B2B B2C แนวทางขยายฐานลูกค้า สร้างความมั่นคงให้ธุรกิจ

B2C B2B แผนบริหารธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด 

การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคไปอย่างถาวร ผู้คนหันมาใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น และมีแนวโน้มว่าอาจเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ธุรกิจรายใหญ่และรายย่อย หันมาเจาะกลุ่มตลาดออนไลน์ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาด ไปจนถึงการมองหาวิธีเพิ่มยอดขายใหม่ ๆ แต่จะดีกว่าไหมหากธุรกิจของคุณมีการวางแผนและลงทุนอย่างรอบรู้ กระตุ้นยอดขายและยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าเก่าไว้ KTC ขอแนะนำธุรกิจแบบ B2C และ B2B ตัวช่วยขยายฐานลูกค้า นำพาธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน 

ทำความรู้จัก ธุรกิจแบบ B2C และ B2B หัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จ

ธุรกิจ B2C คืออะไร 

ธุรกิจแบบ Business-to-Customer การซื้อขายระหว่างเจ้าของธุรกิจและผู้ซื้อ

ธุรกิจแบบ Business-to-Customer (B2C) ธุรกิจขายบริการและผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าโดยตรง ไม่มีคนกลาง เน้นการนำเสนอสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่สำคัญการวางแผนการตลาดต้องสร้างแรงจูงใจและความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ถ้อยคำโฆษณา ความน่าเชื่อถือของธุรกิจ คุณภาพสินค้า ราคา สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการได้ง่ายขึ้น ซึ่งการทำธุรกิจแบบ Business-to-Customer (B2C) ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจประเภทร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านขายของออนไลน์ หรือการให้บริการต่าง ๆ ที่เน้นการทำธุรกิจสร้าง  ระหว่างเจ้าของธุรกิจและผู้ซื้อโดยตรง

ธุรกิจ B2B คืออะไร

ธุรกิจแบบ Business-to-Business การขายระหว่างเจ้าของธุรกิจสู่เจ้าของธุรกิจ

ธุรกิจแบบ Business-to-Business (B2B) เป็นการขายระหว่างเจ้าของธุรกิจสู่เจ้าของธุรกิจ มีจุดประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจโดยตรง ซึ่งสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ที่ทำการซื้อขายในธุรกิจ B2B จะเป็นสินค้าที่ใช้ในการอุปโภค บริโภค  แต่เป็นสินค้าหรือบริการที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำธุรกิจนั้น ๆ เพื่อให้ธุรกิจมีความสมบูรณ์มากขึ้น อาทิ ธุรกิจผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม การซื้อสินค้าจากธุรกิจหนึ่งเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบของธุรกิจหนึ่ง หรือแม้แต่แพลตฟอร์มระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ ถือเป็นการทำธุรกิจแบบ B2B ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างผู้ผลิตวัตถุดิบหรือร้านขายส่ง ที่ขายสินค้าให้ธุรกิจอื่นนำไปต่อยอด จากตัวอย่างข้างต้นเห็นได้ว่าการทำธุรกิจ B2B มีรายละเอียดค่อนข้างซับซ้อน และเน้นการซัพพอร์ตเพื่อให้ธุรกิจที่มาว่าจ้างได้รับความสนใจที่ดีจากลูกค้า

ข้อแตกต่างระหว่างธุรกิจแบบ B2C และ B2B เรื่องที่ไม่ควรมองข้าม

การทำให้ธุรกิจเติบโตและประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะธุรกิจแต่ละประเภทมีความซับซ้อน ข้อจำกัด และค่าใช้จ่ายที่ต่างกันออกไป โดยเฉพาะการทำธุรกิจแบบ B2B มีความซับซ้อนกว่าธุรกิจแบบ B2C เนื่องจากกระบวนการซื้อขายมีหลายขั้นตอน ต้องอาศัยผู้ตัดสินใจจำนวนมาก ใช้ระยะเวลาการทำสัญญาและซื้อขายนานกว่าการซื้อขายแบบ B2C ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ขององค์กรเป็นหลัก สำหรับกระบวนการทำงานของโมเดลธุรกิจ B2B กับธุรกิจ B2C แตกต่างกันดังนี้ 

• ธุรกิจ B2C เน้นการนำไปใช้เพื่อการอุปโภคและบริโภค แต่ไม่ได้เป็นการนำไปขายต่อหรือใช้ประกอบธุรกิจ ใช้เวลาน้อยกว่าธุรกิจ B2B ทั้งนี้ต้องมีการนำเสนอจุดเด่นของสินค้า หรือบริการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความสนใจ และช่วยปิดการขายได้เร็วขึ้น
• ธุรกิจแบบ B2B เน้นความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าทางธุรกิจ แต่ B2C จะเน้นเรื่องสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ตามความพึงพอใจของลูกค้า 
• B2B เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้สูงและใช้เวลานาน ส่วน B2C เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้น้อยแต่ปิดการขายได้บ่อยกว่า 
• วิธีการดึงดูดลูกค้า B2C ใช้โฆษณาและโปรโมชั่นส่วนลด เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เกิดการซื้อขาย ซึ่งต่างกับ B2B ที่ใช้ความน่าเชื่อถือและความเชี่ยวชาญของธุรกิจเป็นหลัก 

จากข้อมูลที่กล่าวไปข้างต้นจะเห็นได้ชัดว่าธุรกิจแบบ B2C และ B2B มีขั้นตอนและกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกันออกไป ดังนั้นหากต้องการให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและโดดเด่นกว่าธุรกิจอื่น เป็นไปได้ว่าอาจต้องเลือกใช้ธุรกิจทั้งสองรูปแบบในบริษัทเดียวกัน แต่ทั้งนี้คุณควรเรียนรู้วิธีการและเทคนิคของการทำธุรกิจทั้งแบบ B2B และ B2C อย่างละเอียด เพื่อเลือกใช้วิธีทางการตลาดที่ตอบโจทย์ธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจมีความสมบูรณ์มากที่สุด

Digital Loyalty Platform MAAI BY KTC ทางเลือกใหม่ของธุรกิจ

หากธุรกิจของคุณกำลังมองหากลยุทธ์การตลาด ที่ช่วยเสริมสร้างธุรกิจให้เติบโต เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ และรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเก่า KTC มี Solution ที่พร้อมให้บริการอย่าง Digital Loyalty Platform  MAAI BY KTC ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ให้กับกลุ่มธุรกิจ และองค์กรในการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า ตัวช่วยทางธุรกิจที่มาในรูปแบบแพลตฟอร์มสำเร็จรูป ใช้งานง่าย ไม่ต้องลงทุนออกแบบระบบสะสมคะแนน ไม่ต้องขยายทีมเพิ่ม พร้อมอำนวยความสะดวกสบายด้วย Solution ที่เข้าใจมุมมองของการทำธุรกิจ นอกจากนี้ MAAI BY KTC มี Data Security ที่ได้มาตรฐาน ช่วยเก็บฐานข้อมูลของลูกค้าได้อย่างปลอดภัย ช่วยรักษาฐานลูกค้าเก่า พร้อมดึงดูดลูกค้าใหม่ด้วย Digital CRM สร้างสิทธิประโยชน์ดี ๆ ได้ผ่านเครือข่ายพันธมิตรของ MAAI ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน โรงภาพยนตร์ และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีระบบจัดการข้อมูลสมาชิก ช่วยเก็บข้อมูลพื้นฐานและแบ่งกลุ่มลูกค้าในแบบที่คุณต้องการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 02-123-5678

กระตุ้นยอดขาย บริหารจัดการคะแนนสะสม สมัครแอป MAAI BY KTC...ที่นี่