วิธีปะยางรถยนต์มีกี่แบบ ควรเลือกแบบไหนดีที่สุด

รวมเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการปะยางรถยนต์

รถยางแตก ยางแบน คือหนึ่งในปัญหาที่คนใช้รถมักต้องเจอกันบ้างไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะพยายามขับอย่างระมัดระวังแค่ไหนก็ตาม เพราะอย่างที่เราทุกคนรู้กันดีว่า ถนนในบ้านเรานั้นเต็มไปด้วยเศษหิน เศษแก้ว และเศษตะปู ที่พร้อมทิ่มเข้าไปในยางรถเราได้ทุกเมื่อ จึงทำให้มีร้านปะยางรถยนต์กระจายตัวกันแทบทุกพื้นที่ วันนี้เราเลยจะมาอธิบายถึงเรื่องการปะยางรถยนต์ ว่ามีกี่ประเภท ราคาเท่าไหร่ และควรเลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์มากที่สุด

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• การปะยางรถยนต์คืออะไร
• วิธีปะยางรถยนต์มีกี่แบบ
• ควรเลือกปะยางรถยนต์แบบไหนดีที่สุด
• ปะยางรถยนต์ราคากี่บาท
• สรุปบทความ รวมเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการปะยางรถยนต์

การปะยางรถยนต์คืออะไร

การปะยางรถยนต์ คือการอุดรอยรั่วบนตัวยางที่เกิดการรั่วซึม เพื่อช่วยให้บริเวณล้อรถยนต์ยังคงสภาพการใช้งานได้ตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนยางใหม่ทั้งเส้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะต้องดูรอยแผลที่เกิดขึ้นบริเวณยางอีกที ว่าสามารถปะเพื่อใช้งานตามปกติได้หรือไม่ เพราะถ้าเป็นแผลที่ใหญ่ และมีความอันตรายในการใช้งาน ก็ควรที่จะต้องเลือกเปลี่ยนยางทั้งเส้นจะดีกว่า

วิธีปะยางรถยนต์มีกี่แบบ

ในการปะยางรถยนต์ จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 วิธี ซึ่งแต่ละแบบจะมีความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป เรามาดูรายละเอียดของการปะยางแต่ละประเภทกันดีกว่า

1. ปะยางรถยนต์แบบแทงใยไหม

การปะยางแบบแทงใยไหม เป็นการปะแบบชั่วคราว เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเบื้องต้นให้ลมยางไม่รั่วออกมาจนแบน และไม่สามารถขับต่อไปหาร้านปะยางเองได้ โดยวิธีปะแบบนี้จะใช้ได้กับกรณีที่ยางมีอาการรั่วซึมอย่างช้า ๆ ที่เกิดจากเศษแก้ว หรือเศษตะปูไปทิ่มโดนหน้ายางเพียงเท่านั้น หากยางแตกจากรอยแผลที่ใหญ่จะไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้

• ขั้นตอนการปะยางแบบแทงใยไหม : การปะด้วยวิธีนี้ จะต้องมีชุดปะแบบแทงใยไหมติดรถ โดยขั้นตอนแรก ให้ทำการดึงต้นเหตุที่ทำให้เกิดรอยรั่วอย่างเศษแก้ว หรือตะปูออกจากหน้ายางก่อน แล้วค่อยใช้อุปกรณ์แทงขยายรูให้กว้างขึ้น จากนั้นให้เอาใยไหมสอดเข้าไปในรูที่ทำการขยายไว้ล่วงหน้า แล้วจึงค่อยตัดส่วนที่เกินบริเวณหน้ายางออก ก็จะสามารถขับไปร้านปะยางได้ทันที

2. ปะยางรถยนต์แบบสตรีมร้อน

การปะยางรถยนต์แบบสตรีมยางร้อน เป็นการปะยางด้วยการถอดล้อออก แล้วจึงทำการอุดรอยรั่วด้านในด้วยการใช้ความร้อนให้ยางสมานเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งมีข้อดีตรงที่สามารถใช้งานต่อได้ตามปกติจนเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน แต่ก็จุดที่ต้องระวังก็คือ โครงสร้างยางอาจจะถูกทำลายหากปะไม่ดี จนอาจทำให้ยางเกิดอาการบวม หรือบิดเบี้ยวผิดรูปจนเป็นอันตรายต่อการขับขี่ได้เช่นกัน

• ขั้นตอนการปะยางแบบสตรีมร้อน : ในส่วนแรกก็คือการตรวจดูรอยรั่ว ว่ายังมีเศษตะปู หรือสิ่งแปลกปลอมอะไรทิ่มอยู่ที่ยางหรือไม่ เมื่อทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว จะทำการนำแผ่นแปะยางร้อนขนาดเล็กมาวางไว้บริเวณที่มีรอยรั่ว ก่อนจะใช้เตาปะยางกดลงมาด้วยความร้อนให้เนื้อยางสมานกัน ก็จะสามารถเติมลมใช้งานได้ตามปกติ

3. ปะยางรถยนต์แบบสตรีมเย็น

การประยางรถยนต์แบบสตรีมยางเย็น เป็นการปะยางแบบถอดล้อออก แล้วจึงทำการอุดรอยรั่วจากด้านในเหมือนกับแบบสตรีมร้อนเช่นเดียวกัน แต่จะไม่มีกระบวนการทำความร้อนเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะจะใช้วิธีการขัดผิวยางให้สาก แล้วจึงนำแผ่นปะยางขนาดเล็กมาปิดทับบริเวณรอยแผลแทน ซึ่งมีข้อดีตรงที่ไม่ทำลายโครงสร้างของยาง และยังสามารถใช้งานได้ตามปกติจนยางเสื่อมสภาพ จึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน

• ขั้นตอนการปะยางแบบสตรีมเย็น : ในขั้นแตกจะต้องทำการเช็กหน้ายาง ว่ามีสิ่งแปลกปลอมหลงเหลืออยู่หรือไม่ หากมีก็ต้องทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วจึงค่อยทำการขัดผิวยางให้สากลึกลงไป ก่อนที่จะทากาวชนิดพิเศษลงบนรอยแผล หลังจากนั้นจะใช้แผ่นแปะยางขนาดเล็กมาปิดทับบริเวณรอยแผล ก่อนจะทุบให้แน่นอีกที ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการสตรีมเย็น และสามารถเติมลมยางใช้งานได้ตามปกติ

ควรเลือกปะยางรถยนต์แบบไหนดีที่สุด

หากจะพูดถึงวิธีปะยางที่ดีที่สุด ระหว่างการปะแบบสตรีมร้อน และการปะแบบสตรีมเย็น ก็ต้องบอกว่าไม่ที่วิธีไหนดีที่สุด เพราะแต่ละแบบมีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันไป แต่โดยส่วนมาก คนทั่วไปมักจะเลือกปะแบบสตรีมเย็นที่ไม่ทำลายเนื้อยาง กับโครงสร้างยางเดิมมากกว่า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่ยางอาจจะเกิดการรั่วซึมอีกครั้ง เพราะบริเวณด้านนอกไม่ได้รับการปิดไว้

ปะยางรถยนต์ราคากี่บาท

การปะยางทั้ง 3 วิธี จะมีราคาแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการแต่ละเจ้า โดยจะมีราคาเฉลี่ย ดังนี้

• ปะยางแบบแทงใยไหม : จะมีราคาที่ 70 - 100 บาท
• ปะยางแบบสตรีมร้อน : จะมีราคาที่ 150 - 300 บาท
• ปะยางแบบสตรีมเย็น : จะมีราคาที่ 150 - 300 บาท

สรุปบทความ รวมเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการปะยางรถยนต์

เมื่อเข้าใจถึงการปะยางรถยนต์แต่ละแบบกันไปแล้ว ต่อไปเมื่อเกิดเหตุยางรั่วขึ้น ก็ไม่ต้องตื่นตระหนกกันอีกต่อไป เพราะยางรถยนต์นั้นมีค่าใช้จ่ายในการปะยางที่ไม่ได้แพงมาก อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้ตามปกติจนยางเสื่อมสภาพตามอายุใช้งานได้เลย จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ได้น่ากังวลอย่างที่คิด แต่ก็ควรขับขี่อย่างระมัดระวังไว้ตลอดเวลาเหมือนเดิมนะ เพราะเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอในการขับขี่บนท้องถนน ไม่ต่างจากปัญหาในชีวิต ที่มักจะมีเรื่องให้ปวดหัวขึ้นมาแก้ไขปัญหาอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับเงิน ๆ ทอง ๆ ในการแก้ไขปัญหา คนที่ไม่มีทางออก แต่มีรถใช้งานอยู่ 

อย่าลืมมอง KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ไว้เป็นหนึ่งในทางออกของปัญหาการเงินของคุณ เพราะเรามีวงเงินก้อนใหญ่ สมัครง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก มีบริการพี่เบิ้ม Delivery พร้อมเดินทางไปตรวจสอบสภาพรถถึงที่หน้าบ้านอนุมัติไว พร้อมรับเงินได้ทันที โดยไม่ต้องมีคนค้ำ และผ่อนได้นานสูงสุด 84 เดือน และยังสามารถเลือกรับบัตรกดเงินสด KTC พี่เบิ้ม สำหรับใช้เงินฉุกเฉิน กดฟรีไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

สมัคร KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ทางออนไลน์

รู้ผลไว รับเงินก้อนทันที แบบไม่ยุ่งยาก

*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนทำการสมัคร*

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด*

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 21% - 24% ต่อปี*