครบ 2 โดส
7. ใครสามารถฉีดวัคซีนไฟเซอร์ได้บ้าง
วัคซีนทุกชนิดมีเงื่อนไขของผู้รับวัคซีนแตกต่างกัน สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ก็มีการกำหนดความเหมาะสมของผู้ที่จะได้รับวัคซีนไว้ดังนี้
- ต้องเป็นผู้ที่อายุ 16 ปีขึ้นไป
- สำหรับผู้ที่อายุเกิน 65 ปีขึ้นไป ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลให้อาการรุนแรงหากติดเชื้อ อาทิ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหอบหืด โรคปอด เป็นต้น
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
- ผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน
- ผู้ที่เคยติดโควิด 19 ควรรับวัคซีนไฟเซอร์หลังจากติดโควิด 19 มาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน
- สตรีที่กำลังอยู่ระหว่างให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน
- สตรีมีครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับวัคซีน
8. ผลข้างเคียงของวัคซีนโควิดไฟเซอร์
วัคซีนโควิด-19 ทุกชนิด มีผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนในลักษณะใกล้เคียงกัน และถือเป็นเรื่องปกติเมื่อเกิดผลข้างที่อาจพบเจอได้หลังได้รับวัคซีน คือ
- มีไข้ หนาวสั่น
- ปวดศีรษะ
- ปวดกล้ามเนื้อ
- อ่อนเพลีย
- มีอาการปวด บวม หรือรอยแดงบริเวณที่ฉีด
- คลื่นไส้ อาเจียน
ซึ่งอาการเหล่านี้ สามารถหายไปเองหลังจากได้รับวัคซีน 1-2 วัน แต่หากมีอาการรุนแรง เช่น เป็นลม เวียนศีรษะ การมองเห็นผิดปกติ รู้สึกชาตามร่างกาย มีผื่นขึ้นตามตัว มีอาการคัน บวม ตามจุดต่าง ๆ และหายใจลำบาก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
9. วัคซีน pfizer เข้าไทยเมื่อไหร่
สำหรับวัคซีน Pfizer ในประเทศไทย ทางด้านบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทไบออนเทคได้ประกาศลงนามสัญญาร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการจัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 20 ล้านโดสสำหรับปี 2564 ให้กับประเทศไทย โดยมีแผนกำหนดการส่งมอบในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 นอกจากนี้ทางประเทศสหรัฐอเมริกายังมอบวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่ประเทศไทย 1.5 ล้านโดส และยังไม่มีการเปิดจองวัคซีน Pfizer ซึ่งต้องรอติดตามกันต่อไป
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ยังคงรุนแรง แต่ในไตรมาสที่ 4 คาดว่าจะมีวัคซีนชนิดต่าง ๆ เข้ามาเพื่อเป็นตัวเลือกให้ประชาชนชาวไทยได้เลือกฉีดป้องกันโควิด-19 มากขึ้น แต่ระหว่างที่รอวัคซีนทางเลือก ทุกคนสามารถดูแลตัวเองได้ง่าย ๆ โดยการสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือและพ่นสเปรย์แอลลกอฮอล์ก่อน-หลังสัมผัสสิ่งของ รวมถึงเตรียมหลักประกันด้านสุขภาพ ด้วยการทำประกันภัยสุขภาพ และประกันภัยโควิด เพื่อความอุ่นใจว่ายามเกิดเหตุฉุกเฉินด้านสุขภาพ นอกจากนี้ผู้ถือบัตรสามารถใช้จ่ายได้ง่าย ๆ ผ่านบัตรเครดิต ทั้งยังมีโปรโมชั่นประกันภัยต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้จ่ายในยุคนี้ และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีบัตรเครดิตอยู่ในมือหรือมีแผนสมัครบัตรเครดิตเพื่อรับความคุ้มค่าทุกการใช้จ่ายทั้งการเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันภัย การช้อปปิ้ง การเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า การผ่อนชำระ พร้อมรับคะแนนสะสมสุดคุ้ม
อ้างอิงข้อมูล : โรงพยาบาลวิชัยเวช, hdmall, Centers for Disease Control and Prevention
สมัครบัตรเครดิต เพื่อรองรับการใช้จ่ายยุคโควิด-19…ที่นี่
ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี