ในยุคที่เศรษฐกิจแย่ลงและค่าครองชีพสูงขึ้น ความเครียดทางการเงินกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินที่เพิ่มพูน รายได้ที่ไม่แน่นอน หรือค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝัน ความเครียดเรื่องเงินที่สะสมเป็นระยะเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเราได้ในระยะยาว
ก่อนที่จะเริ่มแก้ไขปัญหา เราต้องวิเคราะห์สาเหตุอย่างตรงจุดจะช่วยให้เราหาแนวทางแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในบทความนี้ จะพาคุณไปเรียนรู้วิธีจัดการกับปัญหาเรื่องเงินอย่างเป็นระบบ พร้อมเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากความกังวลเรื่องเงินได้อย่างยั่งยืน
เลือกอ่านตามหัวข้อ
1. หาต้นตอของการเกิดหนี้
สำหรับคนที่กำลังเครียดเรื่องเงิน ข้อแนะนำแรกเลยคือเริ่มต้นจากการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้เงินของตัวเองก่อน เพราะคนที่มีปัญหาเรื่องเงินแต่ละคนมักมีสาเหตุที่แตกต่างกัน บางคนอาจเกิดจากการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินตัว บางคนมีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย หรือบางคนอาจต้องกู้หนี้ยืมสินเพราะมีเรื่องฉุกเฉินให้ต้องใช้เกินก้อนใหญ่กระทันหัน
การสำรวจพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเองในช่วง 3-6 เดือนที่ผ่านมาจะช่วยให้เห็นภาพรวมได้ชัดเจนขึ้น ลองจดบันทึกรายรับ-รายจ่าย แล้ววิเคราะห์ว่าเงินส่วนใหญ่หมดไปกับอะไร วิธีการนี้แม้จะค่อนข้างเบสิก แต่ก็มีประสิทธิภาพมากพอที่จะให้เราเข้าใจต้นตอของปัญหา พร้อมวางแผนการตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น การหารายได้เสริม หรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงินให้เหมาะสัมพันธ์กับรายรับของตัวเองนั่นเอง
2. จัดลำดับความสำคัญของหนี้
การเผชิญกับภาระหนี้หลายก้อนพร้อมกันอาจทำให้เครียดเรื่องเงินจนรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวัง แต่การจัดการหนี้อย่างมีระบบจะช่วยให้เราเห็นทางออกที่ชัดเจนขึ้น วิธีที่ได้ผลที่สุดคือการจัดลำดับความสำคัญของหนี้แต่ละก้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เครียดไม่มีเงินใช้หนี้ ควรเริ่มต้นจากการชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน เช่น หนี้บัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ย 16% ต่อปี หรือหนี้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูงลิ่ว เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ ดอกเบี้ยจะทบต้นจนกลายเป็นภาระหนักที่ยากจะปลดเปลื้อง
ในขณะเดียวกันก็ต้องทยอยจ่ายขั้นต่ำของหนี้ก้อนอื่น ๆ ไปด้วย เพื่อรักษาประวัติการชำระเงินให้อยู่ในเกณฑ์ดี การจัดการหนี้แบบนี้จะช่วยประหยัดดอกเบี้ยในระยะยาวและทำให้เราหลุดพ้นจากภาระหนี้ได้เร็วยิ่งขึ้น
3. เจรจาประนอมหนี้
หากรู้สึกเครียดเรื่องเงินและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด อย่าเพิ่งท้อแท้หรือหนีปัญหา เพราะยังมีทางออกที่สามารถเจรจากับเจ้าหนี้ได้ สำหรับคนที่กำลังคิดว่าเครียดไม่มีเงินทําไงดี ขอแนะนำให้ติดต่อสถาบันการเงินหรือเจ้าหนี้โดยตรง เพื่อขอเจรจาประนอมหนี้หรือขอปรับโครงสร้างหนี้ใหม่
เจ้าหนี้ส่วนใหญ่ยินดีที่จะช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีความตั้งใจจะชำระหนี้ โดยอาจเสนอทางเลือกต่าง ๆ เช่น การขยายระยะเวลาผ่อนชำระให้นานขึ้น การลดยอดผ่อนต่อเดือน การพักชำระเงินต้นชั่วคราว หรือการลดอัตราดอกเบี้ย ที่สำคัญคือต้องเตรียมข้อมูลรายรับ-รายจ่าย และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้พร้อม พร้อมทั้งนำเสนอแผนการชำระหนี้ที่สอดคล้องกับความสามารถในการผ่อนชำระของตนเอง เพื่อให้การเจรจามีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น
4. รวมหนี้เป็นก้อนเดียว
เพื่อแก้ไขสถานการณ์แบกหนี้หลายก้อน เลือกไม่ถูกว่าเคลียร์หนี้ไหนก่อน การรวมหนี้ทั้งหมดให้เป็นก้อนเดียวก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ วิธีนี้สามารถทำได้โดยการยื่นขอสินเชื่อเพื่อรวมหนี้จากธนาคาร ซึ่งมักมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล
เมื่อได้รับอนุมัติ ธนาคารจะนำเงินไปปิดหนี้เก่าทั้งหมดให้ ทำให้เราเหลือเพียงหนี้ก้อนเดียวที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำลง และมีระยะเวลาผ่อนชำระที่นานขึ้น ส่งผลให้ภาระการผ่อนต่อเดือนลดลง ที่สำคัญคือการรวมหนี้ช่วยให้การบริหารจัดการง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องคอยจดจำวันครบกำหนดชำระหลายวัน และไม่ต้องกังวลว่าจะลืมจ่ายหนี้ก้อนใดก้อนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาเงื่อนไขและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ
5. ไม่สร้างหนี้เพิ่ม
การจะหลุดพ้นจากภาวะเครียดเรื่องเงินได้นั้น กฎสำคัญที่สุดคือต้องไม่สร้างหนี้เพิ่ม แม้ว่าเราจะเครียดเงินไม่พอใช้และรู้สึกว่าการกู้ยืมเงินเพิ่มจะเป็นทางออกที่ง่ายที่สุด แต่การทำเช่นนั้นก็เปรียบเสมือนการขุดหลุมให้ลึกลงไปเรื่อย ๆ จนยากที่จะปีนกลับขึ้นมาได้
ลองปรับมุมมองใหม่ด้วยการมองหาวิธีแก้ปัญหาอื่น ๆ เช่น การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น การหารายได้เสริม หรือการขายของที่ไม่ได้ใช้ แทนที่จะพึ่งพาการก่อหนี้เพิ่ม สิ่งสำคัญคือต้องหยุดใช้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อทุกประเภท และเปลี่ยนมาใช้เงินสดแทน เพราะการใช้เงินสดจะทำให้เรารู้สึกถึงมูลค่าของเงินได้ชัดเจนกว่า และช่วยควบคุมการใช้จ่ายได้ดีกว่า ซึ่งนี่คือก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างวินัยทางการเงินที่ดีและนำไปสู่อิสรภาพทางการเงินในอนาคต
6. ขายทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้
การแบกรับภาระหนี้หลายก้อนอาจทำให้เครียดเรื่องเงินจนรู้สึกหาทางออกไม่เจอ สำหรับคนที่กำลังคิดว่าเงินไม่พอใช้ทําไงดี? การขายสินทรัพย์บางอย่างที่มีอยู่อาจเป็นทางออกที่ช่วยบรรเทาภาระหนี้ได้อย่างรวดเร็ว
ลองสำรวจดูว่ามีสิ่งของมีค่าใดบ้างที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันเช่น เครื่องประดับ นาฬิกา กระเป๋าแบรนด์เนม โทรศัพท์มือถือเครื่องเก่า หรือแม้แต่รถยนต์คันที่สอง การตัดสินใจขายสินทรัพย์เหล่านี้อาจเป็นเรื่องยาก แต่ต้องคิดว่าการปลดภาระดอกเบี้ยที่กำลังเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วันนั้นสำคัญยิ่งกว่า
นอกจากนี้การตัดสินใจย้ายที่พักไปในที่ที่มีค่าเช่าถูกลง หรือขายอสังหาริมทรัพย์บางส่วนเพื่อนำเงินมาปิดหนี้ก้อนใหญ่ อาจทำให้ชีวิตไม่สะดวกสบายเท่าเดิม แต่จะช่วยให้เราหลุดพ้นจากภาระหนี้ได้เร็วยิ่งขึ้น
จบปัญหาเงินไม่พอใช้ด้วยสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน
หากคุณกำลังเครียดเรื่องเงินและต้องการหาทางออกเรื่องเงินอย่างเร่งด่วน บริการสินเชื่อรถแลกเงินจาก KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ที่มอบโอกาสให้เจ้าของรถยนต์ รถกระบะ สามารถนำทะเบียนรถมาใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อได้ รวมไปถึงการจำนำเล่มทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ก็ทำได้เหมือนกัน โดยสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ไม่ต้องโอนเล่ม และยังสามารถใช้รถได้ตามปกติ
ด้วยอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกที่ 21%-24% ต่อปี พร้อมวงเงินสูงสุด 100% ระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 84 เดือน อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที เพียงมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง ก็สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ทันที ตอบโจทย์ทุกความต้องการทางการเงินของคุณ
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21% - 24% ต่อปี
หมดปัญหาเครียดเรื่องเงิน ด้วยการบริหารหนี้อย่างถูกวิธี
การเผชิญกับความเครียดเรื่องเงินสร้างความกดดันให้กับใครหลายคน แต่สิ่งสำคัญคือการหาทางออกอย่างมีสติ เริ่มจากการสำรวจต้นตอของปัญหา จัดลำดับความสำคัญของหนี้สิน และวางแผนการแก้ไขอย่างเป็นขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น การหารายได้เพิ่มเติม หรือการเจรจาประนอมหนี้กับเจ้าหนี้
นอกจากนี้ การพิจารณาใช้สินทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งอย่าง บริการสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ที่มีบริการสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบิ๊กไบค์ หรือสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ ให้คุณสามารถนำทะเบียนรถมาเป็นหลักประกันโดยยังสามารถใช้รถได้ตามปกติ เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้รถเป็นตัวช่วยในการหาเงินสำรองหรือเงินฉุกเฉิน ไม่ต้องขายรถทิ้ง พร้อมแบ่งเบาภาระหนี้สินด้วยเงินก้อนจากสินเชื่อถูกกฎหมาย
กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
*วงเงินอนุมัติเป็นไปตามความสามารถในการชำระหนี้และราคาประเมินมูลค่ารถ
*อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง รับเงินทันที เมื่อเอกสารครบถ้วนถูกต้องและโอนเงินเข้าบัญชีกรุงไทย
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21%-24% ต่อปี
กรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด สามารถนำมาประเมินวงเงินเบื้องต้นก่อนได้