หนึ่งในปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำเมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝนที่มีฝนฟ้าคะนองอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม ซึ่งในหลายพื้นที่อาจจะมีปริมาณน้ำมากกว่าปกติ จนทำให้เกิดน้ำท่วมไปถึงบริเวณชั้น 1 ของบ้าน หรือพื้นที่ไหนที่ฝนตกหนักมากและไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน ปริมาณน้ำอาจสูงไปจนถึงระดับชั้น 2 เลยทีเดียว
พี่เบิ้มเลยอยากจะมาแบ่งปัน ถึงวิธีการทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมแบบมือโปรให้ได้นำไปปรับใช้กัน พร้อมทั้งจะมาแจกแจงถึงรายละเอียดในเรื่องของค่าใช้จ่าย รวมถึงหากใครต้องการกู้เงินทำบ้านใหม่ หรือนำไปใช้ซ่อมแซมบ้านที่เกิดจากความเสียหายจากเหตุน้ำท่วม สินเชื่อทะเบียนรถ KTC พี่เบิ้ม ก็พร้อมให้บริการครับ
อุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม
เมื่อน้ำลดลงจนสามารถเข้าไปยังสถานที่พักอาศัยได้แล้ว คุณสามารถเริ่มต้นลงมือทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมได้ทันที โดยเริ่มจากการเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการทำความสะอาดไว้ให้พร้อม เพื่อความปลอดภัยของคุณและประสิทธิภาพในการทำความสะอาด
1. แปรงสำหรับขัดทำความสะอาด ทั้งแปรงด้ามยาว แปรงขัดด้ามสั้น ที่ใช้ทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ ราคาเริ่มต้นที่หลักสิบ ไปจนถึงหลักร้อย ซึ่งขึ้นอยู่กับวัสดุและประเภทของแปรงที่เลือกใช้ครับ
2. น้ำยาฆ่าเชื้อโรคหรือน้ำยาซักผ้า เพื่อช่วยกำจัดคราบไม่พึงประสงค์และกำจัดเชื้อรา หาซื้อได้ตามร้านค้าชั้นนำหรือร้านขายยา ราคาอยู่ที่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ตามประเภทและปริมาตรที่คุณต้องการ
3. ถังน้ำ สายยาง หัวฉีดน้ำแรงดันสูง ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยทำให้การทำความสะอาดเป็นไปได้อย่างสะดวก ราคาสำหรับหัวฉีดน้ำแรงดันสูงเริ่มต้นที่ประมาณ 500 บาท
4. เสื้อแขนยาว รองเท้าบูท ถุงมือ และผ้าปิดปาก เพราะการทำความสะอาดพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังนั้นมีทั้งสิ่งสกปรกและมีการใช้สารเคมีในการทำความสะอาด คุณควรป้องกันตัวเองอย่างดีที่สุด ราคาเริ่มต้นที่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อย ทางที่ดีควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและเหมาะกับการใช้งาน
เทคนิคการกำจัดคราบต่าง ๆ หลังน้ำท่วมบ้าน
คราบที่พบเจอได้บ่อยหลังจากน้ำลด นั่นก็คือคราบตะไคร่น้ำ รวมถึงคราบตะกอนที่มากับน้ำ ไปจนถึงเชื้อราที่อาจจะเกาะอยู่ตามผนังหรือพื้น ทำให้คุณต้องทำความสะอาดอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่า จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตในบ้านหลังเดิมได้อย่างปลอดภัย
1. ควรเริ่มต้นด้วยการฉีดน้ำไปบนพื้นผิวต่าง ๆ เพื่อทำความสะอาดในเบื้องต้น
2. ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของต่าง ๆ ออกจากบ้าน เพื่อเริ่มต้นทำความสะอาดได้อย่างสะดวก
3. เทคนิคการกำจัดเชื้อราภายในบ้าน พี่เบิ้มแนะนำว่าควรใช้แอลกอฮอล์หรือน้ำยาซักผ้าผสมในน้ำอัตราส่วน 300 มิลลิลิตร ต่อน้ำประมาณ 3.8 ลิตร แล้วนำไปเช็ดบริเวณที่มีราขึ้น จากนั้นทิ้งไว้สัก 15-30 นาทีก่อนจะล้างออกด้วยน้ำสะอาด
4. คราบฝังแน่นบริเวณปูนหรือพื้นผิวที่มีความหยาบ ให้ใช้แปรงแบบแข็งร่วมกับสารฟอกขาว เพื่อทำความสะอาดอย่างหมดจด
5. ผนังที่มีความชื้น ควรทำความสะอาดด้วยคลอรีนผสมกับน้ำ เพื่อลดกลิ่นอับและฆ่าเชื้อ
6. สำหรับเสื้อผ้าที่มีความชื้นและกลิ่นอับ แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยการซักและนำไปฆ่าเชื้อในน้ำเดือด ก่อนตากตามปกติ
7. สำหรับเครื่องครัวที่ขึ้นรา หรือจมน้ำนาน แนะนำให้ทำความสะอาดนอกบ้านแล้วใช้น้ำยาฟอกผ้าขาวผสมกับน้ำเพื่อช่วยฆ่าเชื้อ หลังจากนั้นให้ล้างด้วยน้ำยาล้างจาน ก่อนจะนำไปผึ่งกลางแดดให้แห้ง
คำเตือน: ห้ามผสมผลิตภัณฑ์ฟอกขาวกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอมโมเนียหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอื่นโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดก๊าซพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
หลังจากทำความสะอาดบ้านและข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ต้องไม่ลืมที่จะเปิดหน้าต่างและประตูทุกบานทิ้งไว้ เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ทำให้พื้นที่ภายในบ้านแห้งได้เร็วขึ้น หากใครมีเครื่องเป่าแห้งก็สามารถนำมาใช้ในขั้นตอนนี้ได้เช่นกัน
ค่าต่อซ่อมแซมบ้านในกรณีที่บ้านได้รับความเสียหายมาก
ค่าใช้จ่ายในส่วนของการทำบ้านหรือซ่อมแซมบ้านหลังจากเกิดน้ำท่วมนั้นขึ้นอยู่กับสิ่งที่ต้องปรับปรุงแก้ไข ความยากง่ายของงานและสิ่งที่คุณต้องการ ซึ่งมีราคาที่ค่อนข้างสูงจนทำให้หลาย ๆ คนต้องใช้วิธีการกู้เงินทำบ้าน พี่เบิ้มสำรวจมาให้แล้ว ว่าบ้านที่โดนน้ำท่วมมักจะต้องใช้เงินไปกับการปรับปรุงส่วนใดบ้าง
1. งานกระเบื้องและผนัง ค่าแรงในการซ่อมแซมมักจะเริ่มต้นที่ประมาณ 50 บาท/ตร.ม. สำหรับการรื้อพื้นและการทำผนังใหม่ ในส่วนของการปูพื้นใหม่ ค่าแรงเริ่มต้นที่ 150 บาท/ ตร.ม. ไม่รวมค่าวัสดุที่ต้องการใช้ปูพื้น
2. ตรวจสอบสภาพ ติดตั้งปั๊มน้ำและระบบท่อต่าง ๆ ราคาเริ่มต้นที่ 1,500 บาท ยังไม่รวมค่าอุปกรณ์ที่ใช้ หากต้องมีการรื้อและติดตั้งชักโครกใหม่ ก็จะมีค่าติดตั้งอยู่ที่ไม่เกิน 1,000 บาท (ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของบ้านแต่ละหลัง)
3. ค่าแรงในการทำสีบ้านใหม่ หลาย ๆ บ้านอาจจะต้องทำการขูดล้างสีเก่าออกเพราะมีการลอกและมีความเสียหายเยอะ ค่าแรงเริ่มต้นที่ตารางเมตรละ 80 บาท และต้องมีค่าบริการทาสีโดยเริ่มต้นที่ตารางเมตรละ 100 บาท
เห็นค่าใช้จ่ายแต่ละอย่างแล้ว พี่เบิ้มก็เข้าใจเลยว่าการทำความสะอาดและปรับปรุงบ้านหลังน้ำท่วมนั้นต้องใช้เงินเยอะกว่าที่คิดมาก ๆ พี่เบิ้มจึงอยากให้ทุกคนจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้เหมาะสมเพื่อให้การกู้เงินทำบ้านเกิดประโยชน์สูงสุด
กู้เงินทำบ้านก้อนใหญ่ ติดต่อพี่เบิ้มได้เลย!
ถึงตรงนี้หลาย ๆ คน คงเห็นแล้วว่าการปรับปรุงบ้านและการทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมใช้เงินไม่น้อยเลย และหากใครกำลังมองหาแหล่งกู้เงินทำบ้านที่ให้เงินก้อนใหญ่ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในปรับปรุงบ้านโดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องไปหาเงินส่วนต่างมาจากไหน ลองสมัครสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ KTC พี่เบิ้มได้เลย เพราะพี่เบิ้มให้วงเงินใหญ่เบิ้ม ด้วยอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นแค่ 0.98% ต่อเดือน* แถมผ่อนได้นานสูงสุดถึง 60 เดือน หากสนใจก็สามารถติดต่อทีมงานพี่เบิ้มได้เลยที่นี่ หรือติดต่อที่จุดบริการ KTC TOUCH นอกจากนี้ เราก็ยังมีบริการพี่เบิ้ม Delivery ที่จะไปประเมินสภาพรถและอนุมัติวงเงินให้คุณถึงบ้าน สะดวกแบบนี้ ติดต่อพี่เบิ้มเลย!