เคลียร์ข้อสงสัย เปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์ ทำได้จริงหรือ

ไขให้กระจ่าง การเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ ทำได้ทุกกรมธรรม์ไหม

เชื่อว่าเวลาทำประกันภัยสุขภาพ ประกันภัยอุบัติเหตุ หรือประกันชีวิต นอกจากกรอกประวัติส่วนตัวของผู้เอาประกันภัยแล้ว ยังมีช่องให้คุณกรอกชื่อผู้รับผลประโยชน์ด้วย แต่รู้ไหมว่า ผู้รับผลประโยชน์คือใคร ต้องมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเท่านั้นใช่ไหม แล้วถ้าต้องการเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์หลังจากทำประกันไปแล้วสามารถทำได้ไหม วันนี้เคทีซีจะมาไขข้อสงสัยเหล่านี้ให้คุณเอง

ผู้รับผลประโยชน์คือใคร ไม่ระบุได้หรือไม่

หากพิจารณาตามความหมายทางประกันภัยของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พบว่า "ผู้รับผลประโยชน์" เป็นบุคคลที่ถูกระบุไว้ในเอกสารกรมธรรม์ประกันภัยให้เป็นผู้ได้รับค่าสินไหมทดแทน หรือได้รับประโยชน์จากสัญญาประกันภัยในกรณีที่เกิดเหตุการ์ไม่คาดฝันกับชีวิตของผู้เอาประกันภัยหรือเกิดความเสียหายอย่างหนักกับทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้

นอกจากนี้ผู้รับผลประโยชน์ต้องเป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิดและมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดหรือทางกฎหมายกับผู้เอาประกันภัย เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการฆาตรกรรมผู้เอาประกันภัยและฉ้อโกงเพื่อเอาเงินประกัน โดยผู้เอาประกันภัยสามารถระบุชื่อผู้รับประโยชน์ได้ตามที่ต้องการจะระบุเพียง 1 คน หรือมากกว่าก็ได้ ถ้ามากกว่า 1 คน ก็สามารถระบุสัดส่วนของการรับผลประโยชน์แต่ละคนได้ แต่หากไม่ระบุสัดส่วนทางบริษัทจะจ่ายเงินผลประโยชน์ในจำนวนที่เท่ากัน

ผู้ได้รับผลประโยชน์ตามกฎหมาย เมื่อไม่มีการระบุชื่อผู้รับประโยชน์ไว้

สำหรับคำถามที่ว่า ถ้าผู้เอาประกันภัยไม่ระบุชื่อผู้รับประโยชน์แล้วทุนประกันจะตกเป็นของใคร คำตอบคือ หากประกันภัยฉบับนั้นไม่มีการระบุชื่อผู้รับประโยชน์ไว้ ทุนประกันหรือเงินที่ทายาทจะได้รับกรณีเสียชีวิต จะตกไปอยู่ที่ “กองมรดก” ของผู้เอาประกันภัย เพื่อนำไปจัดสรรตามพินัยกรรมต่อไป โดยผู้ได้รับผลประโยชน์ตามกฎหมายประกอบด้วย

• สามี-ภรรยาตามกฎหมาย ลูกตามกฎหมาย ลูกนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว หรือลูกบุญธรรม
• บิดามารดา
• พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
• พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน
• ปู่-ย่า หรือตา-ยาย
• ลุงป้า หรือน้าอา

สมัครประกันภัยสุขภาพ ประกันชีวิตสุดคุ้ม เมื่อจ่ายค่าเบี้ยประกันด้วยบัตรเครดิต...กรอกข้อมูลที่นี่

คู่สมรสไม่ได้จดทะเบียนและคนรักเพศเดียวกัน เป็นผู้รับประโยชน์ได้ไหม

กรณีที่ผู้เอาประกันภัยไม่ได้จดทะเบียนสมรสหรือมีคนรักเป็นเพศเดียวกัน ในส่วนนี้สามารถระบุบุคคลดังกล่าวเป็นผู้รับประโยชน์ได้ แต่ทางบริษัทประกันจะพิจารณาเอกสารที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของผู้เอาประกันภัยและผู้รับผลประโยชน์อีกครั้ง โดยเอกสารที่แสดงถึงความสัมพันธ์ที่ควรนำไปยื่นกับบริษัทประกัน เช่น การเปิดบัญชีธนาคารร่วมกัน การมีชื่อในอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินต่าง ๆ ร่วมกัน การทำธุรกิจร่วมกัน การขอสินเชื่อ หรือเปิดบัญชีเงินกู้ร่วมกัน แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทประกันและเอกสารที่เสนอเข้าไปพิจารณาว่าจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้บุคคลดังกล่าวหรือไม่ นอกจากนี้ผู้เอาประกันภัยยังสามารถระบุผู้รับผลประโยชน์เป็นมูลนิธิ วัด สภากาชาด หรือองค์กรเพื่อการกุศลต่าง ๆ ได้อีกด้วย

ประกันภัยดูแลทั้งผู้เอาประกันภัย และคนที่อยู่ข้างหลังยามเกิดเหตุไม่คาดฝันกับคุณ

เปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์ ได้หรือไม่

การเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันชีวิต หรือเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ประกันภัยรถยนต์ใหม่หลังผ่อนรถหมดแล้ว เป็นเรื่องที่ผู้เอาประกันภัยสามารถดำเนินการได้ตลอดระยะเวลาที่กรมธรรม์หรือประกันที่ได้ทำไว้มีผลบังคับคุ้มครองอยู่ รวมถึงยังไม่มีการส่งมอบกรมธรรม์ให้ผู้รับผลประโยชน์ และผู้รับผลประโยชน์ยังไม่แจ้งแก่บริษัทประกันชีวิตเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะรับประโยชน์ในกรมธรรม์นั้น เท่ากับว่า หากผู้รับผลประโยชน์แจ้งกลับมาที่บริษัทประกันว่าขอรับผลประโยชน์ดังกล่าว ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้รับประโยชน์ได้จนกว่าผู้รับประโยชน์จะเสียชีวิต

แต่ในส่วนของประกันภัยรถยนต์นั้น คุณในฐานะผู้เอาประกันภัยสามารถแจ้งเปลี่ยนผู้รับผลประโยชน์ได้ก็ต่อเมื่อผ่อนรถหมดแล้วเท่านั้น โดยผู้รับผลประโยชน์คนใหม่ต้องเป็นบุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับรถยนต์ที่เอาประกัน เช่น ผู้ครอบครองรถ ผู้ถือกรรมสิทธิ์ หรือผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียหรือผู้ที่เป็นทายาทกองมรดก ขณะเดียวกันถ้าไม่มีการระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์ไว้ เมื่อเกิดความเสียหายต่อรถยนต์โดยสิ้นเชิงหรือรถหาย ถูกโจรกรรม ผู้ที่ได้รับสินไหมทดแทนก็คือผู้เอาประกันภัยนั่นเอง

และนี่คือข้อมูลเกี่ยวกับผู้รับผลประโยชน์ที่ทาง KTC ได้นำมาไขข้อสงสัยให้กับทุกคน เห็นได้ว่าหากเป็นประกันชีวิต ประกันภัยสุขภาพ และประกันภัยอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่แล้วผู้ได้รับผลประโยชน์จากกรมธรรม์ดังกล่าวเป็นบุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสียในทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัย แต่กฎหมายไม่ได้ห้ามให้ต้องเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเท่านั้น เท่ากับว่าผู้รับผลประโยชน์จะเป็นใครก็ได้ เพราะสุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับเกณฑ์การพิจารณาของแต่ละบริษัทประกันว่าจะให้ใครเป็นผู้รับค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ฉบับนั้น พอมาถึงตรงนี้เห็นได้ว่าการทำประกันนอกจากตัวผู้เอาประกันภัยจะได้รับการดูแลตลอดเมื่อยังมีชีวิตแล้ว เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันก็ยังช่วยเหลือคนที่เรารักไม่ให้ลำบากเช่นกัน ใครที่มีผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนอยู่ในใจแล้ว แต่ยังลังเลเพราะไม่มีเงินก้อนใหญ่มาชำระค่าเบี้ยประกัน รู้ไหมว่าทุกวันนี้เราสามารถใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าเบี้ยประกัน พร้อมรับความพิเศษที่มีให้เฉพาะผู้ถือบัตร ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นผ่อน 0% ในระยะเวลา 3-10 เดือน หรือแต้มบัตรเครดิต ทั้งหมดนี้ก็ล้วนเป็นความพิเศษเมื่อผู้ซื้อประกันจ่ายค่าเบี้ยประกันผ่านบัตรเครดิต

อ้างอิงข้อมูลจาก : สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)

รับโปรสุดคุ้ม ทั้งแต้มสะสม ผ่อน 0% เมื่อชำระค่าเบี้ยประกันด้วยบัตรเครดิต
ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี

สมัครบัตรกดเงินสด ไว้เป็นตัวช่วยในวันที่จำเป็น...คลิกที่นี่
เบิกถอนเงินสด แบ่งผ่อนชำระได้ทุกที่ทุกเวลา