ทำประกันรถยนต์ทั้งที ใครก็อยากได้ประกันที่คุ้มค่าและคุ้มครองทุกอย่าง ถึงจ่ายมากหน่อย แต่ก็อุ่นใจ ทำให้หลายคน โดยเฉพาะเจ้าของรถใหม่เลือกใช้ประกันชั้น 1 ใช่ไหมล่ะครับ แต่พอเวลาผ่านไปนานเข้า รถที่ใช้อยู่ก็เก่าเกิน 10 ปี หลายคนอาจเกิดความลังเลว่า การทำประกันชั้น 1 กับรถอายุเกิน 10 ปีจะยังคุ้มค่าอยู่หรือไม่ วันนี้พี่เบิ้มจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันครับ
ประกันชั้น 1, 2 และ 3 คุ้มครองต่างกันอย่างไร
ก่อนที่จะพาทุกคนไปหาคำตอบของคำถามที่ว่าประกันชั้น 1 รถอายุเกิน 10 ปียังเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าหรือไม่ พี่เบิ้มอยากจะขอพูดถึงความแตกต่างของประกันชั้น 1, 2 และ 3 กันก่อนเพื่อให้ทุกคนเห็นภาพรวมก่อนตัดสินใจว่าคุ้มหรือไม่
ประกันชั้น 1
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าประกันชั้น 1 เป็นประกันที่มีความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุดในบรรดาประกันภัยรถยนต์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการชนหรือการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งในแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี ทั้งชนกับพาหนะทางบกหรือชนกับสิ่งของอื่น ๆ อย่างเสา ฟุตปาธ กระถางต้นไม้ ดูแลทั้งตัวคนขับ ผู้โดยสาร รถ และทรัพย์สิน แถมรถหาย ไฟไหม้ หรือเกิดภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วม ประกันชั้น 1 ก็ยังให้ความคุ้มครองไม่ว่าจะรถอายุเกิน 10 ปี หรือรถใหม่ก็ตาม เรียกว่าใครทำประกันชั้น 1 ไว้อุ่นใจกว่าแน่นอนพี่เบิ้มคอนเฟิร์ม
ประกันชั้น 2
มาต่อกันที่ประกันชั้น 2 หลายคนที่เริ่มขับรถเก่งขึ้น และขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ค่อยได้เคลมประกันสักเท่าไร ก็เริ่มมองหาประกันรถยนต์ที่ราคาประหยัด อย่างประกันชั้น 2 โดยประกันชั้น 2 จะคุ้มครองเฉพาะการชนกับพาหนะทางบกเท่านั้น และคุ้มครองเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับตัวผู้เอาประกันเท่านั้นครับ แต่รถผู้เอาประกันนั้นเสียหายแค่ไหนก็ต้องจ่ายเงินซ่อมเอาเองในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด แต่ข้อดีก็คือ ยังดูแลคุ้มครองในกรณีรถหาย ไฟไหม้ หรือน้ำท่วมเช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม หากว่าใครต้องการความคุ้มครองเพิ่มขึ้นจากประกันชั้น 2 แต่ไม่อยากจ่ายเงินเท่าประกันชั้น 1 สำหรับคนที่มีรถอายุเกิน 10 ปีหรือไม่ก็ตาม สามารถเลือกทำประกันชั้น 2+ ซึ่งจะจ่ายค่าซ่อมรถให้เราด้วย ในกรณีรถชนรถ แต่จะไม่คุ้มครองกรณีไม่มีคู่กรณี
ประกันชั้น 3
มาถึงประกันชั้น 3 ซึ่งหลายคนบอกว่าเหมาะกับรถเก่า แต่พี่เบิ้มว่าเหมาะกับคนที่ขับรถด้วยความระมัดระวังสูง ไม่ค่อยได้ใช้รถ ขับระยะทางใกล้ ๆ และจอดรถที่ที่ปลอดภัย เพราะความคุ้มครองนั้นจำกัดอยู่ที่การคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของคู่กรณี ไม่รวมความเสียหายของรถผู้เอาประกัน และจะไม่รับผิดชอบเมื่อรถของผู้เอาประกันเกิดสูญหาย ไฟไหม้ และประสบภัยธรรมชาติ
ส่วนประกันชั้น 3+ จะเพิ่มความคุ้มครองกรณีของการชนกับพาหนะทางบกแบบมีคู่กรณี รวมถึงการคุ้มครองกรณีรถหายหรือรถไฟไหม้เข้ามา หากใครต้องการประหยัดงบประมาณแบบสุด ๆ แต่ยังใช้รถอยู่ประจำ ประกันชั้น 3+ ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่แย่ครับ
ประกันชั้น 1 รถอายุเกิน 10 ปี ทำได้หรือไม่?
คำถามหนึ่งที่พี่เบิ้มได้ยินประจำ คือ รถเก่าแล้วทำประกันชั้น 1 ได้หรือไม่ เพราะพอรถอายุเกิน 10 ปี อะไร ๆ ก็เริ่มต้องซ่อมแซมไปตามกาลเวลา แต่พี่เบิ้มของคอนเฟิร์มว่าถ้าใครอยากทำประกันชั้น 1 แม้รถอายุเกิน 10 ปี สามารถทำได้ แต่มีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- รถยังอยู่ในสภาพที่ใช้งานที่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ และต้องเป็นยี่ห้อหรือรุ่นที่ยังสามารถหาอะไหล่ได้ตามท้องตลาดทั่วไป
- ผู้เอาประกันภัยขับรถดี ไม่ค่อยมีเคลม ดังนั้น ใครชนนู่นชนนี่บ่อย ๆ อาจจะถูกปฏิเสธได้ครับ
- เจ้าของรถเป็นลูกค้าของบริษัทประกันเจ้าเดิม
ใครอยากทำประกันชั้น 1 ให้กับรถอายุเกิน 10 ปี แล้วมีคุณสมบัติทั้ง 3 ข้อนี้ รับรองผ่านฉลุย
ประกันชั้น 1 รถอายุเกิน 10 ปีคุ้มค่าหรือไม่?
การต่อประกันชั้น 1 ของรถอายุเกิน 10 ปี พี่เบิ้มว่าสิ่งที่เราควรพิจารณาไม่ใช่ที่ตัวอายุของรถ แต่เป็นที่พฤติกรรมการขับรถ การใช้งานรถ และเงื่อนไขความเสี่ยงอื่น ๆ ของผู้เอาประกันเอง
อย่างแรกที่เราต้องพิจารณาคือ พฤติกรรมการขับรถของเรามีความปลอดภัย หรือขับขี่ด้วยความระมัดระวังเพียงพอหรือไม่ ให้คะแนนเต็ม 10 ก่อน แล้วค่อย ๆ หักตามการเฉี่ยวชน ไปชนคนอื่นหัก 3 คะแนน คนอื่นมาชนเราหัก 1 คะแนน ชนเสาหรือสิ่งอื่น ๆ หักไปเลย 2 คะแนน ใครเหลือน้อยกว่า 5 คะแนนใน 1 ปี แนะนำให้พิจารณาทำประกันชั้น 1 หรือ 2+ แม้ว่ารถอายุเกิน 10 ปีก็ตาม
การใช้รถของเราเป็นอย่างไร พี่เบิ้มฟันธงให้ง่าย ๆ ว่า หากเป็นรถที่เราใช้ทุกวัน ใช้ในชีวิตประจำวัน ทำประกันชั้น 1 คุ้มกว่าครับ แต่หากว่าเป็นรถขับใกล้ ๆ ไว้จ่ายตลาด หรือนาน ๆ เอาออกมาขับทีอย่างนี้พิจารณาประกันชั้นอื่นได้เลย ไม่น่ามีปัญหาอะไร
สุดท้ายเรื่องของความเสี่ยง เราจอดรถในที่เสี่ยงต่อการสูญหายหรือไม่ อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยพิบัติตามธรรมชาติอย่างน้ำท่วมหรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช่ ประกันชั้น 1 หรือชั้น 2 สำหรับรถอายุเกิน 10 ปี ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเราอยู่ครับ
อย่าลืม! พิจารณาเงื่อนไขของกรมธรรม์ทุกครั้งที่ทำประกัน
พี่เบิ้มปักเครื่องหมายตกใจเอาไว้ตรงนี้นะครับ ว่าทุกครั้งที่ทำประกันรถยนต์ ไม่ว่าเราจะเลือกประกันชั้น 1 รถอายุเกิน 10 ปี หรือจะเป็นประกันรถยนต์ประเภทไหน เราต้องอ่านเงื่อนไขของกรมธรรม์ทุกครั้งก่อนการตัดสินใจซื้อประกัน โดยพิจารณาถึงความคุ้มครองที่ได้รับว่าครอบคลุมและคุ้มค่ามากแค่ไหน ทางบริษัทประกันพร้อมดูแลค่าใช้จ่าย 80% หรือ 90% ของราคารถหรือเปล่า ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เราสามารถนำรถไปซ่อมที่อู่ไหนได้บ้าง ต้องสำรองจ่ายก่อนไหม และส่วนสุดท้ายได้แก่ขั้นตอนการเคลมและการให้บริการที่จะต้องรวดเร็วทันใจ ไม่ทิ้งให้เราเคว้งอยู่ท่ามกลางลมหนาวปลายปี
อ่านมาถึงตรงนี้ พี่เบิ้มคิดว่าทุกคนคงมีคำตอบในใจแล้วว่า เราควรต่อประกันชั้น 1 ให้กับรถอายุเกิน 10 ปี หรือไม่? ใครที่อยากทำประกันรถยนต์กับพี่เบิ้มแล้ว ต้องขออภัยด้วยครับที่พี่เบิ้มไม่ได้เป็นตัวแทนประกันภัย แค่พอมีความรู้พอแนะนำได้ครับ แต่หากว่าใครมีรถเกิน 10 ปี แล้วต้องการเงินด่วน พี่เบิ้มกับเพื่อน ๆ ยินดีให้คำปรึกษาและให้บริการเสมอ สามารถติดต่อพี่เบิ้มกับเพื่อน ๆ ได้ โดยการกรอกข้อมูลที่นี่ หรือไปที่จุดบริการ KTC TOUCH ถ้าใครไม่สะดวก เราก็มีบริการพี่เบิ้ม Delivery ไปประเมินสภาพรถและอนุมัติวงเงินถึงบ้านเลยครับ