หนึ่งในเรื่องซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมากคงหนีไม่พ้น “การหลอกลวงจากมิจฉาชีพ” ที่ยิ่งเวลาผ่านไปนานเข้า ก็ยิ่งมีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหลอกขายสินค้าทางออนไลน์, การชักชวนให้ร่วมลงทุนผ่านการส่ง SMS หลอกลวง, การแอบอ้างชื่อของคนรู้จัก หรือแม้กระทั่งการปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐรวมถึงหน่วยงานราชการต่าง ๆ จากเหล่าแก๊งคอลเซนเตอร์ เพื่อหลอกนำข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อไปเปิดบัญชีม้าอีกทั้งแอบอ้างทำธุรกรรมอื่น ๆ ที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ก็มีหลายคนด้วยกันที่เคยพลาดท่าหรือตกเป็นเหยื่อให้มิจฉาชีพเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลและเช็คบัญชีมิจฉาชีพให้ละเอียดถี่ถ้วน จนทำให้โดนหลอกให้โอนเงิน รวมถึงถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวโดยเหล่ามิจฉาชีพเพื่อใช้ทำเรื่องผิดกฎหมายในเวลาต่อมา
ทั้งนี้หากคุณกำลังสงสัยว่า แล้วต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถตรวจสอบหรือเช็คบัญชีของเหล่ามิจฉาชีพออนไลน์ได้? บทความนี้ได้รวบรวมคำตอบและวิธีเช็คบัญชีมิจฉาชีพมาให้คุณแล้ว จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันได้เลย
เลือกอ่านตามหัวข้อ
บัญชีมิจฉาชีพคืออะไร? มีอะไรบ้างที่เราควรทราบ?
"บัญชีมิจฉาชีพ" หรือเรียกได้อีกอย่างว่า ‘บัญชีม้า’ คือ บัญชีที่ถูกเปิดเพื่อใช้เป็นตัวแทนในการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ที่ผิดกฎหมาย เช่น ใช้ในการฟอกเงิน การซื้อขายยาเสพติด รวมถึงเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการพนันหรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่ผิดกฎหมาย เป็นต้น
โดยบัญชีที่บุคคลทั่วไปหรือผู้เสียหายมักจะถูกหลอกลวงให้โอนเงินรวมถึงทำธุรกรรมทางการเงินให้มักจะเป็นบัญชีม้า เหล่ามิจฉาชีพที่เป็นเจ้าของบัญชีจะใช้วิธีการหลอกลวง ข่มขู่ นอกจากนี้ยังสร้างเรื่องต่าง ๆ เพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อ อาทิ ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ หรือหมายเลขบัตรประชาชน และนำมาเปิดบัญชีออนไลน์ โดยมีจุดประสงค์หลักคือ ต้องการใช้ข้อมูลของผู้อื่นมาแอบอ้าง รวมถึงป้องกันไม่ให้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงมาถึงตนเองที่เป็นเจ้าของบัญชีนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม การเช็คเลขบัญชีมิจฉาชีพ รวมถึงตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น สินเชื่อถูกกฎหมายจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงของบุคคลทั่วไปในการถูกหลอกลวงและโจรกรรมข้อมูลเหล่านี้ได้ ดังนั้นเราจึงควรให้ความสำคัญกับขั้นตอนเหล่านี้ทุกครั้ง ก่อนตัดสินใจทำธุรกรรมใด ๆ ในยุคปัจจุบัน
ทำไมเราถึงต้องเช็คบัญชีมิจฉาชีพ?
ปัจจุบันมีเหล่ามิจฉาชีพแฝงตัวในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก ทำให้ถ้าหากไม่ระมัดระวังหรือเผลอประมาท เราก็สามารถตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้โดยง่าย การเช็คบัญชีมิจฉาชีพด้วยวิธีการต่าง ๆ อย่างการตรวจสอบรายชื่อห้ามโอนเงิน การเช็คบัญชี Blacklist ออนไลน์ หรือค้นหารายชื่อมิจฉาชีพจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ที่เชื่อถือได้ ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการโดนหลอกจากบัญชีมิจฉาชีพให้แก่ตัวเรา รวมถึงสามารถป้องกันความเสียหายจากการถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวได้อีกด้วย
อยากได้เงินก้อนใหญ่ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน
วงเงินใหญ่ อนุมัติไว รับเงินทันที
ต้องรู้! 4 วิธีเช็คบัญชีมิจฉาชีพ
ในหัวข้อนี้ เราได้รวบรวมแนวทางและวิธีการสำหรับตรวจเช็คบัญชีมิจฉาชีพที่น่าสนใจมาให้ได้อ่านกัน เพื่อให้คุณสามารถรู้ทันท่วงที และมีแหล่งข้อมูลไว้ใช้อ้างอิงเมื่อเจอสถานการณ์ที่เข้าข่ายว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับบัญชีมิจฉาชีพอยู่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้าจากผู้ใช้งานคนอื่น ๆ
เป็นหนึ่งในวิธีตรวจสอบรายชื่อมิจฉาชีพที่ทำได้ง่ายและรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เลือกซื้อสินค้าจากโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น กลุ่มในเฟซบุ๊ก โดยมีวิธีการดังนี้ 1.โพสต์สอบถามข้อมูล หรือตั้งสเตตัสเพื่อขอความคิดเห็นจากเพื่อนสมาชิกในกลุ่มที่ทำการซื้อขายกับร้านค้า 2.ในกรณีที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถกดค้นหาหรือพิมพ์ชื่อของร้านค้าในกลุ่ม เพื่อทำการตรวจสอบว่าเป็นร้านที่มีชื่อบัญชีมิจฉาชีพหรือไม่ ทั้งนี้หากทำตามวิธีเช็คบัญชีมิจฉาชีพดังกล่าวแล้วพบว่า ร้านค้าที่ต้องการทำการซื้อขายด้วยไม่อยู่ในรายชื่อมิจฉาชีพ ก็สามารถพิจารณาได้ว่าเป็นร้านค้าที่น่าเชื่อถือ และสามารถทำการซื้อขายด้วยได้
2. เช็คชื่อ-นามสกุล หรือเลขบัญชีผ่านทางเว็บไซต์โดยเฉพาะ
ในปัจจุบันได้มีเว็บไซต์สำหรับการตรวจบัญชีมิจฉาชีพโดยเฉพาะ โดยมีการระบุชื่อบัญชีมิจฉาชีพที่ทำการหลอกลวงไว้โดยละเอียด ทั้งนี้หากเราต้องการเช็คหมายเลขบัญชีมิจฉาชีพ ก็สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ดังกล่าว เพื่อทำการเช็คเบอร์บัญชีมิจฉาชีพด้วยตนเองได้ นอกจากนี้บางเว็บไซต์ยังอนุญาตให้เราเพิ่มข้อมูลของชื่อและบัญชีมิจฉาชีพเพื่อเตือนภัยบุคคลอื่น ๆ ได้ด้วย ส่งผลให้วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่สะดวกและช่วยเช็คบัญชีมิจฉาชีพได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
3. ตรวจสอบจากโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
ถือเป็นอีกวิธีที่ได้ประสิทธิภาพและเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว โดยการเช็คบัญชีมิจฉาชีพผ่านทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ สามารถทำได้ด้วยการนำชื่อบัญชี เลขบัญชี หรือชื่อร้านค้าที่เราต้องการทราบข้อมูลไปกดพิมพ์ในช่องค้นหา ก่อนจะทำการตรวจสอบข้อมูลรวมถึงการกล่าวถึงต่าง ๆ จากผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียคนอื่น ๆ ทั้งนี้หากเป็นบุคคลที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นมิจฉาชีพ โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีผู้ใช้งานกล่าวอ้างถึงหรือให้ข้อมูลไว้อยู่แล้ว จึงถือว่าเป็นอีกวิธีที่เราสามารถใช้ตรวจสอบและเช็คบัญชีมิจฉาชีพได้
4. เช็คหมายเลขมิจฉาชีพจากการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
หากร้านค้าหรือชื่อของผู้ที่เราต้องการทำธุรกรรมทางการเงินด้วยมีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถลดความเสี่ยงและมั่นใจได้ว่าไม่ใช่บัญชีมิจฉาชีพอย่างแน่นอน เนื่องจากมีการตรวจสอบจากหน่วยงานที่สามารถเชื่อถือได้ รวมถึงมีการยืนยันตัวตนเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง
เช็คไม่ทัน! ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ต้องทำยังไงบ้าง?
แม้บางครั้งเราจะระมัดระวังเป็นอย่างดีแล้ว แต่ก็อาจจะมีพลาดที่เช็คบัญชีมิจฉาชีพไม่ทัน จนต้องตกที่นั่งลำบากเพราะกลายเป็นหนึ่งในเหยื่อของมิจฉาชีพ หากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น ทางเราขอแนะนำให้คุณปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้
1. ติดต่อธนาคารต้นทางเพื่อทำการระงับการโอนเงิน
ขั้นตอนแรกที่ควรทำคือ ติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินต้นทางเพื่อให้ทำการระงับการโอนเงินและถอนเงินจากบัญชีของเราภายใน 72 ชั่วโมง ทั้งนี้ในเวลาต่อมาธนาคารจะแจ้ง Bank Case ID ให้ ซึ่งเป็นหมายเลขที่ใช้สำหรับติดตามความคืบหน้า รวมถึงใช้ระบุตัวตนว่าใครเป็นผู้แจ้งทำการระงับการโอนเงิน จึงควรรักษาเอาไว้ให้ดี
2. เก็บรวบรวมหลักฐานให้ได้มากที่สุด
เมื่อได้เลข Bank Case ID จากทางธนาคารแล้ว ให้รวบรวมหลักฐานจากการคุยกับมิจฉาชีพให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ภาพโปรไฟล์ของทางร้านค้า, แชตบทสนทนากับทางมิจฉาชีพ, สลิปโอนเงิน รวมทั้งหมายเลขบัญชีของธนาคารที่ตนเองโอนเงินหรือทำธุรกรรมไป เพื่อนำไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ โดยเอกสารส่วนตัวที่ต้องนำไปด้วยก็คือ สำเนาบัตรประชาชนและสมุดบัญชีธนาคารที่ใช้โอนเงิน สำหรับใช้เป็นหลักฐานยืนยันตัวตนของผู้เสียหายนั่นเอง
3. ติดต่อสถานีตำรวจในท้องที่ หรือทำการแจ้งความออนไลน์
เมื่อรวบรวมหลักฐานครบเรียบร้อย รวมถึงได้รับ Bank Case ID เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้เรารวบรวมเอกสารทั้งหมดพร้อมทั้งแจ้งความดำเนินคดีในท้องที่ที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตามในกรณีที่ไม่สะดวกเดินทาง ก็สามารถทำการแจ้งความออนไลน์แทนได้เช่นกัน โดยช่องทางการติดต่อและแจ้งความออนไลน์ได้แก่ https://thaipoliceonline.com หรือ https://www.ccib.go.th
4. ติดต่อธนาคารปลายทางเพื่อทำการอายัดบัญชีของมิจฉาชีพ
เมื่อได้รับใบแจ้งความแล้ว ให้ผู้เสียหายติดต่อกับธนาคารหรือสถาบันการเงินปลายทางที่ตนเองโอนเงินไป เพื่อทำการยื่นเรื่องให้เจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องทำการเช็คบัญชีของมิจฉาชีพ ก่อนจะทำการอายัดบัญชีในภายหลัง
รวมเบอร์โทรจากหน่วยงานและธนาคารหากโดนมิจฉาชีพโกงเงิน
อย่างไรก็ตามในกรณีที่คุณไม่สะดวกเดินทางไปยังธนาคารหรือสถาบันการเงิน ก็สามารถติดต่อรวมทั้งสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ผ่านทางคอลเซ็นเตอร์แทนได้ โดยหมายเลขโทรศัพท์คอลเซ็นเตอร์ของธนาคารและสถาบันการเงินในประเทศไทย ได้แก่
- ธนาคารกรุงเทพ : 1333
- ธนาคารกรุงไทย : 02-111-1111
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา : 1572
- ธนาคารกสิกรไทย : 02-888-8888
- ธนาคารเกียรตินาคินภัทร : 02-165-5555
- ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย : 02-626-7777
- ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต : 1428
- ธนาคารทิสโก้ : 02-633-6000
- ธนาคารไทยพาณิชย์ : 02-777-7777
- ธนาคารยูโอบี : 02-285-1555
- ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ : 1327
- ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด : 02-724-4000
- ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) : 02-629-5588
- ธนาคารไทยเครดิต : 02-697-5454
- ธนาคารแห่งประเทศจีน : 02-679-5566
- ธนาคารซิตี้แบงก์ : 1588
- ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย : 1357
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ : 02-555-0555
- ธนาคารออมสิน : 1115
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์ : 02-645-9000
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย : 1302
สรุปวิธีการเช็คบัญชีมิจฉาชีพที่เราควรทราบ
ปัจจุบันมีเหล่ามิจฉาชีพแฝงตัวในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีกลโกงหลากหลายรูปแบบที่หากเราไม่ระมัดระวัง ก็อาจจะทำให้ตกเป็นเหยื่อและถูกหลอกหลวงได้โดยง่าย โดยเฉพาะการชักชวนให้ลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การชักชวนให้กู้เงินออนไลน์ การหลอกให้ขายสินค้าออนไลน์ หรือการแอบอ้างเป็นหน่วยงานจากธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อทำการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวไปเปิดบัญชีม้า
ด้วยสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน อาจจะส่งผลให้หลาย ๆ คนต้องการรายรับที่มากขึ้น จึงทำให้มีความสนใจที่จะนำรถแลกเงินหรือสินเชื่อทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อนำมาช่วยจุนเจือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายหลักของมิจฉาชีพในการโจรกรรมข้อมูล และถูกหลอกลวงได้โดยง่ายในโลกออนไลน์
อย่างไรก็ตามเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว รวมถึงหลอกให้โอนเงินจากมิจฉาชีพในโลกออนไลน์ เราขอแนะนำให้คุณทำการกู้เงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินมีความน่าเชื่อถือ ยกตัวอย่างเช่น KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน สินเชื่อที่ผ่อนได้นานสูงสุดถึง 84 เดือน และยังมีความปลอดภัยสูง สามารถตรวจสอบขั้นตอนต่าง ๆ ได้ ไม่ต้องกังวลว่าเป็นบัญชีมิจฉาชีพหรือเปล่า
หากคิดไม่ตกว่าจะนำรถแลกเงินที่ไหนดี ให้นึกถึง “KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” สินเชื่อใจกว้างที่มาพร้อมวงเงินใหญ่ อนุมัติไว พร้อมรับเงินทันที
KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน วงเงินใหญ่ อนุมัติไว รับเงินทันที
สมัครง่าย รู้ผลไว ไม่ต้องโอนเล่ม