ทรัพยากรบุคคลถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนบริษัทไปสู่ความสำเร็จ การมีพนักงานที่มีประสิทธิภาพ ย่อมช่วยให้การดำเนินงานในบริษัทเป็นไปอย่างราบรื่น และเติบโตอย่างมั่นคง หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยดึงดูดคนมีความสามารถให้เข้ามาทำงานในบริษัท และทำให้พนักงานที่เข้ามาแล้วทำงานด้วยความเต็มใจ จงรักภักดีต่อบริษัท คือ สวัสดิการพนักงาน
สวัสดิการพนักงาน คืออะไร
สวัสดิการพนักงาน คือ ผลประโยชน์ที่พนักงานพึงได้รับจากบริษัท ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากเงินเดือน โดยสวัสดิการต่างๆ ถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของพนักงานลงได้ เช่น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ โบนัสประจำปี ฯลฯ รวมถึงเป็นสิ่งที่ทำให้พนักงานใช้ชีวิตไปพร้อมกับการทำงานอย่างมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
ในส่วนของบริษัทเอง ผลที่ได้จากการมอบสวัสดิการที่ดีให้กับพนักงาน คือ สามารถดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถมาร่วมงานกับบริษัทได้ง่ายขึ้น ช่วยลดอัตราการเปลี่ยนงาน ของพนักงานในบริษัท รวมถึงช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีให้แก่บริษัท สิ่งที่ตามมาคือ ความสำเร็จและเติบโตอย่างมั่นคงของบริษัท จากการร่วมแรงร่วมใจของพนักงานที่ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
สวัสดิการพนักงานบริษัทยุคใหม่มีความหลากหลายและยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ และสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนแปลง
1. เงินโบนัส
เงินโบนัส คือ ค่าตอบแทนที่บริษัทจ่ายให้กับพนักงานที่แยกออกจากเงินเดือน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะจ่ายให้ตอนสิ้นปี ตามผลประกอบการของบริษัทหรือตามที่ตกลงกันไว้ ไม่ว่าใครก็อยากได้เงินโบนัสทั้งนั้น เพราะถือเป็นผลตอบแทนสุดพิเศษจากการทำงานหนักมาตลอดทั้งปี เป็นแรงจูงใจชั้นดีให้พนักงานมีกำลังใจพร้อมทำงานอย่างทุ่มเท และเต็มประสิทธิภาพเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด นอกจากนี้ เงินโบนัสที่ได้รับมักมาในรูปเงินก้อนใหญ่ จึงสามารถช่วยเหลือสถานการณ์การเงินให้กับพนักงานได้
2. สวัสดิการที่เกี่ยวกับสุขภาพ
เพราะโรคภัยไข้เจ็บ และอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้แบบไม่คาดคิด สวัสดิการประกันสังคมเพียงอย่างเดียว อาจไม่ครอบคลุม และไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในรักษาพยาบาลยามที่เจ็บป่วย ไม่แปลกที่สวัสดิการที่เกี่ยวกับสุขภาพ จะเป็นหนึ่งใน Top 10 สวัสดิการพนักงานที่น่าสนใจในทุกยุคทุกสมัย ช่วยสร้างความอุ่นใจให้พนักงาน ตัวอย่างสวัสดิการที่เกี่ยวกับสุขภาพที่น่าสนใจ เช่น ประกันกลุ่ม ประกันอุบัติเหตุ ประกันชีวิต ค่าทันตกรรม การตรวจสุขภาพประจำปี การฉีดวัคซีนประจำปี การปรึกษาจิตแพทย์ ถือเป็นสิ่งที่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วยให้กับพนักงานได้เป็นอย่างดี รวมถึงช่วยดูแลสุขภาพกาย และจิตของพนักงานให้แข็งแรง พร้อมลุยงานเต็มที่
3. ค่า Incentive และรางวัล
ค่า Incentive คือ รางวัลตอบแทน ที่ใช้สร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้พนักงานในองค์กรมีความพยายามในการทำงานมากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ หรืออาจเป็นค่าตอบแทนตามผลงานและความสามารถของพนักงาน เป็นกำลังใจจากบริษัทที่มองเห็นความทุ่มเทในการทำงานของพนักงานแต่ละคน เป็นการจ่ายค่าตอบแทนให้ตาม Performance นั่นเอง โดยวิธีการจูงใจพนักงานทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับแต่ละองค์กร เช่น เงินรางวัล, สิ่งของ, หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่พนักงานอยากได้ ทั้งนี้ ต้องมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน เข้าใจง่าย กำหนดเป้าหมายที่สามารถเป็นไปได้จริง ไม่เปลี่ยนแปลงค่าเกณฑ์ Incentive ระหว่างดำเนินการ และต้องมอบรางวัลนั้นๆ ให้ตามเวลาที่กำหนด
4. วันลาหยุดที่มากขึ้น
ตามกฎหมายแรงงานมีการกำหนดเรื่อง วันลาของพนักงาน ไว้อย่างชัดเจนแล้ว ทั้งวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันลาป่วย วันลากิจ หรือวันลาพักร้อนที่กำหนดไว้ขั้นต่ำที่ 6 วันต่อปี แต่ในหลายๆ บริษัทก็มักเพิ่มสวัสดิการเรื่องวันลาพักร้อนของพนักงานให้มากกว่า 6 วัน เช่น ลาพักร้อน 12 วันต่อปี หรือ 15 วันต่อปี ฯลฯ ซึ่งวันลาหยุดที่มากขึ้นถือเป็นสวัสดิการพนักงานยุคใหม่ที่หลายคนมองหา เพราะคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มองว่า การทำงานควรวัดกันที่ผลงานมากกว่าเวลา หรือจำนวนวันที่เข้าทำงาน ดังนั้น การที่บริษัทให้สิทธิ์วันลา เช่น พักร้อน แก่พนักงานมากกว่าที่กฎหมายแรงงานกำหนด จึงถือเป็นแรงจูงใจหนึ่ง และยังมองได้ว่าเป็นการวัดกันที่ผลงานที่สำเร็จตามที่ได้รับมอบหมายมากกว่าวันลาที่ถูกใช้
การทำงานที่ยืดหยุ่น สวัสดิการพนักงานยุคใหม่ที่ต้องการ เช่น ชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น หรือ นโยบายการทำงานจากที่ไหนก็ได้ (Work from Anywhere)
5. การทำงานที่ยืดหยุ่น
การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่จำกัดอยู่แค่การทำงานในออฟฟิศเท่านั้น เพราะเทคโนโลยียุคนี้พัฒนาไปไกลมาก เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตและโปรแกรมที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ก็สามารถทำงานร่วมกันได้เหมือนอยู่ในออฟฟิศ การทำงานที่ยืดหยุ่นจึงเป็นสวัสดิการพนักงานที่หลายคนมองหาในยุคนี้ เช่น เวลาการเข้า-ออกงานที่ยืดหยุ่น, การทำงานแบบ Remote Work, การทำงานแบบ Work from Anywhere, การทำงานแบบ Hybrid Work, การเข้าออฟฟิศแบบสลับทีม ฯลฯ ซึ่งการทำงานที่ยืดหยุ่นนี้มีข้อดีหลายประการ เช่น ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยในการเดินทางไปทำงาน เพิ่มอิสระในการทำงาน ช่วยลดความเครียดให้กับพนักงาน
6. การสนับสนุนด้านการเงิน
เงิน เป็นปัจจัยสำคัญต่อการใช้ชีวิต แม้จะได้รับเงินเดือนเป็นผลตอบแทนจากการทำงานอยู่แล้ว แต่หากบริษัทมีการสนับสนุนด้านการเงิน หรือมีสวัสดิการพิเศษด้านการเงิน ย่อมเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพนักงาน เป็นสวัสดิการที่พนักงานบริษัททุกยุคทุกสมัยต้องการ โดยเฉพาะพนักงานที่เผชิญกับปัญหาทางการเงิน สำหรับการสนับสนุนด้านการเงิน หรือสวัสดิการพิเศษด้านการเงินที่น่าสนใจของบริษัทต่างๆ เช่น การให้กู้เงินในอัตราดอกเบี้ย 0% เพื่อนำเงินไปใช้ยามฉุกเฉิน ตลอดจนให้กู้เงินดอกเบี้ยต่ำสำหรับซื้อที่อยู่อาศัย การช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เช่น ค่าเดินทาง ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าไฟฟ้า สำหรับคนที่ทำงานจากที่บ้าน เป็นต้น
7. สวัสดิการที่รองรับไลฟ์สไตล์ของพนักงาน
ด้วยภาระหน้าที่ต่างๆ ทำให้วัยทำงานมักเผชิญกับความเครียดได้ง่าย ซึ่งอาจส่งผลต่อทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกาย ดังนั้น การมีสวัสดิการที่รองรับไลฟ์สไตล์ของพนักงาน ย่อมช่วยให้พนักงานได้ผ่อนคลายมากขึ้น ทำให้พนักงานมีแรงใจในการทำงานกับบริษัทอย่างเต็มที่ต่อไป โดยสวัสดิการพนักงานด้านไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ มีตั้งแต่เงินสนับสนุนสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ ไปจนถึงค่าใช้จ่ายพิเศษ เช่น ค่าอาหารกลางวัน ส่วนลดค่าฟิตเนส คอร์สทำสปา ค่าอุปกรณ์กีฬา ส่วนลดที่พัก ร้านอาหาร ฯลฯ นอกจากนี้ ยังอาจรวมไปถึงการจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ ขึ้นภายในบริษัท เพื่อลดความเครียดให้กับพนักงาน เช่น ปาร์ตี้ปีใหม่ กิจกรรมสานสัมพันธ์ การท่องเที่ยวประจำปี
8. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คือ กองทุนที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บออมเงินให้ลูกจ้างใช้จ่ายตอนเกษียณอายุ ส่วนประกอบของเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ได้แก่ เงินสะสม, ผลประโยชน์เงินสะสม, เงินสมทบ และผลประโยชน์เงินสมทบ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นสวัสดิการพนักงานที่ช่วยให้ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเกษียณอายุ หรือเป็นแหล่งเงินทุนสำรองในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน สิทธิประโยชน์ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท โดยทั่วไป พนักงานจะได้รับเงินก้อนเมื่อเกษียณอายุ โดยสามารถรับเงินทั้งหมด รับเงินบางส่วน หรือรับเงินบำนาญรายเดือนก็ได้ ทั้งยังได้รับการยกเว้นทางภาษี หากตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด
9. สวัสดิการที่ครอบคลุมถึงครอบครัวของพนักงาน
สถาบันครอบครัวถือเป็นสถาบันหลักที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ ดังนั้น หากได้รับการดูแลไปถึงครอบครัว ย่อมเป็นสิ่งที่แสดงถึงความใส่ใจของบริษัท และสร้างความประทับใจให้พนักงานได้เป็นอย่างดี สวัสดิการที่ครอบคลุมถึงครอบครัวของพนักงาน จึงเป็นหนึ่งในสวัสดิการที่พนักงานบริษัทยุคใหม่ต้องการ โดยสวัสดิการที่ครอบคลุมถึงครอบครัวพนักงาน เช่น การช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัวของพนักงาน เงินช่วยเหลือกรณีบุคคลในครอบครัวของพนักงานเสียชีวิต การช่วยเหลือค่าเล่าเรียนบุตรของพนักงาน การจัดตรวจสุขภาพให้กับผู้สูงอายุในครอบครัวของพนักงาน การจัดสถานที่เลี้ยงดูบุตรของพนักงาน มีวันลาสำหรับการดูแลสมาชิกในครอบครัวที่เจ็บป่วย
10. สนับสนุนการพัฒนาทักษะวิชาชีพ
พนักงานยุคใหม่มองเรื่องของความก้าวหน้าในสายงาน และการพัฒนาตัวเองเป็นสำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องมีการเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ๆ อยู่เสมอ จึงมักมองหาบริษัทที่มีสวัสดิการช่วยให้สามารถเพิ่มและพัฒนาทักษะตัวเองได้ เช่น มีคอร์สอบรมให้เรียนฟรีทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ มีเงินช่วยเหลือในการเข้าคอร์สอบรมต่างๆ ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับงานของพนักงานหรืออาจไม่เกี่ยวข้องกับงานแต่เป็นเรื่องที่พนักงานสนใจ เช่น เรียนทำอาหาร เรียนปลูกผักสลัด ซึ่งอย่างหลังเป็นเหมือนการซื้อใจพนักงาน แสดงถึงความใส่ใจของบริษัทที่มีต่อความชอบของพนักงาน เมื่อทักษะการทำงานมีมากขึ้น ผลงานก็ย่อมดีขึ้นด้วย หรือเมื่อพนักงานได้ทำในสิ่งที่ชอบ ย่อมทำให้มีความสุข ส่งผลให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
นอกจากสวัสดิการพนักงานที่ช่วยให้ชีวิตการทำงานมีความสุขมากขึ้นแล้ว การที่เราได้รับสิทธิประโยชน์ที่หลากหลาย และคุ้มค่าก็เป็นอะไรที่ดีต่อใจมาก พนักงานยุคใหม่ ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า แนะนำให้ทำบัตรเครดิต KTC ไว้ เพิ่มความคล่องตัวในเรื่องของการใช้จ่าย พร้อมรับสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นส่วนลด สำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC เท่านั้น สมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์คลิกเลย สมัครง่าย เอกสารไม่ยุ่งยาก อาชีพไหนก็สมัครได้
ใช้จ่าย คุ้มค่า นึกถึงบัตรเครดิต KTC